แอปเปิลเริ่มขายเฮดเซต Apple Vision Pro ในสหรัฐอเมริกาแล้ว โดย Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ได้เข้าร่วมการเปิดขายสินค้าวันแรกที่ร้าน Apple Store สาขา Fifth Avenue เพื่อต้อนรับลูกค้าวันแรกที่มาซื้อหรือรับ Vision Pro
Tim Cook ยังอีเมลถึงพนักงานแอปเปิล ว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของ Spatial Computing ที่ยังมีโอกาสมากมายมหาศาลอยู่ข้างหน้า ทั้งความบันเทิงในรูปแบบใหม่ แอปนวัตกรรมใหม่ที่รอนำเสนอ อุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่จะนำไปประยุกต์ใช้งาน
เขายังเปรียบเทียบว่า เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว แอปเปิลเพิ่งฉลองครบรอบ 40 ปี ของ Mac ที่ปฏิวัติและเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มายาวนาน แล้วก็เหมือนกับวันเปิดตัว iPod ที่ให้คนพกพาเพลงนับพันในกระเป๋า หรือเทียบกับวันเปิดตัว iPhone ที่ทุกคนรู้ว่ามันเป็นสิ่งพิเศษ แต่คงยังมองไม่เห็นตอนนั้นว่าจะเปลี่ยนชีวิตผู้คนได้แบบทุกวันนี้ แล้วต่อมาแอปเปิลก็มี iPad ที่สร้างวิธีการใหม่ของงานสายสร้างสรรค์ จากนั้นก็ Apple Watch ที่เป็นมากกว่านาฬิกา แต่เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตผู้คน วันนี้เราก็มี Apple Vision Pro สินค้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ สะท้อนความเป็นแอปเปิลอย่างที่พวกเราทราบกันดี
Tim Cook ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับรายการ Good Morning America ตอบประเด็นราคาอุปกรณ์ที่สูง (เริ่มต้น 3,499 ดอลลาร์) ว่าด้วยเทคโนโลยีอนาคตที่มีให้ใช้งานวันนี้ และสิทธิบัตรรองรับมากกว่า 5,000 รายการ แอปเปิลเชื่อว่าเราตั้งราคาได้เหมาะสมกับคุณค่าที่มีในตอนนี้แล้ว
ที่มา: MacRumors
What a thrilling morning celebrating the launch of Apple Vision Pro at Apple Fifth Avenue! The era of spatial computing has arrived! pic.twitter.com/SORkEO87d6
— Tim Cook (@tim_cook) February 2, 2024
Comments
ก็ขอให้มันปฏิวัติวงการ VR ได้จริง ๆ ละกัน เหมือนแมคกับยูไอ หรือ ไอโฟนกับจอสัมผัส
ดูรีวิวน้องแบรนดอนแล้ว หน้าผากแดงเลย บ่นปวดคอด้วย ไม่น่าจะดีต่อสุขภาพในระยะยาวเท่าไหร่
ดีครับ จะเปิดของใหม่ต้องดันให้สุด ที่เหลือตลาดบอกเองว่าไปได้หรือไม่ได้
ด้วยความแรงของชิปและคุณภาพของเซ็นเซอร์ทำให้จับได้แม่นยำทั้งสภาพแวดล้อม ตา และมือ มันนำคนอื่นไปไกลมากจริงๆ นั่นแล
ราคาก็นำไปไกลด้วย 55+
อยากรู้เหมือนกันนะครับว่าถ้าตั้งโจทย์ให้ยี่ห้ออื่นออกแว่นราคาเท่ากันมา เทคโนโลยีต่างๆจะเป็นยังไง...
😂😂😂 ไม่มีทั้งไอเดียไม่มีทั้งเงิน ไม่งั้นAPPLEจะรวยไว้ทำไหม
เทคโนโลยีระดับนี้ก็สมราคาแล้วครับ
ดูรีวิวของต่างประเทศที่ได้ใช้งานจริงแล้วคิดว่าคงจะต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรจึงจะถึงจุดที่ทิมกล่าวไว้
ไม่เถียงเรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นำหน้าคู่แข่งมาก แต่ประโยชน์ใช้สอยในปัจจุบัน ดูเหมือนของเล่นมากกว่าจะใช้งานอะไรได้จริง
ล้ำหน้ามากจนหนักไหมนะ LED จอหน้าจำเป็นจริงๆ ไหมนะ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
เทียบกับรายอื่นที่ทำมาก่อน ยังไม่เห็นจุดที่ล้ำหน้าไปไกลเลยครับ เทียบกับราคาด้วย แต่เรื่องจุดกระแสหายห่วง
ต้องยอมรับว่าเรื่องกระแสเค้าทำเก่งจริง ๆ ยืนตอนรับ ปรบมือกันขนาดนี้ ครบกำหนดลองใช้ 14 วัน ไม่กล้าเดินเอาเข้าไปคืนเลย 555
ถ้าทำให้ใส่เกิน ช.ม. ได้โดยไม่ปวดตาก็ล้ำ แต่คิดว่าแอปเปิ้ลยังทำไม่ได้
เมื่องนอกเขาWOW แต่พี่ไทยคงไม่มีเงินซื้อ เพราะราคาพออกับรถเลย ยากครับที่คนไทยจะซื้อได้ ถ้าซื้อคงติดหนี้บัตรเครดิตยาวๆๆกันทั้งชาติไกล่เกลี่ยหนี้กับเป็นล้านกว่าคนแน่นอนผมแนะนำไม่ต้องซื้อหรอกครับ ไปซื้อของที่เหมาะกับกระเป๋าเงินของคุณก็พอ
ไว้ร้าน com7 มีให้ลองจะไปลองครับ ถึงมีเงินซื้อแต่คนซื้อน้อยก็ไม่มีคนเขียนแอปลง เป็น store ร้างแบบ windows store อยู่ดี
มันต้องมีความสามารถครับ การเขียนเทคโนโลยีแบบใหม่ต้องมีทักษะเพราะยังไงคนต้องตามให้ทันถ้าไม่ทันก็จะบ่นแบบนี้
ไม่เข้าใจที่คุณจะบอก จะบอกว่าจะใช้แว่น apple นี่ต้องเขียนโปรแกรมใช้เอง?
ไล่อ่านคอมเมนต์เก่าๆของเค้าก็พบว่าเราไม่ต้องไปเข้าใจเค้าหรอกครับ :P
คนไทยจะซื้อจนต้องไกล่เกลี่ยหนี้กันเป็นล้านคนเลยเหรอครับ ว้าว
จุดตายของอุปกรณ์ประเภทนี้เลยครับ แต่มันก็มีงานที่เหมาะกับมันอยู่ ที่ใช้อุปกรณ์อื่นทำไม่ได้ 555
มีงานปั้นโมเดลแบบ vr ที่อาจจะทำได้ดีกว่าปั้นจากจอ 2d แต่ตอนนี้ต้องแก้ปัญหาใส่แว่น vr ได้ไม่นานก่อน
งานพวกนี้แหละที่เหมาะกับแว่น VR แล้วก็งานออกแบบภายในที่สามารถเดินดูงานได้ขนาดตามจริงเลย ผมสงสัยว่าทำไมไม่ใช้วัสดุที่มันเบากว่านี้แล้วก็แบตที่ความจุเยอะขึ้นทั้งที่ราคาขนาดนี้ใช้วัสดุอะไรก็ได้ เพราะใช้เน้นทำงานกับเสพสื่อแบบอยู่กับที่เป็นหลักมันควรจะใช้ได้นานกว่านี้ต่อครั้ง
คุม cursor ด้วยการมองนี่ไม่ล้ำพอเหรอครับ
ก็ไม่ขนาดนั้นครับ เทคนี้ใช้ในแว่น VR ของโซนี่มาแล้วแค่ใช้คนละแบบ ของโซนี่ใช้เป็นจุดโฟกัสในการเรนเดอร์
https://www.blognone.com/topics/eye-tracking
มีมานานพอสมควรใช้คำว่าล้ำคงไม่ได้ครับ แต่เค้าเก่งเรื่องคุณภาพทำให้ดีแม่นยำและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมครับ
Persona ก็ล้ำนะครับ ใช้กล้องจับตา มาอนิเมทหน้าที่แสกนใว้ก่อน ทำได้ค่อนข้างสมูทเลย ถึงจะยังอยู่ในระดับ uncanny valley มากๆ ก็ตาม
ไอเดียดีเลยครับ แต่เทียบกับประโยชน์/ราคา/น้ำหนักจอที่เพิ่มเข้ามา ผมว่า Vision รุ่นธรรมดาจะเลือกตัดฟังก์ชั่นนี้ออกเป็นอย่างแรกๆครับ
ถ้าเห็นกันง่ายๆ คนอื่นก็ทำไปแล้วครับ
ความแม่นยำครับ เท่าที่ผมเห็นนะ
คุณภาพตามราคา
หวังว่ากระแส VR จะกลับมา
มันหนักไปนะ อยากให้เบาแบบแว่นปรกติ
ไม่น่าไหวนะ ตู้เกม Arcade ให้มีทุกบ้านไม่ไหว
ต้องมีตามร้านตามห้างแทน
แอบคิดทำไมไม่ทำเป็นหมวกไปเลย จะได้ไม่ต้องวัดรูปทรงหน้า
จริงครับ ของโซนี่ทำเป็นหมวก ช่วยลดการเจ็บหน้าได้ https://tbivision.com/2016/10/12/sony-unveils-playstation-vr-content/#close-modal
Feeling เหมือนตอน iPad 1st gen เลยครับ
หนัก ใหญ่ แพง ยังมีแอพไม่เยอะ ตอนนั้นรีวิวก็บอกว่า เหมือน iPhone ที่ใหญ่ขึ้น
ผมว่า Vision Pro ก็ไม่ต่างกัน ใส่มาล้นๆก่อน เดี๋ยวดูทิศทางตลาดอีกทีว่าจะไปทางไหน แล้วก็คงออก Apple Vision ธรรมดามา