หากใครได้ชมภาพยนตร์เรื่อง The Social Network แล้วก็น่าจะเข้าใจข่าวนี้ได้เร็วขึ้น
คู่แฝด Winklevoss เป็นอดีตนักเรียน Harvard ที่เคยต่อสู้กับ Mark Zuckerberg ในชั้นศาลมาแล้วเมื่อหลายปีก่อนโดยอ้างว่าโดน Mark ขโมยไอเดียในการทำ Facebook ไประหว่างที่ยังศึกษาอยู่ที่ Harvard
ในตอนนั้นคดีจบลงโดย Mark ยอมความด้วยการจ่ายเงินสดมูลค่า 20 ล้านเหรียญ พร้อมกับหุ้นมูลค่าอีก 45 ล้านเหรียญเพื่อจบคดีนี้ ดังนั้นโดยรวมแล้วคู่แฝดพร้อมกับเพื่อนผู้ร่วมต่อสู้ที่ชื่อ Divya Narendra ได้รับทรัพย์สินในการยอมความเป็นมูลค่ารวม 65 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดูเหมือนทุกอย่างจะจบลงแค่นั้น แต่คดีอื้อฉาวนี้กลับถูกรื้อขึ้นมาใหม่เพราะคู่แฝดพร้อมกับ Divya ตัดสินใจจะร้องต่อศาลในวันพรุ่งนี้โดยจะขอให้การยอมความเดิมเป็นโมฆะ ด้วยเหตุผลว่าในขณะนั้น Facebook ไม่ได้เปิดเผยว่ามีเงินอีก 9 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นที่ Facebook จะต้องจ่ายให้กับพนักงานหลักของ Facebook ด้วย ทำให้มูลค่าทรัพย์สินจำนวน 65 ล้านเหรียญที่พวกเขาได้มานั้นน้อยกว่าที่พวกเขาสวมควรได้
BBC พาดหัวข่าวนี้ไว้ว่านี่เป็นการ "พนัน" ของคู่แฝดต่อคดีที่พวกเขาตัดสินใจรื้อกลับมา เพราะหากพวกเขาชนะ เขาก็จะได้ทรัพย์สินชดเชยมูลค่ามากกว่าเดิมกลับไปนอนกอดที่บ้าน ในขณะที่หาก Mark เป็นฝ่ายชนะในครั้งนี้พวกเขาจะไม่ได้อะไรเลยแล้วยังต้องเสียทรัพย์มูลค่า 65 ล้านเหรียญที่ได้มาตอนแรกไปด้วย
อ่านข่าวจบแล้วต้องบอกเลยว่า พวกนายนี่ช่างกล้าจริงๆ !
ที่มา - BBC
Comments
ALL IN
ALL IN
ดูในหนังนะ ผมก็คิดว่าmark เก่งสุดนะ
โลภมากลาภหายนะเออ..
...ในขณะที่หาก Mark เป็นฝ่ายชนะในครั้งนี้พวกเขาจะไม่ได้อะไรเลย...
อันนี้หมายถึงคู่แฝดแพ้คดีใช่มั้ยครับ
ผมก็อ่านแล้วเข้าใจว่าอย่างงั้นนะครับ มันตีความอย่างอื่นได้ด้วยเหรอ
ไม่ได้อยากจะกวนตีนนะครับ แต่ว่ามันแปลเป็นความหมายอื่นได้ด้วยเหรอครับ
ผมเข้าใจน่ะ ว่ามันคิดไปได้
ความละโมบของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ
ไม่รู้นะครับ จากที่ดูในหนัง ผมว่า Mark ก็ควรจ่ายเงินให้ สองพี่น้อง นี้ อยู่แล้ว
แต่จะแค่ไหน นั้น ไม่ทราบได้
(โดยส่วนตัว 60 กว่าล้าน นี่น่าจะพอแล้วมั้งครับ)
ผมว่าฟ้องเพื่อความสะใจ ถ้าในหนังไม่ได้โกหกมากนัก คู่แฝดWinklevoss เดิมทีฐานะทางบ้าน ก็น่าจะรวยในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
ดูเหมือนว่าจะได้อีกสินะ
I need healing.
ขโมยไอเดียก็จริง แต่ทำได้ดีกว่า 555+
"ถ้าคุณทำเก้าอี้ได้ ผมจะทำเก้าอี้ด้วยไม่ได้หรอ?"
งานนี้ไม่จบ สงสัยได้กลับบ้านมือเปล่า...
ถ้าไม่มั่นใจก็คงไม่กล้าเดิมพันด้วยเงิน 65 ล้านหรอกมั้ง
สงสัยว่า ถ้ารวมที่ว่านั่นเข้าไปแล้ว สมควรจะได้เท่าไหร่ คุ้มจะเสี่ยงเหรอ
ถ้าอ้างอิงจากในหนัง คู่แฝดนั่นคิดแค่จะทำสังคมไฮโซสำหรับ havard แต่จริงๆ แล้วที่ facebook ดังขึ้นมาได้เพราะขยายฐานไปทั่วโลกต่างหาก
ผมว่า ตามในหนัง ที่มันดัง เพราะตอนแรกๆมันใช้ได้ไม่กี่มหาลัย เลยเหมือนกับ fb เป็นอะไรที่ exclusive สำหรับมหาลัยนั้นๆ คนเลยเล่นเยอะ ทำให้เจอเพื่อนๆตัวเองอยู่บน fb ไม่ใช่กระจายไป Hi5 MySpace Friendster
twitter.com/djnoly
ตอนแรกบอกเป็นสุภาพบุรุษ ที่แท้ก็พวกใจตุ๊ดไม่รู้จักพอดี
ทำเองก็ไม่ได้ทำ = ="
ใครจะดีจะร้าย หรือใครจะละโมบมันต้องอยู่บนโลกแห่งความจริง หนังมันสนองความต้องการของผู้กำกับว่าจะให้เป็นแบบไหน บางทีผู้ร้ายอาจจะสวมสูทโก้หรูก็ได้
ภาคต่อของหนัง
+1
+2
ในหนังคู่แฝดนี่มีแค่แนวคิดที่จะทำกับกล้ามเอาไว้พายเรือ
เหมือนมาร์คจะเสียเปรียบฝ่ายเดียวเลย
ถ้ามาร์คชนะมากร์คไม่ได้ แต่ถ้าแพ้ต้องเสียให้แฝด!
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
มองอีกมุมนึงคือ ถ้ามาร์คชนะมาร์คก็ไม่ต้องเสียตังค์ครับ
แฝดอาจจะเสียเปรียบเพราะตอนนี้ได้อยู่แล้ว ต้องเสี่ยงกับการได้เพิ่มหรือไม่ได้อะไรเลย
ถ้าสู้กันตอนนี้ผมว่าคงจะชนะ facebook ไม่ได้ง่ายๆเหมือนตอนแรกแล้วหล่ะ !!
โลภมาก ระวังลาภจะหาย
ในหนัง เห็นว่าได้เจอกันแค่ครั้งแรกที่กลุ่มของแฝกเรียกไปคุยใน concept หลังจากนั้น ก็ส่งเมล์ติดต่อกัน แค่นั้น ...
แต่ มาร์ค ไม่เคยเห็น code ของแฝด เลย
แต่แฝดไม่ยอมทำต่อ ทำไมต้องรอ มาร์ค ก็เพราะ มาร์ค เจ๋ง
ผมว่า มันเป็นการแตกประเด็น ของความคิด มันห้ามไม่ได้นี่ครับ
65 ล้าน เป็นหุ้นใน Facebook นอนกินปันผลดีกว่านะแฝด
นั่นมันในหนังครับ เรื่องจริงอาจแตกต่างกันนิดหน่อยและมีผล
ถึงได้เพิ่ม แต่ก็ไม่น่าจะได้มากกว่าเดิมสักเท่าไหร่นะ
ทำไมไม่มีคนมองมุมกลับว่า
ถ้าคุณโดนขโมย idea ไป คุณจะรู้สึกยังไง
ทำไมมีแต่คนชื่นชม mark
คุณชอบใช้ facebook ไม่ได้แปลว่า mark เป็นคนดีนะครับ
เป็นผมก็คงโมโห ไม่รู้นะ แต่ผมมองว่า
สมมติ นายแฝด สร้างบั้งไฟขึ้นมาอันนึง สามารถยิงข้ามเขาได้ 2 ลูก
แต่ นายนาซ่า เห็นไอเดีย แล้วเอาไปสร้างจรวดไปดวงจันทร์
ถามว่า แล้วทำไมนายแฝดไม่ทำจรวดเอง ก่อนนายนาซ่าทำล่ะ
หรือถ้านายแฝดสร้างจรวดเอง จะไปถึงดวงจันทร์มั้ย อาจจะไม่ถึงก็ได้
เปรียบเทียบได้ดีครับ ผมไม่เห็นด้วยกับการลอกไอเดีย แต่เห็นด้วยกับการต่อยอดไอเดียและทำให้ดีกว่าเดิม ... อีกอย่าง 2 พี่น้องนั้น ไม่รู้ว่าได้ทำไรบ้างนอกจากคิดว่าเป็นเจ้าของไอเดียนั้น ทั้งๆ ที่มันต่างกับไอเดียเดิมไกลริบ
ผมเชื่อว่าจินตนาการสำคัญกว่า การขโมยไอเดียนี่ถือว่าแย่มากๆ โดยเฉพาะเพื่อนเรา
"สมควร" มี ว เกินมาครับ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.