แผนการเปลี่ยนเอชพีให้กลายเป็นบริษัทซอฟต์แวร์และบริการของ Léo Apotheker กลายเป็นความวุ่นวายที่ยังไม่จบของเอชพีจนทุกวันนี้ หลังการเข้าซื้อ Autonomy ด้วยมูลค่า 11.1 พันล้านดอลลาร์ แต่ต้องลงบันทึกบัญชีขาดทุนไปถึง 8.8 พันล้านดอลลาร์ ทำให้อดีตผู้บริหารออกมาตอบโต้ว่าเป็นเพราะการบริหารที่ผิดพลาดของเอชพีเอง ตอนนี้เอชพีก็มีแถลงการตอบกลับออกมาแล้ว โดยมีใจความโดยรวมว่าเอชพีเตรียมจะฟ้องผู้บริหารเหล่านี้จากการปลอมแปลงบัญชี
เอชพีระบุว่าพบหลักฐานจำนวนมากว่ามีการปกปิดข้อมูล, การแสดงมูลค่าที่ผิด ระหว่างการเข้าซื้อบริษัท โดยตอนนี้เรื่องนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงานคดีฉ้อโกงของอังกฤษ, คณะกรรมการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ, และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ โดยเอชพีจะรอท่าทีของหน่วยงานเหล่านี้ว่าควรดำเนินคดีกับอดีตผู้บริหารอย่างไรบ้าง และเอชพีเองจะดำเนินคดีเมื่อถึงเวลาเหมาะสม
ที่มา - eWeek
Comments
ต้องฟ้องหาแพะ
ปกติ การตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีก่อนซื้อบริษัทมันเป็นหน้าที่ของคนซื้อไม่ใช่เหรอ
หรือว่าผมเข้าใจผิด
เค้าก็ตรวจอยู่แล้วแหละครับ และน่าจะจ้างพวก audit/advisor ช่วยดูด้วย แต่บางทีอาจจะไม่ได้ละเอียดขนาดว่าถ้าตั้งใจซ่อนจริงๆ จะเจอทุกอย่าง เคสนี้คงต้องลองรอดูผลแหละครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
จะได้ฟ้องเหรอ ??? ได้ข่าวมีสถาบันการเงินเกี่ยวข้องในการตรวจสอบก่อนซื้อเยอะมั่ก .. เผลอ ๆ ตัว Board HP เองนั่นแหละจะถูกฟ้อง
รุปแบบ ธุรกิจ ของต่างประเทศ มันก็ค่อนข้างจะโหดหิน อยู่เหมือนกัน ช่วงการขาย กิจการ ผมว่ามันก็ต้องมี ผูกไท้ ใส่สูท กันอยู่แน่ๆ
มันก็อาจจะมีกลิ่น ตุตุ อยุ่ก็ได้...
มันเหมือนซื้อบ้าน หรือ คอนโดมั๊ยอ่าครับ เช่นซื้อคอนโด จ้างคนมาจรวจรับงาน พอเซ็นรับงานเสร็จ ผ่านไป 1 ปี เหมือน ท่อน้ำจะรั่ว มีการซึม ผมจะโทษใครได้มั้ง ระหว่าง คนตรวจ ตัวเอง หรือโครงการ
ฟ้องแก้เก้อรึเปล่า? ฟ้องแล้วจะเงิบรึเปล่า?
ฝรั่งยังปลอมแปลง ปกปิดบัญชีกันเลย (บ้านเราเรื่องแบบนี้ ติดอันดับโลก ครับ) :-(