ศาสตราจารย์ Latanya Sweeney จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อค้นหาข้อมูลด้วย Google ผลการค้นหาด้วยชื่อของบุคคลผิวสี ให้ผลที่แตกต่างไปจากการค้นหาด้วยชื่อของบุคคลทั่วไป
การศึกษานี้ทำโดยการป้อนชื่อและนามสกุลของผู้คนทั่วไปราว 2,000 รายชื่อเพื่อหาข้อมูลจาก Google โดยแยกเป็นกลุ่มรายชื่อที่คนผิวสีนิยมตั้งกัน เช่น Ebony หรือ DeShawn เปรียบเทียบกับการค้นหาด้วยชื่อซึ่งเป็นที่นิยมตั้งกันในหมู่คนขาว เช่น Jill หรือ Geoffrey
Sweeney ตั้งข้อสังเกตว่า การค้นหาด้วยรายชื่อที่กลุ่มคนผิวสี มักมีลิงก์โฆษณาของเว็บตรวจสอบประวัติอาชญากรรมปรากฎอยู่ด้วย โดยคิดเป็นสถิติสูงกว่าการค้นหาด้วยรายชื่อกลุ่มคนขาวประมาณ 25%
Google ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องการสร้างอัลกอริธึมโดยแบ่งตามข้อมูลสีผิวของผู้ใช้งาน พร้อมทั้งอธิบายว่าการลงโฆษณาจะเปิดให้ผู้ลงโฆษณาได้ประมูลแย่งพื้นที่โฆษณากันโดยแบ่งตามคำค้นหา หรือข้อความค้นหาที่สำคัญ ซึ่งกลไกในการเลือกโฆษณาโดยยึดเอาคำที่เกี่ยวข้องหรือชื่อที่นิยมกันในคนกลุ่มไหนนั้น เป็นสิ่งที่ผู้ลงโฆษณาตัดสินใจเอง
การศึกษาข้อมูลในครั้งนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุน National Science Foundation และได้รับการเห็นชอบโดย Google
ที่มา - Daily Mail
Comments
ผมว่าไม่น่าเกี่ยวข้องนะครับ อย่างที่กูเกิลบอกนั่นแหละ
ผมก็คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยว แต่พอคิดแล้วก็ต้องคอยถามตัวเองว่า "นี่ลำเอียงเข้าข้าง Google มากไปป่าว?"
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
"มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด" มหาลัยที่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เรียนหนิ?"
ใครจะมานั่งทำ algorithm ล่ะครับ พวกที่ลงโฆษณาพวกนี้น่ะแหละตัวดี วันๆเขาจะนั่งนึกว่า keyword ไหนที่คนค้นแล้วน่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของเขา ขนาดผม search หา iphone หรือมือถือยี่ห้ออื่น ยังเห็นโฆษณา Samsung Galaxy S3 เลยบางที พี่แกซื้อดักไว้หมด
หา Lumia ก็เจอ ATIV =="
Coder | Designer | Thinker | Blogger
น่าสนใจว่าศาสตราจารย์คนดังกล่าวทราบถึงการใช้งาน AdWords หรือไม่
Keyword คู่แข่งหรือคำตรงกันข้้ามนี่ตัวทำเงินเลย ผมก็ใช้อยู่
ไม่มีลายเซ็น
"โดย ด้วย" น่าจะเลือกสักคำไหมครับ :D
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.