David Cahn พาร์ตเนอร์จาก Sequoia Capital เขียนบทความแสดงความกังวลว่ากระแส AI กำลังกลายเป็นฟองสบู่ หลังจากการลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไม่หยุด
Cahn คาดการณ์การลงทุนใน AI ว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 คาดกันว่า NVIDIA จะมีรายได้ฝั่งศูนย์ข้อมูลต่อปีที่ 50,000 ล้านดอลลาร์แต่บริษัทกลับทำรายได้ได้ทะลุเป้า ทำให้ Cahn คาดว่ารายได้ NVIDIA ฝั่งศูนย์ข้อมูลจะเพิ่มขึ้นไม่หยุด จนไปถึง 150,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เนื่องจากชิป Blackwell ที่น่าจะขายดีจนกระชากรายได้ของ NVIDIA ขึ้นไปได้อีกครั้ง ด้วยมูลค่าการลงทุนระดับนี้ เมื่อคิดค่าใช้จ่ายในการดูแลศูนย์ข้อมูลเพื่อให้ใช้งานชิปเหล่านี้ได้รวมกับค่าซอฟต์แวร์ต่างๆ วงการปัญญาประดิษฐ์ต้องการรายได้ต่อปีถึง 600,000 ล้านดอลาร์ต่อปี (หรือประมาณ 22 ล้านล้านบาท) เพื่อให้คุ้มค่าการลงทุน
ปัญหาในตอนนี้คือลูกค้าของ NVIDIA ที่ซื้อชิปมาแล้วกลับต้องตัดราคากันเองอย่างหนัก ตอนนี้ตลาด GPU กลายเป็นสินค้า comodity ที่ต้องตัดราคากันอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ให้บริการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ และการลงทุนในตอนนี้ก็จะมีค่าเสื่อมราคาที่ต้องตัดเป็นต้นทุนไปในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า
Cahn เตือนว่าการลงทุน AI นั้นเป็นการลงทุนระยะยาว และไม่ควรหลงไปกับความเชื่อว่าเราจะรวยเพราะการพัฒนา AGI จะสำเร็จในเร็วๆ นี้จนทุกคนแข่งกันสะสมชิปกราฟิก
ที่มา - Sequoia
Comments
อันนี้จริงมากตอนนี้เริ่มเห็นฟองสบู่ล่ะ เห็นได้ชัดคือพวก Ai Arts ต่างๆ เริ่มเหลือไม่กี่เจ้า ก่อนหน้านั้นมีเยอะมาก ตอนนี้เหลือแค่ Tensor SeaArts Civitai เจ้าใหญ่ๆ เพราะมันเป็นธุรกิจที่ต้องลงทุนตลอดเวลา แล้วจะทำแบบให้สร้างแบบจ่ายเงินอย่างเดียวไม่ได้ด้วยมันต้องมีทั้งสองแบบ ทั้ฟรีและจ่ายเงิน ความยากอยู่ที่จะให้คนมาจ่ายเงินจะใช้วิธีไหน อย่างทั้งสามเว็บพัฒนามาเรื่อยๆ บางเจ้ามาได้เดือนเดียวเจ๊งก็มีเยอะแยะ วงการนี้ไม่ง่ายถ้าจะอยู่ยาวนาน คิดว่ามาแค่สร้างเว็บสร้างรูปง่ายๆ อยู่วงการนี้ยาก
เห็นด้วยครับ
ต้องมีล้มหายตายจากไปอีกเยอะแน่นอน แต่ที่แน่ๆ คนขาย HW อย่าง Nvidia คือรวยไปแล้ว คนรับผลิตอย่าง TSMC ก็รวยเช่นกัน คู่แข่งอย่าง AMD ก็ไม่เบา ส่วน Intel เหมือนจะยังตามไม่ค่อยทัน ถถถ
Buy Nvidia ซู้ดดดดด
ดอลาร์ –> ดอลลาร์
22 ล้าน -> 22 ล้านล้าน
สาม -> สม
ผมว่าเขาก็ดูออกกันแหละ แต่กลัวไม่ได้เป็นผู้นำตลาดมากกว่าฟองสบู่แตก
ค่อนแน่ใจว่า AI จะไม่เหมือนกับ metaverse แล้ว blockchain อะครับ
มันใช้งานได้จริง และ ใช้งานได้ดีจนเกินความคาดหมายด้วย สำหรับบางงาน
แต่มันก็จะมีคนเจ๊งไปเยอะเหมือนกัน
เพราะมันมีพวกที่ ใช้ชื่อ AI เนียน ๆ กอบโกยโดยไม่มีความรู้จริงเยอะเหมือนกัน
เทียบกะblockchainนี่ก็เกินไป อันนั้นผมว่าไม่น่าเรียกว่าการลงทุนเรียกการพนันดีกว่า ตลาดจะขึ้นจะลงคือไม่มีหลักอะไรเลยอยู่ที่เจ้าใหญ่จะควบคุมตลาดยังไง
ผมว่าคุณเข้าใจผิดนะ Blockchain เป็นเทคโนโลยีส่วน Cryptocurrency อันนั้นอ่ะคือพนัน
แต่เห็นด้วยที่ว่าไม่ควรเอา AI ไปเทียบกับ Blockchain เนื่องด้วยวัตถุประสงค์และเป้าหมายการพัฒนาเพื่อนำไปใช้มันชัดเจนและเห็นประโยชน์กว่าตัว Blockchainมาก
blockchain ฟังดูเท่ดีครับ แต่พอเข้าไปอ่าน code กับหลักการทำงานของมันจริงๆ จะรู้ว่ามันกลวงมาก
+1 เห็นด้วยว่า AI มันมีประโยชน์แน่ๆ
ไม่ใช่แค่ Buzzword แต่จะเหลือที่ใช้งานจริงๆ ได้เท่าไหร่นั้นต้องดู
สมัย.com internet ก็ฟองสบู่แตกเหมือนกันนะครับ
และอย่างที่รู้ๆ internet มันใช้งานได้จริง และ ใช้งานได้ดีจนเกินความคาดหมายด้วย
โอ้ จริงด้วยครับ
มันอยู่ที่ว่า คนครอบครองตลาดใหม่นี้ได้ก็จะร่ำรวยมหาศาล เหมือนอย่าง intel microsoft amazon
คิดว่า กฎ 80/20 ใช้ได้เสมอ คือ
คน Top 20% จะกินรายได้ 80% ของตลาด
ส่วนคน 80% จะฟัดกันแย่ง รายได้ 20% ที่เหลือ
ไม่น่า 80/20 นะฮะ 95/5, 98/2 หรือดีไม่ดียิ่งกว่านั้นไปอีก
กรณีของ AI ตลาดน่าจะเข้าสู่สภาวะเสถียรภายใน 10 นะผมว่า ยุคนี้อินเทอร์เน็ตทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้นหลายเท่า ผู้เล่นที่เข้ามาในตลาด แต่ไม่ได้มีผลิตภัณฑ์ที่คนต้องการจริงๆ เดี๋ยวก็คงล้มหายตายจากไปภายในสองสามปี
ส่วนเจ้าที่สามารถนำ AI มาใช้เพิ่มมูลค่าได้จริงๆ ก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 10 ปีนี่แหละ ในการวางแผนการลงทุนได้อย่างเหมาะสม ทั้งในส่วนของ HW และในส่วนของการพัฒนาโมเดล
..: เรื่อยไป