ต่อจากข่าว OpenSolaris ถึงทางแพร่ง, ถ้า Oracle ไม่เข้ามาร่วมวงก็ต้องเลิกโครงการ และ ลาก่อน OpenSolaris
หลังจาก Oracle ตัดสินใจเลิกพัฒนา OpenSolaris ทางคณะกรรมการของโครงการ OpenSolaris (OpenSolaris Governing Board) ได้ประชุมกันและลงมติเอกฉันท์ในการลาออกยกคณะ (อ่านคำประกาศได้ในบล็อกของ Simon Phipps อดีตหัวหน้าฝ่ายโอเพนซอร์สของซัน)
ทางชุมชนผู้พัฒนา OpenSolaris ได้ตัดสินใจแยกโครงการใหม่โดยอิงจากซอร์สโค้ดเดิม ใช้ชื่อโครงการว่า Illumos ทางด้าน Oracle ก็ออกมาประกาศแล้วว่าจะออก Solaris 11 (รุ่นไม่โอเพนซอร์ส) ในปี 2011 โดยใช้โค้ดจาก OpenSolaris ในปัจจุบัน
ที่มา - Linux Sys-con
Comments
แป่ว
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
การมาของoracle อืมทำใจ
อะไรที่ Sun open source มักจะเจ๊ง
คิดไปคิดมา เหมือน MySQL พาคนอื่นไปตายหมดเลยแฮะ (ผมคิดในพื้นฐานที่ว่าหาก Sun ไม่ซื้อ MySQL, Oracle คงไม่ซื้อ Sun)
ผมคิดว่า Oracle ซื้อ SUN เพราะ HW หรืออย่างอื่นของ SUN มากกว่า MySQL นะครับ
ก็อาจจะจริงอยู่ แต่ Sun ทำตลาด MySQL แบบเจาะกล่องดวงใจ Oracle เลยนะครับ
เคยได้ยินรึเปล่า ซื้อฐานข้อมูล MySQL แถมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ หรือกลับกันอะไรทำนองนี้ จำได้ว่าเคยเห็ฯแว็บๆที่นี่เหมือนกันนะ
เสียดายไม่ได้ capture โฆษณานั้นไว้
คงไม่มีอีกแล้ว....
lewcpe.com, @wasonliw
ผมจำได้ว่าซื้อ MySQL Enterprise แถม Sun Server น๊ะ หรือว่าจำผิด
opensource เริ่มสั่นคลอนเลยนะครับนี่
oracle ชักจะเป็น evil แล้วนะเนี่ย
ไม่มีใครฟ้องเรื่องผูกขาดของ oracle บ้างเหรอ การตลาดปีศาจจริงๆ
เป็นสัญญาณดับสำหรับโอเพ่นซอร์สที่อยู่ภายใต้อุ้งมือ Oracle
ผมคิดว่าดับแน่ครับ อีกหน่อยคงไม่เหลือโอเพ่นซอร์สใต้ชื่อ Oracle
ตายแล้วอีกหน่อยใช้ Java จะต้องเสียเงินมั้ย ?
ใช้ Java SE, Java EE, JDK น่ะไม่เสียเงิน ถ้า Oracle จะคิด ก็ออกจะมี open source ที่เป็น clean room implementation อยู่
คือโดยส่วนตัวนะ กรณีที่เลวร้ายที่สุด น่าจะตรงข้ามกับ Microsoft คือ Microsoft ออกมาตรฐาน .Net ที่ไมโครซอฟท์ออกมาตรฐานเอง และทำ implementation เอง โดยมี hidden agenda ว่า Microsoft ไม่ให้เราเลือก Platform คือต้อง Wintel เท่านั้น แต่เปิดโอกาสให้เราเลือกภาษาสารพัด Visual Basic .Net, C#, PHP, J# (ใครจำได้มั่ง)
ส่วน Oracle อาจจะเป็นไม่ให้เราเลือกภาษา ต้อง Java สถานเดียว แต่ให้เลือก Hardware/OS Platform ระหว่าง Oracle Solaris, Oracle Enterprise Linux, Windows Server, OS X เป็นต้น
ส่วน IBM นี่อาจจะสร้างทางของตัวเองใหม่ก็เป็นได้ เพื่อลดการได้เปรียบของ Oracle ที่เป็นคนออกมาตรฐานเอง แล้วทำ commercial เองด้วย
ถ้า ภาษา Java ตายแล้วเกิดใหม่
เป็นภาษาที่ีมี Syntax ของภาษาหลักๆ ทุกภาษา เปิด 1 namespace เขียนได้ 1 Paradigm เขียน ASM IL ได้
สาย OOP หลักๆ มีเท่า C# หรือมากกว่า
เขียนโปรแกรมลง GPU และฮาร์ดแวร์ได้ทุกรูปแบบ
มีความสามารถ Optimize มี inline มี ValueType มี Interior Pointer ให้ใช้
มี AoT Compiler ลง Hardware เก่าๆได้ สั่ง AoT ไป Optimize ส่วนสำคัญๆได้
ฯลฯลฯลฯลฯลฯลฯลฯ
.
.
.
ผมก็ยอมใช้จาว่านะ และคิดว่าทั้งโลกควรจะใช้จาว่าให้หมดไปเ้ลย
Java เป็นภาษาที่ยึดติดกับ Compatible เกินไป ผมไม่เชื่อว่าจะยอมทำได้ ไม่งั้นคงทำไปนานแล้ว เพราะ SUN ก็มีแค่ Java ตัวเดียวให้ดูแล
ต่างกับไมโครซอฟท์ที่ตอนนี้เอา Query Language มาไว้ใน C#
ส่วนตัวผมก็ไม่ชอบที่มันปนอยู่กับ C# แถมจริงๆมันไม่ Optimize เป็นแึค่ Sugar
ตอนนี้ให้จาว่าเขียนเกม High-End ให้ได้ก่อนเถอะครับ
ตัวจาวาเองอย่างน้อยตอนนี้มีมูลค่าทางการตลาดอยู่เยอะมาก คนรู้จักมากมาย Oracle คงไม่พยายามเฉือดห่านทองคำตัวเองง่ายๆหรอกครับ อย่างน้อยที่สุดก็ตอนนี้ เพราะถ้า Oracle ทำขนาดที่ผมกล่าวข้างต้น มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่ Oracle ทำให้ Java กลายเป็น PL/SQL ไป Oracle ต้องการเป็นผู้นำ ทำเงินได้ แต่ไม่ใช่อยู่โดดเดี่ยว แต่ไม่มีใครเลือกซื้อ เพราะลูกค้ากลัวโดน vendor lock-in ฟังดูน่าเกลืยด แต่ก็เป็นความจริงครับ ซึ่งประวัติศาสตร์ก็มี และ IBM ก็โดนโจมตีเรื่องนี้กับ Mainframe มาโดยตลอด
ผมไม่ได้ตั้งใจยกยอว่า จาวามันเทพ แต่ถ้าทำให้เข้าใจผิดไปก็ต้องขออภัยตรงนี้ด้วยครับ แต่อาจจะเพราะผมทำงานอยู่ใกล้กลุ่ม Enterprise ก็เลยอาจจะมีมุมมองที่แตกต่างออกไปบ้าง
ผมยอมรับครับว่า จาวาไม่ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาให้ทำทุกอย่างที่ C หรือ ASM ทำได้ Java เอาไปทำ BIOS ก็ไม่ได้, เอาไปเขียน hard-realtime device driver ก็ไม่ไหว
ภาษาจาวามันเน้นที่ Enterprise เป็นหลัก เน้น compatibility, security (no untyped pointer), portability ประเภท Write Once, Run Anywhere (และก็ Debug Everywhere :P)
ผมว่าเกมส์พวก cutting edge มันเน้นที่ความสวยงาม, ความซับซ้อนของฉาก ความฉลาดของ AI ต้องทำให้ได้มากที่สุด ภายใต้เครื่อง PC ธรรมดาๆ ดังนั้นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์นั้น จึงเขียนเพื่อแพลตฟอร์มเดียว หันมาโฟกัส แล้วรีดสมรรถนะออกมาให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งมันไม่ได้ไปกับวัตถุประสงค์ของภาษา Java แต่เดิมอยู่แล้วครับ
ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่า คำว่า "ภาษาเป็นแค่เครื่องมือ" เหมือนพูดว่าหม้อเป็นจับฉ่าย
ผมเห็นว่า เครื่องมือมันคือ Paradigm ส่วนภาษาคือทักษะที่เราใช้ควบคุมมัน
การเปลี่ยนภาษาคือการไปหัดทักษะใหม่ๆ มันมี Cost มีค่าเสียเวลา มีการติดขัดเมื่อมีหลายๆทักษะแล้วมันปนกันเอง เพื่อที่จะใช้เครื่องมือเดิม นั่นคือ OOP และ Functional
ผมว่าไม่คุ้มที่จะต้องเรียนหลายภาษา
Abstraction มีไว้เพื่ออะไร?
ตอนนี้ผมเริ่มเขียนโปรแกรมแบบ Modular Paradigm กับ Low Level ของเอนจิ้นด้วย C# ซึ่งมันเซฟกว่า Pointer มาก และประสิทธิภาพน่าจะสูงกว่า OOP ตามหลักการ
ผมกำลังรู้สึกว่า เพื่อทำให้โค้ดเมนเทนง่าย และ Performance สูง OOP Paradigm ไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง
และ C# กำลังพยายามตอบโจทย์นี้ โดยการให้ .NET มีหลายภาษา (.NET เขียนโปรล็อกได้) รวมถึงเอา LINQ เข้ามาใช้ การ Iteration และการ Parallel ก็ง่ายขึ้น (และมี Hype ว่า มันจะ Optimize ในภายภาคหน้า)
ผมถึงได้พูดถึง namespace/paradigm ว่าถ้า Java ทำได้ จะยอดมาก
ถ้าภาษา 1 ภาษา คือทักษะเดียว สามารถใช้ควบคุมเครื่องมือได้หลายตัว น่าจะดีกว่า
จริงๆพูดว่า High End ก็เกินไปเพราะ C# ก็ยังทำไม่ได้ แต่ผมก็เอาแค่นี้แหละ ให้จาว่าเขียนเกมประสิทธิภาพเท่า C#
ปัญหา Performance มันอยู่ที่ไหนกันแน่? ในเมื่อ C# ทำเหมือนจาว่าแทบจะทุกอย่าง
และ Java ก็ยังต้อง Debug Everywhere อยู่ดี
ผมใช้ Python กับ PHP อิๆ
เห็นชื่อ Oracle แล้วเซงโคตรเลย แล้ว mysql จะเป็นไปด้วยไหม ดูท่าแล้วน่าจะมาทำนองเดียวกันแน่ สักวันจะหันไปพัฒนา Web app ด้วย .NET บ้างแล้วหละ