ถึงแม้สมาร์ทโฟนจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้มากมาย แต่ปริมาณการใช้ mobile data ก็สร้างปัญหาให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลก
ล่าสุด NTT DoCoMo ผู้ให้บริการอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ออกมาให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์ Nikkei ว่าแอพบน Android ด้าน VoIP แบบไม่คิดเงิน เป็นปัญหาทำให้ระบบเครือข่ายของ NTT ล่ม และแอพบางตัวส่งสัญญาณออกมาทุก 3-5 นาทีถึงแม้ว่าแอพจะไม่ถูกใช้งานก็ตาม ทำให้อัตราการใช้งานเครือข่ายสูงกว่ามือถือปกติถึง 10 เท่า
NTT ตั้งใจจะส่งคำขอไปยังกูเกิลให้ Android ควบคุมการส่งข้อมูลของแอพให้ความถี่ลดลง
John Jackson นักวิเคราะห์ด้านมือถือจากบริษัท CCS Insight ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่าเครือข่ายอื่นๆ ก็พบปัญหาเดียวกันนี้ โดยบางรายก็บ่นเรื่องนี้ต่อสาธารณะ บางรายก็กดดันไปยังกูเกิลโดยตรง
ที่มา - รอยเตอร์
Comments
เปลี่ยนราคาคิดเป็น MB น่าจะทำให้รายได้พุ่งกระฉูด
แฟร์ดีนะครับ
(แต่ผู้ได้รับผลกระทบด่านแรกก็คือผู้ใช้เหมือนเดิมล่ะ)
ตอนนี้ package ปกติทั้งของญี่ปุ่น มันเป้นกึ่งๆเก็บตามใช้จริง ปน Unlimite น่ะ ใช้ต่ำหว่าที่กำหนดก็เก็บตามใช้จริง ถ้าใช้เกินก็เก็บแบบ unlimite แต่ปัญหาคือ มันไม่ได้คิดเป็น MB คิดเป็น byte แถมโหลด 2MB ก็ทะลุ limit แล้ว เพราะเน็ทมือถือตอนนี้ราคามันยังอิงกับราคาเดิมที่ใช้กับมือถือในญี่ปุ่นที่ใช้กับเว็บมือถือ(เข้า PC site ไม่ได้) กับเมลมือถือ ราคาการใช้เน็ทแบบเดิมมันคิดตามจำนวนตัวอักษร เลยคิดจำนวนการใช้เป็น byte
ก็พอปัญหาเดียวกัน < พบปัญหา หรือเปล่าครับ
ไม่กล้าชนกับ Naver ตรงๆสินะ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
คืออะไรเหรอครับ
ผู้ผลิต LINE ครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
แอพบน Android(/iPhone) ด้าน VoIP แบบไม่คิดเงิน ที่ว่านั่นคือ LINE ครับ ซึ่งเจ้าของ LINE ก็คือ Naver(Japan) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่และทุนหนาบริษัทหนึ่งในญี่ปุ่นครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
แต่ naver จริงๆเป้น บ.จากเกาหลีนิ
ขยายสาขาไปญี่ปุ่นเมื่อปี 2009 หน่ะครับ ส่วนตัว LINE นี่เป็นของสาขาญี่ปุ่นไม่เกี่ยวกับสาขาเกาหลีเท่าไหร่คับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
แล้ว Skype กับ tango และอื่นๆ ล่ะครับ
คิดว่า LINE น่าจะฐานผู้ใช้เยอะสุดในญี่ปุ่นนะครับ โดยเฉพาะเป็นโปรแกรมจากญี่ปุ่นด้วยกันเองแล้ว
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ตกลงว่าผิดที่ Google หรือผู้สร้างแอพล่ะเนี่ย ?
Apple ถึงมีข้อบังคับกั๊กๆ ไว้ใน iPhone เช่นดู youtube ผ่าน 3G จะเลือกโหมดห่วยสุดมาให้ โหลดแอพเกิน 20 MB ไม่ได้ ใช้ facetime ผ่าน 3G ไม่ได้ เพราะจะช่วยโอเปอเรเตอร์นี้แหละ
ทำไมถึงเรียกร้องไปที่ Android อย่างเดียวล่ะครับ
แล้วคนที่ใช้บน iPhone ไม่มีผลหรือครับ
เพราะว่าiPhoneจำกัดข้อมูลการใช้งานผ่าน 3G ครับ เเล้วอีกอย่างเครื่องค่าย Softbank ที่มีการให้บริการiPhone(ก่อนที่ AU จะให้บริการ)รายเดียวของญี่ปุ่น เเละเป็นเครื่องค่ายที่ห่วยที่สุดของญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยล่มเลย
แล้ว DTAC ล่มนี่เพราะ อาการเดียวกันไหม (โยงจนได้) 0_0
โลโก้ Dtac ที่ออกแบบเอง
ตรงประเด็น
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ทำไมเดี๋ยวนี้ใช้ logic แบบเดียวกันกับกรณี "แรงงาน Foxconn แต่กดดัน Apple" กันมากขึ้น ถึงมันจะไม่สมเหตุสมผล แต่เพราะมันได้ผลเลยทำหรือเปล่านะ?
กรณีนี้น่าจะเป็นที่ App มากกว่า OS หรือเปล่า? หรือจะบีบให้ Android มาควบคุม App อย่างละเอียดแทน เหมือนไปโวย Apple ให้ไปกดดัน Foxconn อีกต่อนึง
ถ้าไปโวยที่แอพมันจะยุ่งยากครับ ถ้าเกิดมีแอพที่สูบ data มากๆขนาดนั้น 10000 แอพ มิต้องไปโวยทุกบริษัทเลยหรอครับ กลับกันถ้าไปโวยที่ google แล้วให้มีการเชคหรือควบคุมแทนมันก็จะง่ายกว่า
ผมสงสัยมานานทำไมandroidถึงปล่อยให้app runตัวเองได้ตลอด แถมไม่มีการตั้งค่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
ทั้งเปลืองทรัพยากร ทั้งเปลืองแบต ทั้งเปลืองdata แล้วพอเครื่องที่specไม่สูงจริงๆก็จะเหมือนค้างเป็นพักๆบางคนบอกว่าใช้แล้วเสียselfเวลาmemเบอร์ลูกค้าแล้วต้องรอนานมาก แถมการโทรศัพท์ที่เป็นการใช้งานหลักกลับค้างหรือใช้การไม่ได้ไปด้วย บางทีใช้ๆไปรู้สึกว่าตกลงเราใช้smartphoneหรือเราใช้tabletแล้วกระแดะมาลงโปรแกรมโทรศัพท์กันแน่
ใครมีวิธีช่วยไหมครับ
ลงแอพน้อย ๆ เอาที่จำเป็น หรือ ใช้แอพพวก autostart autorun อะไรพวกนี้คับ