Steve Wozniak ได้มาบรรยายที่งาน TEDx Brussels โดยเขากล่าวว่าควรมี iTunes บนแพลตฟอร์มอื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งรวมถึง Android (ดังที่เขาเคยไปก่อนหน้านี้) และ Windows Phone นอกจากนั้นเขายังแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ อาทิ มนุษย์นั้นสำคัญกว่าเทคโนโลยี, การสำรองข้อมูลลงสื่อบันทึกแบบเก่ายังเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะเขายังไม่เชื่อมั่นใน cloud storage และบริการซิงค์ข้อมูล เป็นต้น - The Next Web
หลังการบรรยายในงานดังกล่าว TechCrunch ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ Wozniak เขาได้แสดงความกังวลว่าไมโครซอฟท์จะกลายเป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมมากกว่าแอปเปิล ดังจะเห็นได้จากที่ไมโครซอฟท์ใช้เวลาตลอดสามปีที่ผ่านมาได้ผลิตนวัตกรรมในทิศทางของตนเอง ไม่ได้ตามคนอื่น ไม่เหมือนกับแอปเปิลที่แค่เพียงปล่อย iPhone รุ่นล่าสุดออกมาและตามหลังคนอื่นเล็กน้อย - TechCrunch
Comments
เห็นด้วยทุกคำเลยครับ
+1 เห็นด้วยครับ ถ้า Apple รับฟังแล้วเอาไปปรับปรุงจะดีมากเลย
+1 อยากเห็น iTune บน android มากๆ คลังแสงเพลงผมอยู่ที่นั้นหมด
+1
Coder | Designer | Thinker | Blogger
สงสัย ต้องล้มอีกทีแล้วให้ Woz กลับมากกู้ มั่ง
พูดเหมือนไม่พูมใจในตัวเองที่สร้าง Apple มากับมือเลย
Business พี Woz เข้าใจใหม
ถ้าคิดแบบพีนะต้องเป๊น none-profit เท่านั้น
ภูมิใจ / nonprofit ครับผม
ภูมิใจในตัวเองด้วยสิ่งที่ตัวเองสร้าง กับผิดหวังในสิ่งที่ตัวเองสร้างที่อยู่ในการควบคุมของคนอื่นซึ่งทำได้ไม่ดีเท่าตัวเองหวัง
มันคนละเรื่องกัน
ปล สงสัยไม่ใช่คนไทย เรียนกันมาขนาดนี้ไม่น่าผิดได้
non-profit ยังไงครับ ลองคิดอีกแบบ ถ้ามี itune บน os อื่นๆ apple ก็จะมีรายได้เพิ่มจาก itune และถึงมี itune บน platform อื่นๆ ยอดขาย iDevice ก็ไม่น่าจะตก
ส่วนเรื่องนวัตกรรมจะโดน ms แซง ก็เป็นไปได้ ถ้าจังหวะการเดินของ apple ยังช้าแบบนี้
คนที่รู้ว่าตัวเองมีจุดอ่อน ก้ายอมรับในจุดอ่อน แล้วกล้าแก้ไขในจุดอ่อนนั้นๆ
ไม่เกี่ยวอะไรกับความภูมิใจหรอกครับ
+1 จริงครับ คนที่มองไม่เห็นจุดอ่อน หรือคิดว่าจุดอ่อนตัวเองไม่สำคัญ มันก็ไม่ได้ต่างกับ "ทะนงตนจนลืมตัว" มันก็จะมีแต่ถอยหลังไปเรื่อยๆ
เค้าเรียก ไม่หลงตัวเอง ป่ะคับ
+1 ครับ นับถือ
วิเคราะห์เหมือนเป็น คนกลางได้ดีมาก
รายได้จาก iTunes ไม่ได้มากมายขืนปล่อยให้คนอื่นใช้ด้วยน่าจะได้ไม่คุ้มเสียนะ
That is the way things are.
ก็แพร่กระจายให้มากเพื่อควบคุมตลาดไว้ ถ้าตราบใดยังมีกำไรต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้นยังคุ้มค่าขยายการลงทุนเพิ่ม ก็ทำไปสิ
อย่างดูอเมซอน ที่ออกคินเดิลแอพฯสิ มีมันทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะ iOS, Android, Windows, OS X
ลองหาข่าวเก่าอ่านดูครับว่า iTunes นั้นมีกำไรหรือแค่เสมอตัวพอจ่ายค่า server ไปวันๆ จะได้เห็นข้อมูลครบด้านมากขึ้นตามสภาพความเป็นจริงครับ
That is the way things are.
ไมโครซอฟต์อินดี้
ความอยาดได้ไอโฟน 5 น่อยกว่า Wndows Phone 8 น้อยอะ...โนเกียน่าตื่นตาตื่นใจมากช่วงนี้ เว้นแต่... App มันน้อยอะ
.... รอแป๊บบ i'm coming...
ลุง Woz พูดก็ต้องคิดนิดนึงนะแอปเปิ้ล
ก็พี่แก มัวแต่ไล่ ฟ้องคนอื่น
เข้าใจว่าทีมกฏหมาย หรือทีมดูแลผลิตภัณฑ์นั้นๆ เป็นคนละทีมกันนะครับ
ไม่เกทมุขสินะ เวลาเชียร์บอล ขนาดคนล้างห้องน้ำสโมสรยังมานั่งลุ้นด้วยเลย เวลาขึ้นศาล มันก็ต้องมานั่งลุ้นกันเป็นธรรมดา(แล้วมันดันฟ้องซะทุกทวีปเลยด้วยลุ้นกันยาว)
สิ่งที่จะล้มแอ๊ปเปิ้ลได้ก็ไมโครซอร์ฟนี่แหละ
เพราะไอคอน ซึ่งก็คือบิลเกตต์ยังอยู่
แม้แกจะลาไปทำมูลนิธิ แต่ก็ยังมีอิทธิพลและสาวก
ตลอดจนการสะสมประสบการณ์ผู้ใช้ที่มีมายาวนาน
iTunes บนด๋อย อยากได้นะ แต่คิดว่า Apple คงไม่ฆ่าตัวตายหรอกมั้ง
ได้แต่หวังว่า Google play จะขายเพลงในไทยได้ซักที แต่ก็นะ ถ้าไม่มีเจ้ายักษ์มากระตุ้น อากู๋ก็แจวเรือเอื่อย ๆ แบบนี้ตลอด ๆ น่าเบื่อมากมาย ~
นั่นสิ อยากให้ขายเพลงบน google play ด้วยคน
ผมอาจจคิดไปเองนะ แต่เหมือน Google ยังงอน ๆ รัฐบาลไทยเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับอินเตอร์เนตอยู่ ก็เลยไม่ลงมาเล่นตลาดบ้านเราจริง ๆ จัง ๆ ซะที
พอรู้หรือเปล่าครับว่ากฎหมายข้อไหน เห็นคนพูดกันเยอะแต่ก็ไม่กระจ่างว่าทำไมเพราะอะไร เจ้าอื่นก็ทำได้ (Apple ก็มีหลายๆบริการที่เปิดให้ไทยใช้่งานได้) ทำไม Google ถึงยังติดกฏหมายที่ว่าอยู่
น่าจะเป็นเรื่องกฎหมายการ log ข้อมูล ถ้าจำไม่ผิด คือมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรตรง ๆ กับบริการในบ้านเราหรอกครับ แต่ว่ามันทำให้ Google ไม่พอใจน่ะ
+1 ขอทั้งเพลง ทั้งภาพยนตร์ ทั้งหนังสือ
+1 ฝันว่าซักวันจะจับมือค่ายเพลง ค่ายหนัง ละคร หนังสือ นิตยสาร ครบหล่ะก็นะ....แต่เอาที่มีให้ครบก่อนดีกว่า เข้าใจว่า Google Thai ก็ทำงานหนักอยู่เหมือนกันครับ
ถ้ามาแบบกินทรัพยากร & ไม่ดีเท่า iOS ล่ะก็นะ อย่ามาเลย ;D
my blog
iTunes บน Android มาเมื่อไหร่ ผมย้ายไป android ทันที (ตอนนี้ก็ใช้อยู่ทั้ง iPhone และ android) แต่ iPhone ใช้ฟังเพลงอย่างเดียว
ใช้4 หรือ4S อยู่อะเปล่า ถอดซิมออกมันกลายเป็น genใหม่ iPod เลยนะ ระบบของappleนิมันดีจริงๆ ผมมองตั้งแต่ iPhone 3 กับ iPed genเก่าละ
พารากราฟแรก วรรคที่สาม ในวงเล็บ เป็นคำว่า (ดังที่เขาเคยพูดไปก่อนหน้านี้) รึเปล่าครับ
ผมว่า คนๆนี้ เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างจริงๆนะ ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เคยทำ มองหามุมมองใหม่ๆตลอดเวลา นี่คงเรียกได้ว่า เป็นนักพัฒนา ตัวจริง แม้จะดีไม่ดี แต่พัฒนาก็ต้องมีการทดลอง ทดสอบ ถูกผิดเสมอ เหมือนวิทยาศาสตร์ เจ๋งจริงๆคนนี้
Jobs กับ Woz เนี่ยเป็นคนละขั้วเลยครับ Jobs จะพยายามควบคุมทุกอย่างให้ได้ ในขณะที่ Woz จะเน้นให้ผู้ใช้เป็นอิสระมากกว่า
ทั้งสองคนเป็นนักคิด นักประดิษฐ์เหมือนกัน
อันนี้ผมว่าไม่ได้เป็นที่วิสัยทัศน์น่ะครับ คนๆ นี้คิดอะไรโดยไม่มีอคติมากกว่าน่ะ
ประมาณว่าถ้าของที่เองสร้างเองมันมีปัญหา เขาก็จะบอกว่าผิดเองที่สร้างของมีปัญหา ไม่ใช่แถว่าคนอื่นใช้ผิดวิธี
+1 เห็นด้วยอย่างแรงเลย
รายได้จาก iTunes อาจจะเพิ่ม แต่ตระกูล iDevice จะเสียจุดแข็งไปทันที คงไม่ใช่อะไรที่อยากจะทำก็ทำกันง่าย เหมือน BB ที่ไม่ยอมออก BBM สำหรับ OS อื่น
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
สุดท้ายคือคนเลิกใช้และเจ๊งในที่สุด
บริษัทส่วนใหญ่เค้าจะมองให้รอดในระยะยาวหน่ะครับ เช่น BB, Nokia แต่ถ้าตัดสินใจอีกแบบ ตอนนี้ BB อาจจะขายไม่ได้เลยก็ได้ เหลือแต่ชื่อ BBM ซึ่งจะสร้างรายได้ๆ แค่ไหน บริษัทพวกนี้เค้าก็คงพิจารณาแล้วถึงเลือกแบบนี้ บอกไม่ได้ว่ามันถูกหรือผิดหรอกครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ใช่ครับแต่มีเจ๊งกับไม่เจ๊ง
รายได้อาจจะมากขึ้น แต่อย่าลืมว่าแอปเปิลสูญเสียจุดยืนในแบบแอปเปิลแน่นอน ถ้าได้ตามข่าวจะจำได้ว่าตอนแรก ๆ สตีฟไม่ต้องการให้มีเวอร์ชันบนพีซี(วินโดวส์)ด้วยซ้ำไป
เห็นด้วยทุกคำพูด
นั่งตามข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของ apple ในช่วงปีที่ผ่านมา
ถึงแม้จะดูน่าสนใจ แต่มันไม่ค่อยโดน
วันก่อนพอดูโฆษณาของ lumia ในเว็บนี้ รู้สึกเลยว่าแต่ละฟังก์ชันที่โฆษณาน่าสนใจมาก
แม้ว่าตัวผลิตภัณฑ์จริงจะทำได้อย่างที่โม้หรือไม่คงต้องมาดูกันอีกที
แต่ต้องยอมรับว่านวัตกรรมใหม่ ๆ ของ apple ในปีที่ผ่านมาไม่ค่อยโดน(หรือไม่ค่อยมี)
เมื่อวานเข้าไปใช้ เฮีย ของโนเกีย ยัง search ภาษาไทยได้และหาร้านกาแฟแถวที่ทำงานผมได้ (ต่างจังหวัด)
แต่ apple maps นี่ว่างเปล่ามาก search อะไรก็ไม่เจอ
ผมต้องใช้วิธีไปหาใน google map ด้วยชื่อไทย แล้วเอาชื่อภาษาอังกฤษมาพิมพ์ใน apple map เพื่อใช้นำทางเวลาไปเที่ยว
ส่วน ios 6 หลังจากอัพแล้ว safari ผมค้างบ่อยมากเมื่อมีปัญหา detect สัญญาณ wifi ไม่ได้ (ต่อ wireless ผ่านเน็ตที่หอพัก)
แบบว่าเล่นไปค้างไป ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เป็น
ผมเองก็มองว่าโฆษณาของ Apple เองมันเรียบง่ายจนเกินไป จนดเหมือนไม่ต่างอะไรหรือไม่รู้อัถประโยชน์อะไรเท่า โฆษณาของ Nokia และ Samsung ที่โฆษณาได้เจาะถึงความต้องการผู้ใช้ได้ดีกว่ามาก ผมดูผมยังสนใจ Lumia มากกว่าเลย
ประเด็นคือเมื่อเทคโนโลยีมันพัฒนาไปเรื่อยๆ ไอ้จุดแข็งเดิมที่เคยมี วันพรุ่งนี้ มันอาจจะเป็นอะไรที่แตกต่างออกไป
อย่าลืมว่าเมื่อเป็นผู้นำแล้ว ก็ย่อมต้องถูกไล่ล่าอันนี้เป็นเรื่องปกติในแวดวงธุรกิจ ...ถ้าการพัฒนาทำได้ช้าลง ซักวันก็จะโดนตามทัน หรือแย่กว่านั้นก็จะโดนแซง
แต่ยังไงก็ตาม ผมเชื่อว่าบริษัทอย่าง Apple เดี๋ยวก็คงมีอะไรที่ต่างจากชาวบ้านออกมาอีกแหละ
..: เรื่อยไป
แพลตฟอร์มอื่นน่าจะแข่งกันสร้างระบบนิเวศมาท้าแข่งไอทูนมากกว่า อยากเห็นของค่ายอื่นสร้างนวัตกรรมมาแข่งกันจะได้เห็นอะไรดี ๆ ออกมาอีกเยอะ
ใน vdo สัมภาษณ์แกใน TC หน้าแกดูจะเมาๆ - -"
แอบคิดเหมือนกันแฮะว่าเก็บข้อมูลไว้บน Cloud มากๆ ถ้าวันไหนเกิดภัยพิบัติขึ้นมา data center ของ Dropbox พังถล่มไป จะทำยังไง
Educational Technician
ใช่ One X+ ขายพร้อม Internal Storage ที่ 64GB ได้ในราคา 21,900 ได้ เพราะตอนนี้สถานการณ์ HTC ไม่ค่อยดี ได้กำไรน้อยก็ต้องยอมขาย จะไปเอากำไรมากๆ คนซื้อก็คงวิ่งไปที่ Samsung หมด
iTunes Store มันเป็นจุดขายของ iOS เลยนะนั่น เฮียแกะแนะนำได้สมกับตัวแกมากเลย (สมัยก่อนตอนที่ออกแบบ Apple I เฮียแกเกือบจะแจกลายวงจรฟรีๆ ถ้ายังงั้นวันนี้ก็คงไม่มี Apple )
อีกอย่างนึงประสบการณ์สมัยที่ออก license Mac Compatible น่าจะยังหลอน Apple อยู่ถึงทุกวันนี้
+1
เวลา Woz ออกมาพูดอะไรแบบนี้ ผมเชื่อและเห็นด้วยเกือบทุกคำพูดเลยแฮะ พูดถูกใจไปหมด มากกว่าลุง Jobs อีก
แต่ Jobs ก็พิสูจน์ให้เห็นจริงมาเยอะมากแล้ว ว่าสิ่งท่ีเค้าคิดและทำมันเวิร์ค แม้จะขัดใจเราๆ หลายอย่าง
ถ้าเอาแนวคิดของ Woz มาบริหารบริษัท อาจจะเจ๊งก็ได้ ความถูกใจของเราเพียงอย่างเดียว มันคงไม่เพียงพอกับการบริหาร
Woz คิดถึงผู้บริโภคเป็นหลัก
Jobs คิดถึงองค์กรเป็นหลัก มันต่างกันที่ POV
ถ้าคิดถึงแต่ผู้บริโภค องค์กรก็จะย่ำแย่
ถ้าคิดถึงแต่องค์กร ผู้บริโภคก็จะไม่พอใจหันไปใช้ผลิตภัณฑ์อื่น
Jobs เก่งมากที่ทำให้มันลงตัวได้ทั้งผู้บริโภคและองค์กรพอใจ
แต่ปัจจุบันเป็นยุคของ Cook ที่จะจัดสรรอย่างไรให้ทั้งผู้บริโภคและองค์กรพอใจไปควบคู่กัน ในตอนนี้ทำได้ดีมากสำหรับองค์กร แต่ไม่ได้บ่งชี้ว่าอนาคตแนวทางนี้จะดีตลอดไป ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆจะกลายเป็น Nokia/Rim เมื่อปี 2ปีก่อน
แถม job มองข้ามช้อต เหมือนกลายๆว่าเป็นตัวกำหนดเองว่าผู้บริโภค "ต้องการ" อะไร นี้แหละเจ้าของตลาดตัวจริง
มันจบไปตั้งแต่ผู้คนรู้จักแอนดรอยครับ.... เพราะมีคนกลุ่มนี้ไม่ต้องการให้ใครมากำหนดว่าอะไรที่ฉันควรมี แต่ฉันจะกำนดเองว่าฉันควรมีอะไร
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าไม่มีสินค้าประหลาดอย่าง iPad ตลาด tablet คงไม่บูมเหมือนทุกวันนี้นะครับ เพราะมันเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่ได้นึกเลยว่า จริงๆแล้วเราสร้างสิ่งแบบนี้ขึ้นมาได้ (อย่างที่เห็นผุดตามกันมา)
หลังจากจุดนั้นก็เห็นด้วยกับท่านครับ เมื่อทุกคนรู้ว่าอยากได้อะไรปุ๊บ แอปเปิลก็จะมาจำกัดนั่นนี่ไม่ได้มากแล้ว
ยกเว้นจะมี iDevice อันใหม่ออกมา ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
iPad ไม่ใช่สินค้าใหม่มาจากไหนเลยครับ เป็นแค่แนวคิดการแยกการเล่นออกจากการทำงาน ที่กลับกับไมโครซอพท์ที่พยายามทำให้งานกับเล่นมาในเครื่องเดียวกันทำให้ไม่คำนึงถึงน้ำหนัก ขนาด และการใช้พลังงาน ผลออกมาเลยเป็นแท๊ปเล็ตพีซีที่ล้มไม่เป็นท่า แอปเปิลแค่เอาความผิดพลาดของไมโครซอฟท์มาปรับปรุงโดยเน้นการเล่นอย่างเดียวเพราะอัตราการใช้งานอินเตอร์เน็ตในเครื่องมือถือเพิ่มขึ้นสูง ทำให้ช่วงเวลาการออกมาของ iPad ดีกว่าแท๊ปเล็ตพีซี
ตอนนี้ต้องมาดูว่าการยึดติดกับการรวมการทำงานและการเล่นไว้ด้วยกันของไมโครซอฟต์จะพลิกเกมได้หรือเปล่า
iPad ไม่ใช่สินค้าใหม่ก็จริง แต่ ณ เวลานั้น มีใครคิดทำมันออกมาแล้วบูมขนาดนี้ไหมล่ะครับ
แอปเปิลเป็นคนที่กำหนดเองทุกอย่างว่าผู้บริโภคต้องอยากได้สิ่งนั้น อยากได้สิ่งนี้
ซึ่งมันก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน เพราะ iOS ไม่ต้องตั้งค่ามาก ส่วนแอนดรอยด์ต้องมาจัดการไฟล์ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ผู้บริโภคที่ชอบแอปเปิลหลายคนชอบเพราะมันง่าย แต่ผู้บริโภคที่ชอบแอนดรอยด์เพราะมันอิสระ
สองอย่างนี้ไม่มีผิดถูก มีแต่คนชอบกับไม่ชอบ
+1 "สองอย่างนี้ไม่มีผิดถูก มีแต่คนชอบกับไม่ชอบ" แต่ผมชอบประโยคนี้นะ
ความคิดเห็นคุณน่ะมีอคติกับ Apple ในทุกข่าว ผมสังเกตมานานและ แต่ความจริงก็คือความจริงครับ Apple คือผู้ปฏิวัติวงการแท็บเล็ตแม้คุณจะไม่อยากยอมรับก็เถอะ
ผมว่า Android มันสำหรับ power user ที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร อยากได้อะไรแล้วต้องทำอย่างไร
แต่สำหรับ user ทั่วไป เขาไม่อยากกำหนดเองว่าเขาควรจะมีอะไร เขาแค่อยากจะใช้ในสิ่งทั่วๆไปที่ขอแค่มีและใช้งานได้ง่ายก็เพียงพอแล้ว คนเหล่านี้ไม่แคร์ไม่สนคุกกระจกหรอกครับ ซึ่งพวกนี้จะเหมาะกับ Apple ที่ สวย/เรียบหรู/มีสไตล์ นั่นเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง
Woz ==> มองในมุมผู้บริโภค
Jobs ==> มองในมุมผู้บริหาร
ผมคิดแบบนี้นะ เลยถูกใจคำพูดลุง Woz ทุกที
โอ้ สรุปได้ถูกใจจริงๆ ครับ
ลุงจ็อบส์แบบว่า อยากให้คนใช้ ใช้อะไร
ลุงวอซประมาณว่า อยากได้อะไรมาใช้
+10000000000000000000
+1000
+1
WP มี Zune นะ
หรือปัจจุบันก็คือ Xbox Music
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Woz ก็เป็นอย่างงี้แหละผมก็ชอบนะ แต่คิดแบบนี้คนถือหุ้นAppleคงไม่ค่อยชอบ
เป็นคนเดียวจากแอปเปิลที่ออกมาพูดอะไรแล้วผมไม่ค่อยแอบหมั่นไส้ (เทียบกับคนอื่นๆในบริษัท) มีชมมือถือค่ายอื่นว่าดีเนอะ น่าใช้ ฮาดี
ถูกใจ ใช่เลย..
ผมรู้แค่ว่า ยังไงก็รู้สึกว่าแอปเปิ้ลคือช่วงขาลง เพราะความรู้สึกตอนนี้มันต่างกับตอนเค้าปฏิวัติวงการมาเป็นจอทัสกรีนเลย ตอนนี้กลับเหมือนกับบุญเก่ามากๆ
ความคิดแบบคุณน่ะคือความคิดแบบคนโลกแคบ ผมถามนิดนะ ตั้งแต่ปี 2001 ตอนเปิดตัว iPod เครื่องแรกจนถึงปี 2007 ตอนก่อนเปิดตัว iPhone Apple ได้เปิดตัวอะไรที่ิเป็นการปฏิวัติโลกบ้างไหม? ช่วงระยะเวลา 6 ปีน่ะก็มีแค่การปรับปรุง Mac กับ iPod ให้เล็กลง บางลง ความสามารถมากขึ้น นวัตกรรมไม่ได้จะเกิดขึ้นทุก ๆ ปีซะหน่อย แค่ไม่มีอะไรใหม่ในช่วงนี้นี่ถือว่าเป็นขาลงเลยหรอครับ? อคติของคุณที่มีต่อ Apple มันบังตาคุณหมดแล้ว (ผมรู้ว่าคุณมีอคติกับ Apple เพราะผมเห็นมาหลายข่าวแล้ว)
"มนุษย์นั้นสำคัญกว่าเทคโนโลยี"
พูดกันจริง ๆ หุ่นเดินตามไอโอเอสมาเลยนะ ถ้าแอปเปิลไม่เข็นมันออกมาในปี 2007 มันก็คงมาแต่อาจจะหลายปีและไม่พัฒนาไปเร็วขนาดนี้ ถ้าพี่กูเกิลดันระบบนิเวศให้แจ๋วกว่าไอทูนมันคงน่าตื้นเต้นกว่าคอยเดินตามนะ