The Wall Street Journal มีรายงานพิเศษ ซึ่งเน้นไปที่ประเด็นว่าทำไมแอปเปิลจึงตามหลังบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ทั้งที่หากพูดถึงระบบผู้ช่วยอัจฉริยะสั่งงานด้วยเสียงแล้ว แอปเปิลมี Siri ที่เปิดตัวก่อนคู่แข่งรายอื่นเสียอีก
รายงานบอกว่าปัญหาสำคัญคือรูปแบบการทำงานในสไตล์แอปเปิล เช่นการรักษาความลับมากจนทำให้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนา AI, แนวทางที่แอปเปิลต้องการให้ผลิตภัณฑ์ไม่มีข้อผิดพลาด ซึ่ง AI ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น และการรักษาความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งาน ทำให้การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ทำได้ยากกว่า
ในรายงานนี้ยังพูดถึงปัญหาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มความสามารถ AI ในผลิตภัณฑ์แอปเปิล โดยเน้นไปที่ John Giannandrea อดีตหัวหน้าฝ่าย AI ที่กูเกิล ซึ่งปัจจุบันดูแลภาพรวมทั้ง AI และ Machine Learning ในช่วงแรกเขาสร้างทีมโดยดึงตัววิศวกรจากกูเกิลที่คุ้นเคยมาหลายคน แต่วัฒนธรรมองค์กรที่ต่างกันทำให้การทำงานเป็นไปยากลำบาก
สิ่งที่ต่างกันมากคือการทำงานตามกำหนดเวลา ซึ่งแอปเปิลเคร่งครัดและตั้งกำหนดเวลาที่ชัดเจน ขณะที่ทีมฝ่าย AI ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกูเกิล มองว่าถ้าไม่สามารถทำได้ในเวลาที่กำหนด ก็คือทำไม่ได้
ความขัดแย้งระหว่างทีม AI และฝ่ายพัฒนาซอฟต์แวร์ซึ่งนำโดย Craig Federighi ยังมีปัญหาเพิ่มเติม เช่น ทีมซอฟต์แวร์เลือกพัฒนา AI ภายในระบบปฏิบัติการสำหรับรู้จำภาพและวิดีโอขึ้นเอง ไม่ได้ให้ทีม AI มาช่วย นอกจากนี้ทรัพยากรประมวลผลภายในแอปเปิลสำหรับงาน AI ที่มีให้ทีม AI ก็ไม่เพียงพอ ทีมงานต้องใช้คลาวด์ของกูเกิลช่วยประมวลผลเป็นหลัก
ทิศทางของการโฟกัสกับ AI ใน iOS มีมากขึ้น เริ่มต้นเมื่อปลายปี 2022 เมื่อ Federighi ได้ลอง GitHub Copilot ในช่วงวันหยุดคริสต์มาส ทำให้เขาเห็นโอกาสอีกมากใน Generative AI และเริ่มตั้งทีมเพื่อพัฒนา Generative AI ในแอปเปิลโดยเฉพาะร่วมกับทีม AI ของ Giannandrea ซึ่งน่าจะทำให้ความขัดแย้งที่มีก่อนหน้าลดลงไปแล้ว
ที่มา: The Wall Street Journal
Comments
ถึงว่าทำไมช้า ไม่ใช่เรื่องเงิน เรื่องนโยบาย เป็นเรื่องที่ว่า ทำยังไงให้เป็น Apple