adobe หรือ aple จริงใจก็จะได้รู้กันแหละ แต่ที่บอกๆ นะครับว่าผมไม่ชอบ flash เลยเพราะมันทำให้เว็บโคตร
อืดเลย

ผมใช้คอม(Notebook)ที่ซื้อเมื่อ 6 ปีที่แล้วครับ เข้าเล่นเกมส์เฟสบุคไม่ได้สักเกมเลยครับ มันกระตุกจนไม่รู้เรื่อง บางทีก็ทำคอมรีสตาร์ทไปเลยครับ เฮ่อๆ

acrobat reader ก็เหมือนกัน ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความอืด

Flash เป็นทางเลือกครับ ..
อย่างน้อยมีทางไว้เลือกบ้าง ก็ยังดีกว่าบังคับให้ต้องเดินบนทางเล็กๆ เบียดๆ กัน ~*

มีใครตั้ง group facebook "มั่นใจคนไทยเกินล้านคนเกลียด Flash" หรือยังนะ จะกด like

จริงๆ ก็คงต้องเปิดทางให้ Flash แหละครับ แต่อาจจะมี Option ให้เลือกเปิด/ปิด แล้วถ้าสุดท้ายไม่มีคนใช้มันก็จะหายไปเอง

วันนี้สาวกแอปเปิ้ลเยอะเป็นพิเศษแฮะ ทุกวันนี้พวกคุณดู Youtube บนคอมกันยังไงอยากรู้ ?

เข้าใจหน่อยว่า Apple ไม่เอาแฟลชมันกลัวขาย Apps ได้น้อยและมีคนส่วนมากหันไปเล่น Apps ฟรีที่พัฒนาให้กับ Flash

มีหลายคน(*โดยเฉพาะสาวก Apple)จะมักบอกว่า "นี่แหล่ะคือ การวางแผนการตลาดของ APPLE" แต่ถามจริงๆ พวกคุณซื้อ Apps เขามากกว่าคุณโหลดฟรีแบบไม่ถูกลิขสิทธิ์หรือเปล่า..

บอกตรงๆว่าผมก็เกลียด flash โดยเฉพาะที่ใช้กับเมนูหรือโฆษณา แต่ก็ไม่อยากให้ใครมาคิดแทนครับ ผมคิดเองได้ เลือกเองเป็น ไม่ต้องประเคนให้แต่อย่ามากีดกันก็พอ

1. การกีดกันของแอปเปิล ไม่ใช่การกีดกัน Flash เพียงอย่างเดียว มันคือการกีดกัน layer กลางทั้งหมด รวมถึง monotouch และโครงการโอเพนซอร์สเช่น XML VM
2. Flash บน iOS (คนละเรื่องกับเว็บ) เป็นการคอมไพล์ให้เป็น native code
3. ความช้า/เร็วไม่สามารถบอกได้จากกรณีเช่นนี้ เขียนจาก Objective-C ก็ทำให้ช้าได้เหมือนกัน การเชื่อมต่อกับ iOS นั้นผ่านทาง interface มาตรฐานที่แอปเปิลเปิดให้กับนักพัฒนาอื่นๆ ผ่านทาง Objective-C

แอปเปิลแค่กลัว "เอกลักษณ์" ของ iOS จะหายไป หน่วยงานจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นโรงแรม, ธนาคาร ฯลฯ ไม่ได้สนใจจะพัฒนาแอพลิเคชั่นสำหรับ iPhone ขนาดนั้น พวกเขาแค่มีเป้าหมายว่าต้องพัฒนาแอพลิเคชั่นให้กับ Smartphone ให้ครอบคลุมส่วนแบ่งเป้าหมาย (70-80%) ทำให้ไม่สามารถตัด iPhone ออกไปได้

ถ้ามี Layer กลางที่แม้จะมีความสามารถจำกัด บริษัทเหล่านี้จะโยกไปทันที และใช้ความสามารถเฉพาะที่เป็นส่วนกลาง (intersection) ของทุกๆ แพลตฟอร์ม เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและซ่อมบำรุง