แม้ว่าอินเทลจะเป็นผู้พัฒนา Thunderbolt แต่แอปเปิลกลับเป็นผู้ที่ไล่จดเครื่องหมายทางการค้าของ Thunderbolt ในประเทศต่าง ๆ โดยเริ่มต้นที่ประเทศจาไมก้าและหลังจากนั้นประเทศแคนาดา สหภาพยุโรป จีน และตอนนี้กำลังยื่นเรื่องขอในสหรัฐอเมริกา ทางเว็บ Engadget เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาจึงได้ขุดรายละเอียดมาให้อ่านกัน
จากข้อมูลที่ Engadget ได้จากอินเทลนั้น การที่แอปเปิลไล่จดเครื่องหมายทางการค้าแทนอินเทลนั้นเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกันระหว่างสองบริษัท โดยสิทธิในการใช้เครื่องหมายทางการค้า Thunderbolt จะถูกโอนไปให้กับอินเทลในภายหลัง และการที่จะใช้ชื่อ Thunderbolt นั้น ผู้ผลิตจะต้องใช้ทั้ง Controller Chip และ Thunderbolt connector เพราะฉะนั้นแล้วแล็ปท็อปของโซนี่ที่มีพอร์ท Thunderbolt ที่หน้าตาเหมือนกับ USB จะต้องไม่เรียกชื่อพอร์ทนั้นว่าพอร์ท Thunderbolt
แม้ว่าตอนนี้อินเทลจะเป็นผู้ผลิตชิปเซ็ทรายเดียวที่สามารถทำงานกับ Thunderbolt ได้ ผู้ผลิตรายอื่นก็สามารถจะเลือกนำ Thunderbolt ไปใส่ในสินค้าของตนเองได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นแฟน ๆ AMD ก็ไม่ต้องกังวลอะไร
เพราะฉะนั้นแล้ว ณ เวลานี้ยังไม่ต้องกังวลว่า Thunderbolt จะมีปัญหา Fragmentation เหมือนกับ Android ในตอนนี้ และอินเทลเองก็คาดการณ์ไว้ว่าภายในปี 2012 เราจะเห็นสินค้า Thunderbolt ใช้งานอย่างแพร่หลาย แม้ว่า USB 3.0 ก็กำลังก้าวไปข้างหน้าเรื่อย ๆ ก็ตาม
ที่มา - Engadget
Comments
สองบริษัทนี้ มีแนวทางชัดเจนในการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน และต้องรีบจดทำถ้าต้องการจะให้ ชื่อ Thunderbolt มีการคุ้มครอง และ มีข้อกำหนดชัดเจนว่า ผู้ผลิตจะต้องใช้ทั้ง Controller Chip ซึ่ง Intel ผลิตอยู่ในตอนนี้ และ Thunderbolt connector ซึ่งก็คือ mini Displayport ที่ถือสิทธิ์โดย Apple เพื่อทำให้สองอย่างนี้ควบคู่ไป Apple จะไล่จดเครื่องหมายการค้าก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ยังงัย Intel ก็คือเจ้าของอยู่ดี
โซนี่ก็ใช้ไปเหอะ เดี๋ยวคงมีคนตาม (มั้ง)
USB 3 จงเจริญ!
อ่านข่าวนี้เจอใน 9to5Mac เหมือนกัน
เหมือนแอปเปิลจะโอน trademark ให้อินเทลภายหลัง แล้วผู้ผลิตรายอื่นก็นำไปใช้ได้
ดีต่อสาวกครับ ต้องเห็นใจเขาหน่อยกว่าจะคิดค้นอะไรใหม่ๆออกมาได้ ต้องลงทุนไปเยอะ อย่างน้อยเขาก็สร้างมาตรฐานใหม่ออกมาเรื่อยให้คนอื่นไล่ตาม ก็ดีต่อมวลมนุษย์ชาติเหมือนกัน ไม่งั้น คง ไม่มี ipad ใช้กัน ไม่มี iphone ใช้กัน
ให้ Apple เอาชื่อมาสร้างความศรัทธาก่อนสินะ
ถ้าใช้ชื่อ Intel: ก็งั้นๆ เทคโนโลยีใหม่ธรรมดา ไม่น่าสนใจ USB 3.0 ก็มีใช้ได้ดีกว่าตั้งเยอะอะนะ
ถ้าใช้ชื่อ Apple: สุดยอดบริษัทแห่งนวัตกรรม และเทคโนโลยี คราวนี้ USB 3.0 ตายแน่
LOL
@TonsTweetings
Intel : Geek... ใช้ยากแหงๆ
Apple : Cool... แค่สายก็เท่สุดๆ ดีไซน์สุดยอด!
+100
โอ้วววววว
ก็บอกแล้วไงว่า Apple เป็น Fragmentation ของวงการอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
เข้าใจว่า sony ไม่อยากไช้ displayport เพราะตัวเองมี hdmi มากกว่า
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ปัญหาที่จะทำให้ไม่รุ่งเพราะมันไม่รับ USB2.0 นี่แหละ ทำ NB พอร์ตครบๆ ทีนึงรูรอบเครื่อง
May the Force Close be with you. || @nuttyi
Thunderbolt ออกมาสำหรับงานเฉพาะทางมากๆ งานที่ต้องการการวิ่งของข้อมูลสูงขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่งานตัดต่อ Video ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเท่าไหร่เหมือนกัน แต่ผมคิดว่าต่อไปการทำงานหลายๆอย่างสำหรับคนทั่วไปอาจจะเร่ิมข้ามมาใช้งานก็ได้ ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังนึกไม่ออกว่า ใครกันนะที่จะใช้ความเร็วในการวิ่งสูงขนาดนั้น
คงเป้นเพราะ Thunderbolt ออกแบบมา แก้ปัญหา คอขวด ของวงการ อีกทั้ง Applle ได้มีการ พัฒนา Final Cut Pro ใหม่แล้วด้วย ข่าวมีไปแล้วในงาน NAB 2011 ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าจะทำให้ thunderbolt อยู่รอดได้อย่างแน่นอน อย่างที่เห้นใน FW800 ซึ่งหลายคนอาจจะเถียงว่าเราไม่เคยได้ใช้ FW800 เลยสักครั้งเดียว แต่ในสายงาน production - post production นั่น FW800 ถูกใช้บ่อยได้มากเท่ากับ คุณๆบางคน ใช้ Tumb Drive USB ทุกๆวันเลยทีเดียว
พอร์ทใหม่ กับ โปรแกรมใหม่ น่าจะออกมาพร้อมสมบูรณ์กันในเวลาไล่เลี่ยกัน จึงน่าจะทำให้เราจะสามารถตัดงานความละเอียด 4k แบบ realtime ได้ ซึ่งก็น่าจะเป้นแบบนั้น อันนี้ต้องรอ Apple เปิดตัว FCP รุ่นใหม่อย่างเป้นทางการอีกที
ลักษณะงานแตกต่างกันครับ และเป้นเรื่องปกติที่เวลาทำงานร่วมกับ คนทำงานสาย video แล้วเมื่อให้ harddrive ไปโยนไฟล์งานกัน จะได้ยินเสียงกลับมาประมาณว่า "อ้าว ใช้ USB หรอ"
ซึ่งก็น่าจะเป้นอย่างที่ ความคิดเห้นด้านบนบอกครับ
Intel : Geek... ใช้ยากแหงๆ
หรือหลายคนที่ว่า มัน patent แพง ทำให้ไม่แพร่หลายเหมือน USB ซึ่งผมก็ว่ามันก็น่าจะเป้นอย่างงั้น ผมเชื่อว่ามันจะไม่แพร่หลายแน่นอน แต่มันน่าจะถูกใช้งานต่อเนื่องไปอีกยาวนาน แทนที่ FW800
ผมสองสิ่งนี้ ไม่ได้เกิดมาเพื่อแข่งกันแบบหมัดต่อหมัดหรอกครับ อาจจะแค่เทียบเคียงแข่งกันกลายๆเท่าน้ันเอง USB ก็คือ USB และ Thunder Bolt ก็คือ Thunder Bolt ฮะ :)
แล้วงานตัดต่อใช้ USB3.0 ได้ไหมครับ speed ไม่พอหรือ?
ตอนนี้ผมรู้สึกว่าจะเห็น USB3.0 แพร่หลายใน board มากกว่านะ
ด้วย Spect ของเค้าแล้วเนี่ย ใช้ได้เลยแหล่ะครับ แต่เราไม่ค่อยใช้ USB กันจริงๆครับ เพราะมันไม่เสถียร แล้วยิ่งใช้ยิ่งหน่วง และมีปัญหาอื่นๆอีก จุกจิกอย่างบอกไม่ถูก ทุกคนที่เคยใช้ล้วนไม่ปลื้ม :)
ส่วนเจ้า Thunder Bolt เนี่ยมันจะดีสมที่เล่าลือหรือเปล่านี่ผมเองยังไม่ทราบเหมือนกัน เพราะยังไมได้ลอง ได้แต่คาดเดาหน่ะครับ แต่ถ้ามันจะมาแทน FW800 อย่างน้อยๆ มันก็ต้อง เถสียร ให้ได้เหมือนกันก่อนเป้นอย่างน้อยแหล่ะน่า
USB3.0 ที่เค้าใช้กันนี่บอร์ดไหนหรือครับหมายความว่า Controller Board ที่ใช้ตัด หรือ เวบบอร์ด ?
ดูการใช้ ThunderBolt ตาม Youtube ก็ได้ครับ มีโชว์เยอะแยะเลย อย่างเช่น ต่อจอฉายหนังแบบ Full HD 4 เรื่องพร้อมกัน การตัดต่อหนัง Realtime เป็นต้น ลองๆ search ดูครับ
ดูจากสเปค USB 2.0 ก็น่าจะใช้แทน FW400 ได้แต่ทำไมถึงใช้ FW400 กัน (ผมก็ชอบ FW400 มากกว่า)
+1 ตรง อ้าว ใช้ USB หรอ .... เคยเจอและพูดเองบ่อยมาก
เห็นด้วยตรง USB โยนไฟล์งานวิดีโอที่ขนาดใหญ่ถึงใหญ่มาก ไม่ค่อยรอดจริงๆ เพราะชอบค้างแล้วก็หลุด
ผมก็คิดว่า TB คงมาแทน FW มากกว่าแทน USB .... TB คงไม่ได้ดังเท่า USB 3 แต่มันก็ไม่หายไป มีคนจำนวนนึงใช้อยู่ซึ่งก็เป็นพวกผมพวกนึง (ถ้าวันนั้น TB มาแทน FW เต็มที่แล้ว)
ซิ้อ USB HUB ที่มีช่องเสียบ Adaptor มา
เอามาแกะออก แล้วใช้ Cutter กรีดลาย PCB เส้น +5V จาก USB Female ออกให้แยกจากกัน
จากนั้นหา Adaptor 5V ขนาดสัก 2A ขึ้นไปมาเสียบกับ USB Hub ตัวนั้น
แล้วนำมาต่อใช้งานตามปกติ ปัญหาเสถียรภาพของ USB ที่เจอจะหมดไปครับ
ปัญหาของ USB โดยทั่วไปคือ กระแสไม่เพียงพอในการจ่ายให้อุปกรณ์ครับ
ปัญหาที่ผมเจอ คือ USB Box สำหรับ HDD 3.5 นะครับ บางทีค้างไปเลย ต้องปิดไฟ HDD แล้วเปิดใหม่
เอ้อ... นั่นล่ะครับ ตัวดีเลย
Servo ใน Harddisk กระตุกไฟใช่เล่นซะที่ไหนครับ
ถ้ามั่นใจว่ามือตัวเองละเอียดอ่อนพอก็แกะเลยครับ USB Box ที่ว่าน่ะ แล้วไล่ +5V กรีดออก ต่อ Adaptor ต่างหากแทน ปัญหาก็จะหมดไปครับ
ถ้าไม่มั่นใจในมือตัวเองก็อย่าทำนะครับ เดี๋ยวพัง
คนที่ออกมาด่า ThunderBolt จำนวนมาก ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้มัน หรือแทบไม่ได้ใช้ Mac เลยมั๊ง
ผมขอเน้นว่าส่วนใหญ่นะครับ ไม่เข้าใจพวกเขา ไม่รู้จะด่ามันไปทำไม Technology ใหม่ๆ
ออกมาเป็นทางเลือก ออกมาเพื่อชัดนำให้เทคโนโลยีเดิมต้องพัฒนาตัวเอง มันไม่ใช่สิ่งที่ดีหรอครับ
เหมือน Firewire 800 ที่หลายคนไม่ได้ใช้ก็ออกมาด่าว่า บอกไม่รองรับ มาท้วงว่าทำออกมาทำไม
กรณีของแอปเปิล ถ้าผลิตของออกมาใส่ในเครื่องแล้ว คนซื้อไม่ได้ใช้ ต่อต้าน ผลเสียก็อยู่ที่ Apple เองนี่ครับ
ทั้ง Apple ทั้ง Intel ก็อาจขาดทุนในเทคโนโลยีที่ได้พัฒนาไป แต่คนที่มาด่าขาดทุนอะไรครับ
ปกติแล้ว ผมเห็นออกบ่อยว่ามีคนใช้งาน (ในทางของเขา) และไม่เห็นมานั่งด่าให้ฟังเลย
เช่นในงานตัดต่อ งานที่ต้องการส่งข้อมูลสูงๆ เร็วๆ งานที่เวลาทุกนาทีมีค่ามาก ผมเห็นเขาก็ใช้กันเป็นปรกติ
มีแต่คนที่อยากใช้ อยากลอง แต่ไม่ได้จำเป็นเท่านั้นล่ะ ที่ออกมาบอกว่า ทำทำไม ซื้อทำไม ใช้ทำไม
แล้วก็มามัวด่า มาว่า... ไม่ใช่ก็ไม่มีใครว่านี่ครับ แต่ไม่เห็นต้องด่าเลยก็ได้
ถ้าคุณทำงานอาชีพ คุณหาเงิน เทคโนโลยีคือเครื่องมือหากิน การลงทุนคุ้มค่าหรือไม่คือสิ่งที่คุณศึกษามา
มันไม่ใช่ปัญหาเลยว่าคุณจะเลือกเทคโนโลยีไหนมาใช้งาน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
นั่นอาจหมายถึงผลตอบแทนทางรายได้ที่มากขึ้นด้วย
ผมว่าหาได้น้อยในโลกนะ ที่จะเจอคนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ทุกหยาดหยด ใช้ซอฟท์แวร์ครบทุกฟังก์ชัน
ใช้ฮาร์ดแวร์เต็มประสิทธิภาพ แล้วใช้อย่างสร้างสรรค์ เกิดประโยชน์ ไม่ใช่เอามา Benchmark โชว์กัน
แต่ไม่ได้เอามาทำอย่างอื่นเลย (Benchmark มันดีครับ แต่คุณทำทั้งวันทั้งคืน เขียน Review หรือเปล่า
หรือแค่อยากเอาเครื่องตัวเองมาอวด) เพราะฉนั้น มันจะเกินมาบ้าง ขาดไปบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ?
สิ่งสำคัญมันคืออะไรครับ ประสิทธิภาพ และผลผลิตของคุณ หรือประสิทธิภาพของเครื่อง
มันจะได้อะไร ถ้าคุณมีเครื่องแรงเทพ แต่คุณไม่ใช้มัน
และมันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าคุณไม่ได้ใช้มันอยู่แล้ว แต่ก็มานั่งด่ามัน
ถ้าคุณแค่ชอบอ่านข่าวเทคโนโลยี อ่านบทความบ้าง หรือทำงานแค่ผิวเผิน คุณย่อมว่ามันไม่ใช่ ไม่ได้ ไม่ดีเสมอ
มันคือเรื่องดีครับ แต่ถ้าคุณมีแต่นิสัยแย่ๆ ห่วยๆ ติดตัว ชอบดิ ชอบด่า ไม่ค่อยเห็นคุณค่าอะไร แน่นอนว่าคุณ
ย่อมชอบเหยียบย่ำสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในสายตาคุณเสมอ อย่าทำแบบนั้นเลยครับ
นอกเรื่องหน่อยครับ
ผมยกตัวอย่าง Software ลิขสิทธิ์ เช่น Photoshop CS5 ที่ Software.co.th ขาย 5 หมื่นกว่าบาท
คุณเอามาใช้ทำงาน ชิ้นละแค่ 500 บาทก็พอ (ตามร้านรับพิมพ์ทั่วไป) คุณทำงานทุกวันๆ มันจะไม่มีเงินรายได้มาซื้อเชียวหรือครับ สมมุติคิดต้นทุนเลยว่า คุณมีส่วนต่างของงาน คิดเป็นต้นทุนค่าซอฟท์แวร์แบบอัตราคงที่เลยที่ งานละ 100 บาท ในเวลาไม่เกิน 2 ปีคุณก็ซื้อ Photoshop ลิขสิทธิ์ได้แล้ว นี่ยังไม่รวมซอฟท์แวร์ทางเลือกอื่นๆ ที่ราคาถูกกว่านี้ หรือฟรี เป็น Opensource ก็มี บางคนผมเห็นใช้ Photoshop ยังไม่พอใจเลย บอกว่ามีไม่ครบ
เพราเราโหลดกันง่าย โหลดกันจนชิน จนไม่เห็นคุณค่าของมัน ไม่พอใจก็มาด่า มันใช่หนทางที่ดีแล้วหรือครับ
บางคนถึงขั้นเกลียดตัวกินไข่ บอกอย่าให้เงินทองรั่วไหล อย่าให้กำไรหลุดไปหาฝรั่ง มันทำธุรกิจรวยแล้ว
เราต้องอย่าให้มันรวยมากเกินไป โอ้ คิดได้เนอะ
ซอฟท์แวร์ไทยยังต้องพัฒนากันอีกเยอะ เราไม่สนับสนุน ไม่ใช้ ไม่ชอบ แต่ซอฟท์แวร์ฝรั่งเราเลือกขโมยใช้เอา
อยากว่า อยากด่าอะไรก็ทำตามความพึงพอใจเสมอ เวลาตัวเองทำงานค่าแรงถูก ค่าจ้างต่ำ ด่าว่าลูกค้า ว่าผู้จ้าง
แต่ลืมไปว่าต้นทุนที่ต้องจ่ายกลับไม่จ่าย ใช้ขโมยเอา โหลดฟรีเอา
ประเทศไทยเรามีคน Self-Centric กันมากเกินไปไหมเนี่ย?
ด้วยความเคารพเท่าที่อ่านมาผมยังไม่เห็นใครด่า ThunderBolt เลยครับ (> <!)
เวลาดูสาวชอบดูสาวขาวๆ Sex Sex เวลาดู Notebook ชอบแบบ"ถึกๆดำๆ"
Twitter : @Zerntrino
G+ : Zerntrino Plus
ผมขอโทษนะครับ ที่ใช้คำว่าด่า แต่อาจเป็น
พูดถึงในทางลบ แดกดัน หรือเปรียบเทียบในสิ่งที่มันไม่ใช่ อะไรแบบนั้นครับ
เช่น USB 3.0 กับ TB ผมว่ามันดีทั้งคู่ แต่ดีกับคนละที่ ละทาง ละคน
แน่นอนว่า USB อาจแพร่หลายกว่า แต่ไม่ใช่ว่า TB จะไร้ค่านี่ครับ
และการมีมันทั้งคู่ เป็นเรื่องดี ไม่เห็นต้องพูดเลยว่า มันคือ Fragmentation ของวงการ
เพราะวงการอื่นๆ ก็พร้อมใจต้องรับมันนะครับ
ปล. ผมไม่ได้ว่าใครด่า ในนี้ครับ ผมเหมารวมทุกที่เลย ผมถึงไม่ได้ใส่ที่ Comment ใครไง :)
ลองเปิดดูข่าวเก่าๆ อาจจะเจอครับ
nowingnoid !! เรารักนายเข้าแล้ว..555 ป่าวนะ..ไม่ใช่แบบนั้น...^______^
คุณเข้าใจประเด็นผิดหมดเลยครับ ที่เขาด่ากันไม่ได้ด่าตัว Thunderbolt แต่ด่าอินเทลที่มุ่งจะขาย Thunderbolt อย่างเดียว โดยไม่สนใจผู้ใช้ที่ต้องการ USB 3.0 มากกว่า (ถ้าใส่มาทั้งคู่ก็ไม่มีใครว่าอะไรอยู่แล้ว)
ขอบคุณมากครับ ทำให้ผมย้อนกลับไปดูในมุมนี้ได้มากกว่าเดิม :)
ประเด็นที่คุณ mk บอกคือ "ถ้าจะใส่ ทำไมไม่ใส่มาพร้อมกัน หรือไม่เลือกใส่ที่คนต้องการมากกว่าก่อน
ทำไมไม่ผลักดัน USB 3.0 ก่อน" ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ
ผมก็อยากให้ USB 3.0 แพ่รหลายนะครับ
ในขณะเดียวกันผมก็อยากให้ ThunderBolt แพร่หลายเช่นกัน
อาจเป็นความต้องการของผมล้วนๆ ก็ได้ครับ ที่ผมพิมพ์ลงไป
ไม่ใช่ความต้องการของคุณคนเดียวหรอกครับ รอบๆตัวผมเนี่ยพากันตื่นเต้นกับ Thunder Bolt ซะยิ่งกว่าตอนที่เปลี่ยนจาก G5 เป้น Intel ซะอีก
ขนาดว่ามี iMac กันอยู่แล้ว ยังขายต่อพากันไปกด iMac ตัวที่ใช้พอร์ทใหม่เลย คือต้องการแค่ Thunder Bolt ว่างั้น :)
ถ้างั้นเมื่อไหร่ที่ Mac ใช้ Ivy Bridge คงได้ตื่นเต้นกว่านี้แน่ครับ เพราะผมเคยได้ข่าวมาว่า apple จะรอให้ intel support usb3.0 ในตัวเอง ถึงเวลานั้น(ปีหน้า)เราคงจะได้เห็นทั้ง ThunderBolt กับ USB 3.0 เป็นแน่แท้ :D
:)
ใช่ครับ ตัวเทคโนโลยีไม่มีอะไรมีปัญหา เพียงแต่เราต้องคำนึงถึงประเด็นอื่นๆ นอกจากเทคโนโลยีด้วย เช่น ขนาดตลาด ความสะดวกของผู้ใช้ ฯลฯ
ความเชื่อของคนจำนวนมาก (รวมถึงผมเอง) คืออินเทลเลือกที่จะ "หยุด" USB 3.0 ไว้เพื่อรอ Thunderbolt ครับ ทั้งที่อินเทลเป็นคนพัฒนามาตรฐานเอง กลับไม่ยอมพัฒนาชิปออกขายต้องให้ผู้ผลิตเมนบอร์ดไปหาชิปจากผู้ผลิตรายอื่นๆ กันเอง จนกลายเป็นเรื่องประหลาดว่าอุปกรณ์ที่รับ USB 3.0 นั้นมีมากมายเต็มตลาด แต่หาเครื่องมาใช้ไม่ได้ ขณะที่สมัย USB ออกใหม่ๆ และเป็นลูกรักของอินเทลนั้น อินเทลบังคับทุกเครื่องต้องมี USB 3.0 ทั้งที่ไม่มีใครรองรับ รวมถึง Windows ในตอนนั้นเอง
lewcpe.com, @wasonliw
ซึ้งเลย สาบานว่าอ่านหมดทุกตัว พูดได้ถูกใจมากๆ ครอบคลุมกรณีอื่นๆที่ไม่ใช่ ThunderBolt ด้วย
ผมขอโทษด้วยครับ ที่ผมพูดแรงไปบ้าง ขอโทษจริงๆ นะครับ
แต่ผมเกิดมาพร้อมเทคโนโลยีจริงๆ คือเล่นคอมก่อนเข้าเรียนอนุบาล
เลยรักมันมาก และมุมมองผมอาจแคบและตัดสินคนอื่นๆ ไปเหมือนกัน
ผมรักเทคโนโลยีมากครับ และเชื่อว่าคนในนี้ หรือที่อื่นๆ หลายคนก็รักเช่นกัน
และผมเชื่อว่ากรอบความคิดที่มีต่อการมองเทคโนโลยี หรือมองวงการ
มันคือตัวกำหนดทิศทางของวงการครับ ว่าจะดีหรือไม่อย่างไร
และผมก็เชื่อว่ามีหลายคน (รวมทั้งผม) อยากเห็นเมืองไทยเป็นเมืองที่อยู่แนวหน้า
ในเรื่องเทคโนโลยี และมีบุคคลชั้นนำในวงการนี้มากๆ เหมือนกันครับ
ผมชมนะเนี่ย จะขอโทษเพื่อ? จะว่าไปผมชอบความเห็นข้างบนนู้นนะ อยากจะไปพูดแบบนี้ให้คนรอบๆตัวฟังบ้าง แต่ผมไม่ถนัดสื่อออกมาเป็นตัวอักษรและคำพูด พอมาเห็น คห. คุณแล้วมันใช่เลยอะครับ
ขอบคุณนะครับที่ชม :)
ผมขอโทษเพราะบางทีผมก็พูดอะไรแรงๆ ออกไปครับ
A: จะแยกทำไมๆ ห่วยๆ มีอะไรดีกว่า USB3 เรอะ!
B: ไม่เคยใช้จะมาว่าทำไม!!
Fallacy!!!!
ถ้าเอาตามเหตุผลจริงๆ ที่คนใช้ส่วนมากบ่นคือ น่าจะใช้ connector แบบ USB มากกว่า เพราะมี Sony อุตส่าห์ออกตัวใส่ให้แล้ว แต่ไม่นับเป็น Thunderbolt ซะงั้น
ThunderBolt เป็นชื่อที่ค่อนข้างโหลนะ ต้องรีบจดกันหน่อย
ประเด็นนี้เขามองเรื่อง fragmentation ซึ่งก็ไม่น่าจะแปลกที่เขาจะมอง ยิ่งถ้าใช้ pc ตั้งแต่เด็กๆ(น่าอิจฉาจัง ผมเองได้จับ 386 ก็ม.2 นู่นแล้ว หรูสุดตอนนั้นละ) น่าจะเคยพบเห็นปัญหาเรื่องของ interface ที่หลากหลายมากเกินไป จนใช้อุปกรณ์ร่วมกันได้ลำบาก บางอย่างใช้ port แบบเดียวกันจนเต็มหมด เหลือบาง port ที่ไม่ได้ใช้ไปเปล่าๆเปลืองที่ จนพอยุค Pentium ถึงได้มี USB กำเนิดขึ้นมา ซึ่งแม้ยุคแรกความเร็วมันจะต่ำ เสถียรภาพจะแย่(ตอนนั้นมีข้อเปรียบเทียบว่า USB กิน CPU utilize มากกว่า serial COM port)แต่การที่มันใช้ได้กับแทบทุกอุปกรณ์ มันก็ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น จนมันพัฒนามาเป็น USB 2.0 ก็ยิ่งทำให้เราแทบจะเลิกใช้ serial port กับ pararell port ไปแทบจะโดยปริยาย ทั้งแบนวิทที่ีมากขึ้นเยอะ และการพัฒนาของ CPU ที่ทำให้ละทิ้งปัญหาเรื่องของการกิน utilize ไปได้แทบจะสิ้นเชิง แต่ด้วยเทคโนโลยียังจำกัด ก็ทำให้ความเร็วมันไม่สูงมากอย่างที่ควรจะเป็น ก็เลยยังมีช่องว่างของตลาดที่เน้นในเรื่องของแบนวิท และความเร็วให้กับ IEEE1394 อยู่(ขอเรียกแบบนี้) แต่ก็นับว่าแทบจะแยกตลาดกันไป
แต่พอมา USB 3.0 ความเร็วและเสถียรภาพทำได้ดีขึ้นมาก ผมยังไม่ได้ใช้เต็มๆ แต่เท่าที่ตามอ่าน review ความเร็วที่ทำได้จริงกับ external harddrive ก็แทบจะไม่แพ้ eSATA ด้วยซ้ำ ก็เลยอาจจะมีคนสงสัยว่า แล้วเราจะยังจำเป็นต้องมี port อื่นๆเพิ่มมาอีกหรือ? จริงอยู่ว่าเทคโนโลยีมันก็พัฒนาแข่งกันไป ค่ายที่ทำของตัวเองก็อยากให้ใช้เป็นมาตรฐาน ก็ต้องใช้การตลาดมาครอบงำทางเทคนิค เช่นการไม่ยอมรวม USB3.0 controller ลงใน chipset หลัก ต้องไปหาลง chip set นอกเอาเอง ซึ่งทำให้เกิดปัญหาเรื่องของการจ่ายไฟและการเสียพื้นที่เพิ่ม(กรณี laptop) ทั้งๆที่ตลาดหลักพร้อมแล้ว(อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ support USB3.0 เป็นส่วนใหญ่แล้ว) ลูกค้าพร้อมแล้ว แต่ยังมัวกีดกัน แล้วไปผลักดันมาตรฐานอื่นๆ ที่ไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้างแทน แบบนี้ก็ทำให้ลูกค้าสับสน และเกิด fragmentation ของ platform มาตรฐานขึ้นมาอีก
อยากจะผลักดัน Thunderbolt เพื่อต่อยอดจากตลาดเก่าของ IEEE1394 ก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ เพราะเมื่อก่อนก็แยกตลาดกันชัดเจน แต่ถ้าจะใช้การกีดกัน หรือถ่วงเวลาด้วยการไม่สนับสนุน port สากลแบบ USB3.0 อันนี้ ผมมองว่ามันไม่แฟร์ และจะทำให้โอกาสของผู้ใช้ส่วนใหญ่ล่าช้าตามไปด้วย โลกยุคใหม่ ความ compatible จะทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีของผู้ใช้ทำได้ง่ายขึ้น การมีมาตรฐานสากลจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องผลักดันร่วมกันครับ
ป.ล. อันนี้ว่า Intel เต็มๆเลยนะครับ สาวกผลไม้อย่าเพิ่งร้อนตัวกัน
คนผลิตชิพเองเขาก็มองถึงลูกค้ารายได้ เขาด้วยนะ
ไม่ใช่ว่าไม่ซัพพอท แต่บางที แต่ละงานเขามีค่าใช้จ่าย ในการผลิตการวิจัย
อีกอย่างถ้าแค่มารตราฐานผมว่า ปัจจุบัน มีมาตราฐานเยอะมาก แต่ยังไม่ผลิตใช้
อย่าง SATA3 USB3 Bluray
ช่วงคาบเกี่ยวรุ่งกับริ่งเป็นอะไรที่วัดใจกัน เพราะคนที่ทำออกมาก่อน มักจะเจ๊งง่ายกว่า...
เอ่อ Mainboard ที่ผลิตช่วงท้ายปี 2010 ส่วนใหญ่ support USB3.0 กันแล้ว(ใช้ chipแยก)มีแต่รุ่นประหยัดที่ตัด option นี้ไปและ Notebook ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2011 ก็มีเกือบทุกรุ่นเช่นกัน ขนาด netbook ราคาหมื่้นนิดๆยังใส่มาเลยครับ
ส่วน SATA3.0 ก็ต้องมา เพราะผู้ผลิต Harddisk ทุกเจ้า่เตรียมผลิตภัณฑ์ไว้ืทุก segment แล้ว รวมไปถึง USB3.0 ที่ external harddrive รุ่นใหม่ก็ทำออกมา support หมด ยังไงถ้า upgrade อุปกรณ์ PC รุ่นภายในปีนี้ ก็ได้ SATA3 แถมมาแน่นอน
ส่้วน Blu-ray ตอนนี้ก็ถือเป็น format หลักกันแล้วนะครับ เอาจริงๆประเทศผู้ผลิต มันก็แทบจะมาแทนDVDแล้วนั่นแหละ ราคาแผ่น Blu-ray ที่เมกา แพงกว่า DVD แค่ไม่กี่เหรียญ(ราคาขายต่อแผ่นเฉลี่ยเทียบเงินไทย แค่300-600กว่าบาทเองนะครับ) ที่ญี่ปุ่นก็แพงกว่าDVDแค่พันกว่าเยน ยอดขาย Blu-ray ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างญี่ปุ่นเองยอดขาย Blu-ray แซง DVD ของเรื่องเดียวกันไปหลายเรื่องแล้วก็ว่าได้
ส่วนบ้านเรายังอีกนาน เพราะปัญหาลิขสิทธิ์ที่ทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากมาลงทุนสักเท่าไร ต้องอาัศัยใบบุญแผ่น Zone ของเมกาใส่ซับไทยเสียงไทยแถมมาด้วย เรื่องตลกก็คือผมสั่ง Blu-ray จากamazon มา รวมค่าส่งแล้วถูกกว่า DVD ของไทยบางเรื่องเสียอีก :P
Intel มีสิทธิเพราะลงทุนลงแรงค้นคว้าวิจัยพัฒนาทำให้ Thunderbolt มีศักยภาพที่ดีพอๆกับ USB3.0 ในการพัฒนาไปในอนาคต ดังนั้น Intel ก็น่าจะมีสิทธิกำหนดสิ่งที่เขาจะผลักดัน ว่าอะไรจะออกเมื่อไหร่ พร้อมเมื่อไหร่ พยายามทำให้สิ่งที่เขาพัฒนามีการนำไปใช้ ผมไม่เชื่อว่า USB3.0 จะหายไป แต่เชื่อว่า Thunderbolt น่าจะมีความสามารถที่จะอยู่ในตลาดได้ และเติบโตไปพร้อมๆกัน ส่วนหลายคนบอกว่า ทำไมไม่เอาเทคโนโลยี Light Peak ใส่ใน USB3.0 ผมเชื่อว่า Intel ได้พยายามทำแล้ว นำเสนอแล้ว แต่ USB Consortium ไม่ Happy กับการนำมาใช้ และไม่อนุญาตให้ Intel ต่อยอด โดยผลักดันผ่านพอร์ต USB ดังนั้น Intel เลยกลับไปคุยกับ Apple และนำ mini DisplayPort มาใช้เพื่อให้เทคโนโลยีนี้เป็นไปได้ และไปสู่ผู้บริโภค แต่หลายคนจะเห็น Intel เป็น Evil บ้างก็ต้องยอม สมัยเปลี่ยนผ่านจาก Serial Port มาเป็น USB ยังใช้เวลาตั้งนาน Thunderbolt ก็คงต้องใช้เวลาเช่นกัน เรื่อง FW 400, FW 800 ก็คงค่อยๆหายไป ถ้าไม่มีพอร์ต Thunderbolt Apple อาจจะผลักดัน FW 1600 ก็ได้ สาวกก็เตรียมพร้อม....
Intel เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่มมาตรฐาน USB แต่ตัวเองดันจะเตะถ่วงมาตรฐานนี้เสียเอง? การพยายามสร้าง interface แปลกแยก มันก็จะทำให้วงการถอยหลังลงคลองไป เหมือนสมัยก่อนที่ ต่างฝ่ายต่างแข่งกันสร้างมาตรฐานของตัวเอง สุดท้ายผู้ใช้ ก็สับสน และสิ้นเปลืองไปโดยใช่เหตุ
เรื่อง Light Peak เข้าใจว่าต้นทุน"สาย"สูงเกินไป และมีข้อจำกัดมากเกินกว่าจะเป็น "Universal" port ครับ ขนาด version ThunderBolt เองยังตัด spec จากที่เคยเสนอไว้ตอนแรกไปเยอะทีเดียว นั่นจึงเป็นคำตอบในตัวเองอยู่แล้ว ว่าทำไมตอนแรกไม่ได้รับการยอมรับให้เป็นมาตรฐาน USB
ก่อตั้งมันขึ้นมาก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องยึดติดกับมันไปตลอดนี่ครับ วันเวลาเปลี่ยนไปเค้าก็พยายามหาอะไรใหม่ๆมาเรื่อยๆนั่นแหละ การยึดติดกับของเก่าๆมันก็ทำได้แค่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)