หลังจากที่แอปเปิลได้ให้คำให้การเปิดขั้นตอนการพิจารณาคดี คราวนี้ถึงตาซัมซุงได้ออกมาให้คำให้การเปิดเป็นครั้งแรกแล้ว โดยซัมซุงได้ออกมาบอกว่าสิ่งที่ซัมซุงทำไม่ได้เป็นการลอกเลียนแบบ แต่เป็นการแข่งขัน
ซัมซุงบอกว่าพวกเขายอมรับว่า iPhone เป็นสินค้าที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และเป็นสินค้าที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคน รวมถึงตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน และสินค้าที่ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจย่อมทำให้เกิดความต้องการที่จะผลิตสินค้าที่ดีกว่าเพื่อการแข่งขัน
นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้นำสินค้าของตัวเองออกมาแสดงให้เห็น และบอกกับศาลว่าแอปเปิลไม่ได้เป็นคนเริ่มผลิตสินค้าที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยม และแอปเปิลเองก็ไม่ใช่คนผลิตสินค้าหน้าจอสัมผัสเช่นกัน และที่สำคัญซัมซุงเองก็เป็นหนึ่งในผู้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ มาเสมอ และสังเกตได้ชัดจากการที่ชิ้นส่วนสำคัญต่าง ๆ ใน iPhone ต่างก็มาจากซัมซุงทั้งนั้น ก็หมายความว่าแอปเปิลต้องคิดว่าซัมซุงเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมเช่นกัน เพราะพวกเขาซื้อสินค้าของซัมซุงมาผลิตสินค้าของตัวเอง
คิดว่าคดีระหว่างแอปเปิลกับซัมซุงนี้คงจะมีข่าวออกมาเป็นระยะ ๆ ทั้งนี้ผมได้ติดแท็กที่หัวเรื่องของข่าวไว้เพื่อจะได้ติดตามได้อย่างสะดวกครับ
ที่มา - C|net
Comments
C|net -> CNET
ชิ้นส่วนมีไม้เอกเกินครับ
ยังไงคดีนี้คงยาวแน่ๆ...
Dream high, work hard.
เอ่อ แรงบันดาลใจ
มีบางคนใช้คำว่าแรงบันดาลใจกับเพลงบางเพลงที่ทำนองเหมือนกัน แต่เนื้อเพลงคนละภาษา
ที่จริงลิขสิทธิ์เกี่ยวกับเพลงมันก็ควรจะยกเลิกเพราะล้วนแล้วแต่ใช้ตัวอักษรเหมือนๆ กัน ทีนี้มาไล่ดูกันว่าใครเป็นคนประดิษฐ์อักษรภาษานั้นใช้คนแรก คนนั้นแหละเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงตัวจริง ถ้าเพลงไทยน่าจะต้องเป็นพ่อขุนรามคำแหง? หรือ ฯลฯ
ผมว่ามันคล้ายๆ กันนะ ถ้าหาก samsung ชนะคดีเพราะแถแบบนี้ กฏหมายลิขสิทธิ์ในโลกนี้คงถูกถอนหมดทั้งโลก อิอิ
เห็นด้วยครับ ประเด็นคือ samsung เลียนแบบแต่คนที่ประสบความสำเร็จ เลียนแบบทุกอย่างที่อยู่อันดับต้นๆ ของโลก
Zynga?
แถไปเรื่อย พอๆกัน ดราม่านี้ยาวนาน
ตรรกะแปลก ๆ นะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนก็ถือเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมถูกต้องแล้ว แต่ผู้คิดค้นนวัตกรรมหนึ่งไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ลอกเลียนแบบนวัตกรรมอื่น ๆ เสียหน่อย อ่านแล้วรู้สึกว่าเหตุผลนี้แปลก ๆ อย่างแรง
That is the way things are.
อ่านแล้ว ตลก เอาเหอะๆ ดราม่านี้ยังอีกยาวไกลนัก
การแข่งขันที่แท้จริงคือ ทำสิ่งที่แตกต่าง กันมาแข่งขันกัน ลอกหวังผลประโยชน์ ด้านๆ แบบนี้ฟังไม่ขึ้นฮะ
เจ้าอื่นเค้าไม่เห็นทุเรศแบบซัมซุงเค้ายังอยู่ได้เลยฮะ
สิ่งที่ซัมซุงทำนี่ละฮะ ภัยของวงการเทคโนโลยีของจริง นวัตกรรมจะเกิดได้ยังไงถ้าทุกคนทำตาม กันหมด นวัตกรรมต้องเกิดจากการทำสิ่งที่แตกต่างไม่ใช่หรอฮะ
เทคโนโลยีของซัมซุงไม่ใช่ของที่ทดแทนไม่ได้นะฮะ แค่ราคาถูกเหอะ อีกหน่อยจะโดนอเมริกัน คว่ำบาตรแหงๆ
การแข่งขัน คือ การทำสิ่งที่เหมือนกันมาแข่งขันครับ ^ ^
เอ ผมว่าการแข่งขันคือการผลิตสิ่งของประเภทเดียวกันมาแข่งนะครับ ไม่งั้นก็เรียกลอก พูดสวยๆคือได้รับแรงบันดาลใจ
ลองพิจารณาดูหน่อยครับ ถ้าแข่งร้องเพลง
กรณีที่ 1 คนแรกเอาเพลงคันหูมาร้อง, คนที่ 2 เอาเพลงคันหูมาร้องเหมือนกัน (เสียงใครเสียงมัน) แบบนี้เรียกลอกไหม?
กรณีที่ 2 คนแรกเอาเพลงคันหูมาร้องพร้อมเต้นประกอบ, คนที่ 2 เอาเพลงคันหูมาร้องเหมือนกันแต่เล่นคู่กับ ukulele แบบนี้ล่ะเรียกลอกไหม?
กรณีที่ 3 พี่น้องฝาแฝดหน้าตาเหมือนกัน รูปร่างเหมือนกัน (โคลนนิ่งมาเลยก็ได้) แต่งตัวเหมือนกันทุกอย่าง มาร้องลิปซิงค์เพลงคันหูด้วยท่าทางลีลาและน้ำเสียงแบบเดียวกันเป๊ะ แบบนี้ล่ะเรียกลอกไหม?
ผมว่าผมเห็นอยู่ทั่วไปนะไอ้การแข่งที่เอาของอย่างเดียวกันมาวัดเนี่ย กีฬาต่าง ๆ ก็กติกาเดียวกันทั้งโลกทำไมแข่งกันได้?
ถ้ากรณีที่ 3 ไม่ใช่ฝาแฝดนี่ ผมว่าลอกเลยแหละ
Dream high, work hard.
การประกวดร้องเพลงเพื่อหาคนที่ร้องเก่งที่สุดหรือการแข่งขันกีฬาสามารถนำมาเปรียบเทียบกับกรณีนี้ได้หรือครับ ?
ถ้านักร้องที่แข่งในตัวอย่างของคุณมีคนที่ชนะเลิศ จากนั้นนำเพลงคันหูใน version ที่ร้องแข่งชนะมาออกอัลบั้มขาย คุณคิดว่าแบบนี้ลอกไหม ? ถ้าลอกทำไมตอนประกวดไม่ลอกแต่ตอนขายแผ่น CD เรียกว่าลอก ? ต้องดูบริบทด้วยครับว่า "การแข่งขัน" นั้นคือการแข่งขันแบบใด
แข่งเตะฟุตบอลทุกคนอยู่บนกติกาเดียวกัน แต่ถ้าปีนี้ Man Utd ออกเสื้อลายใหม่ออกมาวางจำหน่ายด้วย brand ของตัวเอง แล้วมีอีกทีม "ลอก" แบบเสื้ออันนี้ไปขายแข่ง แบบนี้เรียกว่าแข่งกันได้อย่างยุติธรรม ?
ตลก.
That is the way things are.
เพราะมีการกำหนดกรอบกติกาไงฮะ ถ้า Apple vs Samsung แข่งขันกันโดยระบุว่าให้ใช้โมเดลของ Xperia arc เป็นกรอบ ก็จะตรงกับที่คุณว่าฮะ เพราะเป็นการทำ replica ของบุคคลที่ 3 มาแข่งขันกันเพื่อวัดความสามารถของทีมวิศวกรคนละทีมครับ เป็นเพียง "เกม" ที่ "วัดผล" ครับ ซึ่งต่างจากการทำมาหากิน (ธุรกิจ การค้า การลงทุน)
ถ้าหาก Apple และซัมซุง ทำ Replica ของ Xperia arc s "วางจำหน่าย" ก็จะถูกโซนี่ฟ้องทั้งคู่ฮะ
คุณจะแฝดกี่ฝา ถ้าร้องเพลงของจ๊ะคันหู "ขาย" โดยระบุว่าแต่งเอง ก็จะถูกเจ้าของเพลงฟ้องทั้งคู่ฮะ
การแข่งขันทางการค้าและเทคโนโลยี คือการแข่งขันที่เป็น ”ธุรกิจ" และมี "ความเสี่ยง" ฮะ
คนที่เริ่มต้นทำก่อน จะสูญเสียทรัพยากร ความเสี่ยงที่เงินลงทุนจะไม่ได้รับการตอบรับฮะ ความเสี่ยงสูง ถ้าพ้นแล้วก็ย่อมได้รับผลที่ดี
คนลอกก็มีความเสี่ยงสูงฮะ เสี่ยงกฎหมาย ( เพื่อลดความเสี่ยงการตลาด) ถ้าซัมซุงรอดตรงนี้ก็เหมือนกับมาราโดน่า Godhand น่ะแหละฮะ แต่ถ้ากรรมการเห็น นรกรออยู่ เหอๆๆ
ถ้าคิดตามนั้น apple ก็ไม่ควรกอปส่วนที่เป็นสิทธบัตร 3G ของ Samsung ด้วยนะครับ
อยากรู้ว่าจะเกิดอะไร ถ้า apple ต้องเอา WiFi (Google) และ 3G (Samsung) ออกจากสินค้าทั้งหมดของตัวเอง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
https://register.epo.org/espacenet/application?number=EP00944446&tab=main
ที่ซัมซุงถือคือ European Patent นะครับ
The first pre-commercial 3G network was launched by NTT DoCoMo in Japan in 1998[9], branded as FOMA.
ใครคิดค้น 3G ? --> ญี่ปุ่นฮะ เกาหลี แค่ไปปั้มต่อ และถือสิทธิบัตรฮะ ไม่ได้ Innovation อะไรกับเค้าเลย
The second network to go commercially live was by SK Telecom in South Korea on the 1xEV-DO technology in January 2002
ตรวจดูเลขวันที่ใน patent กับข้างบนด้วยนะฮะ
Patents
It has been estimated that there are almost 8,000 patents declared essential (FRAND) related to the 483 technical specifications which form the 3GPP and 3GPP2 standards.[16][17] Twelve companies accounted in 2004 for 90% of the patents (Qualcomm, Ericsson, Nokia, Motorola, Philips, NTT DoCoMo, Siemens, Mitsubishi, Fujitsu, Hitachi, InterDigital, and Matsushita).
ทำความเข้าใจกับคำว่า FRAND ด้วยนะฮะ
Apple was found by the court to be infringing on European Patent 1188269, entitled "Apparatus for Encoding a Transport Format Combination Indicator for a Communication System," The Verge reported on Wednesday. The patent in question is a >>>>> FRAND patent, meaning it must be licensed under fair, reasonable and non-discriminatory terms, which means Samsung cannot seek a ban on sales or import of Apple's devices.<<<<<<
ใจความและสาระสำคัญของ FRAND คืออะไรครับ :)
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เรื่องของเรื่องคือ Samsung ถือสิทธิบางส่วนของ 3G ... ถ้าจะไช้ 3G ก็ละเมิดสิทธบัตรของ Samsung แน่นอน
ส่วนสำคัญคือ apple ไม่ใด้จ่าย Samsung เลย โดยบอกว่า Samsung เรียก 2.4% เยอะไป (เพราะละเมิดแน่นอน) เกี่ยวว่ามากหรือน้อยยังไงก็ต้องจ่ายและไม่เกี่ยวกับการ ban แต่อย่างใด
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เหลือเม้นท์เดียว ขอตอบรวบ 2 คนแล้วกันนะครับ
ผมยกตัวอย่างมาถามเรื่อง การแข่งขันเปรียบเทียบกันด้วยของอย่างเดียวกันได้หรือไม่?
แล้วการที่ผมเปรียบเทียบว่า ร้องเพลง ๆ เดียวกัน แต่คนละคนมันไม่เหมือนตรงไหนครับ?
ส่วนเรื่องที่คุณ แล้ว "ถ้า..." นั่นมันสิ่งที่คุณจินตนาการต่อจากนั้น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่ผมถามแต่อย่างใด เพราะมัน "อาจจะ" เกิดหรือไม่ก็ได้ แล้วสรุปว่าคุณคิดว่า การร้องเพลงเดียวกันเพื่อประกวดแข่งกันเนี่ยมันแปลกไหม? ไม่เคยเห็นจริง ๆ เหรอ?
และที่ผมยกตัวอย่างหลาย ๆ แบบให้ดู เพราะอยากรู้ว่าแต่ละคนคิดเกี่ยวกับคำว่าลอกยังไง การที่คุณบอกว่า คนชนะเอาเพลงที่ร้องมาออกอัลบั้มขาย เรียกว่าลอกไหม? แล้วถ้ามันคือการลอก ถามว่าคนที่ซื้อแผ่นของคนนี้ เพราะเค้าไม่รู้ว่าเป็นเวอร์ชั่นคนนี้ร้องก็เลยซื้องั้นเหรอ?
อีกสิ่งที่ไม่ได้เหมือนกันกับเคส Samsung v Apple คือ มันไม่ใช่เพลงเดียวกัน ต่างกันแค่คนร้อง (อาจเทียบได้ว่า Spec. เหมือนกัน เปลี่ยนผู้ผลิต) แต่เคสนั้นมันเป็นแค่ เนื้อเพลงเดียวกัน คนละแนวดนตรี คนละคนร้อง คนละค่าย คนละ Package หรืออาจจะรวมไปถึง คนละตลาดด้วยซ้ำ
คุณเคยเกิดความรู้สึกเวลาฟังเพลงที่เค้าเอามาทำใหม่ไหมว่า เวอร์ชั่นนี้ร้องดีกว่าต้นฉบับอีก หรือ เวอร์ชั่นนี้ห่วยสู้ต้นฉบับไม่ได้เลยไหม? หรือคุณฟังใครร้องก็เข้าใจว่าอันเดียวกันหมด?
ย่อหน้าแรกขอใช้คำตอบเดียวกับข้างบนแล้วกันนะครับ เพราะมาแนวเดียวกันเลย
ถ้าดูจากที่มาของข้อความที่ผม quote ก็จะเข้าใจว่าผมสื่ออย่างนั้น
ส่วนเรื่องที่บอกว่าถ้าเอาเพลงของจ๊ะคันหูไปขาย จะโดนเจ้าของเพลงฟ้องทั้งคู่ ถ้าคุณอ่านดี ๆ ก็จะเข้าใจว่า ผมหมายความว่า Apple และ Samsung ต่างไม่ได้เป็นน้องจ๊ะนะครับ แต่เป็นคนที่เอาเพลงน้องจ๊ะมาร้องทั้งคู่ ถ้าเป็นอย่างที่คุณว่า คนที่มีสิทธิ์ฟ้องคือน้องจ๊ะครับ ไม่ใช่ Apple
และเท่าที่อ่านจนจบ ผมก็ยิ่งเข้าใจว่า คุณเชียร์นักร้องคนนี้จนไม่สนใจเลยว่า ต้นฉบับที่คุณเอาร้องจนดัง หรือ ชนะเลิศได้ มันคือของน้องจ๊ะ และเหมารวมว่าเป็นของคุณ หรืออาจจะไม่สนใจว่าเพลงนี้ใครแต่งเลยด้วยซ้ำ รู้แต่เพลงนี้ดังได้เพราะชั้นเป็นคนร้อง
ทั้ง 2 คนลองดูภาพนี้ http://www.gizmodigit.com/wp-content/uploads/2011/06/Samsung-Galaxy-S2-VS-Apple-iPhone-4.jpg แล้วบอกผมทีครับว่าเครื่องไหน Apple คุณดูออกหรือเปล่า? ผมอาจจะลืมตัวอย่างที่ 4 ไปว่า ถ้าฝาแฝดหน้าตาเหมือนกันแต่ร้องคนละเพลงล่ะ เค้าจะตัดสินได้ไหมว่าเพลงไหนเพราะกว่ากัน?
อืมม ผมงงกับตรรกะพี่ครับ ส่วนตัวคิดว่ามันเทียบกันไม่ได้กับมุมมองแบบนั้น นี่ไม่ใช่เวทีประกวดครับ การประกวดเป็นการแข่งขันเพื่อชิงชนะเลิศ จากความชื่นชอบของคณะกรรมการ หรือมวลชน ตัดสิน ก็จบไป แล้วมันก็มีการขออนุญาตต้นฉบับกันมาทั้งสิ้น ไม่ใช่การแข่งขันกันในตลาดอย่างแท้จริง ถ้าจะเทียบกันจริงๆกับธุรกิจเพลง ผมว่าปัญหานี้ไม่ใช่ที่คนเอามาร้องนะครับ มันอยู่ที่คนต้นคิด หรือนักแต่งเพลง สมมติว่าผมแต่งเพลงลูกเทวดาออกมา แล้วมันดัง ปรากฏว่ามีอีกค่ายเพลงนึง แต่งเพลงในลักษณะคล้ายๆกันออกมา ดังที่เราจะเห็นเป็นข่าวในเพลงเดอะสตาร์ของแม่ ทำนองเหมือนกัน แนวคิดของเพลงคล้ายกันมาก ขายตามน้ำ
ลูกเทวดา http://youtu.be/vocomCyvh08
เดอะสตาร์ของแม่ http://youtu.be/1xwsdBNnAW8
เราก็เห็นอยู่ว่าเขาออกมาก่อน อันหลังนี่ไม่คิดมาก ทำตามไม่ยากเลย
ไม่ผิดเลยครับ ถ้าจะแต่งเพลงในหัวข้อคล้ายๆกัน เช่น เสียดสีวัยรุ่น Generation Z ของประเทศไทยสมัยนี้ แต่มันคล้ายกันเกินไป ตีความมุมมองเหมือนๆกัน ทำนอง เนื้อหา คล้ายกันจนเกินไป ดีกว่าไหมถ้าจะทำมาในอีกลักษณะที่ต่างออกไป กับมุมมองใหม่ๆในการนำเสนอ เพื่อสื่อสารแนวความคิดใหม่ๆจากผู้สร้างสรรค์สู่มวลชน นี่คือการแข่งขันจริงๆ ไม่ใช่ลอกกันมา เพราะอยากได้ประโยชน์ตามน้ำ
พอนึกออกไหมครับ?
ลองทบทวนอีกทีนะครับ จาก...
ผมตอบว่า
ดังนั้น ประเด็นของผมที่สื่อ มันมีแค่เรื่อง "มันมีทั่วไป" จริงไหม? เรื่องการเอาของอย่างเดียวมาแข่งกันเนี่ย
โดยยกตัวอย่างเรื่องการแข่งกีฬาที่มีกติกาเดียวกันก็ใช้แข่งกัน
ผมก็งงครับจากเหตุผลที่คุณบอก
ก็เค้ากำลังคุยเรื่อง "แข่ง" กันอยู่ไงครับ
ผมเชื่อว่า ข้อนี้เป็นไปไม่ได้ครับ
แล้วมันต้องเป็นยังไงครับ? การแข่งในตลาดอย่างแท้จริง ไม่ต้องมีกฎ ไม่มีกติกา (คุณอย่าลืมว่าคุณกำลังเอากฎ กติกา มาอ้างอยู่ว่า ใครมาก่อน ใครมาหลัง ใครลอกใคร ไม่ใช่หรือ?)
และสุดท้ายคุณก็บอกว่า มีคนแต่งเพลงร้องแก้ต่อจากเพลงที่ดัง แล้วดีกว่าไหม ถ้า....?
นั่นก็แสดงความพึงพอใจส่วนตัวของคุณที่รู้สึกว่า ดีกว่าไหม ถ้า.... ไงครับ
แล้วคุณคิดว่า เพลงเดอะสตาร์ของแม่ "เค้าทำมาแข่ง" กับ ลูกเทวดา เหรอครับ?
หัวข้อข่าวคือ "ซัมซุงอ้างว่าไม่ได้ละเมิดลิขสิทธ์แอปเปิลแค่แข่งขัน"
ซัมซุงและแอปเปิลเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจ
ถ้าคุณจะคุยเรื่องการแข่งบั้งไฟพญานาค หรือจักรวาลในรูจมูก ผมว่าคุณมาผิดที่แน่ๆฮะ ...
ด้วยความเคารพ
ถ้าผม comment ตรง ๆ ในหัวข้อข่าว คุณอาจจะเข้าใจถูก
แต่ที่ผม reply มันคือข้อความที่ว่า
มันผิดตรงไหนเหรอครับ?
"ผมว่า... การแข่งขัน คือ...."
มันคือการให้นิยาม? (ในความเข้าใจของคุณ)
แล้วเราก็โต้แย้งกันต่อเรื่องการให้นิยามของคุณ (ที่ไปโต้แย้งคนอื่นอีกที) ว่ามันถูกต้องหรือไม่ไม่ใช่หรือ?
แล้วทำไมไม่ตอบผมล่ะครับว่า มันจริงไหมว่าการ "แข่งขัน มีทั้งแข่งของที่เหมือนกัน และแข่งประเภทเดียวกัน"
ผมอาจจะอธิบายเพิ่มว่า ผมมองว่า การแข่งในหมวด "ความชำนาญเฉพาะด้าน" อาจจะเป็นของที่เหมือนกัน เพื่อให้เห็นความชำนาญหรือคุณภาพที่ต่างกันชัดเจน แต่ถ้าเป็นหมวด "ความคิดสร้างสรรค์" อาจจะเป็นแค่ประเภทเดียวกันก็พอ
ทั้งนี้จะเห็นว่าที่ผมเขียนมาทั้งหมด ไม่มีตรงไหนที่ผมบอกว่า "ของ" ในหัวข้อข่าว มันคือของที่เหมือนกัน ผมก็ออกจะแสดงความเห็นว่ามัน "มีแค่บางส่วนที่เหมือน" เพราะฉะนั้นการที่ของ 2 อย่างนี้จะแข่งกันได้มันก็ไม่แปลก (ถ้าใช้ตรรกะของคุณ เพราะมันเป็นแค่ประเภทเดียวกันคือ Smart Phone ที่มีจอจิ้ม ๆ และมีรูปทรงสี่เหลี่ยม ๆ) หรือคุณดูรูปไม่ออกจริง ๆ ?
ผมคิดว่าในการแข่งขันประกวดร้องเพลงนั้นถ้าผู้เข้าแข่งขันหลายคนจะร้องเพลงเดียวกันก็ไม่แปลกครับ อย่างที่ผมบอกไปตั้งแต่ยกตัวอย่างแล้วว่าในการประกวดกฎกติกามันเป็นแบบหนึ่ง ซึ่งไม่เหมือนกับการแข่งขันกันทางตลาดที่ต้องผลิตสินค้าออกมาขาย
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นเราลองเพิ่มกฎเข้าไปในการแข่งขันประกวดร้องเพลงอย่างที่คุณยกตัวอย่างมาอีกสัก 1 ข้อว่าเพลงที่จะนำมาร้องประกวดนั้นต้องเป็นเพลงที่แต่งเองทั้งเนื้อร้องและทำนอง แล้วถ้าเป็นกรณีนี้หากมี 2 คนร้องเพลงเดียวกันหรือเหมือนกันแค่บางท่อน (เช่นท่อนฮุค) อย่างนี้ก็ต้องพิสูจน์กันต่อแล้วใช่ไหมครับว่าใครลอกใคร
ในการ cover เพลงต้นฉบับแล้วนำมาร้องขายใหม่ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ใครจะร้องดีกว่าหรือแย่กว่านั้นก็ไม่แปลกอีกเช่นกันขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล คนฟังก็สามารถแยกแยะได้ครับว่าเพลงเดียวกันแต่ร้องคนละ version ใจความสำคัญของตัวอย่างนี้ที่คุณพูดขึ้นมาอยู่ที่คำว่า "เพลงเดียวกัน" กับ "version" นี่แหละครับ เพราะว่าพอเป็นเพลงเดียวกันแล้วไม่ว่าคนที่นำมาร้องใหม่จะร้องดีกว่าต้นฉบับแค่ไหนก็ต้องเคารพผลงานต้นฉบับครับ ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ ไม่ใช่อยู่ ๆ ถือว่าตัวเองเสียงดีนึกอยากจะร้องเพลงขายก็เอาเพลงไหนก็ได้ที่ดัง ๆ ในท้องตลาดมา cover แล้วก็ปั๊ม CD ขายจากนั้นก็บอกว่าเพลงนี้ของฉันนะ แบบนี้มันไม่ถูกต้องครับ
ผมยังย้ำความคิดเดิมตั้งแต่ต้นครับว่าตัวอย่างที่คุณนำมาเปรียบเทียบนั้นไม่ตรงกับบริบทของเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นจริงระหว่าง Apple กับ Samsung
ผมดูรูปที่คุณต้องการให้ดูแล้วนะครับก็ต้องบอกว่าผมสามารถแยกแยะความแตกต่างได้ครับ แม้ 2 เครื่องนี้จะคล้ายกันหลายอย่างแต่ก็ไม่ได้เหมือนกัน 100% ดังนั้นย่อมต้องหาจุดแตกต่างได้อยู่แล้วครับ ถ้าคนเราเพ่งจริง ๆ ขนาดเกมจับผิดภาพจุดแตกต่างน้อยกว่านี้คนเรายังแยกความแตกต่างได้เลยทั้ง ๆ ที่ยากกว่านี้มากแต่ถ้าคนเราไม่เพ่งมองหาจุดแตกต่างละจะแยกแยะได้หรือไม่ ? ยิ่งเป็นการเปรียบเทียบอย่างในรูปที่เปิดหน้าจอ home screen ที่ต่างกันมา zoom เป็นภาพใหญ่แล้วเทียบมันก็ต้องบอกง่ายอยู่แล้วว่าต่างกัน ลองเทียบแบบให้คนยืนถือไกล ๆ (ไกลแบบพอเหมาะเหมือนการใช้งานในชีวิตจริงนะครับ เช่น มองเห็นเพื่อนหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกมในระยะ 2-3 เมตรข้างหน้าอะไรแบบนี้ ไม่ใช่ไกลเป็นกิโลเมตร) แบบปิดหน้าจอหรือเปิดหน้าจอเดียวกันอยู่สิครับ (เช่น เล่นเกมเดียวกัน หน้า application list เหมือนกัน) ว่าจะดูออกง่ายแบบนี้ไหม ?
หลายคนมักบอกว่า Apple เล่นลูกเล่นด้วยเอาหน้า Home Screen ของตัวเองไปเปรียบเทียบกับหน้า App Drawer (เรียกแบบนี้หรือเปล่า?) ของ Android ถ้าเปรียบเทียบด้วยหน้า Home Screen เหมือนกันมันจะไม่เหมือนกันแน่ ๆ ผมฟังแล้วกลับไม่คิดแบบนี้นะครับ เพราะหน้า Home Screen ของ iPhone นั้นทำหน้าที่เป็นหน้าเรียง application ด้วยในขณะที่หน้า Home Screen ของ Android ทำหน้าที่เป็นการเรียง widget ดังนั้นการเทียบหน้า Home Screen ของ Apple กับหน้า App Drawer ของ Android ผมว่าก็สมเหตุสมผลดีแล้วเพราะเป็นการเทียบหน้าที่ทำงานเหมือนกัน (คงไม่มีใครเอาหน้า Settings ไปเทียบกับ App Drawer อยู่แล้ว) หรือหากมองในมุมกลับกันทาง Apple ก็สามารถบอกได้ว่ากำลังเปรียบเทียบหน้า Application List ของ iPhone กับหน้า App Drawer ของ Android อยู่ เพราะเป็นการเปรียบเทียบ 2 หน้าที่ทำหน้าที่เหมือนกัน
ถ้าคนเหล่านั้นบอกว่า Apple เล่นลูกเล่นที่นำหน้า Home Screen มาเปรียบเทียบกับ App Drawer ผมก็จะบอกว่าคนเหล่านั้นกำลังเลี่ยงบาลีแบบศรีธนชัยอยู่เช่นกัน
ปล. รูปที่คุณนำมาเทียบให้ดูผมรู้สึกว่ามันจะผิดไปจาก lawsuit ที่ Apple ฟ้อง Samsung เรื่อง look and feel นะ ผมว่าคุณควรจะดูรูปนี้จะดีกว่า ที่สำคัญถ้าไม่นับเรื่องที่เป็นคดีความแล้วลองเอา accessories ต่าง ๆ ของ iPhone มาเทียบกับ Samsung ก็น่าจะเห็นชัด ๆ อย่างมากว่าใคร "ลอก" ใคร
That is the way things are.
+1 ครับ เห็นด้วย บริบทแวดล้อมมันไม่ตรงกันครับ เอามาใช้เปรียบเทียบด้วยกันไม่ได้ การแข่งขันนั้นสังคมมีความเข้าใจในขนบ ตัวผู้สร้างสรรค์ผลงานเองก็ยินยอมพร้อมใจอยู่แล้ว และจบลงตรงนั้น ไม่ได้เอามาปั๊มขายต่อนี่ครับ
พี่ btxxxx ครับ
กรณีที่ผมยกตัวอย่างมามันไม่ใช่ร้องแก้ครับ ไม่ใช่การแข่งขันด้วย แต่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ แนวความคิด อย่างเห็นได้ชัด เรียกว่าตามน้ำ ตามกระแสไป เพื่อผลประโยชน์ ไม่ใช่ออกมาแข่งกันแล้วใครดีกว่า แต่เป็นการแย่งเอาความคิดเขาไป แบบนี้คนต้นคิดก็แย่สิครับ ถ้าจะวัดว่าใครดีกว่า ย่อมทำได้ ในหัวข้อเดียวกันก็ได้ แต่ผลงานควรผ่านการตีความสร้างสรรค์ในทิศทางที่แตกต่างกัน เปลี่ยนมุมมอง วิธีการนำเสนอ เปลี่ยนทำนอง เปลี่ยนคำสร้อย ไม่เกินสมองมนุษย์หรอกครับ เพียงแต่ไม่มักง่ายจนเกินไป ดังที่เราจะเห็นในผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นๆ เช่น Sony เป็นต้น อย่างนี้รับได้ครับ
งั้นผมก็ไม่ต้องแต่งเพลงใหม่แล้วครับ เดี๋ยวใครเค้าก็เอาไปแก้เนื้อ แล้วก็ออกมามั่ง หรือผมก็ไปเอาจากคนอื่นมามั่ง ฟังกันซ้ำๆกันไปเรื่อยๆ คนฟังคงชอบใจความซ้ำซากครับ
ถ้าแค่เอาความคิดมาใช้ ผมเชื่อว่ามันไม่กระทบขนาดนั้นนะ อย่างถ้ามีเลี้ยงโต๊ะจีน มีวงดนตรีมาร้องเพลงน้องจ๊ะเลยนี่แหล่ะ จะเต้นเร้าใจกว่าน้องจ๊ะก็ได้ เติมคำให้มันแผลง ๆ ไปก็ได้ คนอาจจะสนใจก็จริง แต่ผมเชื่อว่า ถ้าน้องจ๊ะมาเอง คนก็จะสนใจกว่าและอยากมาดูอยู่ดี อย่างที่ผมอธิบายไป ผมเชื่อว่าคนแยกแยะออกว่าเค้าชอบอะไรเพราะเค้าพิจารณาแล้ว ไม่ใช่เพราะว่าเค้าชอบต้นฉบับเลยต้องชอบของทำตามด้วย
แต่ถ้าบอกว่าทำเหมือนเลย เช่น พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนแดง ที่ทำหน้าตารูปร่างเหมือน Original เป๊ะ ยกเว้นคุณภาพ อันนี้ผมว่ากระทบจริง
มันมีครับ การแข่งร้องเพลงที่กำหนดเพลงให้ แล้วร้องเพลงที่กำหนดเท่านั้น เช่น การแข่งเพื่อคัดเลือกตัวแทนไปร้องเพลงที่กำหนดต่าง ๆ (อย่างเพลงชาติ ฯลฯ)
ส่วนเรื่องความเห็นว่าเรื่องดนตรี/ก๊ฬามันเหมือนหรือไม่ อยู่ที่แต่ละคนคิดแล้วกันครับ
เรื่องแข่งร้องเพลง อย่างที่ผมอธิบายไปแล้วว่า ทั้งคู่แข่งกันในฐานะที่ เอาเพลงของน้องจ๊ะคันหูมาแข่ง ไม่ใช่คิดเอง (มันจึงไม่เหมือนกับที่คุณใส่ข้อแม้เข้าไป) เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นคำว่า "ลอก" เท่านั้นเอง
สุดท้ายรูปที่ให้ดู ถ้าคุณบอกว่าถ้าจะเทียบต้องให้คนถืออยู่ไกล ๆ ในเมื่อบอกว่าเค้าลอกแล้วทำไมต้องให้ถือไกล ๆ ถึงจะคิดว่าเหมือนล่ะครับ? อย่างนี้ต้องห้ามทำสีดำเหมือนกันด้วยหรือเปล่า? เพราะไปถือตอนกลางคืนไม่ค่อยมีไฟเดี๋ยวคนเข้าใจผิดว่าเป็น iPhone หมดเลยสิครับ? หรือ โทรศัพท์ที่มันจะ touch ได้ไม่ได้ มีกี่ปุ่ม ก็ไม่เกี่ยวแล้ว เพราะคนถือเห็นอะไรเหลี่ยม ๆ ดำ ๆ ไกล ๆ (ยิ่งใส่เคสยิ่งหนัก) ก็เข้าใจแบบนั้นหมด ส่วนภาพที่เลือกมาให้ดูเพราะปกติจะมีสักกี่คนที่ถือ Galaxy S2 โดยเปิดหน้า App Drawer ทิ้งไว้แบบนั้นหรือครับ? ก็ในเมื่อว่าเค้าลอก ทำไมจะต้องเจาะจงว่าต้องเป็นหน้านั้น เปิดหน้าไหน ๆ ไม่เหมือนไม่ได้หรือ? (คล้าย ๆ การถือไกล ๆ ทำไมจะต้องมีข้อแม้?)
ที่ผมต้องการให้ดูความคล้ายคลึงที่ระยะไกลไม่ใช่ใกล้ชิดแนบหน้า (ประมาณ 2-3 ก็ไม่ได้ไกลมากนะ) เพราะว่าโทรศัพท์ของ Samsung ไม่ได้เหมือน iPhone 100% อย่างที่ผมได้บอกไปตั้งแต่ต้นแล้วอย่างไรล่ะครับ มันจึงส่งผลให้ออกมาดูคล้ายกัน ไม่ใช่เหมือนกัน
ประเด็นที่เรากำลังคุยกันอยู่และที่เป็นคดีความคือ Samsung ลอก design ทั้งในส่วน hardware (บางส่วน) และในส่วนของ UI (บางส่วน) จริงหรือไม่ การลอกไม่ได้แปลว่าผลสุดท้ายออกมาต้องเหมือนกันทั้งหมดทุกอย่างนะครับ การไปเน้นที่ผลสุดท้ายเพียงอย่างเดียวนั้นจึงดูเหมือนจะเป็นการเลี่ยงประเด็นไป การที่รูปร่างหน้าตาออกมาไม่ได้เหมือนกัน 100% ไม่ได้แปลว่าไม่มีการลอกเกิดขึ้นนะครับ
ยกตัวอย่างเช่น ในการสอบแบบปรนัยหนึ่งนาย A นั่งติดกับนาย B นาย A พยายามลอกคำตอบจากนาย B แต่ก็ลอกมาได้ไม่หมด ลอกได้มาเพียงแค่ประมาณ 80% เท่านั้น ถามว่าหากนำกระดาษคำตอบของนาย A มาเทียบกับนาย B ว่าเหมือนกันไหมก็ต้องบอกว่าไม่เหมือน เพราะในส่วน 20% ที่เหลือนาย A อาจจะตอบไม่เหมือนนาย B ก็ได้ แต่หากถามว่านาย A ลอกนาย B ไหมคำตอบคือลอก เพราะในตัวอย่างนี้นาย A ตั้งใจลอกนาย B แต่แรกแถมในส่วน 80% ที่เหมือนกันนาย A และนาย B ตอบถูกและผิดใน pattern เดียวกัน ส่วนเรื่องที่ว่าอาจารย์จะจับได้ไหมนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
พูดตรง ๆ สำหรับผมดูโทรศัพท์เปรียบเทียบที่เป็นคดีความ (iPhone 3G/3GS vs. Galaxy S 4G) แล้วผมว่า Samsung จงใจลอก Apple นะ แต่ไม่ได้ลอกไปทั้งหมด 100% ถ้าจะให้ไล่ดูที่น่าจะลอกก็มีการใช้ขอบที่สีคล้ายคลึงกัน ความหนาใกล้เคียงกัน (วัสดุเป็นอย่างไรไม่ทราบเพราะไม่เคยจับ) ขนาดความยาวของช่องฟังใกล้เคียงกันมาก ความโค้งมนของขอบเครื่อง ด้านหน้าเครื่องเรียบด้านหลังเครื่องมนในองศาที่ใกล้เคียงกัน แถมหนึ่งในหน้า UI ที่ใช้บ่อยที่สุดก็ยังคล้ายกันอีก
การเทียบแค่บางหน้าถูกแล้วครับเพราะเป็นการลอกแค่บางหน้าไม่ใช่เรื่องข้อแม้แต่ประการใด ถ้าเหมือนกันทุกหน้าตั้งแต่ Home Screen ยัน Settings คดีความก็คงจบไปนานแล้วครับเพราะเหมือนกันขนาดนั้น อีกอย่างใน comment ก่อนหน้าผมได้พูดถึงการเทียบความคล้ายคลึงกันในกรณีปิดหน้าจอด้วยนะครับ ทำไมไม่เห็นคุณพูดถึงเลย ?
สุดท้ายผมอยากจะเน้นย้ำอีกครั้งนะครับ การลอกไม่ได้แปลว่าผลสุดท้ายต้องออกมาเหมือนกัน 100% หากแต่ส่งผลให้คล้ายคลึงกัน ถ้าพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอกลอกนึกภาพร้านขายส่งประตูน้ำลอกแบบเสื้อผ้าชื่อดังอย่าง K ไปขายดูสิครับ ซื้อ 2 ตัวมาเทียบกันซึ่งหน้าตะเข็บต่อตะเข็บยังไงก็ไม่เหมือนกัน แต่ทำไมตำรวจไปจับแม่ค้าพวกนี้ได้สั่งปิดได้ดำเนินคดีได้ ?
ส่วนเรื่องประกวดร้องเพลงผมไม่อยากจะพูดถึงแล้วครับเพราะได้อธิบายไปหมดแล้ว คุณบอกว่า Apple ไม่ใช่ต้นฉบับของน้องจ๊ะแล้วใครเป็นต้นฉบับหรือครับ ? อย่าบอกว่าโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสแบบแท่งคือต้นฉบับนะครับเพราะสำหรับผมแบบแท่งไม่จำเป็นต้องเหมือนกันอย่าง Nokia Lumia ก็ไม่คล้าย iPhone รุ่นไหนเลยแต่กลับกันสำหรับผม Samsung Galaxy S 4G กลับคล้าย iPhone 3G/3GS ดังที่ผมได้วิเคราะห์เอาไวก่อนหน้า
That is the way things are.
ถ้าคำว่าลอกที่คุณว่าคือแบบนั้น ที่ Apple ทำ iPhone ออกมาได้ ก็ไม่ได้ลอกเค้าเหมือนกันหรือครับ คุณกำลังบอกว่า น้องจ๊ะนี่เป็นต้นกำเนิดของทุกสิ่งทุกอย่างของเพลงคันหู ไม่เคยมีนักร้อง คนไหนเคยร้องเพลงแนวนี้ หรือ เต้นท่าทางแบบนี้มาก่อนเลย หรือแม้กระทั่งมีภาพลักษณ์แบบนี้ ฯลฯ
ที่ผมยกหลาย ๆ กรณีมาถามด้านบน ผมก็ไม่ได้สรุปว่ากรณีไหนคือลอกที่ถูกต้องที่สุด เพราะมีคนที่ comment ไว้ด้านล่าง ๆ เค้าอธิบายยาว ๆ ไว้แล้วว่า มันขึ้นกับหลาย ๆ ปัจจัยที่ทำให้คนรู้สึกเช่นนั้น แต่ถ้าคุณยึดเกณฑ์ใด คุณก็ต้องใช้ standard เดียวกันในการตัดสิน
sanrio ออกตัวการ์ตูน เคโระ เป็นรูปกบแล้วดัง หลังจากนั้นไม่มีใครมีสิทธิ์เอารูปกบมาทำ? (ทั้ง ๆ ที่คุณก็ดูออกว่าอันไหนเคโระ อันไหนตัวอื่น)
ทำไม Apple ไม่ทำอุปกรณ์ตัวใหม่ที่ใช้สื่อสารกันได้ที่ไม่ใช่โทรศัพท์? ทำไมไม่ให้มีการส่งผ่านข้อมูลด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์เหมือนในปัจจุบัน? ทำไมต้องเป็นสี่เหลี่ยม? ทำไมต้องมีหน้าจอ? ทำไมต้องมีปุ่มบนตัวเครื่อง? ทำไมต้องเปิด-ปิดเครื่องได้? ทำไมต้องใช้แบตเตอรี่ในการให้พลังงาน? และต้องเสียบสายเมื่อจะชาร์จ? ทำไมต้องเชื่อมต่อกับคอมด้วยสายเคเบิล? ฯลฯ มันไม่ได้ล้วนมีที่มาที่ไป เลยหรือ?
ถึงผมจะบอกไม่ได้ว่า Samsung "ลอก" หรือไม่? แต่ผมว่า Apple ทำไมถูกครับ อย่างน้อยถ้า Apple ใช้ระบบปฏิบัติการ Android แล้ว Samsung ออก Galaxy มาผมจะเห็นด้วยมากกว่านี้
ถ้าคุณเป็นผู้ผลิตสินค้า ลูกค้าคุณบอกว่า อยากได้โทรศัพท์มีลักษณะสี่เหลี่ยม ใช้จอสัมผัส คุณจะทำทรงกลม หรือ สามเหลี่ยม ใช้ปุ่มกดไปขายไหม?
ผมเห็นเหมือนคุณนะ คือ Samsung ลอก feel ของ Apple มา แต่แค่ด้วยตัว OS ก็ไม่รู้สึกว่าเหมือนแล้ว ยังงงมากว่าจะมีสักกี่คนที่อยากได้ iphone/ipad แล้วเสร่อไปซื้อ galaxy s/tab ถ้าไม่มี/มีน้อย แล้วที่ Apple เคลมว่าเสียหายทางธุรกิจ มันจะเยอะซักแค่ไหนเชียว
ยังไม่รวมถึงสิ่งที่ควรพิจารณาว่า patents ต่างๆ ของ Apple valid หรือไม่ คนรัก Apple ก็เห็นว่า valid เพราะรักเรื่อง external design คนรัก Android ก็เห็นว่าไม่ valid เพราะดูที่ function & feature ที่มีสารพัด prior art มา invalidate patents ของ Apple
ผมว่าปัญหาอยู่ที่คุณกับผมมองผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือในรายละเอียดที่ไม่เหมือนกันครับ
การเป็นสี่เหลี่ยมและมีปุ่มกดสำหรับผมเป็นเรื่องปกติพื้นฐาน รูปทรงสี่เหลี่ยมมีมานานแล้ว มีมาตั้งแต่สมัยมนุษย์ยังไม่เกิดบนโลกนี้ด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องโทรศัพท์มีปุ่มเราก็เห็นกันมาหลายสิบปีแล้ว เราต้องการกดต้องการ interact กับ object ด้วยมือ ถ้าไม่มีปุ่มให้กดไม่มึจอให้สัมผัสเราจะ interact ผ่านอะไร ? ผ่าน 3D visual แบบ Minority Report ? เทคโนโลยีตอนนี้ยังทำไม่ได้แล้วจะให้หลีกหนีรูปแบบการใช้รูปแบบนี้อย่างไร ? ผมมองว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องพื้นฐานเหมือนกับที่ว่าเรากินข้าวต้องใช้ช้อนส้อมไปแล้ว ไม่ได้เป็นอะไรที่ unique แต่ประการใด
ในทางกลับกัน design ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ยังสามารถคงความเป็น unique ได้ ยกตัวอย่างเช่น รูปวาด Monalisa ก็เป็นแค่รูปผู้หญิงคนหนึ่ง ศิลปินคนอื่นก็สามารถวาดรูปผู้หญิงได้เหมือนกัน แต่หากศิลปินคนไหนวาดหน้าตาของผู้หญิงในรูปให้มีลักษณะเดียกวันกับ Monalisa ถามว่าศิลปินคนนั้นเขาคิดเองหรือเขาลอกมานั้นก็เห็นได้ชัดอยู่
ผมและเชื่อว่าอีกหลายคนที่เห็นว่า Samsung ลอก Apple นั้นไม่มีปัญหากับการที่ Samsung ใช้โทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสมีปุ่มกดนะ แต่มีปัญหากับส่วนที่ว่าสีที่เหมือนกัน รูปร่างใกล้เคียง ปาดมุมโค้ง 45 องศาด้วยรัศมีที่ใกล้เคียงกัน ขอบเครื่องมีสีคล้ายกัน ความหนาขอบก็พอ ๆ กันอีก ด้านหลังเครื่องก็ต้องทำโค้ง ๆ พอ ๆ กัน ถ้ามีโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออื่นออกมาเหมือนกับของ iPhone 3GS บ้างบางส่วนก็คงไม่มีใครว่าอะไร แต่นี่มันเหมือนกันหลายส่วนจนเกิดกว่าจะเรียงว่าความบังเอิญ ผมว่ามันก็จงใจเกินไป
คุณต้องมองหาความเป็น original จากองค์รวมครับ ไม่ใช่แยกแต่ละส่วนออกแล้วบอกว่าคนอื่นเคยทำไว้หมดแล้ว ถ้าคิดแบบนั้นเพลงทุกเพลงบนโลกนี้ล้วนต้องจัดเป็นการลอกเลียนแบบของคนที่คิดตัวโน้ตคนแรกหมด หรือถ้ายิ่งไปกว่านั้นต้องถือเป็นการลอกเลียนแบบมนุษย์คนแรกที่เปล่งเสียงออกทางปากเป็นทำนองบนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าคิดย้อนไปแบบนี้มันไม่มีวันจบเพราะไดโนเสาร์เกิดก่อนคนส่งเสียงร้องเป็นทำนองได้ก่อนคนอีก
ถ้าคุณจะยืนยันบอกว่า Apple ก็ลอกคนอื่นมาเหมือนกันเพราะทำโทรศัพท์ออกมาเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม ใช้การเชื่อมต่อไร้สายผ่านระบบเครือข่ายต่าง ๆ ที่คิดค้นกันขึ้นมาเป็นการลอกคนอื่น ก็คงต้องสุดแล้วแต่คุณครับ
That is the way things are.
ในกระทู้นี้ http://www.blognone.com/node/34638 ผมก็บอกไว้ชัดนะว่า
"ผมว่าตัวสินค้าเฉพาะ S1 กับ Ace/Cooper นะ ที่คล้าย iphone classic/3g/3gs นอกนั้นไม่เห็นเหมือน แต่รูปแบบการนำเสนอสินค้าเนี่ย ดูก็รู้ว่าลอก"
ถ้าดูองค์รวมอย่างที่คุณบอก ผมดูไม่ออกจริงๆ ว่า S2, Galaxy Nexus, Galaxy Tab มันไปเหมือน iPhone, iPad ยังไง แค่วัสดุที่ใช้ทำแล้วโดนด่าปาวๆ ว่าวัสดุห่วย OS ก็ไม่เหมือนกัน
แล้วสิ่งที่ Apple ฟ้องว่าทำให้เกิดความเสียหายกับธุรกิจ คุณว่าเกิดความเสียหายจริงหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน
องค์รวมในที่นี้หมายถึงดูโทรศัพท์มือถือก็ดูเป็นทั้งอันครับ เช่น รูปทรงสี่เหลี่ยมปาดมุมโค้ง 45 องศาสีขาวมีปุ่มกด ด้านหน้าเรียบด้านหลังเรียบ แปะหน้าหลังด้วยกระจก มีช่องฟังเสียงยาวแค่นี้ กล้องหน้าอยู่ทางซ้ายของช่องฟังเสียง ลำโพงอยู่ด้านล่าง ช่องเสียบชาร์ตไฟอยู่ด้านล่าง ขอบด้านข้างเป็นอลูมิเนียม รวมกันเป็น iPhone 4S เป็นต้น
ไม่ใช่มองว่า
iPhone ลอกคนอื่นมาเพราะ
แยกเป็นส่วน ๆ แล้วก็บอกมาว่าแต่ละส่วนที่ว่ามานั้นคนอื่นเคยทำมาก่อนหมดแล้ว องค์รวมของผมหมายถึงแบบนี้ ไม่ใช่องค์รวมของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดครับ
That is the way things are.
แบบนี้ผมก็มองว่า Samsung ไม่ได้ลอก Apple นะ เหมือนที่ Apple ไม่ได้ลอกคนอื่น
จบ PHD สาขาอะไรมารึปล่าวฮะ
ก็ตกลงเค้าทำอะไรมาขายเหรอครับ? โทรศัพท์หรือพวงกุญแจ (งงตั้งแต่ให้ดูไกล ๆ แล้ว) ถ้าว่าเค้าลอกแล้วทำไมของที่มัน "ทำให้เป็นโทรศัพท์" อย่างที่คุณว่ามาถึงไม่ให้เอามาตัดสินว่าเหมือนไม่เหมือน ต้องเอาเฉพาะของที่คุณคิดว่าเหมือนมาเทียบ แล้วบอกว่า นี่ไงเหมื๊อนเหมือน :(
ถ้าคุณเอาองค์ประกอบหลาย ๆ ส่วน (ของคนอื่น) มารวมกันกับสิ่งเล็กน้อยที่คุณคิดขึ้นมาเองแล้วเรียกว่านี่คือนวัตกรรมที่คุณคิดขึ้นมาเองได้ คนอื่นจะเอา "บางส่วน" ของคุณไปรวมกับอีกหลาย ๆ ส่วน (ของคนอื่นและอีกบางส่วนที่คิดเองเหมือนกัน) แล้วเรียกว่าเป็นนวัตกรรมบ้างไม่ได้หรือ?
ที่สำคัญอย่าลืมว่า "มันคือโทรศัพท์" นะครับ "ไม่ใช่พวงกุญแจ"
ผมว่าผมเบื่อที่จะอธิบายแล้วล่ะครับ ผมคิดว่าคนที่ไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่าง design กับ object ว่ามันคืออะไร มันเหมือนกับเทียบกันคนละเรื่องตลอดทั้ง ๆ ที่ scope ของเรื่องมันก็มีอยู่ว่ามันคืออะไร
ถ้าคุณใช้ตรรกะแบบนี้แปลว่ารูปภาพ Monalisa ของ Lenoardo da Vinci ก็ลอกคนอื่นมาไม่ได้คิดเอง เพราะในสมัยก่อนหน้าที่ Leonardo จะเกิดนั้นก็เคยมีคนวาดรูปผู้หญิงเอาไว้ก่อนแล้ว มีตา มีปาก มีจมูก มีผม มีคอ มีแขน มีลำตัว มีเสื้อผ้า มีพื้นหลังเหมือนอย่างที่รูปภาพ Monalisa มีแถมใช้สีที่คนอื่นเคยคิดไว้ก่อนแล้วอีก ไม่ว่าจะเป็นสีดำ สีแดง สีเหลือง สีเทา สีน้ำตาล เอามาใช้อยู่ทั่วรูปภาพไปหมด
ขอให้ตอบคำถามนี้ด้วยนะครับหากยังอยากจะคุยกันต่อ
ลองมองอีกตัวอย่างหนึ่งเสื้อผ้าหลากหลายยี่ห้อ คุณกำลังบอก่วาทุกวันนี้เสื้อผ้า brand ชั้นนำของโลกลอกเลียนแบบกันหมดด้วยตรรกะที่ว่าเสื้อมีแขน กางเกงมีขา มีด้าย มีซิป มีกระดุม มีตะเข็บ ใช้ผ้าตัดเย็บ สีก็ใช้ซ้ำกัน อย่างนั้นหรือ ? แต่ละ brand ไม่สามารถฟ้องร้องเรียกหาความเป็นเจ้าของ design ของตัวเองได้เลย ? ถ้าคุณคิดแบบนั้นคุณลองศึกษาคดีความระหว่าง Klos*t กับผู้ค้าเสื้อผ้าประตูน้ำดูไหมว่าทำไมกฎหมายไทยที่ผ่านสภามาในระบอบประชาธิปไตยจึงอนุญาตให้ Klos*t ฟ้องร้องเอาเรื่องคดีความกับผู้ค้าเหล่านี้ในข้อหาลอกเลียนแบบโดยไม่ได้รับอนุญาตได้
ผู้ค้าเหล่านั้นจะเถียงในศาลแบบคุณไหมว่า Klos*t เองก็ลอกเสื้อผ้าของผู้อื่นมาเหมือนกัน เพราะมีกระโปรง มีริ้ว มีแขน มีขา ใช้ผ้า ใช้ด้ายเหมือน ๆ กัน ดังนั้นการที่เขานำแบบที่คล้ายกับ Klos*t มาขายจึงไม่จัดว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
สุดท้ายผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมคุณยกประเด็นเรื่อง "พวงกุญแจ" มาเพราะไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น โทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือ mouse keyboard router ตู้ โต๊ะ เตียง หน้าต่าง ประตู พวงกุญแจ ทุกอย่างย่อมมี design หมด ไม่เกี่ยวว่ามันจะเป็น object ประเภทไหนและการลอก design ก็คือการลอกไม่ใช่บอกว่าตู้เย็นยี่ห้อ B นี้แม้ภายนอกจะเหมือนยี่ห้อ A นั้นแต่ลองเปิดภายในมาดูสิมันไม่เหมือนกันนะจะหาว่าไปลอกมาก็ไม่ได้นะ ที่สำคัญตู้เย็น A ก็ยังมี compressor มีชั้นวางไข่ มีช่องแช่ผัก มีช่องแช่แข็งเหมือนตู้เย็นยี่ห้ออื่น ๆ ก่อนหน้า ดังนั้นตู้เย็นยี่ห้อ A ก็ไปลอกยี่ห้ออื่นมาเหมือนกัน จะมาหาว่าตู้เย็นยี่ห้อ B ไปลอกเลียนแบบตู้เย็นยี่ห้อ A อย่างเดียวได้อย่างไร
เขียนไปขนาดนี้ถ้ายังไม่เข้าใจและพยายามยึดติดกับความคิดเดิม ๆ ก็คงต้องปล่อยผ่านแล้วล่ะครับ ผมไม่รู้ว่าคุณทำงานสายอะไร เรียนสายอะไรมานะ แต่ลองคุยกับคนที่อยู่สายอื่นดูบ้างว่าเขาคิดอย่างไรกับประเด็นที่คุณกำลังเถียงกับผมอยู่ตอนนี้
ขอแถมอีกสักตัวอย่างด้วยตรรกะของคุณที่บอกว่า iPhone มีไส้ในมาจากผู้ผลิตอื่น ๆ ดังนั้นแปลว่า Apple ลอกคนอื่นมา ผมว่าถ้าอย่างนั้นคอมพิวเตอร์ HP Samsung Dell IBM ก็จัดว่าลอกกันหมดทั้งใน line consumer และ business เพราะในคอมพิวเตอร์พวกนั้นดันมี CPU Memory เป็นองค์ประกอบหมด และสมควรอย่างยิ่งที่พวกนี้จะฟ้องร้องกันเรื่องนี้ ผมเองก็อยากจะรู้นักว่าศาลจะรับฟ้องไหม คอมพิวเตอร์ที่ไม่มี CPU นั้นเป็นอย่างไร (ตลกสิ้นดี) เคยคิดบ้างไหมครับว่าไม่ใช่เพราะคอมพิวเตอร์มี CPU เหมือนกันแต่เป็นเพราะการมี CPU เป็นองค์ประกอบต่างหากจึงสามารถทำให้ object นั้นเป็นคอมพิวเตอร์ได้
That is the way things are.
ประเมินคร่าวๆผมคิดว่า "ไม่น่าจะเกิน ม ปลาย" แน่ๆฮะ มืดสนิทจริงๆ
ยิ่งตอบ ยิ่งทำให้เค้ารู้สึกว่าตนเองมีค่า ที่ได้พูดคุยโต้ตอบฮะ นั่นคือสิ่งที่เค้าต้องการฮะ "มีผู้ใหญ่มาคอยโต้ตอบกับเราอย่างเป็นเหตุเป็นผล เราเทียบเขา" โตขึ้นเค้าก็เข้าใจเองละฮะ ให้เวลาอธิบายเขาดีที่สุด
เขาต้องการความหล่อฮะ เค้าเลยพูดแต่เรื่องของเค้าเองฮะ fiction แหลก แต่พวกเราคุยกันเพื่อมองเหตุการณ์ให้กระจ่างขึ้นฮะ ไปคุยหัวข้ออื่นกันดีกว่าฮะ
จักรวาลในรูจมูกฮะ
ถ้าถามจาก standard ผม ผมมองว่าไม่ได้ลอกครับ แต่ผมหมายถึง การลอกเพื่อเอามาขายว่านี่ คือ ภาพของแท้นะ (เพราะคุณบอกว่ามันดูออกว่าอันไหนจริง อันไหนปลอม) แต่ผมก็ไม่สามารถคาดเดาจิตใจคนวาดได้หรอกนะว่า จริง ๆ แล้วตัวเค้าไปลอกมาเลย แต่วาดได้ไม่เหมือนเท่า หรือ ไม่สวยเท่าหรือเปล่า แต่การวาดภาพผู้หญิงนั่งเอียงหน้า เป็นสิ่งที่เค้ามีสิทธิ์ทำได้
object กับ design ที่คุณว่า ก็คือสิ่งที่ผมถามว่า สรุปว่าเค้าทำอะไรมาขาย? โทรศัพท์ หรือ พวงกุญแจ? พวงกุญแจประโยชน์จริง ๆ มันใช้แขวนกุญแจ แต่การที่คนจะเลือกซื้อมันโดยทั่วไป จากความสวยงามไม่ใช่จากประโยชน์ของมัน สรุปว่า Apple ทำโทรศัพท์ที่เอามาใช้โชว์? แต่โทรได้? เพราะคุณบอกให้ดูไกล ๆ จะเห็นว่ามันลอกกันเห็น ๆ ทั้ง ๆ ที่เวลาซื้อโทรศัพท์โดยทั่วไปจะลองจับตัวเครื่องกันทั้งนั้น ยกเว้นจะสั่งออนไลน์ ไม่ได้ยืนชี้จากตู้ 2-3 เมตรแล้วบอกเอาอันนี้
ถ้าคุณทำโทรศัพท์ออกมาขายหน้าตาแบบนี้ แต่คู่แข่งทำออกมาขายหน้าตาเหมือนคุณเป๊ะแต่ฟังก์ชั่น รูปแบบ วิธีการใช้งานไม่เหมือนคุณ แล้วค้าขายได้ทั้ง ๆ ที่คุณบอกว่าของคุณคือต้นแบบ แสดงว่าที่เค้าขายได้เพราะเค้าลอกคุณ? ทำไมเค้าไม่ซื้อของต้นฉบับกันล่ะครับ?
กลับไปที่เรื่องรูป Monalisa ถ้าเป็นคุณ คุณจะซื้อรูปจริงหรือรูปเลียนแบบ? โดยที่คุณก็รู้ว่ารูปไหนรูปจริง รูปไหนเลียนแบบ? ก็อย่างที่ผมบอกไปว่า ถ้าคุณเป็นผู้ผลิต (คนวาด) ลูกค้าคุณจะซื้อภาพผู้หญิง คุณจะวาดภาพผู้ชายไปขายเขาไหม? เค้าต้องการรูปคนนั่ง คุณจะวาดคนยืน? เค้าต้องการให้เอียงหน้า ใส่เสื้อผ้าแบบนี้ คุณก็จะไม่ทำ? แต่สุดท้าย คนวาดก็คือคุณ
หรือที่คุณยกตัวอย่างมัน "เสื้อผ้า" ถ้าเคสนั้น คุณลองนึกดูสิว่า ถ้าสมัยนี้ไม่มีใครทำเสื้อมีกระเป๋าหลัง แต่ยี่ห้อที่คุณว่ามาเป็นเจ้าแรกที่เอากระเป๋าไปติดด้านหลังเสื้อแล้วเกิดขายดี ก็คือห้ามเจ้าอื่นเค้าทำเสื้อมีกระเป๋าหลัง!? โลกเรามันจะอยู่ยากเกินไปไหม?
แถมอีกนิดว่า ยิ่งเขียนตรงนี้ผมก็ยิ่งมองเห็นภาพว่าเรามันต่างกัน ผมซื้อเสื้อผ้า ผมไม่ได้ดูยี่ห้อ ผมดูว่าผมชอบเสื้อผ้าหน้าตา รูปร่าง การใช้งาน นี้ไหม ต่อให้แบรนด์ดังลดราคา ผมไม่ชอบผมก็ไม่ซื้อ แต่ก็เข้าใจว่าคนบางกลุ่มเค้าเลือกจากแบรนด์ ขอให้แบรนด์ดัง ดีไซน์เหมือนตัวละ 100 ตามตลาดนัด (เสื้อยืดธรรมด๊าๆ) เค้าก็ซื้อกัน
คุณกำลังสับสนสิ่งที่เป็นความคิดผม กับสิ่งที่ผมเปรียบเทียบให้ฟังว่า ถ้าคุณใช้มาตรฐานนี้ในการมาว่าเจ้าอื่นลอก คุณต้องมองย้อนกลับไปว่า Apple ของคุณเองไม่ได้ดีกว่าชาวบ้านหรอก เค้าก็เอาความคิดของคนอื่น ๆ มารวมเป็นดีไซน์ของตัวเองเหมือนกัน (แต่ก็อย่างที่ผมบอกไป ผมเองก็ไม่ได้มองว่าซัมซุงดีนักหรอก อาจจะเรียกว่า แย่ กับ แย่กว่า แล้วกัน)
หมายเหตุ ที่ผมไม่ได้ตอบโดยตรง ไม่ใช่เพราะไม่อยากตอบ แต่เพราะคิดว่าการอธิบายความคิดผมให้ฟัง จะทำให้คุณเข้าใจว่าผมคิดอะไร และคุณจะได้คำตอบนั้นอยู่แล้ว เพราะถ้าตอบแล้วมันยาวไป มันก็ไม่น่าอ่าน และรำคาญสายตาคนอื่นด้วย
ส่วนเสียงเด็ก ๆ ที่เอะอะโวยวายอยู่ข้างบ้านเวลาผู้ใหญ่เค้าคุยกันผมไม่สนใจหรอกนะ เด็กมักจะเรียกร้องความสนใจ ยิ่งพิมพ์ไปก็ยิ่งประจานตัวเองเอง
ผมว่าต่างคนก็ต่างมองคนละมุมนะครับ
ผมกับคุณ btxxxx มอง product เป็น product by a whole
ส่วนคุณ zerocool มอง product เป็น product by design
การที่เรามองคนละมุม มีแนวคิดคนละอย่าง มันหาจุดยุติไม่ได้หรอกครับ ขนาดแนวคิดศาสตร์อื่นๆยังมีหลายแนวเลย ซึ่งในกรณีนี้ผมว่าต่างคนต่างแสดงมุมมองของตัวเองออกมาแล้ว คงไม่จำเป็นต้องโพสต่อเพื่อเอาชนะกันหล่ะมั้งครับ เดี๋ยวจะบาดหมางกันไปเปล่าๆ
ส่วนคนที่อยากสร้างปมเด่นให้ตัวเองก็ปล่อยๆเค้าไปเถอะครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมเห็นด้วยครับ :)
ผมก็ไม่เห็นด้วยตรงสิ่งที่เค้าเอามาฟ้องคนอื่นนี่แหล่ะ ถ้าตัวเองกล้าว่าคนอื่นขนาดนั้นจริง ไม่...พอที่จะเอา notification bar มาใส่ใน os ของตัวเองหรอก
Feature ใหม่ ๆ ที่มีใน iPhone ไม่เหมือนคนอื่นเลยมั๊ง? ดูโฆษณา iPhone 4S เอากล้องไปถ่ายรูปอัพขึ้นเฟสบุ๊ค โห...... เทคโนโลยีใหม่มากกกกก คนอื่นเอามาใช้ก่อน แล้วตัวเองทำตามแบบนี้เรียกว่า?
ของที่เค้าขายได้ ผมเชื่อว่าคนซื้อเค้าสั่งว่าเอา Galaxy S, Galaxy Ace, Galaxy Cooper ไม่มีใครสั่งว่าเอา iPhone หรือซื้อเพราะหยิบผิดไม่ถามยี่ห้อ/ถามรุ่นหรอกนะ แล้วเพราะอะไรเค้าขายได้? อ๋อเพราะเค้าเลียนแบบเรา!?
+1
ตอนนี้ผมยังดูไม่ออกว่าความเสียหายทางธุรกิจที่ Apple claim นั้นจะมาจากทางไหนได้บ้าง
น้ำแก้วนึงคุณมองได้สองแบบฮะ
น้ำในแก้ว "เกิดจากเจตนาของมนุษย์ ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ" ฮะ
ดังนั้นในมุมของ กฎหมาย เจตนา = การเติมน้ำในแก้ว
ต้องดูจาก "ปริมาตร น้ำที่เหลือในแก้ว" ที่มีเจตนาอยู่ในตัว (เหมือนกันเพียงใด) ไม่ใช่จาก "ปริมาตรของอากาศเหนือน้ำในแก้ว" ซึ่งไม่มีเจตนาอยู่ในนั้น และมีปริมาตรอยู่อย่างไม่จำกัด ฮะ
คำถามสุดท้ายของคุณ thanesk ลอง "แสดงความคิดเห็น" ของคุณมาสิฮะ ผมคิดว่าผู้ ตั้งคำถามน่าจะมีข้อมูลดีๆมาชี้แจงพวกเรามากที่สุดฮะ
ผมยังคิดไม่ออกไงครับ ว่า Apple เสียหายยังไง เลยต้องขอถามไงครับ
ปล่าวต้องการ "ความคิด ปล่าวๆลอยๆ" ของคุณนะฮะ เราต้องการ " ข้อมูล" ที่คุณมีเทียบเคียงกับการนำไปสู่ "ความคิดส่วนบุคคล" ของคุณฮะ มีมั้ยฮะ
Edit : ข้อความ "ซัมซุงไม่ได้ลอกแอปเปิล และแอปเปิลก็ไม่ได้ลอกคนอื่น ลองอธิบายว่า มีผลกับธุรกิจของแอปเปิลจริงหรือไม่ หรือไม่ อย่างไร"
ไปใหนแล้ว ละฮะ ?
เอาเท่าที่ผมนึกออกแน่ ๆ หนึ่งอย่างนะครับคือ brand perception ครับ
iPhone ถูกวางจำหน่ายในราคาที่ค่อนข้างสูงโดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักในตลาดเป็นพวกคนมีเงินมีกำลังซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยมาก ต้องการบริโภคสินค้าในระดับ premium เป็นหลัก ผู้ใช้ iPhone กลุ่มที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าของ look ในสายตามสังคมย่อมต้องพอใจในจุดนี้ ดังนั้นหากถูกคนอื่นลอกเลียนแบบไปและนำมาขายในราคาถูกกว่ากระจายกลุ่มเป้าหมายไปยังพวกมีกำลังซื้อน้อยถึงปานกลางด้วย ก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของ iPhone ดูด้อยลง
เหมือนอย่างสมัยหนึ่งกระเป๋าถือ Louis Vuitton ยังไม่แพร่หลายในประเทศไทย (น่าจะสักประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว) คนที่มีกระเป๋าหลุยส์ถือย่อมแสดงออกถึงฐานะทางการเงินในสังคมที่ดีกว่าคนถือกระเป๋าไม่มี brand ขายตามตลาดนัดทั่วไป คนก็ที่มีกำลังทรัพย์ก็นิยมซื้อมาใช้กัน ต่อมาภายหลังของ copy ระบาดหนักจนกลายเป็นว่าใคร ๆ ก็หิ้วหลุยส์เดินสยามกันเป็นว่าเล่น (ส่วนใหญ่ของปลอม) คนที่หิ้วของจริงอยู่ก็ไม่อยากจะหิ้วเพราะตัวเองไม่รู้สึกพิเศษที่ได้แสดงออกถึงความแตกต่างอีกต่อไป คนเหล่านี้บางคนก็จะพาลเลิกใช้กระเป๋าถือยี่ห้อหลุยส์และไปหายี่ห้ออื่นที่ราคาแพงกว่าหรือพอ ๆ กันที่ยังไม่ซ้ำกับในท้องตลาดมาถือแทนสร้างกระแสต่อไป หลุยส์เองก็ขายกระเป๋าของแท้ได้น้อยลงไปตามลำดับ
ผมว่ามันไม่น่าจะราคาถูกแน่ ๆ
ส่วนค่าเสียหายด้านอื่นยังนึกไม่ออกครับ คนที่ไปซื้อผมว่าส่วนมากรู้อยู่แล้วว่า Galaxy ไม่ใช่ iPhone เพราะว่าประสาทสัมผัสคนเราสามารถแยกความแตกต่างได้อยู่แล้ว (ขนาดเกมจับผิดยากกว่านี้ยังแยกได้) แต่ผมว่าคนที่ไม่รู้ก็ต้องมีแต่น้อย พวกไม่ถนัด gadget ไม่ได้ติดตามข่าวสารอะไรเลย อารมณ์ประมาณลุง ๆ ป้า ๆ ไปซื้อโทรศัพท์มือถือเองแล้วคนขายก็เชียร์บอกว่าเครื่องนี้รูปร่างหน้าตาเหมือน iPhone เลยทำได้เหมือนกันทุกอย่างแต่ราคาถูกกว่าตั้งเยอะ คนพวกนี้ที่ไม่รู้อะไรไปซื้อก็คงมีครับ และก็ต้องมีคนประเภทที่อยากได้ iPhone แต่ไม่มีเงินซื้อหรือคิดว่า iPhone แพงไปแต่ต้องการโทรศัพท์มือถือที่หน้าตาคล้าย ๆ กับ iPhone เลยจงใจไปซื้อ Galaxy ก็มี
โดยส่วนตัวผมว่าต่อให้การที่ Galaxy S เหมือน 3GS ไม่ว่าจะมีผลหรือไม่มีผลความเสียหายที่พิสูจน์ได้ต่อ Apple Samsung ก็ผิดอยู่ดีที่ไปพยายามเกาะกระแส (ตอนนั้น) ลอกเลียนแบบหน้าตาโดยที่ตัวเองไม่ต้องคิดหรือวิเคราะห์ตลาดอะไรเลยว่าคนกำลังชอบนิยม design แบบไหน ทำแบบนี้ก็ไม่ต่างจากพวกที่เห็นว่าเสื้อผ้า brand ไหนดังลาย screen ไหนฮิตก็ copy มาขายตามตลาดนัดแม้แต่น้อย
That is the way things are.
ความเห็นเราต่างกันตรงนี้นี่เอง คุณมองว่าคนซื้อ Galaxy เพื่อทดแทน i device ผมกลับมองว่ามันแทนกันไม่ได้ คนที่เจ็บจาก Samsung น่าจะเป็นผู้ผลิต Android เจ้าอื่นมากกว่า เช่น HTC, Sony
ที่ผมว่ามันไม่เหมือนกัน ก็เพราะส่วนใหญ่จะชมการออกแบบและวัสดุของ Apple แต่ด่าวัสดุของ Samsung เลยรู้สึกมาตลอดว่าใครๆ ก็คิดว่ามันไม่เหมือนกัน คนที่ใช้ Samsung ก็มักจะยอมแลกเรื่องวัสดุกับ OS และ Spec สงสัยว่า ถ้าจะลอกทั้งทีทำไมไม่ทำวัสดุให้เหมือนกันไปเลย
ว่าแต่ ทำไม Apple ไม่ไปฟ้องพวกมือถือจีนที่หน้าตาเหมือนเด๊ะๆ บ้างนะ แบบที่แบรนด์เสื้อผ้าดังๆ มาฟ้องตลาดนัดบ้านเรา
คุณ thanesk จบ PHD สาขาอะไรมาฮะ ทำงานอะไรฮะ เคยใช้ไอโฟนมากี่รุ่นแล้วฮะ ช่วยถ่ายรูปมือถือที่บ้านมาให้ดูหน่อยได้มั้ยฮะ ?
แข่งขัน เป็นวิธีการจัดประชันกัน ในการแสดงออกถึงความสามารถของแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่ม ตามเงื่อนไข กฎกติกาที่กำหนด
ทำสิ่งที่เหมือนกันแล้วมาแข่งจะทำทำไมครับ ไม่ใช่ขายผลไม้นะ
จริงๆการลอกก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันนะครับ มันมี4ระดับของการลอกสำหรับผู้ตาม
แต่ซัมซุงควรจะพ้นสถานะผู้ตามได้(นาน)แล้ว หรืออย่างน้อยๆก็ไม่ควรไปเอาดีไซน์เค้ามา....เป็นแรงบันดาลใจซะขนาดนี้
ลอกในขอบเขตที่ไม่ละเมิดก็โอฮะ แต่ถ้า ลอกจนละเมิดเค้า ก็ต้องว่าไปตามกฎหมายฮะ
เชื่อว่าเอนดรอยโฟนเจ้าอื่นๆก็คงเชียร์ให้ซัมซุงล่มจม ( เพราะทำผิดกติกา ) ที่เจ้าอื่นมีสำนีกพอที่จะไม่ทำฮะ ส่วนแบ่งจะได้เชลียร์กันไป
แปลว่า เหตุผลที่ samsung ขายดีเพราะหน้าตาเหมือน apple ?
ส่วนหนึ่งใช่ล่ะครับ
เคยเห็นที่เว็บแห่งหนึ่ง
I need healing.
อเมริกาคว่ำบาตรซัมซุง ตลกแล้วครับ Android ของ Google จากอเมริกานะครับ คนเมกาที่ไม่ชอบ Apple เองก็มีไม่ใช่น้อยนะครับ
แล้วสรุปซัมซุงของเกาหลีหรือของอเมริกาฮะ ? หลงประเด็นปล่าวฮะ เหอๆ
ซัมซุงเกาหลีครับ แต่ประเด็นหลักที่เป็นปัจจัยที่แอปเปิ้ลตัดสินใจฟ้องก็เพราะใช้ Android ครับ จำได้มั้ยว่าใครกันที่บอกว่าจะล้างผลาญ Android ด้วยเงินทั้งหมดที่มี
ถ้าตามที่บอก "จะล้างผลาญ Android ด้วยเงินทั้งหมด"
"ทำไมไม่ฟ้อง Google" หรือ "ทุกบริษัทที่ใช้ Android"
Apple ฟ้องบริษัท Android ไปทั่วหน้าแล้วครับ HTC ก็โดนครับ แม้แต่ Moto บริษัทลูกเองก็โดนครับ แล้วก็อีกหลายยี่ห้อ แต่ที่มาฟ้อง Samsung เยอะเพราะ Samsung ยอดขายเยอะ เยอะซะจน Job กลัวว่าดาวที่ชื่อ Apple จะพังทลายเลยต้องมาสกัดดาวรุ่ง สุดท้ายก็ทำเพื่อเงินทั้งนั้นแหละ ถ้าซัมซุงยอดขายน้อยกว่านี้ Apple ไม่มาฟ้องหรอก ไม่งั้นไปดูพวกมือถือจีน มีตั้งหลายอันที่เหมือนไอโฟนทุกประการเลย แต่os เป็น Android ทำไมไม่ไปฟ้องแบบนั้นละ?
+1
ไม่ใกล้ไม่ไกลข้ามไปฝั่งลาวซื้อมือถือสองพันกว่าเหมือนiphoneเด่ะ ดึงเสาอากาศจากเครื่องมาดูทีวีได้ด้วย
อาจเป็นเพราะไม่มีใครเอาไปขายในอเมริกา appleเลยไม่ฟ้องมั้งครับ
ส่วนนึงที่ฟ้อง samsung อาจจะเป็นเพราะ samsung เป็นหัวเรือของ Android ถ้าฟ้องแล้วชนะ อาจจะเหมือนเป็นการข่มขู่เจ้าอื่นไปด้วยในตัว
อีกอย่างคือ Samsung มีตังพอที่จะจ่ายค่าปรับแน่นอน(ในกรณีที่ apple ชนะ) ถ้าฟ้องแล้วเจ้าอื่นล้มหายตายจากไป ก็จะกลายเป็นการกีดกันทางการค้าไปอีกครับ
มาคิดกลับกันว่าทำไม Samsung ฟ้องแต่ Apple ในเรื่อง 3g แล้วเรียกเงินเป็น % เพราะ iPhone ขายแพงและทำกำไรมากกว่าเจ้าอื่นในตลาดพอสมควร Samsung ก็เห็นว่า Apple มีตังพอที่จะจ่ายเหมือนกัน ก็เลยเรียกเป็น %
สรุปคือ apple เรียกตามจำนวนเครืองที่ขาย เพราะสินค้าตระกูล galaxy มันมียอดขายรวมสูงกว่าไอโฟน
ในขณะที่ Samsung เรียกเป็น % เพราะไอโฟน ขายได้ราคาดีกว่า
สรุปว่าพอกัน...
ประเด็นหลักที่ฟ้องน่าจะเป็นเรื่องการออกแบบมากกว่านะครับ
ถึงยุคนี้แล้ว ธุรกิจเอาความเป็น "ชาติ" มาขายและเป็นเหตุผลในการชนะคดีคงแย่น่าดู
แต่คดีนี้กูเกิลไม่เกี่ยวเลยครับ
@TonsTweetings
ง่ายๆ มันพ้องเพื่อขัดขากันแค่เหนี่ย
แต่สาวกทั้งคู่จะฆ่ากันตายอยู่แล้ว
+1 สาวกบางคนก็เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเกินเหตุ เห็นแล้วขำ
ชิ้นส่วนอ่ะซื้อ แต่ดีไซน์ซซไม่ได้ซื้อนะ
ลอกแม้กระทั่งวิธีการแถ
มันจะฟ้องกันทำไม เหมือนเบนซ์ผลิตสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า(CAR) รถ 4 ล้อออกมา บีเอ็มห้ามผลิตรถ 4 ล้อเหรอ ในเมื่อชื่อมันก็บอกว่าเป็น (SMARTPHONE) ใช้โทรศัพท์เหมือนกันทำไมมันจะมี 4 ล้อเหมือนกันไม่ได้ เข้าใจกันไหม
ลอง toyota ทำรถออกมาเหมือน benz ดูสิครับถ้า 1 คนคิด 1 คนทำตามอย่างนี้มันก็ไม่มีพัฒนา ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิดถ้าถูกก็ว่าไปตามถูกและครับ
อเมริกาเป็นประเทศที่อาชีพทนายฐาณะดี เพราะความยุติธรรมเค้าถุกให้ความสำคัญมากฮะ
ของแบบนี้ในสายตาลิงเหลืองแบบเราๆ ดูแปลกฮะ แต่ลองไปอ่าน คดี Superman vs Captian marvel ดูสิฮะ จะได้รู้ว่าการฟ้องร้องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยแถมมีมาตั้งแต่รุ่นปู่แล้ว
รถยนตร์มันไม่ใช่ต้นไม้ต้นหญ้่่าที่งอกตามธรรมชาตินะฮะ [มันเป็นของที่คนทำขึ้น] สมาร์ทโฟนก็เช่นกัน
ถ้าเหมือนกัน 95% คุณจะอ้างว่า "มันต่างกันแค่ 5%" "มันคือสิ่งเดียวกัน" นี่หลงประเด็นมากเลยฮะ
เพราะ 95% ที่เหมือนกัน มันเกิดจาก [เจตนา ของมนุษย์ฮะ] ไม่ได้เกิดจากแดดจากดิน
และต้องถามนะฮะว่าการมี 4 ล้อคิดเป็นกี่ % ของรถยนตร์ทั้งคัน ?
นอกเรื่องนิด อย่าเรียกใครว่าลิงเลยครับ
มันมีเหตุผลอันควรว่าทำไมรถถึงควรมีสี่ล้อไงครับ แต่ที่ฟ้องกันก็เพราะฝ่ายที่ถูกกล่าวหาตอบเหตุผลนั้นไม่ได้
เหตุผลไหนครับ?
ลำดับเรื่องราวผมว่ากลับไปอ่านย้อนหลังเองดีกว่าไหมครับ ไม่งั้นเค้าจะเบี่ยงประเด็นมาสู้ด้วยเรื่องรูปทรงไอโฟนนั้นแอปเปิลไม่ใช่คนออกแบบแทนทำไม...
อ่าว ตอนแรก Apple ฟ้อง Samsung เพราะบอกว่า Samsung ลอกการออกแบบไม่ใช่เหรอครับ? งงว่า Samsung เบี่ยงประเด็นยังไงครับ?
Dream high, work hard.
แทนที่เค้าตอบมาคำถามที่ว่าลอกหรือไม่ลอก เค้าเปลี่ยนวิธีตอบไปสู้ด้วยประเด็นว่าแอปเปิลไม่ใช่คนดีไซน์แต่แรกแต่เป็นผลพวงจากรูปแบบที่มีอยู่ในตลาดแล้ว การจะคล้ายกันเลยไม่ผิด (เปลี่ยนขาว, ดำ ให้เป็นเทาซะก่อน) ส่วนลอกจากไอโฟนหรือไม่จำเป็นต้องตอบเพราะมันไม่ผิดและแอปเปิลก็ไม่ได้มีสิทธิ์มาฟ้อง
ผมเข้าใจว่าปัญหาคือเค้าไม่อยากให้คนอื่นทำรถ 4 ล้อเหมือนตัวเอง บอกว่าต้องทำ 3 ล้อ 6 ล้อ หรืออื่น ๆ เท่านั้นนะ
"การมี 4 ล้อ" คิดเป็นกี่ % ของการออกแบบ ฮะ การยกเรื่องมี 4 ล้อมาเกี่ยวกับ appeal ของสินค้าตรงนี้คนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิงฮะ
"มือถือที่มีกล้อง" ก็ไม่มีคนฟ้อง เพราะ "การมี 4 ล้อ" [จดสิทธิบัตร] "ไม่ได้" จึงไม่สามารถ "หาอะไรเขียนฟ้องศาลได้" (ศาลจริงๆนะฮะไม่ใช่ศาลเตี่ย)
ถ้าคุณสามารถ หาวิธีที่จะจดสิทธิบัตร "การมี 4 ล้อ" ให้สำนักงานสิทธิบัตร "ยอมรับจด" "คุณก็ฟ้องได้ฮะ" ไม่มีปัญหา ไม่มีใครกีดกันฮะ
หลายๆคนพยายามช่วย อธิบายยืดยาวมากๆแล้วฮะ ถึงจะไม่สามารถเข้าใจได้ก็ช่วยเสแสร้งทำเป็นรู้เรื่องกับเค้าบ้างก็ยังดีฮะ
จักรวาลในรูจมูกจริงๆ
ผมจะสนทนาเฉพาะกับคนที่มีวุฒิภาวะพอ เพราะไม่งั้นพิมพ์อะไรไปมันก็ไม่มีประโยชน์ ไว้โตแล้วมาสนทนากันใหม่แล้วกัน สวัสดีครับ
คือเขาผลิตสินค้าประเภท รถครับ(ระดับ supercar แล้วกัน)แล้วมันก็ต้องมี 4 ล้อตามหลักสากล เพียงแต่ว่า ประเด็นคือตัว Body รถเนี่ย มันต้องมีเอกลักษณ์ของแต่ละยี่ห้อไป ที่เขาฟ้องอะ คือเรื่องของ Body รถ ว่าอย่าให้มัน look&feel เหมือนกันมากนัก(ผมรู้ว่ามันแยกออกได้ ผู้บริโภคไม่โง่ แต่เวลาเรานึกถึง supercar สักคัน เราจะลักษณะแบบไหนยี่ห้ออะไร ผมว่าเขาอยากให้สินค้ามัน unique อยู่ใน mind เรามากว่า) เหตุผล 4 ล้อเนี่ย ผมว่ามันไม่ใช่นะ หรือตรรกะผมผิด
.....www
นี่คงจะเป็นดราม่าละครหลังข่าวแล้วสินะ เห็นออกข่าวแทบทุกวันเลย
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
คำพูดสวยหรู แต่เนื้อหาไม่มีอะไรเลย
ที่ไอโฟนมันบูมเพราะว่า user experience นิ เกี่ยวไรกะ cpu กะ flash mem ที่อยู่ข้างใน = = โอเคใช่ที่ว่าเค้าใช้ของคุณ แต่เพราะว่าของคุณถูก ไม่งั้นเค้าก็ไปสั่งของอีกเจ้าแล้วว เรื่องคิดค้นนวัตกรรมนี่ ทุกบริษัทก็คิดได้แหละครับ แต่คนที่นำเอามาใช้ได้จริงก็ควรยกย่องนะ ง่ายๆก็ก่อนไอโฟน จอสัมผัสก็ใช้แพร่หลายด้วยซ้ำ แต่แอปเปิลเอาลูกเล่นมาใส่ กลายเป็น user experience ไปเลย 555 จนลอกกันมัน
ถูก เทคนิกต่างๆคนที่หาวิธีเอามาไช้แล้วใด้รับความนิยมสมควรยกย่อง แต่ถ้าเค้าไม่ไช้คนที่สร้างเทคนิกดังกล่าวขึ้นมาเป็นคนแรกจริงๆ ก็ไม่มีสิทธแอบอ้างความเป็นเจ้าของ
เช่นเดียวกับ gui ที่เป็นของ xerox หรือเรื่องถ่างนิ้วแล้วรูปขยาย apple ไม่ใด้คิดเอง ถึงจะทำให้ใด้รับความนิยมแต่ก็ไม่มีสิทธแอบอ้างความเป็นเจ้าของ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
CPU Flash Mem DRAM ที่อยู่ข้างใน Apple เค้าก็ไป'ลอก'แนวทางของคนอื่นมาอีกทีครับ
ทำไม Apple ไม่ใช้ MIPS RDRAM HDD CDMA ?
หลายๆคนมองแต่สิ่งที่ตัวเองสำผัสได้(ไม่ผิด) แต่ความจริงมันมีมากกว่านั้นเยอะแยะ การทำมือถือเครื่องนึงมันไม่ได้มีแค่ slide to unlock กับกรอบนอกที่เป็น design ผมเห็นใครหลายๆคนบอกว่าการ design มีค่า แต่พวกนั้นกับทิ้งค่าของอย่างอื่นที่ไม่ใช่ design ไปซะงั้น
ว่าจะไม่โพสในสงครามครั้งนี้ละ - -"
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
Design คือสิ่งที่เป็น appeal ของสินค้าฮะ ในการจำหน่ายสินค้าหนึ่งชนิด จะต้องมีต้นทุนในการออกแบบ รวมถึงการทำแบรนด์ดิ้ง ต้นทุนโฆษณา ต้นทุนเวลาในการสร้างสินค้า การลอกเลียนภายนอก ก็คือการขโมย identity ที่บริษัทแรกได้ทำไว้แล้วฮะ
มันคือส่วนที่ contact กับผู้บริโภคโดยเป็น whole product ฮะ
CPU FLASH MEM DRM เค้าซื้อมาถูกต้อง ทำการค้าถูกต้อง และไม่มีใครจดสิทธิบัตรสูตรการผสม Cpu หมายเลขนี้ ร่วมกับ Flash นี่ห้อนี้โค้ดนี้ ร่วมกับ Mem ยี่ห้อนี้ รหัสนี้ ผสมกับ DRM ยี่ห้อนี้ รหัสนี้ ถ้ามีคนจด ก็สามารถมาฟ้องแอปเปิลได้แน่นอนฮะ
แต่ที่ฟ้องไม่ได้เพราะมันจดไม่ได้ไงฮะ เข้าใจมั้ยฮะ
สรุปว่าแค่ลอกอย่างผิดกฎหมาย กับลอกอย่างถูกกฎหมาย ใช่ไหมครับ?
ปล. จอ multitouch วัสดุทำกรอบก็ซื้อมาอย่างถูกต้องเหมือนกันครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
คำว่าลอกแบบตาสีตาสา ที่แค่เดินเข้าประตูศาลก็ฉี่ราด คนละภาษากับลอก ในทาง Intellectual property นะ ฮะ
ซื้อวัสดุทำกรอบมัลติทัชถุกต้อง แล้วยังไงต่อครับ อยากฟังต่อจัง ไม่เข้าใจเลย
นั่นสิครับ? ผมเองก็ไม่เข้าใจว่า intellectual property กับลอกทั่วไปมันต่างกันยังไง เพราะมันก็ลอกเหมือนกัน แค่อันนึงอาจจะมีกฎหมายมาห้าม อันนึงอาจจะไม่มี?
อย่างข้างบนมีคนพูดถึง FRAND โดยที่ใจความและสาระสำคัญของ FRAND ก็คือการ antitrust ทีนี้ Samsung ทำผิดเรื่อง antitrust หรือเปล่า? ถูกต้องครับและก็อาจโดนกฎหมายเล่นงาน แล้ว Apple หล่ะ? ผมว่า Apple ก็ทำผิดเรื่อง antitrust แต่ไม่โดนกฎหมายเล่นงานเท่านั้นเอง?
กฎหมายเป็นแค่กลไกทางสังคมรูปแบบหนึ่งครับ ไม่ใช่ทั้งหมด ไม่ได้ครอบคลุม และไม่ได้ดีเลิส perfect อะไร กฎหมายไม่ได้เขียนโดยพระเจ้าครับ เขียนโดยมนุษย์(ที่มีอำนาจ) กฎหมายมีกฎหมายที่ดีและไม่ดีได้ มีกฎหมายที่เหมาะสมกับกาลเวลาและไม่เหมาะสมกับกาลเวลาได้ ยิ่งโอกาสแก้กฎหมายที่ไม่ดีและไม่เหมาะสมนั้นทำได้ยากเนื่องจากเรื่องการเมืองและผลประโยชน์ ยิ่งทำให้มันห่างไกลคำว่า perfect ขึ้นไปอีก
คุณอาจเห็นผมเป็นพวกต่อต้านกฎหมายแต่ไม่ใช่หรอกครับ ผมเคารพการมีอยู่ของกฎหมาย แต่ผมก็ต้องมองถึงข้อดีข้อเสียของกฎหมาย เหมือนกับที่ผมเคารพการมีอยู่ของบรรทัดฐานทางสังคมอื่นๆ แต่ทุกอย่างก็มีข้อดีข้อเสียครับ
กรณีนี้ผมก็แค่ไม่อยากให้คำว่ากฎหมายมาบังตาของผม(cloud my judgement) เท่านั้นเองครับ เพราะเห็นหลายๆคนบอก Samsung ลอก(design) Samsung ผิดทุเรศเหี้ยๆไม่มีนวัตกรรมของตัวเอง แต่ก็คงลืมไปว่าที่ Apple สร้างมือถือมาได้ ก็เพราะนวัตกรรมที่พัฒนากันมาของบริษัทที่ถูก Apple ฟ้องนั่นแหละ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
CPU, DRAM เกี่ยวอะไรครับนั่น ถ้าเป็นแบบคุณพูดผมไปซื้อ CPU Core i7 กับชิ้นส่วนอื่นๆ มาประกอบเป็น PC ขาย คือผมลอก Intel หรือครับ ?
Intel มาฟ้องผมหน่อยนะ
ลอกครับ แต่ลอกในสิ่งที่เค้า'ต้องการ'ให้ลอกอยู่แล้ว และไม่ได้แข่งขันในเชิงธุรกิจ
ไหนๆก็พูดถึงเรื่อง CPU แล้ว อย่าง x86 ทำไมการที่ผู้ผลิตเค้าลอกกันไปมา(AMD, Intel) แต่ไม่มีคนมาบ่นว่าบริษัทนู้นลอกบริษัทนี้ กันเลยนะมีแต่คนบอกว่าดีหว่ะ หรือเป็นเพราะเค้าเห็นถึง'ประโยชน์ที่ผู้บริโภคและอุตสาหกรรมโดยรวมจะได้รับ'?
MMX, SSE, SSE2, SSE3, integrated memory controller, integrated BUS, x86_64, on-die embedded GPU, multi-core, VT
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
พิมพ์ยาวๆแล้วเหมือน หล่อฮะ
แต่ไม่ได้ทำให้ผมเบี่ยงความสนใจจาก " ซื้อจอมัลติทัชมาถูกต้อง" ที่คุณเขียนเลยนะฮะ :)
พอจะอธิบายสั้นๆ ได้มั้ยฮะ ว่าเกี่ยวกับเรื่องที่เราคุยกันยังไง ?
ระเบิดควันสะดวกดีฮะ ฟุ้งๆ เอ เมื่อกี้เราคุยอะไรกันอยู่นะ อิอิ
คุณบอกเองนี่ครับว่า CPU FLASH MEM DRM เค้าซื้อมาถูกต้อง ซึ่งมันเป็นชิ้นส่วน ผมก็สามารถบอกได้ใช่ไหมครับว่าจอ(ที่ multitouch) และวัสดุที่ใช้ผลิต(กรอบ) ซึ่งก็เป็นชิ้นส่วน ก็ซื้อมาถูกต้องเช่นกัน?
ผมไม่ได้ต้องการจะหล่อครับ ผมแค่มีใจความที่ผมจะสื่อถึง และต้องพูดยาวๆเพื่อให้คนเข้าถึงใจความนั้นได้ และมันก็เป็นเหตุผลที่ผมไม่อยากจะโพสในสงครามครั้งนี้ เพราะคงมีคนบางกลุ่มเปิดรับมัน และอีกหลายคนที่ไม่ยอมรับมัน
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
AMD ไม่ได้ลอก Intel ครับ แต่ขอซื้อสิทธิบัตรจาก Intel เพื่อมาใส่ในผลิตภัณฑ์ตัวเองครับ
หลังปี 2009 ใช้การ cross-license กันครับ สิทธิบัตรก่อนๆหน้าก็ใช้ cross license ของปี 2001 ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ถ้าใช้คำว่าลอกกับสิ่งที่ผมและคุณกล่าวมาก็ได้ครับ มามองกันที่ "ต้องการ" หรือ "ไม่ต้องการ" อย่างที่คุณกล่าวมาด้วย
x86, MMX, SSE หรืออะไรเทคโนโลยีเหล่านั้น ก็เป็นการลอกที่ "ต้องการ" เช่นกันครับ เพราะมีการจ่ายและตกลงให้สามารถ
ใช้สิ่งเหล่านั้นกันไว้แล้วครับ ถึงจะมาใช้กันได้ ไม่ใช้จะมาใช้กันได้ฟรีๆ แต่ถ้ามีการลอกการออกแบบภายใน CPU อันนั้นก็
มีฟ้องกันแน่นอนครับ เพราะสิ่งที่ต่างกันคือการออกแบบภายในนี่ล่ะครับครับ เช่น Intel CPU มีเพียง 4 Core ก็เร็วกว่า
AMD CPU ที่มีถึง 6 Core ได้ ทั้งๆ ที่เป็น x86 เหมือนกัน มี MMX, SSE ทั้งหลายแหล่เหมือนกัน
Samsung โดนฟ้องเพราะถูกกล่าวหาว่าลอกสิ่งที่ "ไม่ต้อการ" ให้ลอกไงครับ
ถ้าพูดถึงเรื่องต้องการ ไม่ต้องการ ผมว่าบริษัทอื่นๆก็คงไม่ต้องการให้บริษัทใดบริษัทหนึ่งลอกการใช้หน้าจอ การใช้หน้าจอมีสี 3G การ'เลือก'ใช้อุปกรณ์ภายในอยู่ดีหน่ะครับ เพียงแต่มันไม่ผิด'กฎหมาย' ซึ่งเรื่องนี้ผมพูดไปแล้วและคิดว่าใจความของผมครบถ้วนแล้วและคงไม่ตอบอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เพราะตอบไปก็เข้าใจความเดิมอยู่ดี ขอโทษด้วยครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมอยากรู้ว่าในกรณีนี้ Apple ไปลอกใครมาอย่างไรครับ ? ผมอ่านที่คุณตอบคนอื่นที่มา reply comment นี้จนหมดแล้วผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ถ้าเป็นไปได้ขอคำอธิบายเพิ่มพร้อมหลักฐานด้วยครับ
ส่วนตัวผมว่าคุณสับสนระหว่างการลอก design รูปลักษณ์ อัตตา identity image กับการประดิษฐ์คิดค้นทางวิศวกรรม (ซึ่งมีคุณค่าเหมือนกัน) ถ้าคุณบอกว่าการที่ Apple มี CPU, Flash Memory, DRAM แปลว่า "ลอก" แล้วคุณจะคาดหวังให้ผลิต smartphone ด้วยอะไรหรือครับ ? ให้ผลิต computer ที่ไม่มี CPU ? ผมว่าเหตุผลคุณมันตลกนะ มันเหมือนคุณบอกว่าให้เขาผลิตรถยนต์โดยที่ไม่มี "เครื่องยนต์"
หากคุณจะบอกว่า Apple ลอกการออกแบบภายในมากจากคนอื่นคุณควรแงะแผงวงจรออกมาดูเลยว่าเลียนแบบการจัดวางตำแหน่งของชิ้นส่วนต่าง ๆ เลียนแบบใครหรือไม่ นับจำนวน IC ด้วยเลยว่าเท่ากันหรือไม่ และต้องอย่าลืมดูด้วยว่าใช้สถาปัตยกรรมเดียวกันหรือไม่ CPU ลอกของใครมาโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ ไม่ใช่มาบอกว่ามันมี CPU, Flash Memory แปลว่าลอกคนอื่นมา
ถ้ามีคนหนึ่งแต่งตัวแต่งหน้าทำผมเลียนแบบดารา คุณจะบอกได้ไหมว่าเขาเลียนแบบดาราคนนั้นคนนี้แบบเฉพาะเจาะจง หรือคุณจะเหมารวมบอกว่าทุกคนที่เดินตามท้องถนนเลียนแบบดาราหมดเพราะใส่เสื้อ ใส่กางเกง ใส่กระโปรง ใส่กางเกงใน แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง ทำผมด้วยเจลมูสแว๊กซ์เหมือนกันแม้ว่าจะทำคนละแบบก็ตาม ? ถ้าไม่อยากเลียนแบบต้องไปแก้ผ้านุ่งผ้าเตี่ยวนุ่งโจงกระเบน ? หรือถ้าไม่อยากเลียนแบบต้องเอากระโปรงมาใส่บนหัว เอากางเกงในใส่แขน เอาเข็มขัดมารัดเป้า ?
That is the way things are.
ส่วนตัวผมมองว่าบางคนพูดเอาหล่อนะฮะ เริ่มก็ลอยๆมาก่อนกะจะเอาเรื่องมัลติทัช ฮาร์ดแวร์ ไปมั่วนิ่ม ที่ Apple ฟ้องซัมซุงเรื่องมัลติทัช รู้ตัวว่า ไอย๋าพลาดซะแล้วเรา ผิดๆ ก็ "ระเบิดควัน " โลดฮะเบนความสนใจไปประเด็นฟุ้งซ่านๆ ให้คนไปตามเถียงเรื่องฟุ้งๆต่ออีก ต่ออายุไปได้หน่อย ก่อนจะเนียน ฟี้ววววหนีไป
โดนซักไซ้ประเด็น ก็แก้ตัวทีหลังได้นะฮะว่าไม่ได้หมายความแบบนั้นร้อก อิอิ ไงๆคนก็ลืมๆไปแล้ว ก็เล่น "กราดประเด็นหลอกล่อมาสิบประเด็น" นี่ฮะ เอาสาระอะไรกับประเด็นหลอกล่อไม่ได้หรอกฮะ เพราะมันยิงมาเพื่อให้คุณลืมประเด็นแรกสุดฮะ
ถ้าเจอคนที่คุยเพื่อตัวเองดูดี ก็อย่าไปตอบเค้าเลยฮะ เหอๆ คนพวกนี้ห่างไกลกับสังคมวิชาการเยอะฮะ
สงสัย เห็นว่าคุยแล้วดู เท่เลยอยากเท่มั่งฮะ
จริงๆน่าจะดูหน่อยนะฮะว่าคนเค้าคุยกันดูเท่ๆน่ะเค้าคุยกันเพื่อข้อสรุป นะฮะไม่ได้เล่น งิ้วเล่นลิเกกันนะ
ผมเห็นด้วยว่าหลายคนสับสน ระหว่างคำว่า "ลอกเลียนแบบ" กับ "การออกแบบ"
สิทธิบัตรการประดิษฐ์ สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ความลับทางการค้า
บางคนอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ เพราะอาศัยความคิดตัวเองมากกว่ารายละเอียดทาง
กฎหมายและกฎระเบียบทางการค้า ทั้งในสหรัฐและระหว่างประเทศ
ไม่เข้าใจว่า Hardware กับ Software มันแยกออกจากกันอย่างไร
และมันถูกรวมกันเพื่อ สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานให้กับมนุษย์ได้อย่างไร
อ่านแล้วเหมือนเด็กอนุบาลทะเลาะกัน
Coder | Designer | Thinker | Blogger
“การลอกนั้นง่ายกว่าการคิดค้นเองหลายเท่านัก” - Apple
“ซัมซุงไม่ได้มีนิสัยชอบฟ้องร้องคู่ค้าในธุรกิจแบบแอปเปิล” - Samsung
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ทะเลาะกันซะนะ Microsoft เข้าวินอีกตามเคย
Microsoft ไม่ต้องทะเลาะกับใครก็ตายด้วยตัวเองได้ครับ #Metro
@TonsTweetings
คุณไม่ชอบเขาก็ขายคนที่ชอบได้ครับ(อย่างผมเป็นต้น) จะพูดว่าตายทั้งยังไม่ทันเกิดมันดูจะเร็วไปนะ(ในwin8)
ปล.ส่วนตัวผมก็ชอบMetroนะเพราะมันเรียบแล้วกดง่ายกว่าเยอะ(นิ้วใหญ่)
อ้ายย ถูกใจ 55
ส่วนแบ่งไตรมาสล่าสุดยังร่วงอยู่ครับ ไม่หยุดร่วงมาเป็นปีแล้ว :/
lewcpe.com, @wasonliw
ปีนึงซัมซุงออกมือเป็นร้อยรุ่นถ้าจะมีบางรุ่นที่หน้าตาไปเหมือนบ้างมันจะเป็นไร ถ้าลอกมันต้องแบบ Mac ที่ทำ GUI ออกมาแรกๆ ไม่ใช่สินั่นคงเรียกลอกไม่ได้ ต้องเรียกว่า"ขโมย"
ไม่ได้ลอกเหรอครับ เอ่อแล้ว UI ที่ครอบมาเนี่ยจะว่างาย
SS : ออกแบบเสร็จแล้วววว....
A : อ่าว ทำไมเหมือนของผมเลยละ
SS : เหมือนที่ไหน เราคิดเองเลยนะ
A : เค้าจะฟ้องครู
สิ่งที่สมบูรณ์แบบนั้นถึงเรียกว่า "นวัตกรรม" จริงตีความได้ง่ายมาก ยังไม่รู้ว่าใครผิดถูกหรอกนะ แต่สำหรับ SS ผมคิดว่านี่คือข้อแก้ตัวหรือทวงบุญคุณ และ อยากจะบอกว่า ไม่ใช่ว่าทุกอย่างของเกาหลี นั้นดีทุกอย่างนะคราบ บางอย่างก็ลอกเค้ามา อย่างเช่นมวยไทยเป็นต้น
ผมว่าคนอ่านข่าวรู้อยู่แก่ใจว่าเลียนแบบหรือไม่เลียนแบบ แต่ก็พยายามหาเหตุผลมาเข้าข้างฝ่ายที่ตัวเองชอบอยู่ดี
เคยเห็นโค้กลิตรในโลตัสมั้ย ข้างๆ กันจะมีน้ำอัดลมสีดำมองผ่านๆ คิดว่าเป็นโค้ก แต่พอไปดูที่ฉลาก กลับกลายเป็นของโลตัส รู้สึกอย่างไรกันกับน้ำอัดลมที่ทำแบบนี้?
เคยเห็นมือถือยี่ห้อ TWZ มั้ย หน้าตาคล้ายๆ BB แต่ดูทีวีได้ รู้สึกอย่างไรกันมือถือยี่ห้อนี้?
จริงๆ ผมไม่ได้มีมือถือของสองค่ายนี้ แต่ใช่แค่โทรได้รับได้ ไม่ได้มีไรมากเลย
แต่คนที่ซื้อ บางทีผมไม่เข้าใจ ผมไม่เข้าใจคนซื้อมากกว่า ??? ซื้อแพงแต่ใช้ทำไรบ้าง
หรือซื้อ เพื่อความเท่ห์ wow ประเทศไทย
ซื้อโชว์ก็คงมีกันบ้างครับ แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่คือซื้อเพราะใช้งาน เพื่อความบันเทิง แล้วก็คิดว่ามันคุ้มกับตัวเองครับ (ยกเว้นว่าจะโดนพนักงานเป่าหูให้ซื้อรุ่นที่แพงขึ้นแต่ใช้ไม่คุ้มล่ะนะ)
Dream high, work hard.
คุณมีเครื่องไหน ใช่ทำงานอะไรครับ? เอาโทรศัพท์มาทำงาน คุ้มกับค่าครองชีพบ้านเราไหม หรือในไทยไม่มีขายของราคาโอเค แต่ใช้งานได้ หากมีสินค้าที่ทำงานได้แต่แบรนไทย จะซื้อมั้ยคับ หรือตามกระแส
ถ้าพิจารณาจาก 4P คนที่ซื้อโทรศัพท์แพงๆ เพราะเขาพอใจใน Product มากกว่าอย่างอื่น ส่วนคนที่ซื้อเพราะความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เพราะเขาใช้ Price เป็นตัวตัดสิน และฐานะหน้าที่การงานก็เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ตัดสินใจง่ายหรือยากขึ้น ลองนึกถึงการเลือกซื้อรถยนต์ บ้าน คอนโด ไวน์
อย่างผมนะ ไม่ได้รวย แต่ไม่คิดว่าซื้อมาแล้วคนจะมองว่ารวย แต่คงมีแหละ haha
ถ้าผมเคยแต่กินไวน์แพงๆ แต่มาเจอไวน์ถูกกว่า แต่อร่อยกว่า ผมคงเลิกไวน์แพงๆ haha (จิบทั้งวัน)
ประเดน ด้านบนผมคิดว่า ค่าคริงชีพบ้านเรามันต่างกะเขา ถ้าซื้อมาใช้ไม่คุ้ม แต่ดันซื้อแสดงว่ามีเหตุผลไร้สาระมากกว่า ผมยกตัวอย่าง พอผมรู้ว่าคนที่จ้างผมใช้ กาแลกซี่ 3 ไวโอ้โน้ตบุ๊ค ทำให้ผมสามารถขึ้นค่าแรงได้ ทั้งที่ ถ้าผมใช้จะเป็นประโยชน์มากกว่าอีก haha แต่ผมคิดว่าคนจีนต่างจากเรานะ ผมว่าเขาใช้คุ้มค่ากว่า (คิดว่านะ)
ถามมาผมก็ตอบครับ
ตอนนี้อุปกรณ์ Mobile ที่ใช้มี 2 ตัวครับ
HTC Sensation XE ซื้อมาเพราะอยากฟังเพลงด้วยหูฟัง Beats ที่เค้า "ว่ากันว่า" มันดีกว่าหูฟังทั่วไป ตอนนั้นที่ซื้อถือว่าเป็นสเปคสูงสุดของยี่ห้อนี้เลยก็ว่าได้ (One series ยังไม่ขาย) เอามาเล่นเกมบ้าง ดูหนังบ้าง ทำงานเล็กๆ น้อยๆ พวกเช็คเมลล์ แก้เอกสารแบบด่วนจี๋ แล้วก็แชทกับเพื่อนๆ ครับ
Apple iPad2 ซื้อก่อน Sensation เอามาพกแทน Laptop โดยเฉพาะ เพราะมันเบา ใช้ง่าย ส่วนใหญ่งานที่พิมพ์นอกสถานที่จะพิมพ์จากใน iPad เสมอ เขียนโปรแกรมบ้าง(ถึงจะคอมไพล์ไม่ได้ก็เถอะ) อ่านเว็บกับเช็คเมลล์เป็นประจำ ฟังเพลงบ้าง ดูหนังน้อยครั้ง ปัจจุบันมี Keyboard Cover ใช้งานสะดวกขึ้นอีกเยอะ
อันนี้ผมว่าควรจะถามว่า "คุ้มกับค่าครองชีพของแต่ละคนไหม" มากกว่านะครับ เพราะค่าครองชีพแต่ละคนคงไม่เท่ากัน และแน่นอนว่ารายได้ของแต่ละคน อำนาจการซื้อแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน แต่สิ่งที่ผมซื้อมา ผมคิดแล้วคิดอีกหลายรอบอยู่เหมือนกันกว่าจะซื้อแต่ละครั้ง จนกว่าจะมั่นใจว่า เจ้านี่แหละที่จะซื้อ
อ้อ อีกอย่างนึงคือ แต่ละคนที่ซื้อมา ใช้คุ้มเม็ดเงินที่ซื้อหรือเปล่า อันนี้ก็คงจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของแต่ละคนเช่นกันครับ
ถ้าแบรนด์ไทยมันเวิร์คจนเข้าตาและเป็นตัวเลือกให้ผมได้ ผมซื้อครับ!!
ถ้าซื้อตามกระแส ผมคงเปลี่ยน iPad2 เป็น the new (ที่กำลังจะไม่ new) กับซื้อ iPhone หรือไม่ก็ SSGS 2 แทนเจ้า Sensation ไปแล้วล่ะครับ เพราะฉนั้นคำตอบคือ...
Dream high, work hard.
ตอบสั้นๆละกัน
ถ้าสินค้าแบรนด์ไทยประสิทธิภาพเท่ากัน แล้วไม่หมดเม็ดปิด source code จนแก้อะไรไม่ได้ ผมซื้อครับ และคิดว่ามีคนแถวนี้อีกไม่น้อยที่ซื้อด้วยเหตุผลเดียวกับผม
ถ้าได้ลองใช้จริงจะรู้ครับว่าเอาแค่ประสิทธิภาพเท่ากันนี่ก็ไม่มีแล้ว
ยิ่งฟ้อง ยิ่งดัง ยิ่งขายดี ทั้งสองค่ายเลย อิอิ
เจ้าอื่นไม่เห็นมีประเด็นถึงขนาดนี้
twitter.com/djnoly
ยังไงเค้าก็รวยทั้งคู่อยู่ดี มีแต่เสียเงินให้ต่างประเทศอะบ้านเราจะไปเถียงแทนเค้าทำไม๊ ใช้ๆไปเห้อ
งี้ให้มนุษย์หินฟินสโตน ฟ้องบริษัทรถยนต์ที่ทำ4ล้อไปเลยสิ 555+ ขำๆ
ที่ไม่ฟ้องอาจจะเป็นเพราะสมัยนั้นยังไม่มีที่รับจดสิทธิบัตร
หรือไม่กระดาษก็ย่อยสลายไปหมดแล้วก็เป็นได้
Dream high, work hard.
คำว่า นวัตกรรม มันกำหนดขอบเขตมันยากพอสมควรเลยครับ เพราะแต่ละคนก็มีพื้นฐานทางความคิด และพฤติกรรมการใช้งาน ต่างกันมากๆ บางทีแค่การอัพเกรด CPU RAM กระจุ้กกระจิ้ก ก็ถือเป็นนวัตกรรมแล้ว ทีนี้เราต้องมาดูที่รูปคดีแล้วล่ะว่า ด้วยหลักจรรยาบรรเนี่ย มุมมองของศาล หรือแต่ละคน จะเห็นเป็นยังไง ผมมองว่า ผู้ริเริ่ม นวัตกรรม ในเรื่องมือถือ smartphone ทัชสกรีนด้วยนิ้วมือ ก็คือ apple และ design สี่เหลี่ยมที่มีจอเป็นหลักในการ control (ด้วยนิ้ว) ว่องไวและสะดวกขนาดนี้ ก็คือ apple... ใครจะบอกว่า อ้าว จอทัช หรือ design ทรงสี่เหลี่ยม มันก็มีมาก่อนแล้ว อันนั้นถูกครับ แต่เราต้องดูพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วยครับ, ทัชสกรีนของ apple เมื่อเอามารวมผนวกกับ software ที่มีประสิทธิภาพ มันเลยเกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งก็คือทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงนั่นเองครับ (ซึ่งถ้าจะกล่าวถึง นวัตกรรม ในระดับกระจุ้กกระจิ้ก มันก็มีให้เห็นตลอดโดยทั่วไป เช่น กล้อง 8 ==> 12 mega pixel ก็ถือเป็นนวัตกรรมเหมือนกัน)
ทีนี้ ในเมื่อคำว่า นวัตกรรม มันมีหลากหลายมุมมอง หลากหลายความคิด หลากหลาย level, คนเราก็เลยมีความคิดว่า คนนี้เป็นผู้นำนวัตกรรม คนนี้ลอก คนนี้ไม่ลอก ต่างกันออกไป เราเลยต้องมาคิดถึงรายละเอียดปลีกย่อย เอาสถานการมีวิเคราะห์ เอาปัจจัยอื่นหลายๆด้าน เช่น ระยะเวลา, ผู้บริโภค, พฤติกรรมการใช้งาน มาร่วมกันวิเคราะห์ด้วย
ส่วนตัวเชื่อว่า การตัดสินฟันธงว่า ลอกหรือไม่ลอกนั้น ยากมากครับ เพราะก็มีบางแนวคิดที่มองได้ว่าไม่ลอก ในมุมของมันและวิคราะแบบมีเหตุผล, อีกทั้งยังมีมุมมองว่าลอก เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคออกมาคล้ายกันมากเกินไป เป็นต้น
ผมว่า ต้องเอาปัจจัยละเอียดยิบมาตัดสินแล้วล่ะครับ ขนาดศาลของแต่ละประเทศ คำตัดสินยังออกมาไม่เหมือนกันเลยครับ นับประสาอะไรกับการฟ้องแบบนี้ ที่มีเรื่องกระจุ้กกระจิ้กเป็นตัวร่วม
ยกตัวอย่างเล็กๆนิดหน่อยคือ การค้นพบ ไมโครโฟนมีสาย(หรือไร้สายก็ได้) ไว้ขยายเสียงออกทางลำโพง ปัจจุบันขายออกมาหลายยี่ห้อมาก แถมรูปร่างเหมือนแทบจะถอดแกะ ถามว่าลอกเลียนไหม ความคิดเห็นผมนะครับ ถ้ามองในมุมมองสมัยก่อนตอนที่เพิ่งมีอุปกรณ์ชิ้นนี้ ผมมองว่าลอกครับ แต่ถ้ามองมุมมองสมัยนี้ ไม่ลอกครับ ถามว่าทำไม? ก็ดูแนวคิด และพฤติกรรมผู้บริโภคมาเกี่ยวด้วยไงครับ สมัยนี้จะซื้อไมค์ตัวนึง ก็ซื้อที่มัน ทนๆ ใข้งานได้นานๆ ไม่พังง่าย แทนครับ แนวคิดเปลี่ยนครับ ความนิยมขยายวงกว้างแล้วครับ คนรู้จักและใช้มันมาจนมันถือว่าไม่ใช่นวัตกรรมใหม่แล้วครับ ดังนั้น ถ้าฟ้องเรื่องพวกนี้ สมัยนี้ผมว่าศาลส่วนมาก (อาจไม่ทั้งหมด) คงตัดสินว่าไม่ลอกเลียนแบบครับ
ผมไม่รู้ว่า ตัวอย่างผมมันมี defect ไหม แต่ก็พอจะทำให้ผมได้ถ่ายทอดความคิดผมได้บ้าง จริงๆแล้วมีอีกมากเลยครับ เช่น notebook เอาที่พฤติกรรมก่อนนะครับ ใครเป็นคนคิด design สี่เหลี่ยม กางฝาพับออกมา มีคีบอด มีทัชแพช อย่างนี้ไม่ถือว่าลอกเหรอครับ เพราะผมก็เห็น notebook design คล้ายกันออกจะเยอะแยะไป...แต่เพราะมันเป็น common แล้วครับสมัยนี้ ไม่ใช่นวัตกรรมใหม่อะไร
เอาเป็นว่า ผมมองว่า ลอกหรือไม่ลอก ขึ้นอยูู่กับหลายปัจจัยมากครับ ยุคสมัย, พฤติกรรม, มุมมอง, สังคม, แวดล้อม เอามารวมกันแล้วก็ขึ้นอยู่กับศาลแล้วครับ ว่าแต่ละที่เขามีการสรุปเน้นที่ปัจจัยไหนบ้าง คำตัดสินก็อาจจะต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ เพราะมีค่านิยม แนวคิด สังคม ต่างกันออกไป
การทำอะไรที่ไม่เหมือนตลาด ณ ขณะนั้น คือการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ถ้าไม่สำเร็จก็เสียเงินฟรี ถ้าสำเร็จก็ได้เงินมากมายเพราะยังไม่มีคู่แข่ง เฉลี่ยแล้วมันก็กำไรระดับหนึ่ง คนตามไม่ต้องลองตลาดความเสี่ยงต่ำกว่าเพราะค่อนข้างชัวร์ว่าตลาดมี จึงเกิดระบบสิทธิบัตร เพื่อเพิ่มความได้เปรียบให้คนที่ต้องเสี่ยง
กรณีนี้คิดดูว่าถ้าออกมือถือ multi touch เพิ่มความสามารถนู่นนี่ ปรับ UI วิธีการใช้งาน ซึ่งต่างจาก smart phone ให้ตลาดตอนนั้นจริงๆ เกิดมันไม่สำเร็จ ก็คือแอปเปิลขาดทุน เจ้าอื่นเห็นจะมาร่วมขาดทุนด้วยมั้ย แต่มันสำเร็จ ทุกเจ้าก็กระโดดตาม แต่แบบ samsung มันตามแบบน่าเกลียดไปมั้ย ถ้าทำแบบนี้ได้ต่อไปใครจะอยากลงทุนอะไรใหม่ๆ รอกระโดดตามคนอื่นดีกว่า ปลอดภัย ตามเฉพาะอันที่กำไร ลดต้นทุนค่า R&D ค่าวิจัยตลาด ลองตลาดได้มากเลย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
อ้างกันอย่างนี้ พอจะเรียกตรรกะวิบัติได้รึเปล่าเนี่ย เฮ้อ ปวดเฮดกับแซมซังเหลือคณา
โอ้ย คุยอะไรกันเยอะแยะ!! (มาเป็นพักๆนะ topic ที่คุยกันยาวๆแบบนี้)
ใครจะลอกใครก็เอาเถอะ ผมแค่เลือกสิ่งที่ดีที้สุด วันนี้ผมเลือก s3 แทนที่ ip4s ในอนาคตก็ต้องรอดู
ผมชอบตอนที่สาวก Apple ดิ้น มากเลย
ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่า พวกเขามีหุ้นอยู่ในนั้น XD