จากข่าวที่คณะกรรมการการค้าของสหรัฐอเมริกา หรือ ITC ออกคำสั่งแบนการนำเข้า Apple Watch สองรุ่นมาขายในสหรัฐอเมริกา หลังจากบริษัทพัฒนาอุปกรณ์การแพทย์ Masimo ฟ้องแอปเปิลในข้อหาละเมิดสิทธิบัตร ก็มีรายงานเพิ่มเติมว่าคดีน่าจะมีจุดเริ่มต้นจากอะไร
Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม ระบุว่าตัวละครสำคัญของคดีฟ้องร้องนี้คือ Marcelo Lamego วิศวกรปริญญาเอกจาก Stanford สัญชาติบราซิล ซึ่งทำงานที่ Masimo ตั้งแต่ปี 2003 ในตำแหน่งนักวิจัยวิทยาศาสตร์ แล้วได้เลื่อนเป็นซีทีโอของ Cercacor บริษัทตั้งใหม่ในเครือของ Masimo ในปี 2014 เขาลาออกจาก Masimo ย้ายไปทำงานที่แอปเปิล เรื่องนี้อาจฟังดูเป็นเรื่องปกติ
แต่มีเอกสารในคดีฟ้องร้อง อธิบายเรื่องราวเบื้องหลัง ว่าแอปเปิลเป็นฝ่ายทาบทาม Lemego ตั้งแต่ต้นปี 2013 ซึ่งตอนนั้นผู้บริหารของแอปเปิลและ Masimo ได้เริ่มเจรจาความร่วมมือพัฒนาสินค้าใหม่อยู่ ทำให้ Lamego ปฏิเสธข้อเสนอของแอปเปิล แต่แล้วเขาเปลี่ยนใจกลับเป็นฝ่ายอีเมลไปหา Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลเอง ให้รับเขาเข้าทำงาน เนื่องจากเขาขอเลื่อนตำแหน่งที่ Masimo แต่ไม่ได้ตามต้องการ
สมาร์ทวอทช์ของ Masimo
เนื้อหาในอีเมล Lemego บอกว่าเขาทำงานพัฒนาอุปกรณ์การแพทย์ที่ Masimo มาตลอด 10 ปี และเชื่อว่ามีความสามารถสร้างคุณค่าให้กับแอปเปิลได้แน่นอน หากแอปเปิลให้โอกาส เขาเชื่อว่าแอปเปิลจะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ จนเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในตลาดสินค้าการแพทย์ ฟิตเนส และสุขภาพได้
Masimo และแอปเปิลไม่สามารถบรรลุข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีได้ ขณะที่ตอนนั้นแอปเปิลก็เริ่มพัฒนา Apple Watch แล้ว การรับ Lamego มาทำงาน ก็เพื่อดูแลโครงการพัฒนานี้ ในเอกสารยังบอกว่าตอนที่ Lemego ย้ายมาแอปเปิล มีพนักงาน Masimo อีกประมาณ 20 คน ที่ย้ายตามมาด้วย อย่างไรก็ตาม Lamego ก็ทำงานกับแอปเปิลได้แค่เพียง 7 เดือน โดยมีคำอธิบายจากผู้บริหารระดับสูงในแอปเปิลว่า วิธีการทำงานของเขาไม่เข้ากับวัฒนธรรมของแอปเปิล
ทนายของ Masimo ระบุว่าแล้ว Apple Watch ก็เปิดตัวในเดือนกันยายน 2014 แต่ตอนนั้นมีเฉพาะความสามารถการวัดอัตราการเต้นหัวใจ ฟีเจอร์ที่เป็นประเด็นในการฟ้องร้องคือเซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด เริ่มมีในปี 2020 ของ Apple Watch Series 6 แต่เหตุที่ทำให้ Masimo ตัดสินใจฟ้องร้อง เพราะช่วงเวลาเดียวกัน Lemego ได้ตั้งสตาร์ทอัพขายอุปกรณ์วัดระดับออกซิเจนในเลือดชื่อ Oxxiom ซึ่ง Masimo ฟ้องร้องและชนะคดีทำให้ Oxxiom ถูกสั่งห้ามขาย กรณีของ Apple Watch จึงมองว่าคล้ายคลึงกัน
Apple Watch Series 6 ที่เริ่มมีฟีเจอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด
รายงานบอกว่า Masimo เดิมต้องการเรียกค่าเสียหายจากแอปเปิล 3 พันล้านดอลลาร์ แต่การเจรจาไม่เป็นผล ทำให้บริษัทตัดสินใจฟ้องแบนการนำเข้าสินค้าจนมาสู่ผลลัพธ์ดังกล่าว ขณะที่แอปเปิลก็มีรายงานว่ากำลังหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้อยู่
ที่มา: Bloomberg
Comments
สุดท้าย ก็ต้องยอมจ่าย
ไม่งั้นก็โดนผู้บริโภคฟ้องอีก
จ่ายไปเหอะ มันไม่จนหรอกคุณเปิ้ล
ซื้อบริษัทเลยเปล่า
เคยจะซื้อแต่ Masimo ไม่ขายครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
เรียกค่าเสียหาย 3 พันล้าน เท่ากับครึ่งนึงของมูลค่า Masimo ณ ตอนนี้เลย
ดูว่า 3พันล้าน กับการขายของไม่ได้ช่วงนี้ อะไรจะคุ้มค่ากว่ากัน
The Dream hacker..
อยากรวยทางลัดก็นี่ล่ะ หาทางฟ้อง Apple ให้ได้
ทีแอปเปิลยังฟ้องเรื่องงี่เง่าๆ ได้เลย สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆ
ถ้าระเมิด แล้วฟ้องไม่ได้เหรอ
ถ้าตัดสิน และอุทธรณ์สำเร็จ แอปเปิ้ลฟ้องกลับได้เลยนะ แถมน่าจะเอาค่าความเสียหายที่ระงับการขายด้วย
เดี๋ยวนะต้องดูให้ดีว่าเขาอุทธรณ์เรื่องอะไรก่อนจะยุให้เขาฟ้องกลับ ITC
เคสนี้ "ตัวแทนของแอปเปิลแถลงว่าบริษัทไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว และได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลรัฐบาลกลาง เพื่อสอบถามว่าศุลกากรจะกลับแนวทางหรือไม่หาก Apple Watch มีการออกแบบใหม่และไม่ละเมิดสิทธิบัตร รวมทั้งขอให้ระงับคำสั่งแบนชั่วคราวไปก่อนจนกว่าศาลจะมีข้อสรุป"
สรุปเคสนี้ ITC ไม่ผิดนะครับการอุทธรณ์ของ Apple ก็เพื่อให้มีเวลาแก้ไขเปลี่ยนแปลงสินค้าจนกว่าจะ "ออกแบบใหม่และไม่ละเมิดสิทธิบัตร" การอุทธรณ์ลักษณะนี้ก็เพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว แต่คำสั่งมาจากการที่ Apple ละเมิดสิทธิบัตรจริง ซึ่ง ITC ทำตามกฎหมายแล้วจึงถือว่าชอบด้วยกฎหมาย แม้ Apple อุทธรณ์ชนะก็ได้แค่ระยะเวลาไปแก้ไขสินค้าไม่ให้ละเมิดสิทธิบัตร ไม่ได้เปลี่ยนข้อเท็จจริงที่ว่า Apple ละเมิดสิทธิบัตร เลย
ดูจากตรงนี้ยังไงก็เถอะถ้า Apple ฟ้อง ITC นอกจากจะไม่ชนะแถมโดนสวนไส้แตกแน่นอน
มีที่ไหนตนเองละเมิดสิทธิบัตรคนอื่นจริง แต่พออุทธรณ์เพื่อให้ได้เวลามาแก้ไขสินค้าดันจะไปฟ้องเขากลับ มีแต่คนบ้าล่ะครับที่กล้าฟ้อง
จะฟ้องยังไง ในเมื่อละเมิดจริงตามที่เค้าว่ามา ที่เห็นได้ชัดคือออกอัพเดทซอฟแวร์คนเราจะออกอัพเดทซอฟแวร์ใหม่ทำไมครับ ถ้าไม่ได้ละเมิด ก็เดินหน้าเชิดๆ ไม่ต้องแก้ไขอะไรสักอย่าง
ส่งสปายไปหาเงินในเหมืองแร่ นึกถึงเกม ยูริ
Lemego --> Lamego
มีหลายจุดครับ