Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ออกมาพูดถึงเฮดเซต Vision Pro ของแอปเปิลอีกครั้ง จากก่อนหน้านี้เขาทำคลิปเล่าประสบการณ์ใช้งาน โดยบอกว่า Meta Quest เหนือกว่าแทบทุกอย่าง ด้วยราคาที่ถูกกว่ามาก
คราวนี้เขาตอบผู้ใช้งาน Threads ที่บอกว่าเขาไม่เห็นด้วยกับคำพูดคน Meta ที่ว่า Quest นั้นพื้นฐานแล้วเหมือนกับ Vision Pro เพราะความจริงคือแอปเปิลขายของบนสเป็กที่ Meta อยากไปให้ถึงใน 3-5 ปี ขณะที่ Quest ขายของราคาที่แอปเปิลอยากไปให้ถึงใน 3-5 ปี
Zuckerberg ตอบประเด็นนี้โดยย้ำว่าเขาไม่ได้บอกว่าของสองอย่างเหมือนกัน แต่เขาบอกเลยว่า Quest ดีกว่า ถ้าหากเราทำให้เฮดเซตนี้หนักได้เท่า Vision Pro, มี Motion Blur, มีอินพุทที่ไม่แม่นยำ ใน 3-5 ปี อันนี้แปลว่าเราลดคุณภาพลงไปเท่ากันแน่ สิ่งที่ Vision Pro เหนือกว่าคือความละเอียดภาพ แต่ต้องแลกกับราคาสูงมากเท่านี้ ขณะที่อย่างอื่นไม่ดีเท่า แบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากทำ
ที่มา: The Verge
Comments
ถึง Quest 3 จะดีจนผมต้องยอมซื้อมาถึง 2 อัน แต่ผมอยากจะบอกพี่ว่า เบาได้เบา เอาเวลาไปปลูกแม็คคาเดเมีย ขุนให้วัวกิน จะได้กินเนื้ออร่อย ๆ น่าจะดีกว่า
เรื่อง Input นี่มีความคล้ายคลึกงกับสมัยไอโฟนเลยแหะ คือกอนหน้า iPhone มี Stylus ที่แม่นยำกว่านิ้วแตะกว่ามาก แต่หลังจาก iPhone ออกมาช้นิ้วแตะอย่างเดียวความแม่นยำลดลงจริง แต่ได้ความสะดวกมากขึ้นและแก้ไขความจำเป็นที่จะต้องใช้ความแม่นยำในการใช้งานด้วย UI
คือ VP ที่ดูจุดขายคือเอามาเน้นใช้ทำงาน การใช้ได้แค่มืออย่างเดียวผมว่ามันไม่มีเหตุผล เหมือนวาดรูปโดยไม่มีพู่กัน เขียนหนังสือโดยไม่มีดินสอหรือปากกา แล้วงานที่เหมาะกับ VR อย่างพวกปั้นโมเดลใช้แต่มือโดยไม่มีปุ่มหรือให้ปรับแต่งอุปกรณ์ที่ใช้มันก็แปลกๆอยู่
ดุเดือดจริง meta 4 ออกมามันจะเป็นยังไงนะ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
Quest Pro ของคุณพี่ยังแพ้ Quest 3 ขาดเลย เน้นกว่ากันแค่ eye tracking ที่ Quest 3 จงใจไม่ใส่มา
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
ผีเน่าโลงผุเลยคู่นี้
กิกุนิ๊
จริง แมค สองจอยังไม่ได้เลย
ส่วน Meta Quest ก็คือได้ถึง 3 จอ แต่เครื่องรันไม่ไหวแทน
ถ้าซื้อ Apple Vision Pro มาแล้วมีแอปไว้สำหรับทำสองจออยู่ครับ ชื่อ splitscreen.vision โหลได้ครับ
ใครมีประสบการณ์กับ Quest ขอช่วยสรุปให้หน่อยว่ามัน ใช้ทำงานแทนจอหลายๆอันได้หรือยัง แบบนี้ smooth นะเพราะถ้ามีปัญหาจุกจิกเวลาใช้ ก็ focus กับงานไม่ได้อยู่ดี
(ทุกวันนี้ผมใช้จอ 27 นิ้ว 6 ตัว) ซึ่งเวลาต้องทำงานที่อื่น มันขนไปไม่ได้
ตาม reply เราข้างบนฮะ ถ้าแอปของ Meta เองคือได้ถึง 3 หน้าจอ แต่กิน CPU เครื่องหนักมาก มากๆ (แถมลากกิน antivirus ไปด้วย ไม่รู้ทำไม)
กับมีของ Immersed ที่ได้ถึง 5 หน้าจอ แต่เราไม่ค่อยชอบตัวนั้น จัดยากกว่า จะมีข้อดีที่ชอบก็คงแค่มันทำตัวเป็น VR webcam ได้ด้วย
ความละเอียดน้อยไปครับสำหรับผมนะ ใส่ขำๆ เท่ๆ พอได้ ใส่ทำงานจริงจังไม่เวิร์ค แต่ก็มีข้อดีตรงที่มี passthrough ทำงานลับๆ ได้
อยากรู้ว่าเดี๋ยวนี้
Quest 3 หรือแว่นพวก XReal ใส่ทำงานจริงจังหลายจอได้หรือยังครับ? พวกครอบหัวอย่าง Quest คิดว่าน่าจะยังใส่นานๆ ไม่ได้ ด้วยเหตุผลหนัก ร้อนอับ เหมือนหูฟัง Full-size ที่ใส่นานๆ ก็มีเหงื่อแตก ในขณะที่แว่นอย่าง XReal ผมไม่แน่ใจว่า Software Support ไปถึงไหนแล้ว? (ทั้งรุ่น Budget ถึง High-end)
ถ้ายังไม่ได้ ผมว่าจะลงทุนซื้อจอดีๆ ส่งท้าย
แล้วซื้อแว่นไม่แพงมาก ไว้ดูหนังดูอนิเมกับเล่นเกมก็พอ
ผมใช้ Xreal รุ่นแรกอยู่ครับ เรื่อง Hardware ผมถือว่าโอเตแล้วสำหรับทำงาน คมชัด มีลำโพงและไมค์ ไม่หนักเกินไปใส่นานๆได้ แต่ Software นี่ยังค่อนข้างกระท่อนกระแท่นอยู่ครับ
ถ้าใช้กับ MacOS ก็ถือว่าพอโอเคอยู่ครับ แบ่งเป็น 3 จอได้ 3DoF เสถียรอยู่ แต่ได้แค่แบบเบสิคคือ 3 จอเรียงติดๆกันเท่านั้น ปรับได้แค่ขนาดกับองศาเฉยๆ ยังปรับแต่งอิสระมากไม่ได้ แล้วก็บางอย่างอย่าง Mission Control คือดูในแว่นไม่ได้เลย แต่ถ้าเลื่อน Desktop เฉยๆก็ไม่มีปัญหา
ส่วน Windows นี่ยังเป็นแค่ Beta ใช้งานจริงผมมองว่ายังครับ เพราะกินเสปคและ 3DoF เวลาหันมีภาพฉีกอยู่ โปรแกรมอื่นอย่าง Ginger AR ก็มีปัญหาภาพเลื่อนไปเรื่อยๆถ้าต่อกับ Windows โดยตรง
โดยสรุปแล้ว ถ้าเอามาทำงานหลายจอ ผมคิดว่า Windows ยังไม่ได้ ส่วน MacOS คือได้แต่ปรับแต่งได้ไม่มากครับ ส่วนตัวผมใช้ทำงาน MBP ครึ่งวันนอกห้องแอร์ได้ไม่มีปัญหาอะไร นอกจากปวดคอนิดหน่อย 55+
ส่วนตัวรอดูของ ASUS AirVision M1 ที่เพิ่งเปิดตัวไปอยู่ เพราะ Software เห็นว่าสามารถจัดจอได้อิสระกว่า และ Software โดยรวมคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่าครับ
ขอบคุณครับผม สงสัยจะได้โดนจอใหม่ก่อน แว่นรอไปอีกสักเจนสองเจน
ตามาราคา นั้นแหละ