แฟนๆ ลินุกซ์อาจต้องทำใจกับข่าวนี้นะครับ หลังจากที่ Blizzard ทำการแบนผู้เล่น Diablo III จำนวนหนึ่งที่เล่นเกมผ่านโปรแกรม Wine ซึ่งเป็นโปรแกรมจำลองสภาพแวดล้อมให้เหมือนกับวินโดวส์
Bashiok ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ดูแลฟอรั่ม Battle.net ได้ชี้แจงจากกรณีที่มีผู้เล่นออกมาเรียกร้องว่าตนเองถูกแบนอย่างไม่เป็นธรรมในกรณีนี้ว่า การที่ผู้มีเล่นเล่นเกมบนลินุกซ์นั้นไม่นับเป็นความผิด แต่ถ้าหากตรวจพบว่ามีการโกงเกมในรูปแบบใดๆ ก็ตามจะถือว่าเป็นความผิดทันที ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ากรณีของ Wine นั้นถูกนับรวมว่าเป็นโปรแกรมช่วยเล่นด้วยหรือไม่
แน่นอนว่าสำหรับผู้เล่นเกมบนลินุกซ์ การใช้โปรแกรม Wine แทบจะเป็นทางเลือกเดียวเพื่อจะทำให้เล่นเกมได้ การแบนผู้เล่นที่เล่นผ่านโปรแกรม Wine ก็เหมือนการปิดทางผู้เล่นบนลินุกซ์นั่นเองครับยกเว้นแต่จะมีวิธีอื่นครับ
ที่มา - Geek.com, Game Politics
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
เล่นบนลีนุกซ์ไม่ผิดแต่คนใช้ลีนุกซ์ถ้าไม่เล่นผ่าน Wine ก็เล่นไม่ได้แถมเกมไม่มีเวอร์ชั่นลีนุกซ์อีก
สรุปว่าไม่ให้เล่นสินะ -__-"
ปล. ผมเล่นบน Win7 นะฮร้าาาา XD
มีเงินซื้อเกมก็แปลว่าต้องมีความสามารถที่จะไปหาผ่นwindow7 เถื่อนมาลงสินาย
(รอดูดราม่าละ) 5555
/me รอเสพดราม่า 555
แต่เห็นแล้วก็น่าเห็นใจคนใช้ลินุกซ์ตรงที่เกมหรือโปรแกรมดีๆไม่ค่อยจะมี แล้วพอเห็นอย่างงี้แล้วอยากจะทำท่า facepalm เลยทีเดียว
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ผมว่าต้องไปโทษเรื่อง Compatibility ของ Linux อันห่วยแตกน่าจะดีกว่า
อันนี้ผมไม่เข้าใจแหะ ว่ามันห่วยยังไง?
หรือห่วยเพราะรันโปรแกรมของ Windows ไม่ได้? อืม ผมว่าไม่น่าใช่แหะ
ห่วยตรงที่เป็น Linux เหมือนกัน ต่าง Distro แต่รัน Binary เดียวกันไม่ได้ แต่ Windows ทำได้ โปรแกรมเกือบทั้งหมดตั้งแต่ Windows 98 ยังรันได้ใน Windows 7
สรุปมันคืออภิมหา Fragmentation นี่เอง
ธรรมดาครับ
ปล. ไม่มีอะไรที่ได้ดั่งใจเรานอกจากเราจะทำเอง แต่ถึงอย่างนั้นแม้กระทั่งโปรแกรมที่เราทำเอง มันก็ยังไม่ค่อยจะได้ดั่งใจเลย.. อิอิ
มันแลกมาด้วยความที่สามารถ Compile ให้ Linux ไปอยู่ได้ในทุกๆ Hardware platform, ทุกๆ Processor ครับ
ดังนั้น ถ้าผมกลับมุมมองบ้าง Windows Source code เดียวกัน โปรแกรม ทั้งหมด ก็ไม่สามารถ Compile ให้ไป Run ได้ใน Processor อื่นๆ
สรุปก็คือ ถ้า Windows จะทำแบบนั้นบ้าง มันก็จะเป็นยิ่งกว่าอภิมหา Fragmentation เพราะต้องเป็นระดับ Source code fragmentation กันเลยทีเดียว
คอยดู Windows สำหรับ ARM แล้วกันครับ ว่าแค่คำสั่ง dir จะสามารถใช้ Binary ของ command.com เดียวกับ x86 processor ได้หรือไม่?
จุดประสงค์ตั้งแต่เริ่ม OS Concept design มันก็ต่างกันแล้วครับ การเปรียบแบบนี้มันจึงไม่แฟร์ครับ
คุยกันไปคนละเรื่องละ ผมคุยเรื่อง Compatibility ใน x86 แต่คุณคุยเรื่อง Cross processor
ไม่รู้ว่าคุณไม่มี Sense พอที่จะเดาได้ว่าคุยเรื่องอะไรอยู่ หรือเพราะความเป็นสาวก (รึเปล่า) หรือเพราะความเกลียด Windows ก็ไม่รู้ หรือเพราะอย่างอื่น (?)
ใช่ครับ คนละเรื่อง
เพราะอะไรนั่นหรือ? ก็เพราะมันเป็นคนละเรื่อง (ที่คุณนำมาเทียบนั่นแหละ) ผมจึง Jam ไงครับ ผมไม่ได้มี Sense ดำน้ำแบบคุณครับ ไม่ขอเดาแบบดำน้ำไปกับคุณด้วยครับ
กรณีนี้คือเกมบน OS หนึ่งซึ่งกำเนิดเพื่อ OS นั้นๆ โดยเฉพาะ ไม่แปลกเลยที่มันจะมีปัญหาใดๆ ที่ใครๆ จะว่าอะไร และผมก็ไม่ได้มีอะไรจะทักท้วงหรือแย้งใดๆ
แต่เจอที่คุณจึงนำเรื่อง "ต่าง Distro" มาเทียบว่ามัน Run Binary เดียวกันไม่ได้ มาเทียบกับ Windows ???
นั่นแหละครับ คนละเรื่องจริงๆ ซึ่งส่งผลต่อคนในสังคมที่รู้น้อยกว่าคุณให้เข้าใจเละเทะต่อๆ กันไปได้อีก สำหรับผมคือ คุณกำลังสร้าง Garbage content ให้คนในสังคม "สับสนกันมากขึ้นไปอีก" แทนที่จะรู้และเข้าใจกันมากขึ้นครับ
Linux ต่าง Distor กัน มัน Run Binary เดียวกันบน Processor เดียวกันได้เสมอ 100% ครับ ถ้าคุณเลือกที่เขา Compile มาเพื่อ Architecture เดียวกัน (ผมจึงพูดถึงคำสั่ง dir ไงครับ)
และ Linux Source เดียวกัน ต่อให้ต่าง Architecture กัน มันก็ Compile ให้ออกมาทำงานเดียวกันได้เสมอครับ ซึ่ง... Source code ของ Windows หรือแม้แต่ DOS ก็ทำไม่ได้ครับ!!! (ไม่รู้จะชัดเจนไหม? สำหรับคนแบบคุณ)
ผมรู้ว่า "คุณมั่ว" กับ Configuration Structure ที่บาง Distro วางแตกต่างกัน ทำให้ไม่ Compatible กัน ไปเป็นเรื่อง Fragmentation เสียเฉิบ (ซึ่งคุณคงหมายรวมถึง Application configuration structure ด้วยแน่นอน - โดยที่คุณเองไม่รู้ตัว เพราะรู้เท่าไม่ถึงการในคำพูด/ความรู้/ความเข้าใจของตัวเอง)
ผมมั่นใจว่าคุณไม่ได้เข้าใจเห็นชัดเลยว่า "Linux" มันคือส่วนใด? ไปถึงไหน? และ Application ที่ผู้คนต่อยอดบน Linux ไป มันเริ่มจากที่ใด? คุณจึงเปรียบเทียบแบบไม่แฟร์ แบบเป็นคนละเรื่อง ชนิดที่คิดว่าตัวเองพูดเรื่องเดียวกันและใช้ตัดสินมุมของคนอื่นว่าเป็นคนละเรื่อง ซึ่งตรงนี้ส่งผลต่อคนหมู่มากที่เขาไม่เข้าใจพออยู่แล้ว ว่าอะไรมันคือแค่ไหน?
จุดประสงค์ของ OS ทั้งสองโดยกำเนิด มันก็ต่างกันคนละเรื่องแล้วครับ
ผมไม่มีความเป็นสาวกค่ายใดๆ ไม่มีความเกลียด OS หรือ Application ใดๆ สักนิดครับ
Computer เป็นทาสผม และทุก Binary ที่ทำงานบน Processor ใดๆ ก็เป็นทาสให้ผมหยิบมันมาใช้ครับ ผมฉลาดพอที่จะไม่ให้ Binary เหล่านั้นมาตีกรอบความคิดในการใช้งานทรัพยากรเหล่านั้นดอกครับ ผมไม่บ้าต่อสู้เพื่อ OS หรือ Application ใดๆ ที่ผมไม่ได้ไปมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเขาครับ ไม่ได้หน้ามืดตามัวว่า OS ใดหรือ Application ใดดีเลิศประเสริฐศรีกว่าอื่นๆ ไปเสียหมด
สำนวนที่ผมเองก็เสียดสีประมาณว่า "สำหรับ Linux แล้วต้องรอไปถึงชาติหน้าจึงจะสู้ Windows ได้" ก็มีให้เห็นในข่าวที่คุณเสวนากับผมครั้งที่แล้ว (และผมยังค้างคาเอาไว้อยู่) เป็นสิ่งที่ชี้ชัดได้ว่า "ผมเป็นกลางทาง Technology" ครับ ตรงไหนดีก็ว่าดี (ไม่ใช่อะไรดีก็ว่าดีนะ) เรื่องไหนห่วยก็ว่าห่วย รู้จักหยิบมาประยุกต์ให้เหมาะกับเรื่องที่ต้องการครับ
คนแบบคุณนี่ต่างหาก ตกหลุมอยู่ที่เดียวชนิดถอนตัวไม่ขึ้น เป็นทาส Platform เสียจน... ความคิดมันคับแคบวนเวียนอยู่ใน Technology เดียว เป็นทาส Technology แล้วไม่รู้ตัว แทนที่จะเป็นผู้ควบคุม/ผู้เลือก/ผู้กำหนด Technology มาใช้งาน...
ผมไม่ชอบการทำการตลาดของ Microsoft คือเท่านั้น ถ้าแยกแยะระหว่างผลิตภัณฑ์ของบริษัท, ตัวบริษัท และนโยบายของบริษัท เหล่านี้ไม่ออกว่ามันไม่ใช่สิ่งเดียวกัน ผมก็บอกได้ว่า อย่าพยายามกระตุกหนวดผมอีกเลยครับ ไปทำความเข้าใจให้ถ่องแท้เสียก่อนเถอะครับ
ป่านนี้ ยังไม่เข้าใจอีกหรือครับ ว่ากะลาของผม ใบขนาดไหน?
มีโปรแกรมบนวินโดว์สเยอะแยะ ที่ทำงานได้เฉพาะวินโดว์สรุ่นนั้นๆ
บางทีคนที่ใช้ Linux ก็เพราะหนี Windows ที่มันห่วยมากกว่า Software ที่อยู่บนนั้นน่ะครับ
นึกถึงโจ๊ก
ถ้าลุงบิลล์เสียตังค์ 10 cent ทุกครั้งที่คนกด ctrl+alt+del แกจะล้มละลายในเวลาไม่ถึงปี
ฮาๆๆๆ น้ำตาเล็ด
1สตางค์ เดียวก็พอครับ ล้มละลายได้เหมือนกัน
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ ผมว่าวินโดวส์คงจะดีขึ้นทันตาเลย ไม่ต้องรอวินรุ่นหลังๆ
หรือไม่ก็... ตัดฟังค์ชั่นนี้ทิ้งซะ ให้กด Reset โดยตรงอย่างเดียว
ผมเคยหนีไป Linux เต็มตัวตอนที่ Conflicker ระบาดครับ แล้วหลังจากนั้นก็กลับมาเพราะอยู่ดีๆ ไฟล์ที่เป็น Kernel ก็หายไปจากพาร์ติชัน และสารพัดไฟล์หายเรียบ -*-
หนี้ไปใช้ ubuntu เพราะ วินโด้ รัน python ยาก
ผมว่ามากพอจะซื้อแผ่นแท้เลยนะ
D3 ราคาประมาณสองพันกว่าบาท Win7 HomePre OEM อยู่เกือบ ๆ สองพันเองมั้ง ?
ก็เล่นบนลินุกซ์ได้ มันเท่ห์กว่านะเอ้อ ...
We’ve extensively tested for false positive situations, including replicating system setups for those who have posted claiming they were banned unfairly. We’ve not found any situations that could produce a false positive, have found that the circumstances for which they were banned were clear and accurate, and we are extremely confident in our findings.
Playing the game on Linux, although not officially supported, will not get you banned – cheating will.
เค้าบอกว่า จากที่คนที่ถูกแบนอ้างว่าเป็น false positive (ไม่มีแต่ตรวจว่ามี) จากการใช้ wine ทาง Blizzard บอกว่าเราไม่พบสาเหตุที่จะทำให้เกิดกรณี false positive นั้น (หมายถึง กล่าวหาว่าผู้เล่นโกงจริงๆ) แถมยังสรุปด้วยว่า การใช้ linux ถึงจะไม่รับรองอย่างเป็นทางการนั้นไม่ผิดนะครับ
ผมเข้าใจว่าเค้าไม่ได้ห้าม wine นะครับ แต่เว็บข่าวอ้างแต่ wine และคนโดนแบนทุกคนใช้ wine
ขอเวลาตรวจสอบสักครู่นะครับ ถ้าผมตีความหมายผิดไปจะแก้ไขให้ครับ
ผมก็งงๆ เหมือนกันครับ หลายๆ comment ก็อ้าง EULA เรื่องห้ามใช้โปรแกรมช่วยมาบอกว่ากรณี wine ก็รวม หมายถึง Blizzard ชอบธรรมในการแบน
แต่ comment ของ Bashiok เค้าไม่พูดถึง wine ตรงๆ ก็เลยไม่เคลียร์เท่าไหร่
ผมว่าน่าจะเอา
" แต่ถ้าหากตรวจพบว่ามีการใช้โปรแกรม Wine จะถือว่าเป็นความผิดในเรื่องของการโกงเกม และจะถูกแบนในทันที "
ออกจาก comment ของ Bashiok นะครับ คือมันเป็นข้อมูลที่ Game Politics ตีความเอาเอง ไม่ใช่คำพูดจาก Community Manager ของ Battle.net
แบนแล้วคืนตังค์ไหมครับ ไม่อยากเล่นแล้ว เกมกากๆ
หมายถึง นโยบายบริษัทไม่ดี หรือว่าเกมไม่ดีครับ?
ทั้งสองอย่างครับ ผมสงสัยว่าเกมที่ซื้อมาตกลงเรามีสิทธิอะไรกับมันบ้าง ผูกแอคเคาน์ก็แล้ว ต่อเน็ตเพื่อเล่นซิงเกิ้ลเพลเยอร์ก็แล้ว มาตอนนี้ก็โดนริบสิทธิการเล่นทิ้งไปเฉยๆ ทั้งที่ไม่ได้ผิดเงื่อนไขการใช้งาน ถ้ารู้แบบนี้ไม่ซื้อแน่นอน
+1 อยากเล่นบางทีต้องมารอเซิฟเปิดอีก หาตังก็ยาก ได้มาไม่คุ้มกับเสียเลย ค่าซ่อมชุดก็แพง
หาตังไม่น่ายากนะครับ เน้นหาชุดที่ +ทองเพิ่มเอา ขายของใน RMAH ก็ได้เรื่อยๆ ถ้าไม่โดนหักหัวคิวมหาโหดป่านนี้ได้ค่ากล่องคืนไปแล้ว
แค่มันไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนครับ ต้องใช้เวลามากกว่าเดิมครับเสลาก็ไม่ค่อยจะมีเล่น -0-
ระวังลุงไลนัสมาแจกของ...
จงรับ "So Blizzard F*** You" ไปเลย 1 ea
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ท่าในตำนาน สินะ
พี่แกหล่อจริงๆ ฮะ
ปล.ดูรูปแล้วรู้สึกฮาดี คาดว่าภาพนี้คงเอาไปใช้ได้อีกหลายงานเลยทีเดียว อิอิ...
ฮา เอาไป 10 กะโหลก
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ้านิ้วเฮียแกขยับมาทางขวาอีกนิดนี่จะฮาหนักกว่านี้นะ
อ่านเม้นนี้ ทำให้ต้องเลื่อนขึ้นไปดูรูปอีกรอบ
สรุป ฮาจริง 555
ฮากว่าจริงด้วย
ทิ่มรูจมูกกันเลยทีเดียว -*-
พอร์ทลง OSX ได้ จะมาลง Linux ด้วยก็ไม่น่ายากแล้วนา - -'
Blizzard ไม่ได้ประกาศนะครับ :(
ผมว่า User คนนี้ไม่ได้บอกความจริงกับทั้ง Blizzard และ Forum (น่าจะใช้ Bot/Hack แล้วไปโมเมว่าใช้ Wine แทนมากกว่า)
ประการที่หนึ่งคือ ไม่มีข้อความไหนเลยที่ Blizzard บอกว่าเค้าใช้ Linux เลยต้องแบน แค่บอกว่า Linux ไม่ Support ซึ่งเป็นการตอบโดยทั่วไป
ประการที่สองคือ Warden เป็นระบบที่ตรวจสอบ Memory Modification โดยมีค่า Offset ที่ตรวจสอบแน่นอน(เหมือน WoW) ไม่ได้ Scan มั่ว ดังนั้น หาก WoW สามารถเล่นได้ตามปกติ Diablo III ก็ควรเล่นได้ตามปกติด้วย เพราะ Wine ไม่น่าจะไปเปลี่ยนแปลงค่า Offset ได้(เหมือน WoW)
ประการที่สามคือ หาก Wine ทำการ Modify ค่า Memory จริง(ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่) ทำให้ Offset ต่างๆค่าเปลี่ยน Blizzard ก็ควรจะต้องแบนจริงๆ เพราะหากไม่แบนแล้ว คนที่เปิด Bot จริงๆก็จะไม่โดนแบนตามไปด้วย (Offset ต่างกันเหมือนกัน อันนึงทำไมโดนแบน อันนึงทำไมไม่โดนแบน แถมยังเป็นข้ออ้างว่าเปิดจาก Wine ได้อีก)
ปล. Offset ที่ Warden ตรวจสอบในปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 110 Offset(ซึ่งเป็น Offset ที่เกี่ยวข้องกับการ Hack ทั้งหมด) จากจำนวน Memory ที่ใช้ในเกมทั้งหมด ~670MB ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ต่ำมาก
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
แก้ไขเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ
ประเด็นแรกน่าจะเป็นไปได้สูงมากกว่าครับ แต่ทั้งหมดเห็นด้วยทุกประการ
ไม่ใช่คนเดียว ใน forum ของ Wine มีหลายคนครับ ยาวเป็นหางว่าว หลายคนมายืนยันว่าไม่ได้โกงครับ
http://appdb.winehq.org/objectManager.php?sClass=version&iId=25953
เท่าที่อ่านเจอ เหมือนว่าถ้าพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้โกง Blizzard ก็ปลด Ban คืนให้นะ
ปัญหาจะพิสูจน์อย่างไรเท่านั้นแหละ
คือผมคิดว่า ถ้า Blizzard คิดจะบล๊อก WINE จริง ๆ ผมว่ามันมีวิธีที่จะเช็คได้ว่าตัวเกมรันบน WINE หรือเปล่าแล้วก็ขึ้นข้อความเตือนว่าไม่รองรับ (แล้วปิดเกมไปเลย) ง่ายกว่าที่จะมานั่งบล๊อก User แบบนี้น่ะครับ แถมเป็นปัญหาน้อยกว่าด้วย
ว่าแล้ว Patch ใหม่อาจจะมีฟังก์ชั่นนี้ขึ้นมานะ 555 ปัญหาเยอะไปละพวกนี้
warden มันจับ debugger ไหมครับ เพราะ wine เองถ้าใช้โปรแกรมจับ debugger ก็จะตรวจเจอเหมือนกัน พวก gameguard อะไรพวกนี้ก็ไม่ให้ wine ผ่านนะครับ
ผมคิดว่า Warden ของ D3 ไม่ได้ Scan Checksum ของ Process ที่เปิดอยู่นะครับ ฉะนั้นถ้าเพียงแค่เปิดก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร (ประเด็นนี้จึงเกิดเป็น Bot Autoit ขึ้นมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน)
ผม'ค่อนข้าง'มั่นใจว่า การ Read Memory(ReadProcessMemory, etc.) จะไม่ถูกตรวจว่าเป็นการ Hack แม้จะ Read Offset ต้องห้ามนะครับ
การ Write Memory (WriteProcessMemory, etc.) ถ้าไม่ Write ที่ Offset ต้องห้ามก็ไม่น่าจะมีผลอะไร
ประเด็นที่ยังไม่แน่ชัดคือ Inject(ไม่น่าจะโดน) Break(ไม่รู้ครับ) Step by Step(ไม่รู้เหมือนกันครับ)
ส่วน GameGuard ที่สำคัญคือจะ Scan Checksum ของแต่ละ Process และลง driver เฉพาะเพื่อปิด API บางตัวของระบบหน่ะครับ , HackShield เหมือนจะ Scan Checksum แต่การทำงานอื่นๆผมไม่รู้เหมือนกันคับ
@mekpro ผมเห็นคนแค่ 3-4 คนนะครับที่พูดถึงเรื่องแบน และก็ไม่ได้ยาวเหยียดอะไร > <"
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ไม่เห็นน่าตกใจ แค่ผมย้ายมาเล่นจาก PC มาเป็นบน Mac ก็โดนแบนเรียบร้อย ต้องส่งเรื่องไปให้แก้ตั้ง 2 สัปดาห์
@TonsTweetings
แต่ของผมใช้สลับกันทั้ง PC กับ Mac ก็ยังไม่โดนแบนนะ
โดน disable เพราะไม่ได้ยืนยันหรือเปล่าครับ ผมแค่เปลี่ยนเครื่องเล่นก็โดนแล้ว (จำ secret ans บ่ได้ > <)
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมไม่เล่นเลยนะ เดียโบล 3 เพราะมันออกไปทางเล่นแล้วไม่สุด ใกล้ๆเกมส์ออนไลน์แบบเด็กๆ เป็นเกมส์ที่ยิ่งชั่วโมงการเล่นมาก เราก็จะเก่งขึ้น อยากเก่งเร็วก็ซื้อของ ต้องรวย ซึ่งมันไม่ใช่แนวทาง ขืนเล่นเกมส์แบบนี้มันสูบเวลาผมไปหมดแน่
ไม่ซื้อก็ได้นี่น่า ไม่มีใครบังคับคุณนี่ คุณเลือกเอง
ส่วนไอ้ไปนั่งเล่นออนไลน์ทำรวมกลุ่ม แล้วโดนข่มก็ปล่อยไปก็ได้ครับ
ท่องไว้เศรษฐกิจพอเทียง ไม่งั้นก็ออกจากกลุ่มแล้วไปทำฟาร์มครับ
ถ้าอยากได้ของดีๆอย่างคนอื่นเขา และไม่อยากซื้อ ไปทำฟาร์มเองใน tier สูงๆขึ้นไป ก็ได้นี่ครับ
สูบเวลาจริงครับ แต่ตัวเกมส์ไม่ได้ออกแบบมาให้ซื้อของเพื่อให้เล่นผ่าน จริงๆ มันสนุกตรงที่หาของมาให้ตรงกับสายที่เราอยากเล่น และแลกเปลี่ยน(ขาย) สิ่งที่เราไม่ได้ใช้
:: DigiKin8 ::
นอกเรื่องครับ มันอ่านว่า ได-อะ-โบล หรือ เดีย-โบล หรือ เดียบ-โล ครับ
ดี-อา-บโล แต่ดีสั้นกว่าอา เลยฟังคล้าย เดียยา
อ่านใน reddit เขาก็บอกว่า ก็มีหลายคนใช้ Wine ก็ไม่โดนแบนนะครับ ...
บล็อกของผม: http://sikachu.com
ตอนนี้ GamePolitics มี article ใหม่เป็นอันนี้แทน
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
คนที่ว่า Compatibility ของ Linux อันห่วยแตก
อยากถามว่าคุณใช้ Windows ของแท้หรือ ถ้าคุณไม่มีปัญญาซื้อของแท้
อย่ามาว่า Linux
แท้คับ
ผมว่าแทนที่จะเปิดสงครามกัน แลกเปลี่ยนความเห็นกันดีกว่าไหมครับว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนี้
ถ้าเหตุผลเขาฟังไม่ขึ้นคุณก็เอาความจริงมายันกัน พูดคุยด้วยเหตุผลดีกว่าสร้างศัครูนะครับ
Logic เดิมๆ อ่านแล้วไม่มีผลต่อสุขภาพจิต(ใช้แท้ด้วยนะ)
คุณใช้ Distro ไหนล่ะ
เอ่อ.... 2 เรื่องนี้มันเกี่ยวกันยังไงเหรอครับ ??
Compatibility ของ Linux กับ Windows แท้เนี่ย
ใช่แล้ว คนที่ไม่ใช้วินโดวส์ของแท้น่ะ ไม่เข้าใจลีนุกซ์หรอก ไม่รู้จักลีนุกซ์ดีอย่าริมาว่า เพราะงั้นไปหัดใช้วินโดวส์แท้ให้ดีก่อนโน่นไป๊ จะได้เข้าใจลีนุกซ์
อ๊ะ! เพล้ง!!!... เจ้าแก้วน้ำบ้านี่ลื่นชะมัด :P
เอาจริง ๆ เรื่องความเข้ากันไม่ค่อยได้นี่มันเป็นธรรมชาติของลินุกซ์ครับ ถ้าคิดว่ามันเป็น OS เดียวกันแต่คนละรุ่น อันนี้ก็อาจทำใจยากหน่อยนะ เพราะผมว่ามันหนักไปทางคนละ OS มากกว่า และผมคิดว่านี่ล่ะเป็นเสน่ห์ของ open sorce คือถ้าซอร์ฟแวร์ที่มีให้เลือกมันไม่ถูกใจ ก็ทำขึ้นมาใหม่ได้โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์
เดี๋ยวเถียงคืนก็จะมี Logic เทพๆ อย่างเช่น "เขาเขียนให้ฟรี จะด่าเขาทำไม"
Compatibility เทพตายล่ะ ถ้าไม่ได้ใบบุญ Java อย่าหวังว่าจะได้เขียนลง
ดิสโทรไหนที่ไม่มีบริษัทอยู่เบื้องหลังนี่กากรายตัวเห็นจะได้มั๊ง
แท้ครับ
ของแท้ครับ .. copy จากของแท้มาเลยครับ
Mode Drama Start !!
Windows แท้ งั้นก็แล้วไป แล้วโปรแกรมอื่นละ ขอลแท้เปล่า
Linux เข้าเขียนมาให้ใช้ฟรีจะบ่นทำไมครับ
ต้องเข้าใจนะครับ บางคนเขา anti microsoft ไม่อยากใช้ Windows
เขาซื้อเกมมาแล้วรันผ่าน Wine มันผิดตรงไหนครับ
ฝากคนในที่นี้ทุกคน ถ้าคุณใช้โปรแกรมก็อป งั้นก็อย่ามาด่า Linux
พี่เป็น PR Linux Foundation หรือเปล่าครับ
: Architec on 05/07/12 15:35 #441794 Reply to:441769 toggle
เดี๋ยวเถียงคืนก็จะมี Logic เทพๆ อย่างเช่น "เขาเขียนให้ฟรี จะด่าเขาทำไม"
.
.
.
จริงด้วยแฮะ....
เคนพยายามจะหนีไป linux แต่ไปไม่รอดครับ ต้องกลับมาตาย windows เหมือนเดิม เพราะผมต้องทำงานกับคนที่ใช้ ms office ครับ