Blognone ลงข่าวเกี่ยวกับคดีนี้ไปเยอะมากๆ แล้ว (ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมเขียนด้วย) รายละเอียดย้อนกลับไปอ่านกันเองในข่าวเก่านะครับ
บทความนี้จะเน้นไปที่ผลกระทบถัดจากนี้ต่อทั้งสองบริษัท และวงการไอทีในภาพรวมครับ เนื่องจากประเด็นมีเยอะ ผมจะใช้วิธีเขียนแบบ bullet เพื่อไม่ให้ประเด็นตีกัน
กระบวนการของคดี
- ถ้าวัดกันตามกระบวนการจริงๆ คดียังไม่จบ ความคืบหน้าล่าสุดขณะที่เขียนเป็นการลงมติของคณะลูกขุน (ตามกระบวนการยุติธรรมของสหรัฐ) หลังจากนี้ไปจะยังมีขั้นตอนของศาล-ผู้พิพากษาที่จะพิจารณามติของคณะลูกขุนอีกทีหนึ่ง และถ้าศาลมีความเห็นตามคณะลูกขุน ก็มีประเด็นเรื่องค่าเสียหายและการบังคับคดีที่ต้องพิจารณาอีกด้วย (ศาลนัดช่วงปลายเดือนกันยายน ระหว่างนี้ก็สงบศึกรอไปก่อนเดือนนึง)
- ซัมซุงยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ และตามข่าวที่ออกมาซัมซุงก็แสดงตัวชัดเจนว่าเตรียมยื่นอุทธรณ์ (BBC) ดังนั้นคดีจะลากยาวออกไปอีก (ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อซัมซุงมากกว่าแอปเปิล)
การตัดสินของคณะลูกขุน
อันนี้เป็นความเห็นของผมเอง ซึ่งคงไม่ตรงกับหลายคนและก็คงตรงกับบางคน
- ถ้าถามว่าซัมซุงลอกแอปเปิลหรือเปล่า คำตอบของผมคือ "ลอก" ชัดเจนแน่นอน พูดได้เต็มปากว่าลอก ดังนั้นซัมซุงแพ้ไม่น่าแปลกใจ
- แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือสิทธิบัตรที่ซัมซุงฟ้องกลับแอปเปิล ลูกขุนกลับตัดสินว่าแอปเปิลไม่ละเมิดทั้งหมด ซึ่งต่างไปจากกรณีของเกาหลีใต้อยู่มาก ผมยังไม่ได้อ่านรายละเอียดของเอกสารจากคณะลูกขุน ยังวิจารณ์ไม่ได้ว่าปัจจัยหรือเหตุผลของคำตัดสินคืออะไร
ผลกระทบต่อซัมซุง
- ต่อให้ศาลตัดสินว่าซัมซุงแพ้คดี มันอาจมีผลกระทบในเชิงลบต่อซัมซุงไม่เยอะอย่างที่คิด (ถ้าไม่นับเรื่องเสียหน้า-ภาพลักษณ์) เพราะค่าเสียหาย 1 พันล้านดอลลาร์ ถือว่าจิ๊บมากสำหรับบริษัทอย่างซัมซุงที่มีกำไร 18.3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี (ตัวเลขของปี 2011)
- ส่วนการสั่ง "ห้ามขายมือถือของซัมซุงในสหรัฐ" (ถ้าศาลสั่งบังคับคดีแบบนี้) ก็ไม่มีผลอะไรมากนัก เพราะช่องว่างของกระบวนการกฎหมายที่ล่าช้า ไล่ไม่ทันรอบของการออกรุ่นมือถือที่เร็วกว่ามาก แถมกรณีของซัมซุงคนแถวนี้คงรู้อยู่แล้วว่าซอยรุ่นย่อย ออกรุ่นอัพเกรดบ่อยแค่ไหน (ซึ่งในแง่ผลิตภัณฑ์คือคนละตัวกัน) ต่อให้ตัวเก่าถูกสั่งห้ามขาย ผมเชื่อว่าบางทีคำสั่งศาลยังไม่ออก เราก็เห็นรุ่นใหม่ออกมาแล้วด้วยซ้ำ
- ในระยะหลังๆ เราเริ่มเห็นซัมซุงฉีกแนวทางการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ต่างไปจากแอปเปิลมากขึ้น (ซึ่งต่างไปจากสถานการณ์ในปี 2010 มาก) เมื่อบวกกับผลของคดีนี้จะทำให้ซัมซุงมีความเสี่ยงจะโดนฟ้องในลักษณะเดียวกันน้อยลง
- ส่วนที่กระทบจริงๆ คงเป็นสิทธิบัตรบางตัวที่ครอบคลุมการทำงานของซอฟต์แวร์ ซึ่งตรงนี้มันมีวิธีเลี่ยงเยอะ เช่น ถอดฟีเจอร์นั้นๆ ออกไปก่อน (HTC ใช้วิธีนี้) แล้วเพิ่มกลับเข้ามาแบบเงียบๆ ผ่านแอพหรือเลี่ยงไปใช้วิธีอื่นที่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว
ผลกระทบต่อแอปเปิล
- เอาเข้าจริงแล้ว นอกจาก "ชัยชนะ" แอปเปิลแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรจากคดีนี้มากนัก
- เงิน 1 พันล้านดอลลาร์ ก็ถือว่าจิ๊บมากสำหรับบริษัทที่มีกำไร 26 พันล้านดอลลาร์แบบแอปเปิล (ตัวเลขปี 2011)
- เป้าหมายหลักของแอปเปิลคือสกัดความร้อนแรงของซัมซุงในตลาดสมาร์ทโฟน (ที่แซงเป็นเบอร์หนึ่งของโลกไปหลายไตรมาสแล้ว) ซึ่งคดีนี้คงช่วยให้ซัมซุงสะดุดเล็กๆ ในอเมริกาเท่านั้น โลกมือถือยังมีตลาดอื่นๆ อีกมาก และอย่างที่เขียนไปแล้วว่าแบรนด์ซัมซุงติดตลาดไปแล้ว เมื่อซัมซุงออกมือถือรุ่นใหม่ๆ มาอีก มันก็ยังขายดีอยู่ ผู้บริโภคไม่ได้เลิกซื้อมือถือซัมซุงเพราะแพ้คดีสักหน่อย
ผลกระทบต่อวงการสมาร์ทโฟน
- อย่าลืมว่าคดีนี้เกิดขึ้นในสหรัฐ ครอบคลุมเฉพาะมือถือที่วางขายในสหรัฐเท่านั้น
- ตัวระบบปฏิบัติการ Android อาจต้องปรับเปลี่ยนฟีเจอร์บางอันที่อยู่ในสิทธิบัตรออก โดยหลักแล้วคงเป็นเรื่อง UI ซึ่งผมคิดว่าในทางปฏิบัติมีวิธีเลี่ยงได้เยอะ และแน่นอนว่าไม่กระทบกับเวอร์ชัน international แต่อย่างใด (เราจะเห็นการแยกรุ่นสินค้าเวอร์ชันสหรัฐ-นอกสหรัฐมากขึ้นเรื่อยๆ จากคดีนี้)
- ผู้ผลิตมือถือ Android บางรายอาจยอมจ่ายเงินค่าใช้งานสิทธิบัตรให้กับแอปเปิลบ้าง เพื่อป้องกันปัญหาถูกฟ้องร้อง
- แต่สิ่งที่น่าจะเกิดมากกว่าคือ การจับมือผนึกกำลังระหว่างผู้ผลิตมือถือ Android แล้วฟ้องแอปเปิลด้วยสิทธิบัตรที่มีอยู่ในมือ เหมือนกับที่กูเกิลสั่งโมโตโรลาฟ้องแอปเปิลไปแล้ว และเป็นไปได้เหมือนกันว่าเราอาจได้เห็นกูเกิลฟ้องแอปเปิลตรงๆ หรือกลับทิศกันก็ได้
- โลกสมาร์ทโฟนจะอยู่ภายใต้ "สงครามนิวเคลียร์" อย่างที่สตีฟ จ็อบส์พูดเอาไว้
- ผมไม่เห็นด้วยกับความเห็นว่า Windows Phone ได้ประโยชน์จากคดีนี้ เพราะผู้ผลิตมือถืออาจหันมาทำ Windows Phone เพิ่มขึ้นบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่อย่างที่เขียนไปแล้วว่าตลาดไม่สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว สุดท้ายมันขึ้นกับไมโครซอฟท์เองมากกว่าว่าจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดได้มากน้อยแค่ไหน
สรุป
- แอปเปิลชนะคดี แต่หยุด Android ไม่ได้อย่างที่หวัง อาจเรียกว่าแทบไม่กระทบเลยด้วยซ้ำ (ออก iPad Mini มายังมีผลมากกว่ามาก)
- ซัมซุงจะใช้วิธีซื้อเวลาไปเรื่อยๆ ผ่านการอุทธรณ์ เพื่อลดผลกระทบจากการบังคับคดีต่อผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน
- ถ้าให้สรุปภาพรวมของคดี คงต้องใช้คำว่า "แอปเปิลชนะอย่างถูกต้อง บนระบบสิทธิบัตรที่ผิดเพี้ยน" คือในแง่กฎหมายแล้ว แอปเปิลไม่ได้ทำอะไรผิดเลย และใช้ประโยชน์จากระบบสิทธิบัตรของสหรัฐได้เต็มที่มากๆ
- แต่ระบบสิทธิบัตรของสหรัฐเองก็มีปัญหามากเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขในระยะยาว และความดังของคดีนี้น่าจะช่วยให้สาธารณชนเข้าใจปัญหาของระบบสิทธิบัตรมากขึ้นเยอะ
- การแก้ระบบสิทธิบัตรไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีคนเสียประโยชน์เยอะแน่นอน (เจ้าของสิทธิบัตรเดิมๆ ที่จดไปแล้วทั้งหมด) ซึ่งภายใต้ระบบสิทธิบัตรแบบปัจจุบัน อนาคตที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คงเป็นการไล่ฟ้องกันเละเทะ มากกว่าที่เห็นในปัจจุบันอีกหลายเท่าครับ
- ไม่ว่าจะเกลียดกันเพียงไหน ซัมซุงจะยังผลิตชิ้นส่วนให้แอปเปิลต่อไปเหมือนเดิม กูเกิลจะยังทำแอพให้ iOS ต่อไปเช่นเดิม (รอดู Google Maps/YouTube for iOS ได้เลย) หรือเยอะกว่าเดิมด้วยซ้ำ
Comments
ถ้าจะต้องไล่ฟ้องกันทั่วโลก คิดว่าทั้งคู่คงทำมาหากินกันน่าจะง่ายกว่า ให้ผู้บริโภคตัดสินมันเท่ห์กว่าการใช้ศาลเป็นเครื่องมือเป็นไหน ๆ
+1 ครับ
ฟ้องศาลเสียเวลา ทำมือถือมา ให้ผู้บริโภคเลือก น่ารักที่สุด น่ะจ๊ะ
ไม่ค่อยคล้องแฮะ :P
เค้าทำงานระบบ Multitasking ครับ คนมีหน้าที่ฟ้องฟ้องไป คนมีหน้าทีพัฒนาผลิตภันฑ์ ก็ทำไปครับ ไม่เกี่ยวกัน ไม่จำเป็นต้องหยุดพัฒนาเพื่อมาฟ้องร้องหรอกครับ :P
555 นึกว่า iOS ไม่มี มัลติทาส์กกิ้ง ซะอีก ที่แท้เอาไว้ฟ้องนี้เอง :P
ล้อเล่นน่ะครับ :)
"ผมไม่เห็นด้วยกับความเห็นว่า Windows Phone ได้ประโยชน์จากคดีนี้ เพราะผู้ผลิตมือถืออาจหันมาทำ Windows Phone เพิ่มขึ้นบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่อย่างที่เขียนไปแล้วว่าตลาดไม่สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว สุดท้ายมันขึ้นกับไมโครซอฟท์เองมากกว่าว่าจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดได้มากน้อยแค่ไหน"
ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน แอนดรอยกำลังมาแรง ใครล่ะจะลดกำลังการผลิต
+1 ถึงจะมีอะไรที่มัน "เจ๋ง" แต่มันไม่ "ดึงดูด" ก็ไม่มีความหมาย
ถึงมันจะเจ๋ง และดึงดูด ... แต่ไม่มีแอพให้ใช้ เพื่อนๆ ก็ไม่ใช้ ของแต่งก็ไม่มี ... มันก็ไม่มีความหมาย
มีครบทุกฟีเจอร์ ... แต่ไม่มีเงินซื้อก็ไม่มีความหมาย
มีเงินซื้อแต่เมียไม่ให้ซื้อก็ไม่มีความหมาย
+1
สำหรับเมืองไทย ถ้าเห็นในละครหลังข่าวหรือ celeb ใช้ก็มีสิทธิ์บูม
มันมีในละครหลังข่าวแล้วครับ ช่อง 3 มั้ง เห็นพี่ป้อใช้นะ เรื่องอะไรก็จำไม่ได้เปิดผ่านๆ
พี่บอย โกสิยะพงษ์ ก็ออกมาชม Lumia ใน FB ตอนนั้นก็มีคนเฮโลพอสมควร
แต่พอออกข่าวว่ามันตันที่ 7.8 คนก็จอดกันเป็นแถวสิ
ความเห็นนี้ เหมือนจะตอกย้ำว่าทำไมบางคนเลือกที่จะใช้ WP ตั้งแต่แรก
แอพอันนี้อาจจะแคร์นิดนึง เพื่อนๆ ไม่ใช้ไม่แคร์ ของแต่งไม่มีไม่แคร์ XD
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
Indy นี่เอง
I need healing.
ความจริงผมก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ WP หรอกครับ เมื่อก่อนตอนที่ Android ยังไม่นิยมผมก็เฝ้าดูมือถือ Android มาเรื่อยๆ พอดีตอนมีโอกาสได้ซื้อดันชอบ WP มากกว่าแค่นั้นเอง
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ผมซื้อ Mediapad มาด้วยถูกกว่าครึ่ง (มือสอง) ตอนแรกไม่ปลื้มว่า Custom ROM ก็ไม่มี, ของแต่งก็ไม่มี
ตอนนี้ของแต่งมีแล้ว (สั่งจาก ebay มีอยู่ไม่ถึง 10 แบบ)
รอมก็เพิ่งมีสดๆ ร้อนๆ ครับ
Lumia ผมก็ซื้อของแต่งจาก ebay เหมือนกันครับ
แต่ที่สวยๆมีน้อย แถมที่เคยซื้อมาลองใส่ดูแล้วมีความรู้สึกว่าเครื่องเดิมๆ มันสวยกว่าเลยไม่ใส่แหละ
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
+1 ผมคิดแบบคุณเลย
+1 เห็นด้วยครับ ยกเว้นตอนที่ป๋าจ๊อบยังอยู่ 55
ผมว่าเหตุการณ์นี้อาจบานปลายถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะไฟมันเริ่มแรงก็ตอนที่ศาลในเกาหลีใต้ตัดสินให้ผิดทั้งคู่แต่ก็ปรับ Apple มากกว่า เลยโดนเอาคืนเต็มสโตก แล้วที่ Samsung ฟ้อง Apple ไม่ผ่านสักข้อ มันเป็นอารมณ์ของชาตินิยมทั้งคู่ ถ้าเอาให้เห็นภาพ เหมือนกรณีข้าว เราบอกของเรา คุณจะมาเอาไปได้ไง ญี่ปุ่นก็บอก มันพัฒนาเป็นสายพัทธุ์ที่ดีกว่าแล้ว เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค เราก็คงไม่ยอมอยู่ดี (กรณีข้าวแค่ยกตัวอย่างนะ ไม่ได้ตั้งใจพาดใครพิงใคร)
"ตลาดไม่สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว" หมายถึงตลาดผู้บริโภคหรือตลาดผู้ผลิตหว่า
=================================================
"ไม่ว่าจะเกลียดกันเพียงไหน ซัมซุงจะยังผลิตชิ้นส่วนให้แอปเปิลต่อไปเหมือนเดิม กูเกิลจะยังทำแอพให้ iOS ต่อไปเช่นเดิม (รอดู Google Maps/YouTube for iOS ได้เลย) หรือเยอะกว่าเดิมด้วยซ้ำ"
ซึนเดเระ...ฮาๆ
คงหมายถึง ตลาดผู้บริโภคที่ไม่ได้สนใจเรื่องคดีว่าใครจะแพ้ชนะครับ
ถ้าเป็นแบบนั้นผมว่าผู้เขียนควรพูดถึง 2 ตลาดให้ครบๆนะครับ เพราะคดีมีผลกับผู้ผลิตมากกว่า คนใช้เขาไม่สน
แบบนี้เหมือนดูแง่เดียวเกินไป เพราะถ้ามีผลกับผู้ผลิตแล้วจำเป็นต้องเปลี่ยนไปสนับสนุน WP คนใช้ก็ต้องเปลี่ยนตามตลาดโลกไป
ถ้าพูดถึงตลาดคนใช้ไม่มีผลเลย จะมีผลก็คือตลาดผู้ผลิต เช่นว่า เจอเก็บค่าผ่านทางของ M$ + Apple แถม WP8 แจ่ม ตลาดผู้ผลิตก็คงต้องเปลี่ยนและครับ
คำว่า "ตลาด" ก็ให้ความหมายถึงผู้บริโภคเป็นหลักอยู่แล้วนี่ครับ???
(ระดับองค์กร)
ตลาดผู้ผลิตแบบ Sony Samsung HTC ว่าจะเลือก Android หรือ WP ครับ
Google ก็อยากให้ผู้ผลิตใช้ Android ได้สบายใจเลยต้องสู้กับ Apple
Microsoft ก็แข่ง Android สนับสนุนให้ผู้ผลิตใช้ WP
มันก็คือ "ตลาด" ครับ แต่ระดับองค์กร
(ระดับคนธรรมดา)
ตลาดผู้บริโภค ก็คนทั่วไปว่าจะเลือกซื้อ Sony Samsung HTC Apple
คนปกติใช้ตลาดกับผู้บริโภคเข้าใจครับ แต่พอดีเห็นว่าข่าวนี้มันไม่ได้มีผลกับผู้บริโภคเลย และมีผลกับทางผู้ผลิตมากกว่า
เลยคิดว่าถ้าจะเขียน "ตลาด" นี้อาจจะหมายถึงตลาดผู้ผลิตเองหรือเปล่า
เพราะจะเขียนถึงสิ่งที่ไม่มีผลทำไมน่าจะเขียนถึงที่มีผล ประมาณนั้นครับเลยเลย งง ว่าตลาดไหนกันแน่
ข่าวนี้ผู้เขียนวิเคราะห์ว่ามีผลกับผู้บริโภคตามประโยคนี้ครับ
เพิ่มเติม คือผมอ่านแล้วมีเป็นความต่อเนื่องกันมาครับ คือในตลาดผู้บริโภค ซัมซุงแพ้คดีในครั้งนี้ไม่มีแทบผลกับตลาดเลย (โดยเฉพาะแฟนบอยทั้งฝั่งที่ไม่ว่าใครจะแพ้จะชนะ ก็คงไม่ข้ามค่าย) และผู้บริโภคคงไม่นำผลการตัดสินมาเป็นตัวตัดสินใจซื้อ
ในขณะเดียวกันก็ไม่มีผลกับ WP ด้วย ด้วยเหตุผลเดียวกัน ซึ่งตัว WP จะรุ่งไม่รุ่งก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา (Microsoft) เอง
ผมหมายถึงประโยคนี้
ผมไม่เห็นด้วยกับความเห็นว่า Windows Phone ได้ประโยชน์จากคดีนี้
เพราะผู้ผลิตมือถืออาจหันมาทำ Windows Phone เพิ่มขึ้นบ้างเพื่อลดความเสี่ยง
"แต่อย่างที่เขียนไปแล้วว่าตลาดไม่สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว" สุดท้ายมันขึ้นกับไมโครซอฟท์เองมากกว่าว่าจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดได้มากน้อยแค่ไหน
ในความคิดผมในประโยคนี้คือ Windows Phone จะได้รับประโยชน์ก็ต่อเมื่อผู้ผลิตใช้มันครับ และในข้อความก็มีพูดถึงผู้ผลิตตลอด จนประโยค "สุดท้ายมันขึ้นกับไมโครซอฟท์เองมากกว่าว่าจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดได้มากน้อยแค่ไหน" หมายถึงดึงดูดใช้คนทำ+คนใช้ ก็ได้
คนแต่ละคนประสบการณ์ชีวิตต่างกัน ประโยคเดียวกันไม่ผิดที่จะตีความต่างกันหรือเกิดข้อสงสัยครับ เพียงแต่ผมและ(คิดว่า)คนส่วนใหญ่ เข้าใจว่าเป็นผู้บริโภค เท่านั้นเอง
คำว่า 'ตลาด' หรือ 'Market' เป็นที่รู้กันในทางเศรษฐศาสตร์ครับว่าหมายถึงผู้บริโภค
ถ้าเป็นตัวบริษัทจะใช้คำว่า 'คู่ค้า' หรือ 'คู่แข่ง' ครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผิดครับ ตลาดที่หมายถึงผู้บริโภค อยู่ในความหมายของ"บริหารธุรกิจ"
แต่ตลาดในความหมายทางเศรษฐศาสตร์มีทั้ง"ผู้ซื้อและผู้ขาย"
ขอบคุณครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ที่แน่ๆ เร่งสร้างอาวุธ จดอะไรได้เป็นจด ซื้อบริษัทอะไรเพื่อช่วงชิงสิทธบัตรได้เป็นซื้อ, แอปเปิลเองต่อให้ไม่มีผลกระทบจากการฟ้องร้อง (ได้เงินหรือไม่ น่าจะเป็นเรื่องเล็ก) แต่ผลกระทบเชิงจิตวิทยาน่าจะมีผลต่อองค์กรเยอะ ในแง่ที่ว่าเป็นเจ้าของนวัฒกรรม, ความภาคภูมิใจในบริษัทสำหรับพนักงานทุกคน อีกอย่างถ้า ทิม คุก ละเลยเรื่องนี้ ไม่นานก็คงมีกระแสให้ฟ้องออกมาจากกลุ่มผู้ถือหุัน หรือบอร์ดแอปเปิลอยู่ดี เหมือนมันก็เป็นไปตามเกมส์ ตามบทบาทกัน
รอดูคดีของโมโตฯ กับแอปเปิลอีกคู่ ;)
my blog
เห็นด้วยว่าลอกแน่ๆหล่ะ แต่ก็นะ Apple ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้อยู่ดี
"แอปเปิลชนะอย่างถูกต้อง บนระบบสิทธิบัตรที่ผิดเพี้ยน"
ผมชอบอันนี้ขอเอากลับบ้านนะครับ
+1 ฮ่าๆ ผมก็ชอบอันนี้เหมือนกัน ;p
ถ้าซัมซุงกลัวเสียหน้า คงไม่กล้าออกแบบมาอย่างนี้ตั้งแต่แรก
พลังที่แอปเปิลสร้างขึ้นเมื่อปี 2007 กระแสที่เขาสร้างขึ้น มันประเมินค่าไม่ได้ สะท้านวงการมือถือมากๆ ซัมซุงเกาะกระแสนี้สำเร็จ ช่วงแรกอาจจะลอกแอปเปิล มันก็จริง แต่ตอนนี้มันแก้อะไรไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าแอปเปิลจะชนะคดีก็ตาม เพราะซัมซุงได้เกาะแรงเหวี่ยงของแอปเปิลขึึ้นไปสูงมากๆพร้อมๆกับแอปเปิลแล้ว ปีกของซัมซุงแข็งแล้วหล่ะ (สักพักแล้ว) ร่วงยากมากๆแล้วหล่ะ จากนี้ไป สิ่งที่ต้องรอดูกันไปก็คือ ใครจะร่วงก่อนเท่านั้น...
สงสาร Apple แต่ก็นะ นี่แหละโลกธุรกิจ
ผมไม่เห็นด้วยเท่าไรนะครับ คือซัมซุงเกาะกระแสแอปเปิลแน่นอน แต่ซัมซุงก็เก่งเองด้วยถึงจะมายืนบนจุดนี้ได้ ไม่ใช่ว่าเกาะกระแสอย่างเดียวแล้วมันจะรุ่งตลอด
เอาที่ผมคิดว่าซัมซุงทำได้ดีจริงๆ
พอโหนกระแสสมาร์ทโฟนที่แอปเปิลเป็นคนจุด (ต้องยอมรับว่าซัมซุงจุดเองไม่ไหว) ก็เลยไปรุ่ง
เจ้าอื่นก็มีนะครับเช่น Toshiba มี cpu ตัวอวดเป็น arm 6 core และมีหุ้น 10% ใน japan display ด้วย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
แต่ถ้าเทียบชื่อเสียง และยอดขายของ Android นี่ถือว่า SS กับ Toshiba ต่างกันแบบไม่ต้องสืบเลยนะครับ
+1
Toshiba อาจเน้นไปทางสินค้าอื่นๆ หากแข่งขันตลาดมือถือนี่คงไม่เก่งเท่า Sumsung
----------------- Yokey My Blog
ญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องการตลาดที่ "ไม่เข้ากับโลก" ครับ ทั้ง Sharp และ Toshiba ออกโทรศัพท์ที่ในแบบที่น่าใช้มากๆ แต่ส่วนมากก็ไม่สนใจจะทำตลาดนอกญี่ปุ่น รุ่นที่สนใจทำตลาดก็ขายราคาแพงจนเห็นทางขายไม่ออกแต่แรก
lewcpe.com, @wasonliw
Sharp ตัวนี้ สาวกแบบผมได้แต่มองตาปริบๆ
ลอกก็คือลอกหาเหตุผลมาอ้างยังไงมันก็ไม่ได้ดูดีขึ้น
ตลาดสนไม่สน Windows phone 8 หรือไม่ ผมไม่รู้ แต่ตัวผมสนนะ :P
จับ Android แล้วมันกระตุกๆ App เด้งเอง อยู่ดีๆ อืด แล้วมันหงุดหงิดใจ T-T
พอได้จับ App แล้วท่านจะอยากกลับไปใช้ Android อืดๆ อีกทีครับ
wp8 น่าสนจริงๆเเหละ เเต่ผมกลัวถูกทิ้งอีก
หมายความว่าพอซัมซุงจ่ายค่าสิทธิบัตรเสร็จก็สามารถนำสิ่งที่ถูกฟ้องมาใช้ต่อได้เลยต่อไปใช่มั้ยครับ งั้นก็เริ่มที่จุดสตาร์ตใหม่แล้ววิ่งแข่งกันได้เล้ย
ผมว่าดีไม่ดีไม่ต้องจ่ายนะครับ รุ่นหลังๆ ทำไม่เหมือนแล้ว และที่ผิดก็ไม่ได้ทุกรุ่น (ยกเว้น bounce back) แปลว่าทำตามรุ่นพวกนั้นได้ไม่ผิด
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เห็นด้วยทุกประเด็นครับ
แอปเปิลชนะคดี แต่หยุด Android ไม่ได้อย่างที่หวัง ผมว่า Apple ไม่ได้หวังจะหยุด Android นะ ?
+1
ใช่ครับอ่านยังไงก็เห็นว่าแอปเปิ้ลฟ้องซัมซุงครับ ไม่ได้ฟ้องแอนดรอย ผมว่้าแอปเปิ้ลรักษาสิทธิ์ที่ตนเองพึงได้ ต่อให้ผลออกมาจะไม่ได้ประโยชน์เท่าไหร่ แต่ไม่รู้ดิเป็นผมผมก็ทำนะ อุตส่าคิดแต่ดันมีคนอื่นมาลอกแบบหน้าตาเฉย
คนพูดนี่คงไม่ต้องเอ่ยชื่อ
ไม่ต้องเอ่ยชื่อ เพราะตอนนี้กลายเป็นเทพบุตรไปแล้ว :P
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
ผมว่าเป็นการหาทางครับ หากหาเรื่องฟ้องไปเรื่อยๆ apple ชนะไปทีละอย่าง 2 อย่างเป็นการสะสมแต้มไว้
การชนะคดีอาจนำผลไปสู่การต่อสู้กับ Android ได้มากขึ้น และขณะเดียวกัน apple ก็ต้องออกผลิตภัณฑ์ตัวเอง หรือใช้สิทธิบัตรใหม่ในเทคโนโลยีให้ออกมาได้ก่อน หรือกำไว้ในมือก่อน เมื่อเข็งแรงมากขึ้นผมว่า Android ได้เจอตัวจริงๆ ของ Apple ครับ
----------------- Yokey My Blog
คหสต. การฟ้องด้วย patent '915 ก็เท่ากับว่า สามารถนำไปฟ้องกับ android ได้ทุกยี่ห้อรึเปล่าครับ???
RT @skyeyjay2: เห็นบางคนบางสื่อพยายามตีเรื่องคดี Apple Samsung ให้เป็น Apple vs Android ให้ได้!
เพื่ออะไร?
จริงๆ Apple ไม่เคยไล่ฟ้องใครพร่ำเพรื่อนะครับ!
http://www.blognone.com/news/13379/
http://lowendmac.com/ed/fox/08ff/apple-sues-greenyc.html
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อืมมม
สงสัยไม่เคยตามข่าว apple เรื่องฟ้องจุกจิก :)
Apple นี่เรียกว่าอีวิวที่สุดในบรรดาบรีษัทชื่อดังในเรื่องการฟ้องร้องเลยแหละ
ฟ้องทุกอย่าง ทุกคนที่มาในสายตาเลย วันก่อนยังฟ้องคนที่มาแจ้งจุดโหว่ของ iOS เลย ถึงขั้นมีข่าวล้อเลย ว่าเจอจุดโหว่ในแอนดรอยได้เงิน(จากกูเกิล) เจอจุดโหว่ใน iOS ติดคุก (โดนแอปเปิ้ลฟ้อง) 5 5 5
รอดูคดี Motorola กับ Samsung ดีกว่าครับ ท่าจะมันกว่านี้
เรื่องใครได้ใครเสียประโยชน์มีคนพูดมาเยอะแล้ว ที่ผมสงสัยคือที่เขียนว่า ระบบสิทธิบัตรของสหรัฐผิดเพี้ยน ช่วยขยายความหน่อยได้ไหมครับ
ไม่ต้องละเอียดมากก็ได้ครับ เพียงแต่ไหนๆวิเคราะห์มาแล้ว อยากจะเห็นมุมมองของผู้เขียนมากกว่านี้นะครับ
ผมไม่มีไรจะมาตอบหรอกครับ เพียงแต่เห็นชื่อแล้วก็อืมมม อุตส่าห์สมัครใหม่ กับชื่อ(แบบนี้เรียกว่าชื่อรึเปล่า?) ที่สุดยอดมาก เพื่อมาถามคำถามนี้โดยเฉพาะเลยนะเนี่ย
ปล. จริงๆถ้าตามข่าวมาตลอดก็น่าจะรู้นะครับ
+1
วิเคราะห์ได้ดี ผมให้ผ่านครับ
Educational Technician
เอาเป็นว่าถ้า Apple ชนะคดี แต่ได้ค่าปรับแค่เล็กน้อน คราวนี้คงได้เห็นทุกยี่ห้อ แห่กันลอกอย่างเดียว เพราะถึงถูกปรับ แต่มันคุ้มกับยอดขายที่จะได้
ถ้าไปดูข่าวเก่า เรื่อง market share ของสมาร์ทโฟน จะเห็นได้ว่า apple กับ samsung ที่ขึ้นเอาๆ
ค่ายอื่นๆ นี่ส่วนแบ่งหายไปให้กับสองค่ายนั้นอื้อเลยครับ ^^
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
พวกมือถือจีนที่ขายแถวชายแดนลอกมาแบบ 1:1 ยอดขายไม่ได้เยอะนะครับ ประเด็นคือถึงจะลอกดีไซน์มา แต่ถ้าไม่เจ๋งจริงก็คงขายไม่ออก นอกจากตลาดล่างที่ไม่สนใจฟีเจอร์
ส่วนตัวคิดว่า การรุมกินโต๊ะ Apple อาจจะเกิดขึ้นได้ไม่ง่ายครับ เพราะว่านี่เป็นกรณีพิพาทระหว่าง Apple Samsung แต่เหมือนจะถูกโยงให้ไปเป็น Apple VS Android แทน ตามแรงเชียร์ของแฟน ๆ
คำตัดสินชองคดีนี้มีผลกับ Samsung โดยตรงในขณะที่มีผลข้างเคียงกับพาร์ทเนอร์ Android รายอื่น ๆ ซึ่งอาจจะโดนหรือไม่โดนก็ได้ เพราะทุกวันนี้รูปร่างหน้าตาโทรศัพท์ก็แตกต่างกับ iPhone อีกทั้งยังมีส่วนแบ่งผลกำไรน้อยมาก เมื่อเทียบกับ Apple และ Samsung พูดง่าย ๆ คือขาตัวเองยังยืนไม่มันคง จะไปไล่เตะคนอื่นก็ลำบาก
ในส่วนที่ Moto ในคราบ Google ที่ฟ้องกลับ ผมว่าน่าจะทำเพื่อตัวเองมากกว่านะที่โดนฟ้องแบนเรื่อง Galaxy Nexus แต่มันมีผลพลอยได้กับพาร์ทเนอร์ไปด้วยในแง่ของกำลังใจ นักข่าวหรือแฟน ๆ พยายามสร้างให้ภาพผู้ผลิต Android เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน ทำอะไรด้วยกัน แต่เอาเข้าจริง ๆ มันก็ตัวใครตัวมันแหละคับ เพราะไม่เห็นมีใครออกมาเดือดร้อนแทน Samsung
ผมว่าข่าวนี้ชัดเจนสุดครับ HTC ยื่นฟ้องแอปเปิล ด้วยสิทธิบัตรที่ซื้อจากกูเกิล
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
เห็นด้วยกับบทความนี้นะ
ซัมซุงลอก แอปเปิลฟ้องตามสิทธิ์ และาะบบสิทธิบัตรห่วยๆ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ผมคิดว่าคำตัดสินของคดีนี้มีผลกระทบโดยรวมต่อวงการคอมพิวเตอร์เกือบทั้งหมดเลยนะครับ
มันไม่ใช่แค่จบ แต่เป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมาโดยอ้างอิงจากคำตัดสินในคดีนี้
เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของ Apple ในฐานะของ "ผู้นำนวัตกรรมสมัยใหม่" อันนี้เป็นสิ่งที่ Apple ต้องการมากกว่าเงินทองใดๆ
เพราะสิ่งนี้เองที่ทำให้แบรนด์ของ Apple สามารถเพิ่มมูลค่าให้สูงกว่าคู่แข่งเจ้าอื่นๆ
และยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าอเมริกาให้ความสำคัญต่อลิขสิทธ์มากกว่าประเทศอื่นๆ มุมมองในการตัดสินจึงตรงไปตรงมา
ต่างจากประเทศไทยรวมถึงประเทศเกาหลีอีกด้วย
ซึ่งถ้ามองในมุมมองของผม ผมมองว่าเกาหลีเป็นประเทศที่ทำอะไรได้ก้ำกึ่งกับคำว่าละเมิดลิขสิทธิ์ที่สุด เห็นกันได้บ่อยๆ
ผมไม่แน่ใจว่าจะเรียกได้ว่าเป็น "วัฒนธรรม" รึเปล่า เรามักจะเห็นผลงานต่างๆที่คล้ายคลึงกับอเมริกาอยู่บ่อยๆ แต่ถูกดัดแปลก
จนเรียกได้ว่าเกือบดีกว่าหรือดีกว่าเลยแหละ มันเลยทำให้ดูว่าเป็นผู้นำ ทั้งๆที่เป็นผู้ตามมาโดยตลอด
ถ้า samsung ต้องการจะชนะ Apple ให้ได้ก็คงมีอยู่ทางเดียวคือสร้าง นวัตกรรมใหม่ๆที่ Apple ไม่สามารถอ่าปากพูดใดๆได้เลยออกมา
ซึ่งตรงนี้เองที่ Apple ไม่อยากให้เกิดขึ้น
ใครได้ประโยชน์จากคดีนี้นอกจาก Apple
ผมว่าไมโครซอฟท์ก็ได้ประโยชน์อยู่เหมือนกันเพราะ เมื่อถึงเวลาที่ไมโครซอฟท์ส่งมือถือลงมาขายจริงๆ แล้วมือถือของ samsung บางรุ่น
ไม่สามารถขายได้ในสหรัฐ อันนี้ผมไม่รู้ว่าเวลามันจะแป๊ะกันรึเปล่า แต่ถ้าทำให้แป๊ะได้ก็ถือว่าได้ประโยชน์โดยไม่ต้องทำอะไรไปเหมือนกัน
แต่ที่ผมสนใจคือ google ได้ประโยชน์ด้วยเหมือนกัน เพราะในที่สุด android ก็แสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้ลอกใคร แต่ที่ลอกคือบริษัทผลิตมือถือ
อย่าง samsung ที่เอา os ของเราไปใช้ samsung ขายได้ android ก็เติบโต samsung โดนแบนด์ android ก็ยังเดินหน้าต่อไปได้
และยังแข็งแกร่งขึ้นทุกวันโดยใช้เกราะกำบังเป็นบริษัทผลิตมือถือต่างๆนั่นเอง
+111 พูดได้ดีและเป็นกลางดีครับ
+1 ก้ำกึ่งกับคำว่าละเมิดลิขสิทธิ์ที่สุด ใช่
ไม่ใช่แค่ เทคโนโลยี ทั้งวัฒธรรม หลายๆ ด้าน เห้นง่ายๆ ก็เพลง
Like เลย เป็นคำพูดที่หล่อมากกกกกกกก :)
+1
แม้แต่มวยไไทยก็ยัง เอิ่ม....
กรณี samsung กับ apple นี่ ผมไม่รู้นะ ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็จริง ที่ซัมซุงลอก ชัดเจนไปนิด
แต่กรณ๊ สิทธิบัตร ในสหรัฐ บางทีผมก็ว่าตลกนะ เห็นเจ้าอื่นทำมาก่อนแล้ว แต่ มาเห็นข่าวว่า apple จดสิทธิบัตร ทีหลัง คุ้น ๆ เหมือนว่า กฏหมายจะคุ้มครองตั้งแต่ ใครคิด ขอแค่คิดได้ แล้วไปจด ยังไม่ต้องออกมาเป็นตัวสินค้า ก็ถือว่าจดได้แล้ว ผมว่ามันแปลก ๆ
วิเคราะห์ได้ดีมาก ขอบคุณสำหรับบทความครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ยังไม่เห็น apple จะฟ้องมือถือจากจากจีนเลย สงสัยรักษาฐานลูกค้าไว้หรือปล่าว
เปลือง ไม่คุ้ม ใช้คน ใช้เวลา แต่ได้นิดเดียว
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ยังไม่ Dominate ตลาดมากมั้งครับ
กฎหมายจีนไม่เอื้อด้วยมั้ง
ไม่เกี่ยวกันแต่เกิดขึ้นไปแล้วในจีน เมื่อปี 2006 “หลุยส์จีน” ชนะคดี "หลุยส์จริง" ในจีนแถมศาลจีนตัดสินด้วยว่า "หลุยส์จริง" ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา “หลุยส์จีน”
cc : http://www.manager.co.th/
ผมว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ก็ไม่จิ๊บนะครับ
แต่ก็คิดว่าซัมซุงมีกำลังพอที่จะจ่าย
เห็นด้วยทุกประเด็นนะ
ส่วนตัวมองว่า Apple บริษัทเดียว จะยืนอยู่ในตลาดนี้ได้สบาย แต่จะมีส่วนแบ่งการตลาดนิ่งๆอยู่ประมาณ 30% ขณะที่ Android จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ (กินตัวอื่นๆที่อยู่ในตลาด) ส่วน Window Phone ถึงแม้จะไม่ค่อยมีปัญหาสิทธิบัตร แต่เนื่องจากราคาที่ต้องจ่ายเงินให้ MS มันจะส่งผลต่อราคาเครื่องแน่นอน (ไม่รู้ว่าถูกหรือแพงกว่าพวกหุ่นกระป๋องที่ต้องจ่ายค่าสิทธิบัตร) ทำให้ผมมองว่า ...คงเข้ามาเกาะอยู่ในตลาดได้ แต่ไม่สามารถขึ้นตาเป็นยักษ์ตัวที่ 3 ได้แน่ๆ
ปล. เข้าใจแบบงูๆปลาๆ
..: เรื่อยไป
ยังไงก็ช่าง ถ้า iPhone 5 ที่จะออกมาดูแล้วไม่ wow ก็จะซื้อแอนดรอยด์อยู่ดี
ก็ลอกจริงๆนั่นแหละสำหรับผมนะ แต่ถึงยังไงผลดีมันก็ไปตกกับผู้บริโภค เหมือนโค๊กกับเป๊ปซี่ ผมก็ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์นะแต่คิดว่าตลาดมันต้องเป็นแบบนี้ไม่งั้นผูกขาดอยู่เจ้าเดียวผู้บริโภคก็แย่สิ - -"
พอดีเป็น สาวก โซนี่ละ แต่ชอบข่าวนี้นะ
ต่อไปบริษัทต่างๆจะพากันจดสิทธิบัตรแบบ Bounce-back แล้วก่อกำเนิดสงครามการฟ้องเรื่อง animation ลุกลามมาถึงวงการเว็บ ทำให้ designer/animator ต่างต้องกางสิทธิบัตรเช็คกันก่อนว่า ทำอนิเมชั่นแบบนี้ ละเมิดใครหรือไม่ :P
แบบนั้นบ้าไปแล้ว ไอที่มันเด้งๆอะ มัน UI บนอุปกรณ์ของ Apple -.- มันไม่ทะเทือนไปถึง Animation หรอกคุณ -"-
ซัมซุงฟ้องแอปเปิ้ล และแอปเปิ้ลฟ้องซัมซุง...
หรือใครๆ จะฟ้องกันอิรุงตุงนัง
วงการที่เจริญรุ่งเรืองคือ ทนายความ ไม่ใช่ใครดังนั้นไปมุ่งไปออกแอพฯ คดีความกันเถอะ (ฮา)
สรุป... ทนายรวย!
ท่าทางจะยังอีกยาว
http://www.groklaw.net/article.php?story=2012082510525390&repost=1
นักพัฒนาออกแอพตรวจสิทธิบัตรกันดีกว่า
เขาเลือกลูกขุนกันยังไงหว่า