จากคดีฟ้องร้องกันในสหรัฐฯ เป็นผลให้ Galaxy Nexus ถูกศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามขายจนกว่าคดีจะรู้ผล หลังจากนั้นไม่นานกูเกิลก็ให้สัมภาษณ์ว่าจะกลับมาขายในสัปดาห์หน้า และตอนนี้ Galaxy Nexus ก็กลับมาประจำการใน Play Store แล้ว
เพียงแต่ว่าระยะเวลาส่งของจากเดิมที่ส่งได้ภายในสองวัน ถูกปรับเพิ่มเป็น 2-3 สัปดาห์ และแน่นอนว่ามาพร้อมกับ จะมีอัพเดต Jelly Bean (ที่แก้ปัญหาสิทธิบัตรไปแล้ว) ตามมาเร็วๆ นี้ ส่วนราคาก็ลดลงเหลือ 349 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตามที่ประกาศก่อนงาน Google I/O นั่นเอง
ที่มา - Engadget
Comments
ครั้งนี้กลับมาพร้อม 4.1 เลย
อิอิ
แล้วไทยละะะะ อยากสั่งอะไรๆจากstoreบ้าง =A=
ไม่เห็นมีตรงไหนเลยครับ ทั้งที่ Engadget หรือว่าหน้าเวป Google Nexus เอง ที่บอกว่าเครื่องที่ขายใหม่นี้จะมาพร้อมกับ Jelly Bean หน้าเวปก็เห็นยังเขียนเหมือนเดิมว่า "Soon with Jelly Bean" ที่เปลี่ยนมีแค่ปุ่มที่ก่อนหน้านี้จะให้ใส่ E-mail แล้วกด Notify me เปลี่ยนมาให้สามารถกดใส่ Cart ได้เหมือนเดิมแล้ว
ที่รูป !!
ใน Play Store ประเทศไทย ไม่มี ขายครับ จึงเข้าดูแล้วไม่เห็นอะไรเลย!
ราคานี้จะเข้าไทยไหมหว่า
ขายผ่านหน้าเว็บที่ไทยมั่งดิ อยากได้ๆ ^^
ไหนไหนก็ไหนไหนแล้ว น่าจะ update สเปกอีกซักเล๊กน้อย ไปด้วยเลยนะครับ
แค่ update firmware ก็กินเวลามากแล้วนะครับ จะให้แงะเครื่องก็นะ ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมว่าสเปก galaxy nexus ไม่ได้ขี้เหร่เลยนะใช้งานได้แบบสบายๆ แถมเป็นตระกูล nexus ก็สบายใจว่าได้รับอัพเดทอีกเรื่อยๆแน่นอนบวกกับค่าตัว $349 อย่างคุ้มนะ
ผมก็อยากได้มากจริงๆ ครับ มันดูลงตัวไปหมดเลยและราคาก็คุ้มมากๆ เคยคิดจะสอยมาแล้ว (จะฝากพี่สาวหิ้วมาให้)
แต่ติดที่ผมชอบถ่ายรูปมากๆ เลยอยากได้รุ่นที่กล้องเมพๆ ระดับท็อป เลยชวด nexus ไป -.-
ราคานี้เสป๊คนี้ ถ้ามาขายไทยผมคงเผลอกดซื้อแบบไม่ทันตั้งตัวแล้วละครับ
คิดเหมือนกันครับ
11,100.- + vat 777.-
ราคาน่าลุ้น
สาธุขอให้ขายได้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ฟ้องกันตั้งนาน เค้าก็แก้แป๊บเดียว น่าจะเลิกฟ้องได้แล้วนะ
ถ้ามองกลับกัน กรณีทั่วๆ ไป หมายความว่าถ้าจะละเมิดลิขสิทธิ์ software บางส่วนก็ละเมิดไปได้เลย รอเค้าฟ้อง รอศาลไม่ให้ขายค่อยไปแก้ software ขายต่อ แบบนี้หรอครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แบบนั้นแหละครับ เพราะถ้าไม่เป็นแบบนั้น เวลาคุณจะสร้างของอย่างนึงขึ้นมา คุณก็ต้องไปดูว่าคุณละเมิดสิทธิบัตรซึ่งมีอยู่หลายแสนใบบ้างหรือเปล่า ซึ่งทุกอย่างที่คุณคิดคุณอาจจะคิดได้เองทั้งหมดแต่ดันเสือกมีคนจดสิทธิบัตรไว้ก่อนแถมยังเป็นแค่แนวคิดไม่ได้มีผลิตภัณฑ์ออกมา
หากทำแบบนั้น คุณจะได้ทำสินค้าออกมาขายหรือเปล่าครับ? หรือปล่อยๆให้พวกที่มีแต่สิทธิบัตรครองตลาดไป? ถ้าเป็นแบบนั้นการทำธุรกิจสมัยนี้ ก็ไม่ต้องทำกันแล้วสินค้า นั่งจดสิทธิบัตรกันอย่างเดียวดีกว่าครับ
ผมคิดว่าความเห็นของคุณ(ที่ผ่านมา) ไม่ได้โน้มเอียงไปทางการแข่งขันอันจะเกิดผลดีต่อทั้งตัวอุตสาหกรรม IT เอง และตัวผู้บริโภคครับ แต่คุณโน้มเอียงไปทาง monopoly ซึ่งให้บริษัทบริษัทเดียวมีสิทธิ์ขาด ลองดูการจดสิทธิบัตรของ Apple และ Google ก็ได้ครับ Apple จดสิทธิบัตร Unified/Local Search แต่ Google ไม่ได้จดสิทธิบัตร Notification ซึ่งผมว่าสิทธิบัตรของ Apple มันถ่วงความเจริญต่ออุตสาหกรรม IT มาก เพราะมันไม่ได้เป็นสิทธิบัตรประเภทที่ตนเองคิดได้แต่คนอื่นคิดไม่ได้ แต่มันเป็นสิทธิบัตรประเภทตนเองคิดได้ คนอื่นก็คิดได้เหมือนกัน(อาจจะคิดได้ก่อนและดีกว่าด้วยซ้ำ) เพียงแต่จะมีใครไปจดหรือเปล่า หรือใครจดก่อนใครเท่านั้น
ซึ่งการทำแบบนี้ อุตสาหกรรมอื่น/บริษัทอื่น เค้าไม่ทำกันครับ(อาจจะทำ แต่น้อยกว่านี้แน่ๆ)
ปล. ผมชอบความเห็นของคุณจักรนันท์นะ ตรงดี
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมแค่อยากชี้ว่ามันมีช่องโหว่ที่ทำให้คนจดสิทธิบัตรเสียประโยชน์อยู่ดี คือได้อย่างเสียอย่าง ฝั่งนึงเสียประโยชน์ ฝั่งนึงได้ประโยชน์ แบบปัจจุบันผมก็คิดว่าไม่ดี แต่ไม่ใช่พอจะเปลี่ยน เปลี่ยนไปเลยแบบลองผิดลองถูกก็ไม่ใช่จะง่ายๆ เปลี่ยนแบบมีช่องโหว่ชัดๆ เดี๋ยวก็ต้องมีคนไปเล่นช่องโห่วนั้น ก็กลายเป้นใช้จริงไม่ได้ (คนตั้งใจลอกแต่อ้างว่าไม่รู้ก็ทำได้) ผมเชื่อว่าคนในอุตสาหกรรมนี้คงอยากให้มีการปรับปรุงระบบสิทธิบัตรกันทั้งนั้นแหละครับ แต่ตราบใดที่กฎยังเป็นแบบนี้อยู่ก็ควรยึดกฏ จนกว่าจะมีการแก้ไข หรือมีประกาศอื่น เพราะเป็นข้อตกลงที่ทุกคนรับรู้ร่วมกันอยู่ ณ ตอนนี้
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ครับผม
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เสริมนิดนึงความเห็นอีกประเด็น (edit ไม่ทัน ตอบไวเกิ๊น)
กฏไม่ดีก็ควรแก้ที่กฎ ไม่ใช่กฎไม่ดี ก็ปล่อยกฎไว้แบบนั้น แล้วทำอย่างอื่นที่คิดว่าดี คำว่าดีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คุยกันยังไงก็ไม่จบครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
จริงๆผมเห็นด้วยกับคุณ 100% เลยครับ
แต่มันติดตรงที่ว่าคนที่ออกกฎ กับคนที่ได้รับผลจากกฎ มันเป็นคนละหน่วยงานกันหน่ะสิครับ เพราะฉะนั้นไอ้ที่ทำได้ก็มีแค่อย่างหลัง แล้วก็เร่งให้คนที่มีอำนาจทำอย่างแรกทำเร็วๆ ซึ่งผมก็คิดว่าเค้าเร่งกันอยู่นะ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไหร่
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)