Tags:
Node Thumbnail

ผู้อ่าน Blognone ทราบกันอยู่แล้วว่าปัญญาประดิษฐ์นั้นต้องการกำลังประมวลผลที่มหาศาล โดยเฉพาะการประมวลผลในศูนย์ข้อมูล ทำให้ความต้องการพลังงานไฟฟ้าก็มีจำนวนมากตามด้วย เรื่องนี้ช่วยย้ำว่าศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ยังต้องการไฟฟ้าอีกมาก มากจนต้องขอโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกหนึ่งแห่งเลย

ไมโครซอฟท์ประกาศลงนามข้อตกลงซื้อไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 20 ปี จากบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้า Constellation ซึ่งทาง Constellation ไม่ได้สร้างโรงไฟฟ้าใหม่ขึ้นมา แต่ใช้การกลับมาเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ TMI-Unit 1 บนเกาะทรีไมล์ ซึ่งโรงไฟฟ้านี้ได้ปิดทำการไปในปี 2019 เนื่องจากความต้องการไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ลดลง เพราะราคาแพงกว่าโรงไฟฟ้าแหล่งพลังงานอื่น

Constellation คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์ ในการปรับปรุงให้ TMI-Unit 1 กลับมาผลิตไฟฟ้าได้ในปี 2028 กำลังผลิต 835 เมกะวัตต์ ซึ่งต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย

โรงไฟฟ้า TMI-Unit 1 ตั้งอยู่ติดกับ TMI-Unit 2 ซึ่งเกิดอุบัติเหตุการหลอมละลายทางนิวเคลียร์ในปี 1979 โดยเตาปฏิกรณ์และโรงงานได้ปิดทำการ และทำความสะอาดสิ้นสุดในปี 1993

บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต่างเลือกซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ด้วยเหตุผลเรื่องการปล่อยคาร์บอนเมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าที่ใช้แหล่งพลังงานอื่น

ที่มา: Yahoo! News

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: KuroNeko_Hiki
AndroidUbuntuWindows
on 23 September 2024 - 07:37 #1322829
KuroNeko_Hiki's picture

พลังงานสะอาด จะโดนใครประท้วงไหมนะ

By: thornza007
AndroidUbuntuWindows
on 23 September 2024 - 15:50 #1322880 Reply to:1322829
thornza007's picture

ผมว่ามันต้องเลือกแล้วครับ โลกร้อนขึ้นผลกระทบเยอะขึ้น

ก็ต้องรอดูว่าจะพลาดบริหารนิวเครียจนกระทบ หรือ โลกหลอมเราก่อน

By: IDCET
Contributor
on 23 September 2024 - 18:20 #1322898 Reply to:1322829

มันน่าเศร้าตรงที่นิวเคลียร์ ตอนผลิตพลังงาน มันสะอาดกว่าพวกถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซอีก มีแค่ไอน้ำที่ปล่อยออกมาจากโรงไฟฟ้า แต่ได้พลังงานไฟฟ้าที่มหาศาล และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เอาก็บริหารจัดการความปลอดภัยและการผลิตค่อนข้างดีอยู่แล้ว ไม่มีไม่มีปัญหาอะไรตั้งแต่เริ่มผลิตไฟฟ้าหลังก่อสร้างเสร็จด้วยซ้ำ

มาติดตรงที่ต้องใช้แร่ที่มีรังสีและค่อนข้างอันตรายในการผลิต รวมถึงต้องมีการป้องกันรัวสีรั่วไหล ระบบควบคุมโรงไฟฟ้าที่ซับซ้อน การก่อสร้างที่ต้องใช้งบประมาณสูงกว่าระบบผลิตไฟฟ้าอื่นๆ ต้องอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างมั่นคง ปัญหาภัยธรรมชาติน้อย ห่างจากที่อยู่อาศัย และบุคลากรที่เชี่ยวชาญสูงในการดำเนินการ

พอมันเกิดปัญหาขึ้นมา รังสีเกิดการรั่วไหล คนก็มองเป็นแง่ลบไปซะทั้งหมด ไม่ดูผลดีผลเสียอะไรเลย แถมต่อต้านแบบหัวชนฝา ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แม้แต่คำว่า "นิวเคลียร์" หลายคนก็ร้องยี้แล้ว

ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นร้ายแรงจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในอดีต (ซึ่งมีอัตราเกิดเหตุน้อยกว่าโรงไฟฟ้าประเภทอื่นๆ มากอยู่แล้ว) มาจากทำเลโรงไฟฟ้าที่อยู่ในพื้นที่ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ต่อเนื่อง (Fukushima), ความประมาทหรือความผิดพลาดของผู้ปฏิบัติงานในโรงไฟฟ้า (Chornobyl, Three Miles Island) และใช้ทางลัดในการก่อสร้างโดยไม่สนเรื่องความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติการและพื้นที่ใกล้เคียง (Chornobyl)


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว