Sundar Pichai หัวหน้าคนใหม่ของทีม Android (ที่มีตำแหน่งหัวหน้าทีม Chrome อยู่ก่อนแล้ว) เปิดปากให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกหลังรับตำแหน่ง ก่อนเริ่มงาน Google I/O 2013 เพียงไม่กี่วัน

ประเด็นที่ Pichai พูดถึงงาน Google I/O ครั้งนี้คือรูปแบบของงานจะแตกต่างออกไป กูเกิลจะไม่เน้นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ แต่จะเน้นงานที่เกี่ยวกับนักพัฒนาแอพบน Android และ Chrome แทน กูเกิลจะโชว์ว่าบริการของตัวเองทำงานได้ดีแค่ไหนบนทั้งสองแพลตฟอร์มนี้

ประเด็นอื่นๆ ที่ Pichai พูดถึงมีดังนี้

• เขารู้เรื่องที่ Andy Rubin จะลงจากตำแหน่งไม่นานนักก่อนข่าวออกสู่สาธารณะ แต่ก็ดีใจที่ได้รับตำแหน่งที่สร้างผลกระทบมากขนาดนี้
• การแยกระบบปฏิบัติการสองตัวไม่ใช่ปัญหา เขายกตัวอย่าง Mac OS X กับ iOS มาเทียบว่าผู้ใช้และนักพัฒนาสนใจระบบปฏิบัติการน้อยลง แต่หันมาสนใจระดับแอพพลิเคชันมากขึ้น
• ในอนาคตอันใกล้ กูเกิลจะใช้นโยบายเดิมกับ Chrome และ Android โดยไม่เปลี่ยนแปลง จะมีการใช้โค้ดร่วมกันบ้างเฉพาะส่วนของเบราว์เซอร์ดังเดิม
• กูเกิลยินดีที่ Facebook เลือกทำ Facebook Home บน Android ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าความเปิดกว้างของ Android ช่วยสร้างนวัตกรรมได้ กูเกิลจะไม่บล็อคหรือปิดกั้น Facebook (รวมถึง Kindle Fire) อย่างไรก็ตาม เขามีมุมมองต่างจาก Facebook ในเรื่อง "คนเป็นศูนย์กลาง" อยู่บ้าง
• เขาตอบคำถามเรื่องซัมซุงมีอิทธิพลในโลกของ Android มากเกินไปโดยการหยิบ Galaxy S4 ขึ้นมาโชว์ว่าเป็นโทรศัพท์ประจำตัวของเขาในตอนนี้ ก่อนจะบอกว่าไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ตรวจจับสายตาของ S4 เลย
• กูเกิลจะดำเนินโครงการฮาร์ดแวร์ทั้ง Nexus และ Chromebook ต่อไป โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพของแพลตฟอร์มเป็นสำคัญ
• เขามองต่างกับ Facebook ที่เห็นว่า HTML5 เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ โดยบอกว่าบริษัทอื่นๆ อีกมากดำเนินแนวทางกลับกันกับ Facebook คือเปลี่ยนจาก native มาเป็นเว็บ
• โมเดลธุรกิจของ Android ในปัจจุบันที่ทำเงินได้น้อยกว่าแอปเปิลไม่ใช่ปัญหา ตราบเท่าที่ผู้ใช้ยังใช้ "บริการหลัก" ของกูเกิลอย่าง Search, YouTube, Maps บนโทรศัพท์
• กูเกิลจ่ายเงินให้นักพัฒนาแอพบน Play Store เพิ่มขึ้น 4 เท่าตัวในปี 2012
• Firefox OS เป็นหลักฐานยืนยันชั้นเยี่ยมว่าทำไมกูเกิลต้องทำ Chrome OS
• กูเกิลรับทราบปัญหาเรื่องการอัพเดต Android ที่ยุ่งยาก และกำลังพยายามหาวิธีแก้ไขกับพันธมิตรผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ (แต่ยังไม่บอกว่าจะแก้อย่างไร)

ที่มา - Wired