ข่าวการเปิดตัว iOS 7 หน้าตาใหม่เมื่อวานนี้ กลายเป็นประเด็นใหญ่ของโลกไอทีประจำสัปดาห์ เนื่องจากหน้าตาอันคุ้นเคยของ iOS ที่สืบทอดกันมานาน 6 ปีเต็ม (ถ้าย้อนไปเก่ากว่านั้นก็อาจนับตั้งแต่ Mac OS X รุ่นแรกได้เลยด้วยซ้ำ) ถูกฉีกทิ้งไปทั้งหมด และเปลี่ยนใหม่กลายเป็นหน้าตาแบบแบนราบ (ที่ไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการแต่เราเรียกกันเองว่า flat design)
เสียงวิจารณ์ต่อทิศทางการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีทั้งเชิงบวกและลบ (อย่าลืมโหวตโพลด้วยนะครับ) วันนี้เราจะมาวิเคราะห์เหตุผลเบื้องหลังของแอปเปิลว่าทำไมต้องเปลี่ยน และเปลี่ยนแล้วแล้วไง จะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ (ภาพเยอะหน่อยนะครับ)
คำอธิบายของแอปเปิล
บนเว็บไซต์ iOS 7 ของแอปเปิลเองให้คำอธิบายเอาไว้เยอะพอสมควร ผมลองคัดมาเฉพาะส่วนสำคัญๆ พร้อมทำสีเหลืองไฮไลท์เอาไว้ให้เห็น
และถ้าลองดูวิดีโอเปิดตัว iOS 7 ที่ฉายในงาน WWDC 2013 ด้วย จะพบว่าโจนาธาน ไอฟ์ ก็พูดคีย์เวิร์ดชุดเดียวกันออกมา เช่น simplicity, clarity, efficiency, order to complexity, whole new structure, coherence, hierarchy and order, depth, vitality, unobstructive, differential, more useful, more enjoyable, new direction
ทั้งหมดเป็นภาษาการตลาดแนวแอปเปิลทีอธิบายให้ "ดูดี" แต่แอปเปิลกลับไม่บอกออกมาตรงๆ ว่าเหตุผลที่เปลี่ยนคืออะไรกันแน่ บอกแค่ว่าเปลี่ยนแล้วมันดีขึ้นอย่างไร
ถ้าให้ผมลองวิเคราะห์ดู เหตุผลหลักของแอปเปิลในการเปลี่ยนแปลงมี 2 ประการ ได้แก่
1) เปลี่ยนเพื่ออนาคต
ถึงแม้ iOS ปัจจุบันยังใช้ดีไซน์ที่สวยงามและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง แต่ "อายุ" ของดีไซน์ลักษณะนี้ถือว่าเก่าพอสมควรถ้าเรานับย้อนไปสมัย Aqua ของ Mac OS X
การเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปของดีไซน์ที่ซับซ้อน (ครอบคลุมระบบปฏิบัติการทั้งตัว) ส่งผลให้เกิดปัญหาเรื่องความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (consistency) ถึงแม้ว่าแอปเปิลจะมีข้อกำหนดด้านการสร้าง UI ที่เรียกว่า Human Guideline Interface แต่มันก็เป็นข้อกำหนดเอกสารที่ไม่ตายตัวและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ (แถมแอปเปิลก็เป็นฝ่ายละเมิดกฎของตัวเองด้วยซ้ำในหลายๆ ครั้ง)
วิวัฒนาการของ UI แบบ Aqua ที่สั่งสมมายาวนานทำให้ UI ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนัก (ซึ่งระบบปฏิบัติการอื่นก็มีปัญหานี้นะครับ เรายังเห็น UI เก่าคร่ำครึตั้งแต่สมัย Windows 9x หลบซ่อนอยู่ใน Windows 7/8 เหมือนกัน) จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แอปเปิลต้องลุกขึ้นมา "จัดระเบียบ" ครั้งใหญ่ และแนวทางดีไซน์แบบนี้จะกลายเป็นฐานหลักให้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลในอีกหลายปีข้างหน้าต่อไป
แอปเปิลไม่ใช่บริษัทแรกที่ลุกขึ้นมา CHANGE ในรอบหลายปีให้หลังมานี้ เราเห็นไมโครซอฟท์นำร่องไปแล้วกับดีไซน์แนว Metro (เริ่มใช้ปี 2010 กับ Windows Phone 7) และกูเกิลเองก็ปรับดีไซน์เป็น Holo (เริ่มใช้ปี 2011 ใน Android 3.0 Honeycomb) ที่ต่างจากดีไซน์ของ Android 2.x อยู่มาก
2) การเมืองเปลี่ยน ดีไซน์เปลี่ยน
เหตุผลง่ายๆ เรื่องการเมืองภายในบริษัท เมื่อฟากฝ่ายผู้นิยมดีไซน์แนวเลียนแบบวัตถุจริง (skeuomorphism) ทั้งสตีฟ จ็อบส์ และสก็อต ฟอร์สทอล มีอันต้องออกจากบริษัทไป ฝ่ายที่นิยมดีไซน์แนวเรียบง่าย (minimalism) อย่างไอฟ์ขึ้นมากุมอำนาจ จึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่ไอฟ์จะ "ถอดรื้อ" แนวทางการดีไซน์เดิมทิ้ง และใส่แนวทางใหม่ของตัวเองลงไป
ถ้าให้เทียบกับเมืองไทย ก็เหมือนกับเปลี่ยนรัฐบาลทีไร แต่ละกระทรวงก็เปลี่ยนนโยบายตามรัฐมนตรีคนใหม่นั่นล่ะครับ
อีกประเด็นที่คนวิจารณ์กันเยอะว่า iOS 7 ลอกแนวทางการออกแบบของคู่แข่งมาหรือไม่ ให้ผมตอบแบบฟันธงก็บอกได้เลยว่า ลอก
ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูภาพเปรียบเทียบ iOS 7 กับระบบปฏิบัติการคู่แข่งตัวอื่นๆ (เลือกมาเฉพาะ default UI)
หน้าตาของ Home เทียบกับ MIUI v5
Control Center เทียบกับ Toggle ของซัมซุง
Mail เทียบกับ Gmail for Android รุ่นก่อนรุ่นปัจจุบัน
Phone Call เทียบกับ Skype for Windows Phone (ภาพจาก WP7Connect)
Weather เทียบกับ Yahoo! Weather บน iOS
ส่วนหน้าตาของ Multi-tasking หลายคนเทียบกับ Windows Phone แต่ถ้ายังจำกันได้ ต้นฉบับมาจาก Palm webOS ครับ (เปิดตัวปี 2009)
เรื่องเปรียบเทียบแนวทางการดีไซน์ เว็บเมืองนอกก็เขียนเรื่องนี้กันเยอะ ลองดูได้ที่
โดยสรุปแล้ว แอปเปิลก็หยิบจับแนวทางดีไซน์จากระบบปฏิบัติการคู่แข่งหลายๆ ตัว มาผสมผสานใน iOS 7 อย่างไม่มีข้อกังขาแน่นอนครับ
ลอกแล้วไง?
ถ้าถามว่าลอกหรือไม่? คำตอบคือลอกชัวร์ แต่ถ้าถามต่อว่า "แล้วไง?" ผมก็คิดว่าไม่แล้วไงครับ ไม่มีปัญหาอันใด ผู้ใช้ได้ประโยชน์ อุตสาหกรรมโดยรวมแข่งขันกันมากขึ้น มีข้อเสียอย่างเดียวเท่านั้นคือ "สาวกเสียศักดิ์ศรี"
ต้องย้อนกลับมาที่สภาพการแข่งขันของวงการไอทีนั้นหยิบโยงแนวคิดทั้งแง่การออกแบบและฟีเจอร์ระหว่างกันมาโดยตลอด กรณีที่คลาสสิคที่สุดก็คงหนีไม่พ้น "แอปเปิล" (อีกแล้ว) จากกรณีนำ GUI/เมาส์ มาจาก Xerox PARC อันลือลั่น (ก่อนจะมาโดยไมโครซอฟท์ "ลอก" อีกต่อหนึ่ง)
สตีฟ จ็อบส์ เองก็มีประโยคอันลือลั่น (ที่นำมาจากพิกัสโซ่) ว่า "Good artists copy; great artists steal."
และอย่าลืมประโยคเด็ดที่ผมพูดกับสาวกอยู่บ่อยครั้ง Konfabulator!
โลกไอทียุคหลังเราเห็นการลอกไอเดียกันสารพัด ใครคิดอะไรใหม่และเจ๋งได้ย่อมหนีไม่พ้นการถูกลอก (ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นการพิสูจน์ว่ามันเป็นแนวทางที่เวิร์คและเป็นประโยชน์กับผู้ใช้) แอปเปิลเป็นต้นแบบของการดีไซน์ไอคอนแนวสมจริง-แสงเงา-โปร่งใสมาตั้งแต่ Mac OS X ซึ่งไมโครซอฟท์ก็เดินรอยตามใน Windows Vista (ซึ่งเปลี่ยนจาก XP ที่เน้นไอคอนแบบการ์ตูน) และในเวลานั้นไมโครซอฟท์ก็โดนวิจารณ์ว่า Aero Glass ลอก Aqua ของแอปเปิลเช่นกัน
ในยุคถัดมาที่ดีไซน์แนวแบนราบ (flat) ได้รับความนิยม ไมโครซอฟท์เป็นผู้ริเริ่มที่ชัดแจ้งใน Windows Phone ก่อนใคร ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรที่ดีไซน์ Holo ของ Android หรือ iOS 7 จะถูกมองว่าเลียนแบบถ้าเป็นฝ่ายทำทีหลัง
ในอีกแง่หนึ่งคือด้านฟีเจอร์อย่าง notification หรือ toggle ของ Android ก็พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเวิร์ค ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอีกเช่นกันที่ iOS จะลอกฟีเจอร์เหล่านี้มา
โดยสรุปแล้วก็คือ ลอกไปเถอะครับ ถ้ามันเป็นประโยชน์กับผู้ใช้ ยอมเสียศักดิ์ศรีกันหน่อยเพื่อความสะดวกที่เพิ่มขึ้นของทุกคน
หมดจากประเด็นว่าเปลี่ยนทำไม-ลอกหรือเปล่า ก็มาถึงประเด็นที่พูดกันเยอะว่าสวยหรือไม่สวยอย่างไร?
เรื่องความสวยเป็นรสนิยมส่วนบุคคลอย่างแท้จริง โดยส่วนตัวแล้วผมชอบดีไซน์แบบ flat มานาน (หลักฐาน) และรู้สึกว่าแนวทาง skeuomorphism ของแอปเปิลนี่ลิเกมาก ดังนั้นผมจึงเห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าการเปลี่ยนดีไซน์ครั้งใหญ่รอบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเสร็จภายในครั้งเดียว และแอปเปิลคงต้องปรับแก้ (ในแง่ดีไซน์) อีกหลายๆ จุดให้ลงตัวมากกว่านี้ในอนาคต (ซึ่งในอดีต แอปเปิลก็แอบเนียนเปลี่ยนหน้าตาของ OS X อยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว รอบนี้ก็น่าจะทำแบบเดียวกัน)
คู่แข่งอย่าง Android Holo ก็ปรับแก้อยู่สักพักใหญ่ๆ ถ้าลองเทียบ Holo ใน Android 3.0 กับ 4.2 จะเห็นว่ามันถูกปรับไปเยอะเหมือนกัน ซึ่งกรณีของ iOS 7 ก็คงไม่ต่างกันมาก เราคงเห็นแอปเปิลค่อยๆ ปรับแก้บางจุดใน iOS 7.x หรือรุ่นต่อๆ ไปในอนาคตจนกว่าจะลงตัว
ใช้สินค้าค่ายนี้ ไม่น่าจะมีทางเลือกอื่นนะครับ
ถ้าย้อนกลับไปยังประเด็นเรื่องการเมืองภายในบริษัท ผมคิดว่าแอปเปิลยุคหลังสตีฟ จ็อบส์ (Post-Jobs era) เริ่มเซ็ตตัวเข้ารูป อำนาจการบริหารของทิม คุก และคณะผู้บริหารที่ทำงานเข้ากันได้เริ่มลงตัว ในขณะที่ตัวแปลกปลอมอย่างฟอร์สทอลถูกขับออกไป
ต่อจากนี้ไปก็เป็นเวลาที่แอปเปิลยุคใหม่ (ขอเรียกเป็น Apple 3.0) จะต้องพิสูจน์ตัวเอง ทั้งในแง่ผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และดีไซน์
การเปลี่ยนแปลงเรื่องหน้าตาของ iOS 7 ถือเป็น "ก้าวแรก" ของแอปเปิลยุคใหม่ (ตามที่ไอฟ์พูดว่า New Direction ในวิดีโอ) มันคือหน้าตาผิวหน้าที่บ่งบอกว่าแอปเปิลในยุคสมัยนี้ควรจะเป็นอย่างไร
การเปลี่ยนหน้าตาของ iOS 7 เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เช่นเดียวกับ Windows Phone 7 ของไมโครซอฟท์ที่เป็นจุดตั้งต้นให้ Metro ระบาดไปทั้งบริษัทในภายหลัง (ไม่เว้นแม้แต่ Windows Server) กรณีของแอปเปิลคงไม่ต่างกัน คนที่ดู Keynote คงเห็นว่าดีไซน์ของ OS X Mavericks กับ iOS 7 แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และอีกไม่ช้าเราคงเห็น OS X ถูกปรับโฉมครั้งใหญ่ตาม iOS (ที่กลายเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทไปแล้ว) กันนะครับ
ไอคอนของ OS X จะเห็นว่ามันไม่ค่อยเข้ากันระหว่างแนวทางเดิม (Calendar/Finder) กับแนวทางใหม่ (iBooks/Maps)
Safari ใหม่และเก่า มันต้องมีใครสักคนหายไป ซ้ายหรือขวา?
การปรับโฉมของ iOS 7 เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะมันสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของ "แอปเปิลยุคใหม่" ที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่ในฉากหลัง
ส่วนในแง่ของผู้ใช้-การใช้งาน ก็เป็นหน้าที่ของแอปเปิลที่จะชักจูง (เรื่องถนัด) ให้ผู้ใช้รู้สึกว่าได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ในแง่มุมต่างๆ (ใช้ง่ายขึ้น-สวยขึ้น-ทันสมัยขึ้น) ต่อไป ซึ่งเราจะได้เห็นกันจริงๆ เมื่อ iOS 7 รุ่นจริงเปิดให้ดาวน์โหลดนั่นเองครับ
Comments
ยังไง ๆ ก็ต้องก้าวไปข้างหน้า อยู่กับแอปเปิลยุคใหม่ให้มีความสุขดีกว่าครับ
ผมเห็นด้วยที่ไม่มีใครไม่ลอกใครครับ แต่การลอกมันก็ต้องลอกแบบมีศาสตร์และศิลป์ด้วย ส่วนตัวมองว่า iOS 7 ลอกจริง แต่ลอกแล้วบางอย่างตัวเองทำดีกว่า อันนี้ต้องชื่นชม Johnathan Ive ในการสรรสร้างหน้าตาที่สวยงาม (ยกเว้นไอคอน) มาไว้ได้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ยกเว้นไอคอนจริงๆ ครับ
ขัดใจสุดก็ตรงซาฟารีเนี่ยแหละ
onedd.net
ถ้าผมอยากเห็นรูปม้าลายสิงโตผมไม่ผิดใช่มั้ยครับ
คือแต่ก่อนไม่รู้จักซาฟารีจริงๆ ได้ยินครั้งแรกแล้วนึกว่าไอคอนจะแนวๆ สวนสัตว์ / เคนย่า / ซาวันน่า ปรมาณนั้น
ซาฟารีแปลว่าเข็มทิศนะครับ ไม่รู้เหรอครับเนี่ย เชยจัง
onedd.net
ซาฟารีเวิร์ล = โลกแห่งเข็มทิศ
เสื้อซาฟารี = เสื้อเข็มทิศ :D
ผมโดนหลอก ; 3; เชื่อไปแล้ว 10 วินาที
พวกผู้ชายชอบหลอกลวง ; 3;
ท่าจะโดนมาเยอะสินะครับ
+1 ครับ
คิดว่าลอกเหมือนกัน แต่ทำออกมาได้ลงตัวดีครับ
งงอ่ะ เห็นด้วยว่าไม่มีใครลอกใคร แต่มองว่า iOS 7 ลอกจริง ???
เค้าบอกว่า "เห็นด้วยที่ไม่มีใครไม่ลอกใครครับ"
อ่อครับ ขอบคุณครับ #อายจัง
ลองทำมาเล่นๆเนื่องจากไม่ชอบตัวนี้ที่สุด
+1 แค่นี้ก็พอแล้ว
สวย
สวยงามครับ
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
ทำใหม่ครับ สีไม่สดพอ 555+
แนะนำให้ส่งเข้าไปที่ Apple ฮะ!!
ชอบอันซ้ายครับ เห็นใน dribbble ก็เริ่มมีมาลงแล้วสวยๆ ทั้งนั้นเลย
ตัวอย่างสวยๆเพียบเลยหวังว่าตัวเต็มคงออกมาดีกว่าตอนนี้นะ ตอนนี้ไม่ไหว
ชอบหลายอันเลย ส่งไปให้แอปเปิลด่วน !!!
ผมขอเถียงครับ
ไม่ว่าเรื่องลอก แต่ผมมองว่า ทำออกมาไม่ดีครับ เสียงเล็กๆๆ
ผมกลับคาดหวังว่า ลอกแล้วดีกว่านี้ครับ ยังดีไม่พอที่จะชม
เขียนดีมากเลยครับ :)
อันนี้มันแบนเกินไป ชอบทางสายกลาง ไม่แบนเกิน ไม่ตู้มเกิน
แบนหรือตู้มไม่สำคัญ สาวแว่นเท่านั้นพอ - สมาคมนิยมสาวแว่น
สุดท้ายก็ต้องถอดแว่นเหมือนๆกัน เลือกที่จับต้องได้ดีกว่าครับ
นม?
Comment กลุ่มนี้ออกทะเล
ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณ
สมาคมนิยมสาวแว่น เค้าไม่ถอดแว่นกันหรอกครับ อย่างอื่นถอดให้หมด เหลือไว้แต่แว่นอันเดียวพอ 555
ลูกเล่นดีขึ้น แต่ดีไซน์ไม่สวย รอดูของจริงอาจจะว้าวก็ได้ เมื่อทุกค่ายหน้าตาเหมือนๆ กัน การเลือกก็จะง่ายขึ้น อยากให้ฟอร์สทอลไปอยู่กับวินโดว์จัง
มันอาจจะดูดี เมื่อมันอยู่ในจอ iPhone ต้องรออัพก่อน
เห็นด้วยครับว่ามันเป็นก้าวแรก ขนาด iOS 1-6 ยังแก้เล็กๆ น้อยๆ มาตลอด ก็หวังว่าพี่จะเปลี่ยนไอคอนให้เข้าที่เข้าทางไวๆ
iOS7 เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกหลังยุค Steve Jobs ที่แท้จริงครับ สร้างโดยทีมงานที่ Steve Jobs เลือก แต่ไม่มีจ็อบส์เป็นคนกำกับแนวทางแล้ว หัวเรืออย่าง Ive ที่โปรโมตขึ้นมาดูแลภาพรวมดีไซน์ก็คงต้องเรียนรู้เรื่อง UI อีกพักหนึ่ง ถึงจะอยู่ตัว ผมคิดเล่นๆ นะว่า UI หลากสีแบบนี้เหมือน iMac ตัวแรกเลย ก่อนที่จะค่อยๆ ลดสีลง และคลาสสิกมากขึ้นตามประสบการณ์ของ Ive ในยุคหลัง
ก็รอดูกันต่อไปครับ เรื่องนี้ผมเขียนความเห็นไว้ในเว็บด้วย ลองอ่านดูนะครับ
Simplicity is actually quite complicated จริงๆครับ ไอคอนเรียบๆทำออกมาดูยุ่งเหยิงไปหมด
ลอก และ สวยน้อยกว่าเก่าครับ
เค้าออกแบบด้วย Golden Ratio หรือเปล่าหว่า? หรือว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญที่ตัวเลขในแอพเครื่องคิดเลขเป็น Fibonacci sequence :P
น่าจะนะครับ ในวีดีโอแนะนำซักอันมีเส้นลางๆ ตอนออกแบบพวก icon ให้ดูด้วย เข้าใจว่าเค้าดูพวกนี้หมดนะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
จะบอกว่าเล่นๆ ไปมันจะมีเวลาที่ icon โหลดไม่ทัน ก็ขึ้นเป็นขาวๆ แล้วมีเส้นๆ โครงเหมือนใน Video Demo ด้วยแหละ
หลังจากโลกแบนไปพักใหญ่ถ้าใครซักคนนูนขึ้นมาคนนั้นจะกลายเป็น ของใหม่ สวย อลังการ มั้ย?
เป็นแบบนี้มานานแล้วครับ
แบน > นูน > กลับมาแบน
แบบนี้ด้วยครับ
โทรศัพท์กระติกน้ำ > โทรศัพท์มือถือ > โทรศัพท์มดถือ > โทรศัพท์มือถือ > แผ่นยิปซัมฝาบ้าน (บางแต่แผ่นใหญ่)
ตอนนี้มีแต่แนวโน้มไปทางขยายร่างซะด้วยสิ
โทรศัพท์มดถือนี่ตั้งใจพิมพ์ใช่ไหมครับ
มีช่วงนึงค่ายมือถือจะพยายามทำออกมาให้เล็กมาก ๆ ๆ ครับ
จำได้ว่าเห็นเพื่อนซื้อ sony ericsson ที่เครื่องเล็กกว่านามบัตรมาใช้
ตั้งใจใช่เลยครับ
ตอนนี้ผมลองไปจับ Nokia 8250 รุ่นปีกผีเสื้อ ... ปรากฏว่าจับไม่ถนัดอ่ะ =_=!!
จริงๆ แล้วมันมีรุ่นที่เล็กกว่านี้อีกนะครับ
พวก Moto วียิ้มนี่มานั่งนึกๆแล้วก็งงว่าสมัยก่อนกดไปได้ไง ปุ่มเล็กกว่าปลายนิ้วก้อย = =
แต่ผมว่าผมกดสะดวกกว่าจอสัมผัสนะครับ
ผมส่ง SMS โดยไม่ต้องดูหน้าจอเลยด้วยซ้ำ
ทำไมแต่ก่อนรู้สึกว่ามันเล็กๆ เข้ามือดีมาก เยี่ยม ยิ่งเล็กยิ่งดี =_=
คงเป้นเพราะแต่ก่อนพกไว้โทรคุยอย่างเดียวมั้ง ไม่ต้องอ่านอะไรมาก
ยุบหนอ พองหนอ...
พุงนะครับ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ดูจาก UI แล้วเข้าใจว่าอนาคตจะมี iPhone , iPad ที่มีสีสันหลากหลายเพิ่มเข้ามา
UI ให้ความรู้สึกเหมือน OSX รุ่นแรกๆ ตั่งแต่ 10.0-10.4 กับสินค้าสมัย iMac รุ่นแรกที่เป้นหลากสี และก็ PowerMacG3 ที่เป็นหลากสี มาจนยุค ที่ใช้โทนขาวๆ
แต่ UI แบบนี้ก็ยังเข้ากันได้กับ iPhone , iPad ดีไซด์ปัจจุบัน ส่วนตัวเข้าใจว่า สีสันวัสดุยังคงเดิม แต่จะมีสีสันบางสีที่เพิ่มเข้ามาเป้นตัวเลือก
iPhone ราคาถูกน่าจะเป็นความจริง โดยยึดแนวทางการออกแบบแบบ iPod Touch
ไม่ค่อยแน่ใจว่า OSX จะเปลี่ยนดีไซด์มาแนวนี้หรือไม่
บล็อคผู้ใช้นี้เนื่องจากโพสต์สแปม และเป็นบัญชีเก่าที่โดนบล็อคมาหลายรอบแล้วนะครับ
ขาประจำ Apple โดนซะแล้ว XD
ผมว่ามันสวย แต่สาวกแอนดรอยด์ข้าง ๆ ตัวผมบอกว่าไม่สวย แบบเก่าสวยกว่า ออกแบบเหมือนเด็กประถม บลา ๆ ซึ่งผมไม่เข้าใจตัวเองก็ไม่ได้ใช้ จะมาบ่นอะไรนักหนา - -*
สาวกแอนดรอยด์แต่เห็นว่าสวยครับ
เรื่อสวยนี่ขัดกับเพื่อนๆที่เป็นสาวกแอปเปิลตลอด ตอน Iphone4 หลุดมาผมก็ว่าสวย ไอ้เพื่อนสาวกแอปเปิลว่าไม่สวย
พอออกมาจริงผมไม่ได้ซื้อ เพื่อนซื้อ ซะงั้นอ่ะ
ผมไม่เคยใช้ iPhone ใช้แต่ Android มาตลอด ผมก็มองว่าของเก่าสวยกว่าเหมือนกันนะ
ใช้แอนดรอยด์ ออกความเห็นไม่ได้หรอครับ? กลายเป็นบ่นไปซะอีก - -"
ผมก็ว่าของเก่าดูคลาสสิคดี แต่อันใหม่ก็ดูน่าสนใจ เรื่องดีไซน์ผมมองว่ามันเป็นสมัยนิยมนะ วันนี้มองไม่สวย พอเริ่มชินอาจว่าสวยก็ได้
ส่วนตัวถ้ามีให้อัพเดท ก็อัพแน่นอนครับ
เขาก็บอกว่าสาวกข้างๆตัวเขา ชึ่งอาจจะเป็นเพื่อนนั่งข้างๆก็ได้ ร้อนตัวทำไม.
ສະບາຍດີ :)
อ่านภาษาไทยไม่แตกหรอครับ??
ผมก็หมายถึงคนข้างๆที่เค้าพูดถึงนั่นแหละ ลองอ่านใหม่สิบรอบนะครับ ถ้ายังไม่เข้าใจ ก็คัดอีก 20 จบนะ
ส่วนตัวเฉยๆ กับประเด็นลอก-ไม่ลอก มานานแล้วฮะ สาวกแอปเปิลควรรู้ว่าแอปเปิลลอกคนอื่นมาตลอด และคนอื่นก็ลอกแอปเปิลมาตลอด เป็นเรื่องปกติมาก และก็ไม่ควรโกรธกัน ถือซะว่าเป็นการแซวน่าจะดีกว่า
สวย-ไม่สวย , น่าใช้-ไม่น่าใช้
จากการสำรวจตลาด(ฮา) แล้วพบว่าคามเห็น 50/50 ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นจากภาพนิ่งในเว็บ หรือคลิปวิดีโอนิดๆ หน่อยๆ แต่ประเด็นที่อยากบอกหลังจากได้ใช้ iOS 7 มาเกือบ 2 วัน คงต้องให้มาลองใชู้ การสลับ การเคลื่อนไหว ซูมเข้าออก สับเปลี่ยนไปมา โยกย้ายจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งมันต่างจากเดิมมาก ลองให้สาวก Android มาเล่นหลายคน ก็ยอมรับว่าจากที่ไม่ค่อยชอบ มารู้สึกว่ามันน่าใช้ดี ถามคนที่ลองใช้จริงพบว่า 70% ชอบนะ
ยกเว้นเรื่องภาษาไทยที่ไม่ชอบเหมือนกัน อันนี้อาจจะต้องทำใจรับ 55 (แต่ report เรื่องสระลอยไปละ)
ลองใช้ดูฮะ ลองเล่นของจริงดู แล้วจะเข้าใจการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มากขึ้น :)
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ผมชอบ ANDROID ใช้ANDROID เป็นหลัก หลังจากใช้ iPod touch5 iOS7 มาสองวันเพื่อนผมถามว่าเป็นไงดีไหม ผมบอกก็ดีนะ ผมชอบ เพื่อนผมพูดกลับมาว่า ใช่สิ ก็มันเหมือน ANDROID อะ ก็เข้าทางนิ
ก็ดีแล้วนี่ครับ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เห็นด้วยเรื่องปัญหาภาษาไทยครับ เท่าที่ลองใช้ดูฟอนต์ไทยยังไม่ค่อยไปในทิศทางเดียวกันเท่าไหร่
ยกตัวอย่าง Reeder app หัวข้อข่าวเป็นฟอนต์นึง เปิดเข้าไปกลายเป็นอีกฟอนต์นึงซะงั้น
ฟ้อนต์ใหม่ผมว่ามันจะอ่านยากเมื่อเอาไปเป็นฟ้อนต์สำหรับอ่านยาวๆ แต่พอเป็นหัวข้อสั้นๆแล้วมันสวยดีครับ เค้าตั้งใจแยกสองส่วนนีใช้คนละฟ้อนต์หรือปล่าว
ผมว่าฟอนต์สุขุมวิท มันบางไปสำหรับมือถือจอเล็กนะครับ น่าจะหนาอีกนิด แนวๆ TH Sarabun ที่เป็น Sans Serif ก็น่าสนใจครับ
ใช้มาสองวันเริ่มชอบละครับ แต่ภาษาไทยผมอ่านแล้วล้าๆสายตา
สาวก Apple ส่วนใหญ่..ว่าแอนดรอยตลอดว่าลอก !!
ตอนนี้ Apple ลอกเองบ้าง..กลับไม่เป็นไร...เหอๆ
+1 แต่...ใช้คำว่าบางคนดีกว่าครับ :P
ถ้าอย่างนั้น สงครามสิทธิบัตรเรื่องการลอกเลียนแบบทั้งหลาย ควรจะเพลา ๆ ลงได้แล้ว เบื่อจะแย่แล้ว ต่างคนก็ลอกกันมาทั้งนั้น
คงเพลาไม่ได้ ถ้าสิทธิบัตรบางตัวที่ละเมิดมันจำเป็นต่อการแข่งขันในตลาด ทำให้สูญเสียส่วนแบ่งตลาด ดูท่าแล้วคงไม่มีทางยอม ส่วนเรื่องลอกเลียนแบบหน้าตา หรือวิธีการ คงต้องไปดูสิทธิบัตรที่จดกันไว้ Apple อาจจะยอมจ่ายเงินในบางกรณีเพื่อแลกกับฟังก์ชั่นบางอย่างก็ได้แต่ไม่ได้เปิดเผย
เขียนได้ดี อ่านสนุกมากครับ^^
เปลี่ยนไปทางที่ดีก็ดีแล้วครับ
พูดลอยๆ ... "คุกพูดถึงคดีฟ้องร้องกับซัมซุงล่าสุดว่า เขาเกลียดการฟ้องร้องและก็ยังคงเกลียดอยู่ แต่แอปเปิลต้องการให้ทุกคนคิดค้นอะไรออกมาเอง..."
my blog
+100
ถูกต้องครับ ประเด็นเรื่องลอกหรือไม่ลอกไม่ได้ติดใจ
แต่ที่ติดใจคือพอคนอื่นลอกตัวเองฟ้องเอาเป็นเอาตาย
อย่างนี้ผมเรียกว่า "เห็นแก่ตัว"
+1
+2048 ผมว่าถ้ารวมหัวกันเล่นงานจริงๆ นะ (ถ้านะครับ ถ้า) งานนี้อ่วม
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ชอบความเปลี่ยนแปลงครับ ผลประโยชน์ทั้งหมดตกอยู่ที่ผู้บริโภคได้รับในสิ่งที่ดีและตรงตามความต้องการ
ส่วนเรื่องลอกหรือไม่ลอก ส่วนตัวผมเฉย ๆ ผมสนใจว่ามันมีอะไรใหม่และตอบโจทย์เราได้แค่ไหนมากกว่า ชีวิต สังคม ทุกวันนี้ วุ่นวายมากพอแล้วครับ ^^
ผมเอง ก็ไม่ยึดติดกับ UI นะครับ
มีอะำไรใหม่ ผมก็ ว๊าว ตลอด ตั้งกะ Dos -> 3.11 -> 95 -> ME/2000 -> xp -> LongHorn -> Vista - 7 -> 8
เราน่าจะอายุเท่าๆ กันนะครับ 555
2 อันแรก ผมเกิดไม่ทันแล้วละครับ
98/98SE ผมหายไปไหน ฮ่าๆ ผมทัน 95 แทบลืมว่ามี Longhorn ไปแล้วนะเนี้ย
Longhorn เป็น codename ของ Vista ระหว่างการพัฒนาครับ ไม่ถือว่าเป็น OEM name
เราตื่นเต้นมาหลายรอบขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย
จริง .. ตื่นเต้นตลอด ทุกๆ งานดีไซน์มันมีอายุของมันจริงๆ ด้วย
ผมเป็นลูกคนเล็ก
wow มากกก กับ 3.11 ตอนลงวินโดว์ผ่าน floppy disk 10กว่าแผ่น :P
และตามด้วย MS Office 4.3 อีก 35 แผ่น...
อ่าาา ใช่เลย
ติ๊ดด ตริดตริด ตริด ตริ๊ดดดดด ตริดตริด ตริด ......
disk error แผ่น ที่30 .....
ได้ลองจับๆ ของเพื่อนที่ลง beta แล้วชอบนะครับ มีดีหลายๆ อย่างที่เดิมขาดไป ชอบหน้าตาด้วย ลอกหรือไม่ผมไม่สนใจ ขอให้ดีขึ้นพอ
ปัญหาเดียวแบบเดิมๆ คือ ถ้าไม่ชอบนี่ ผมไม่มีทางเลือกเลยครับ คิดว่าถึงไม่ชอบก็ต้องชอบให้ได้ ขณะที่คู่แข่งคือแอนดรอยด์นี่เปิดทางเลือกมากกว่ามากๆ
ปล.ผมใช้มือถือแอนดรอยด์ แต่ใช้แทบเล็ตเป็น iPad นะครับ ซึ่งแน่นอนว่ามือถือโดนยำเละแล้วเละอีก เปลี่ยน launcher เปลี่ยน theme เปลี่ยน rom บ่อยมาก แต่ iPad นี่เดิมๆ ไม่ได้เจลเบรกด้วย
--
เตรียมเอาตังค์ไปตอน iPhone5s ออกจบนะ
ในบรรดา flat ui style ของทั้ง 3 เจ้า ผมว่า Android ออกแบบได้สวยสุด Winphone ผมว่ามันจืดไป ส่วน ui ใหม่ของ ios7 ผมว่าสีมันดูลิเกเวอร์ๆ ต้องรอดูตัวจริงออกมาอาจจะปรับปรุงให้ดีกว่านี้
แต่แอปชอบ idea เปลี่ยนแอปของ ios7 คือเราสามารถปิดมันจากตรงนี้ได้เลย อยากให้ Winphone ทำอย่างนี้บ้างจัง (ปิดโปรแกรมโดยใช้ปุ่ม back อย่างเดียว ผมว่ามันไม่เวิร์ก)
ถ้าตัวที่หลุดมาเป็นจริง ก็คงปิดแอพจากใน Multitasking view เหมือนกันแหละครับ
holo สีขาวสวยอยู่ แต่สีปกตินี่ห่วยมาก ไอคอนก็ดูโบราณๆ มากเลยครับ แล้วก็แอปโทรศัทพ์แบบ AOSP นี่ค่อนข้างใช้งานยาก เซ็งสุดๆ
ส่วนตัวไม่เคยชอบ UI แบบ iOS เลย ตั้งแต่ยุคแรกๆ จริงๆแบบ android ก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน
ผมมายึดติด UI ก็ตอน Metro นี่แหล่ะ มาเรียบง่าย ใช้ง่าย ฉีกออกจากทุกระบบที่ผ่านมา Fonts ที่สวยงาม (English)
ดูทันสมัย อนิเมชั่นที่ดูลื่นตา effect ไม่ต้องมากมายอลังกาล ความรู้สึกส่วนตัวมันจะเป็น UI ที่ใช้กันอีกนาน
ไม่แปลกใจที่ apple หันมาทำ UI แนวนี้ ส่วนเรื่องการลอกกันผมใช้คำว่าหยิบยืมแนวทางที่มีประโยชน์มาปรับใช้ดีกว่าเพราะมันก็ไม่ได้ ลอก แบบ copy กันมาทั้งยวงเหมือนกับเทคโลโนยีในจีนบางอย่าง แต่มันเป็นแนวทางที่คล้ายๆกันมากว่า
หลังจากเห็น iOS7 ก็รู้สึกดีกับ apple ขึ้นมากในเรื่องการดีไซน์ UI นะเพราะในบางฟีเจอร์ที่ UI ดูเหมือนจะลอก แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันสวยกว่าตัวที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนๆ...
อย่างที่ผู้เขียนบอกครับที่มีปัญหาคือสาวก(ที่หลับหูหลับตาปกป้องแบรนด์ หรือว่ากลัวเสียหน้าเท่านั้น)... ส่วนผมเป็นสาวก Minimalist ระบบไหนทำแล้วสวยงามใช้งานดี ก็ว่าดีกันไปไม่มีปัญหา...
ผมยังไม่อยากออกตัวแรง เดี๋ยวแหกโค้ง อิอิ
miui คือที่ 1 ในใจเสมอ ^_________________^
ไม่ต้องถึง software หรอกครับ การบ้านยังลอก กันทุกวัน
เสพสื่อด้วย วิจารณญาณ พอใจก็ซื้อมาเสพ ไม่พอใจก็ปล่อยทิ้งไป
คนอื่นมาลอกของตัวเอง ทำโวยวาย ฟ้องร้องไปทั่ว โดยเฉพาะซัมซุง แต่ตัวเองกลับมาลอกของคนอื่นเขาเฉยเลย ดีที่เขาไม่ฟ้องกลับ
มันแปลกตรงที่ apple ลอก คนส่วนใหญ่รับได้ แต่พอเจ้าอื่นลอก.... ต่อให้ลอกไม่คล้ายก็โดนสับเละอยู่ดี
แข่งอะไรก็แข่งได้แต่อย่าแข่ง บารมี ซินะ
ซัมซุงในยุคหนึ่งมันลอกน่าเกลียดครับ แทบจะเหมือนเดิมเดี๊ยะๆ พวกอุปกรณ์เสริม (เช่นจุ๊บอ่าน SD Card ของ Galaxy Tab) การจัดวางโฆษณา (วางเครื่องกับแนวสายหูฟังเหมือนแอปเปิ้ล) คือเหมือนเลย
ส่วนแอปเปิ้ลขโมยครับ เอาไปทำเป็นผลงานตัวเอง จับได้แต่ไม่เหมือนต้นฉบับ แต่มีเรื่อง Widget มั้ง ที่ลอกเต็มๆ 555
เชิงเปรียบเทียบนะครับ นักเรียนที่สอบได้ที่ 1 เสมอ อยู่ ๆ ไปลอกการบ้านของคนที่ได้ที่ 2 สักครั้งนึง คุณคิดว่าใครเก่งกว่ากันล่ะครับ ชีวิตจริง ^ ^
ลอกก็คือลอกครับ
ซัมซุงลอกก็คือลอก
แอปเปิลลอกก็คือลอก
พูดอย่างไรก็ไม่ดูดีครับ
มันคือตรรกะของสาวกครับ คนธรรมดาอย่างเราต้องปล่อยมันไป
ปล. เห็นด้วยว่าลอกคือลอก
หน้าที่ของสาวก คือ จะผิด จะถูก ไม่สนต้องอวยไว้ก่อน
ผมสาวกแอปเปิ้ล ยังเห็นด้วยว่าลอกก็คือลอก
จะลอกเนียนลอกเหมือนไม่เหมือน อย่างไงก็ลอก
อย่างแรก แอปเปิลไม่ได้เคยลอกแค่ครั้งเดียว
อย่างที่สอง ในชีวิตจริงบ่อยครั้งคนที่สอบได้ที่ 1 ไม่ได้เก่งกว่าคนที่ได้ที่สอง (บ่อยกว่านั้นคือไอ้คนที่สอบได้เกรดต่ำกว่าเราทุกที ดันเก่งกว่าเราก็มี)
อย่างที่สาม ในมาตรวัดบางมาตร ตอนนี้แอปเปิลก็อยู่ที่สองแล้ว
อย่างที่สี่ ลอกก็คือลอก
การเลี่ยงบาลีแบบเป็นเรื่องน่ารังเกียจครับ
+1
credit: http://jonyiveredesignsthings.tumblr.com
+1 นี่แหละใช่เลย เหมือนเดี๊ยะ
รู้สึกแบบนี้เลยตอนเห็นครั้งแรก
ผมว่าสีสันมันสดใสแบบเลอะๆเถอะๆอ่ะ
ซึ่งมันทำให้ดูลายตานะ
!(ไม่ลอก||ลอก)
Texion Business Solutions
Good artists borrow, great artists steal. Exceptional artists sue the original owner after the theft.
Weather ==> ตัวหนังสือสีขาว San Francisco บนก้อนเมฆสีขาวนั่น ปวดตับมากๆ
ส่วนตัวแล้วไม่มีปัญหากับการลอกนะ ถ้ามันมีประโยชน์กับผู้ใช้งาน เพราะส่วนใหญ่มันก็ลอกกันไป ลอกกันมา Android เองก็ยังเคยลอกฟีเจอร์บางอย่างจาก iPhone เลย
ผมเคยจะเปลี่ยนไปใช้ windows เพราะชอบ flat design แต่ flat design ที่ apple ทำออกมาคราวนี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างคือ Bright & colorful ทำให้ windows ดูกลายเป็นเรียบ ทื่อ ไปเลย
ถ้าเปรียบกับวงดนตรี Windows คือ Radiohead ส่วน Apple คือ Coldplay
ถ้าเปรียบเป็นลัทธิ Windows คือ ลัทธิเต๋า ส่วน Apple คือ ลัทธิเซน
พูดถึง Android บ้าง Andriod ยังอยู่ในเฟสที่เรียกว่ายังเป็น fashion แต่ไม่มี Unique ที่ชัดเจน.
มันเปลี่ยนไปมากจนผู้ใช้อาจคิดไปเองว่าได้โทรศัพท์เครื่องใหม่มาฟรี
เสียดาย ผมยังใช้ 3GS อยู่ ไปไม่ถึงแล้ว 555
Apple ยุคสตีฟ ทุกอย่างมาจากคนๆเดียว ทุกอย่างอยู่ในกรอบ
Apple ยุคอีฟ อะไรดีก็นำมาใช้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
ต่างกันสุดขั้วจริงๆ ผมคิดเรื่องขำๆ พระเจ้าคือ สตีฟ จ็อป ห้ามอดัมกับอีฟกินแอบเปิ้ล
แต่อีฟก็กินแอปเปิ้ล จนเกิดเป็นยุคใหม่ ฮ่าๆ
คิดได้นะท่าน
ชอบคำว่า "สาวกเสียศักดิ์ศรี"นี่แหละ - -"
+2048x1536
ผมเป็นลูกคนเล็ก
samsung ทำ ui ออกมาคล้าย apple ในตอนแรก
พอ apple ทำออกมาคล้ายของตัวเองในอันเดิม แล้วมันก็ดันไปคล้าย samsung ที่เคยลอก apple
กลายเป็นว่า apple ลอก samsung โดยปริยาย
คนอื่นลอกล่ะไม่ยอม ตัวเองลอกนะชิว น่าสู้มาก แถมลอกเยอะมากกก แต่ไม่ว่ายังไง สำหรับ "บางคน" แอปเปิ้ลถูกเสมอ
และในหลายๆครั้ง ทำไมต้องคิดว่าแอปเปิลเป็นฝ่ายคิดก่อนเสมอ บางทีคนอื่นอาจจะคิดก่อนแต่ยังไม่ทำ เก็บไว้เพื่อเหตุผลบางอย่างเช่น ยังไม่อยากออกมาพร้อมกับสิ้นค้าตัวนี้ เก็บไว้ก่อนแล้วโดนฉกไปก็เป็นได้
สำหรับบางคน ... "แค่ได้โฆษณาก่อน ก็ถือว่าคิดก่อนแล้ว" - น่อร๊อคอ่อ
ตรรกะมันทะแม่งๆ นะครับ ตามกฎหมายมันก็ต้องยึดตามคนที่ทำออกมาเผยแพร่ หรือจดก่อนไม่ใช่เหรอครับ
คับ คือผมหมายถึงว่า คนทั่วไปเค้าจะรู้ได้ไงว่าบางอย่างที่บริษัท A จดก่อนคือที่ A คิดก่อน B อาจจะคิดก่อนแล้วโดน A แย่งไปจด นึกออกไม๊ครับ
บางทีมันก็ไม่จำเป็นต้องรู้ครับ หน่วยงานที่รับจดนั่นแหละจะเป็นคนตรวจสอบว่าจดได้หรือไม่ ซ้ำหรือเปล่า หรือถ้าเกิดข้อผิดพลาดแล้วมีหลักฐานว่าคิดก่อน ทำก่อน จดก่อนก็ฟ้องแล้วก็สืบสวนไปตามขั้นตอน
คือ แล้วคุณเข้าใจบ้างมั้ยล่ะครับ เพราะมันอยู่ในที่ที่คนมองไม่เห็นไงครับ คนเค้าถึงคิดว่าคนที่ออกมาโฆษณาก่อนเป็นคนคิดได้ก่อน ส่วนคนที่ไม่ได้ออกมาโฆษณาหรือเปิดตัวทีหลังคิดได้ทีหลัง
คำตอบอยู่ในคำถามที่คุณถามแล้วครับ -*-
" คนทั่วไปเค้าจะรู้ได้ไง " ก็เพราะเค้าไม่รู้ไงครับ O_o
ใช่ไงคับ เพราะเค้าไม่รู้ แต่ก็ดันไปว่าคนอื่นเค้าก้อบ เหมือนตัวเองไปเห็นเอง ทำเอง ยังไงอย่างงั้นไงคับ ที่พูดข้างบนนั่นก็จะสื่อแบบนี้แหละคับ มาถูกทางแล้วแต่ยังไม่เก็ท >"<
ก็สาวกชัดเจนไงหล่ะครับ ^.^
ประเด็นเรื่องลอกไม่ลอก ผมปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายเค้าจัดการกันดีกว่าครับถ้าอนาคตจะมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น เพราะผมไม่ได้ไปมีส่วนร่วมได้เสียกับราคาหุ้นของแบรนด์ต่างๆ ไม่เป็นเดือดเป็นร้อน แค้นโกรธแทนเจ้าของแบรนด์ต่าง...นวัฒกรรม อะไรที่ว่าดี ผู้ใช้ได้ประโยชน์ทั้งนั้นถ้ารู้จักเสพย์นะ...
บางคนเห็นว่าเค้าลอกก็โกรธจนแอนตี้แบรนด์นั้นๆไปเลย ใครแตะต้องวิจารณือะไรก็ไม่ได้ ผมละงงจริงๆ...
กำลังคิดว่า บางทีไอ้ที่แอ๊ปเปิ้ลฟ้องเค้ามาตลอด
อาจจะเพื่อดูว่าตัวเองสามารถลอกได้ขนาดไหนก็ได้
คิดง่ายๆ เมื่อตัวเองฟ้องก็ไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนมากมาย
ก็แสดงว่าสามารถลอกได้ซะแบบง่ายๆ โดยอิงคดีที่ตัวเองทำมาก่อน
อย่างที่รู้ แอ๊ปเปิ้ลเงินเยอะ ฟ้องก็ไม่ได้ค่าเสียหายอะไรมากมาย
เวลาสั่งแบนสินค้านั้นๆก็เกือบตกรุ่นไปแล้ว ถ้าฟ้องแล้วมีผลเยอะ
แอ๊ปเปิ้ลก็ได้ประโยชน์ กลับกันถ้าไม่มีผลก็แสดงว่าแอ๊ปเปิ้ลลอกได้
จะลอกไม่ลอก iPhone 4, iPad 2 ของผมได้ไปต่อก็ดีใจแล้วครับ เย้ ^^
ขอบคุณสำหรับบทวิเคราะห์ครับ
โหลด keynote มาดู ก็ ยิ่งชอบ
ปล. ลอง Ctrl+F พิมพ์ ลอก
สงสัยจะเป็นคำฮิตของบทความนี้ไปซะแล้ว
UI ใหม่น่ารักสดใสถูกใจผมมากกกก ผมช้อบชอบ <3
ที่บ้านไม่เน้นเรื่องลอก เน้นเรื่องดัดแปลงมากกว่า...
อยากให้มันเปลี่ยน Theme ได้ แบบไม่ต้องเจลเบรค ลง+โหลด และซื้อได้
ผมชอบที่คุณ mk สรุปไว้นั่นแหละ มันคือ ยุคใหม่ ที่ Apple ต้อง Position ตัวตนให้ชัดว่าจะเอายังงัย จะวิ่งไปทาง flat design ที่เป็น minimalism ก็ต้องเอาให้ชัด และไม่ทำเหมือนคนอื่น แต่อาจจะลอกแนวคิดมาดัดแปลงให้มันเป็นตนเอง ไม่ให้เหมือน microsoft และไม่ให้เหมือน Android แต่อยู่ในกระแสได้ อย่างภาคภูมิ คิดถึงความต้องการของ user และสร้างประสบการร์ในการใช้งานที่ดีเหมือนเดิม
ถึงOS X Mavericks จะไม่เหมือน iOS7 แต่ก็ดูเหมือนว่า iOS7 ได้แทรกซึมเข้าไปใน OSX แล้ว และเราอาจจะได้เห็น Hardware และ Software ของ Apple ในทางที่เปลี่ยนไป ผมยังคิดว่า iPhone 5S และ iPhone mini หลากสี อาจจะมีความเข้ากันกับ iOS7 มากกว่า iPhone รุ่นเก่าๆ ต้องรอดูช่วงปลายปี เมื่อทุกอย่างถูกนำเสนอ
ได้จังหวะถามซะทีครับว่า
คืออะไร เกี่ยวกับสาวกแอปเปิลยังไง? ผมมาไม่ทัน
^
^
that's just my two cents.
อ่านข่าวเว็บ khajochi.com ก่อนได้ครับ ว่าที่มาเป็นยังไง ส่วนคุณ mk ก็เคยเขียนไว้ที่บล๊อกตัวเองครับ
ส่วนที่เกี่ยวกับสาวก (ต้องรุ่นหลัง ยุค iOS ครองโลก) คือสาวกมักจะด่ายี่ห้ออื่นว่าลอกแอปเปิล แต่ดันไม่ยักรู้ว่าแอปเปิลก็สร้างตำนานลอกมาไม่ใช่น้อยเหมือนกันครับ
ก่อนจะมาโดย --> โดน ไมโครซอฟท์ลอกอีกต่อหนึ่ง
ผมเชื่อว่าอินเตอร์เฟซใหม่ยังคงต้องมีการปรับเปลี่ยนมากกว่านี้ครับ
และสุดท้ายไม่ว่าจะสวยหรือไม่สวย มันก็มาวัดก็ตรงที่ "ประสบการณ์" การใช้งานทั้งนั้น
ผมเป็นลูกคนเล็ก
เขียนได้ดีเหมือนเดิมนะครับ ^^
สำหรับผมลอกหรือไม่ลอกไม่สำคัญ ขอแค่ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาก็พอแล้วครับ
ลองให้คนข้างตัวใช้ ios 7 อย่างแรกคือ safari เขามองเป็นเข็มทิศ อย่างที่สองคือ metro เกินโดยเฉพาะ ui เล่นไปมานึกว่า windows ถ้า icon เป็นสี่เหลี่ยมได้จะโครตชอบเลย ไม่อยากได้อะไรที่มันมนๆ แต่ ios 7 นี่ดีขึ้นมานิดนึงเรื่อง icon ที่ไม่ต้องมีอะไรมันๆวับๆวาวๆฉายลงมา
โดยรวมผมชอบ UI แบบใหม่นะ ถือว่าทำได้ดีพอสมควร แต่อย่างที่บทความเขียนไว้ คือ ยังไม่นิ่งพอ
แต่ที่ผมสงสัยคือ ทำไมการเดินทางของ UI แบบใหม่ จึงมาช้ากว่าสำหรับ OS X ทั้งที่ก็น่าจะไปพร้อมๆ กันได้หลายๆ จุด อย่างน้อยๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ระหว่าง iOS กับ OS X บางจุดที่ต่อเชื่อมกัน Calendar อย่างเดียวไม่น่าจะพอนะในท้ายที่สุด
ปล. อีกอย่างคือ ทำไมงานนี้ถึงเน้น Designed by Apple in California และ Assemble in the US เป็นพิเศษ เหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของงานยิ่งกว่า UI แบบใหม่ด้วย อยากหาคำตอบเหมือนกัน
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
Assemble in the US เป็นกระแสในสังคมของ US เค้าครับ
เห็นด้วยครับ และผมคิดว่าน่าจะมีคำอธิบายได้มากกว่านั้นด้วย (อันนี้สงสัยโดยส่วนตัวนะครับ)
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ผมว่าอาจไม่มีอะไรมากกว่านั้นมั้ง คล้ายๆ green product น่ะครับ
การสร้างงานใน US ลดเงินไหลออกครับ
ปัญหามันเริ่มมาจากที่ว่า ด้วยค่าแรงที่ถูกกว่าทำให้งานมันไหลออกไปจีนกับอินเดียหมดครับ คนเมกันก็เลยโทษว่าบริษัททั้งหลายเป็นส่วนหนึ่งทำให้คนเมกันตกงาน ยิ่งพอปี 2008 เจอ Sub-Prime crisis ทำให้เศรษฐกิจของเมกันไม่สามารถโตด้วย financial service ได้อีก ในขณะที่ตัวที่สร้างการเติบโตของเศรษฐกิจได้ขณะน้ัน คือบริษัทไอทีทั้งหลาย รัฐบาลเมกันก็เลยพยายามส่งเสริมให้บริษัทพวกนี้ดึงงานกลับเข้ามาในสหรัฐ รวมถึงมีการส่งเสริมให้ซื้อและสนุนสินค้าในประเทศเพื่อให้เงินมันหมุนและมีการจ้างงานในประเทศมากขึ้น บริษัททั้งหลายก็พยายามจะเริ่มกลับมาทำ line การผลิตในสหรัฐเพื่อโปรคนในประเทศ และอีกอย่างคือด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปมาก ทำให้การผลิตเริ่มจะมีความละเอียดอ่อนมากขึ้นทำให้ลดการใช้แรงงานลงแต่ไปใช้เครื่องจักรแทน งานบางอย่างก็เลยไม่จำเป็นที่ต้องผลิตนอกประเทศแล้ว บริษัทที่เริ่มต้นก็มี Apple, GE และ Whirpool และยิ่งเรื่องการเมืองระหว่างสหรัฐกับจีนอีก ก็เลยเป็นเช่นนี้แล
จีนเงิบครับ Mac Pro ไม่มีหลุดเลย แต่ไงต้องรอดูไปก่อน
อยากอัพเป็น ios 7 แต่ไม่อยากได้ ui แบบนี้อะ จากชุดขรึมๆเท่ห์ๆกลายเป็น Barbie girl ซะละ
"สวย หรือ ไม่สวย" ไม่รู้ แต่ผมต้องการ icon ที่ สื่อสารชัดเจน ในเสียวของเสียววินาที โดยไม่ต้องมองแล้วคิดว่า อะไรเป็นอะไร
ในแง่ของการ design icon แบบเดิม ตอบโจทย์สำหรับ "คนส่วนใหญ่" ได้ดีกว่าเยอะ
ส่วนเรื่อง การใช้งาน ต้องลองใช้จริง เท่านั้นถึงจะบอกได้ครับ
อยากเห็น solution ที่ดีกว่านี้ จาก apple ครับ
ไม่ชอบที่ apple ทำ flat design เหมือนเป็นการทำตามหลัง android และ wp (เป็นการจุดไฟ ให้ android และ wp ปล่าวๆ)
ไม่เป็นไร ค่อยๆ ปรับแก้กันไปครับ
ลอก ลอก ลอก ลอก ลอก ลอก ลอก ลอก
ลอก ลอก ลอก ลอก ลอก ลอก ลอก ลอก
ลอก ลอก ลอก ลอก ลอก ลอก ลอก ลอก
โอ๊ะ อ่านมานี้ได้ใจความว่า ลอก กับ ไม่ ลอก สาระ หายหมด กลายเป็น สาวก แต่ละค่ายกัดกันเอง
ไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อครับ มีหุ้นในแอนดรอย กะ apple เหรอครับ
ลอก ไม่ลอก มันคือสาระสำคัญอีกประเด็นในข่าวนี้ครับ มีทั้งบนหัวข่าว เนื้อหาหลายย่อหน้า คุณอ่านจับประเด็นไม่ได้หรือครับ? หรือไม่ได้อ่านหัวข้อ? ไม่ใช่สิ คุณไม่อ่านอะไรเลยต่างหาก
ก็อ่านครับ แต่มาอ่านตรงลอก กับไม่ลอกนิแหละ ครับ ที่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อ อันนั่นลอกไม่ลอกเหตุผลบริษัท เขา ก็ใช้ๆไปเหอะอันไหนคิดว่าดีก็จบครับ ส่วนคุณคิดว่า ลอกไม่ลอก คิดว่ามีสาระก็ตามใจคุณครับ
ส่วนโพรสหลายอันผมก็โพรสไป ความเห็นผมครับ
มีหุ้นใน Blognone, Apple, Android, กระทรวง ICT, กระทรวงวัฒณธรรม ฯลฯ เหรอครับถึงเป็นเดือดเป็นร้อนที่สาวกทะเลาะกัน?
ถ้ารักจะแสดงความเห็น ก็ควรรักที่จะยอมรับความเห็นท่านอื่นๆ ด้วยนะครับ
พอคนอื่นออกความเห็นบอกว่าไร้สาระ แต่พอเป็นความเห็นตัวเองกลับบอกว่า "ก็ความเห็นผม"
แม้จะไม่เคยเจอหน้าตา แต่เราเคารพซึ่งกันและกันด้วยนะครับ
+10
"ถ้าอ่านจนจบได้" จะเข้าใจครับว่าบทความไม่ได้ตำหนิเรื่องลอกหรือไม่ลอกเลย
แกนของการดีไซน์ที่วางเอาไว้จะเห็นผลชัดเจนเมื่อพัฒนาต่อๆไปนะครับผมว่า แต่ขัดใจว่าไอคอนสีสดเหลือเกิน แสบตา
พี่สาวผมใช้ไอโฟนอยู่ ก็บอกว่า iOS 7 มันดูหวานมากกก
ผมคิดว่าสติฟจ๊อปน่าจะมีประโยคต่อท้ายประโยค "Good artists copy; great artists steal" นะครับ
ประมาณ "catch me if you can"
เกี่ยวกับเรื่องลอกหรือไม่ลอกนั้นในบทความนี้มีทั้งส่วนที่ผมเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ดังนี้
1. หน้า Home Screen
มองภาพรวมผมว่ามันไม่เหมือนกันและไม่คล้ายกันด้วย สิ่งเดียวที่เหมือนกันคืออัตราส่วนความโค้งมนมุม icon รูปสี่เหลี่ยมนั่น ส่วนตัว icon ผมมองว่าสีมันก็ออกแนวคนละโทนเลย iOS 7 สีจะออกแนว pastel ส่วนของ MIUI จะดูแข็งแบบ earth tone ความ flat ของ icon ก็ต่างกัน บน iOS 7 icon จะ flat จริง ๆ มีเล่น gradient บ้างแต่เป็นไปเพียงความสวยงามไม่ใช่ความต้องการให้มันนูนตามแสงเงาเสมือนจริง ส่วนบน MIUI นั้นจะพยายามไล่สีให้ icon ดูนูนนิด ๆ (ลองดู Flipboard Google Camera) อีกทั้งตัว icon เองก็มีการทิ้งเงาไปบน background ด้วย ส่วนของ iOS 7 นั้นไม่มีเงาเลย สำหรับผมแบบ MIUI นี่ไม่เรียกว่า flat เด็ดขาดเพราะเห็นชัด ๆ ว่าต้องการให้ icon เสมือนว่าลอยอยู่
2. หน้า Control Center
ถ้าเป็นเรื่อง design บอกตรง ๆ ผมมองยังไงก็ไม่เห็นว่ามันเหมือนกับ Toggle ของ Samsung แม้แต่น้อย แต่ถ้าเป็นเรื่อง function และวิธีการเรียกใช้ผมว่ามันเหมือนเลยทีเดียวและก็เหมือน SB Settings ด้วย เพียงแค่ Apple ทำออกมาได้ดีกว่า (more polished) ดังนั้นผมไม่รู้ว่า Apple ลอกฝ่ายไหนมากันแน่
3. Mail
อันนี้เป็นหัวเรื่องที่ผมไม่เห็นด้วยมากที่สุด แทนที่จะไปเทียบ Mail อันใหม่กับ GMail ของ Android version นั้น ผมว่า Mail อันใหม่นี่ดูเหมือน application Mail บน iOS 6 เสียมากกว่า พูดตามตรงดู 2 รูปนั้นเทียบกันมีคนมองว่ามันเหมือนกันด้วยเหรอครับ ? แค่จำนวน content ที่นำมาแสดง ช่องไฟ ความรกความโปร่งของ content ผมว่ามันก็ต่างกันอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ใครมี iPhone เปิดดู Mail ตอนนี้ได้เลย
4. Phone Call
อันนี้เหมือนจริง ลอกมาเลย
5. Weather
อันนี้ก็คล้าย ๆ ผมว่าก็ลอกมาอีกนั่นแหละ
6. หน้า Switch Application แบบ Multi-tasking
ในฐานะที่เคยใช้ Palm Pre พูดได้เต็มปากว่าลอกมาแน่นอน การเปิด application แบบ card แล้ว swipe เพื่อปิดนี่คนเริ่มคือ Palm ตามที่เห็นใน link youtube นั่นแหละ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าจุดนี้ Android บางรุ่นก็ลอกมาคล้าย ๆ เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy S4 และ HTC One ดังนั้นประเด็นนี้ Palm Pre พ่อทุกสถาบันครับ ;P
That is the way things are.
แน่ะ อย่างแรกก็ขอแซวหน่อยว่างวดนี้เกิดตาดีระดับ 326ppi ขึ้นมาเลยนะครับ อิ_อิ
อันนี้จริงของคุณว่าถ้าเทียบกับ MIUI นี้ให้ "ความรู้สึกคล้าย" มากกว่าเหมือน เพราะเอาเข้าจริงๆ MIUI ก็ได้รับอิทธิพลมากจาก iOS เดิมอยู่ก่อนแล้ว สิ่งที่ทำให้ดูคล้ายก็คงเป็นรูปทรงและความจัดจ้านของสี และผมก็เชื่อว่าในอนาคต iOS คงปรับเรื่องสีอีกหลายส่วน สาเหตุที่งวดนี้เน้นสีแบบสดใสส่วนหนึ่งคงเพราะอยากให้มันดูต่างจาก iOS6 และทำให้ดูหวือหวาบนเวทีนำเสนอ
ผมเชื่อว่าซัมซุงก็ไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำปุ่มแนวสลับปิดเปิด (และมันก็ไม่ใช้ประเด็นที่จะพูดถึงว่าใครทำก่อน เพราะตอนนี้ประเด็นคือแอปเปิลลอกใคร) แต่ Control Center นี่ก็ต้องพูดแบบไม่กั๊กว่า "ลอกฟีเจอร์" มาจากฝั่งที่ทำมาก่อนอย่างแอนดรอยด์ (และเคยถูกคนบอกว่า "มันดูยุ่งเหยิง")
อ่านแล้วรู้สึกเหมือนอ่าน press ของแอปเปิลเลยนะครับ คือผู้ใช้ไม่ได้ทันได้ใช้ก็พูดได้แล้วว่าดีกว่า ซึ่งทางเป็น "แฟนบอย" ก็อ่านคล้อยตาม แต่ถ้าไม่ใช่แฟนบอย ก็อาจรู้สึกเฉยๆ ครับ ปุ่มกดปิดสลับเปิดไม่ใช่แนวคิดใหม่
เรื่องเมลผมว่าเมลของแอปเปิลใหม่มันได้รับอิทธิพลมาจากความแบนของระบบเอง ทำให้มัน "บังเอิญ?" ไปเหมือนกับเมลของจีเมล์ที่ทำแบบบาง (เพื่อให้เข้ากับธีมของตัวเองในแอนดรอยด์) มากกว่า
"Cupertino, start your photocopiers again!" (เวอร์ชัน iOS ถ้าให้ Siri พูดคงได้อารมณ์อย่างแรง)
เรื่อง Multi-tasking มันเป็นแนวคิดพื้นฐานของระบบปฏิบัติการสมัยใหม่อยู่แล้ว ในมือถือก็มีความพยายามในรูปแบบแตกต่างกันไป แอปเปิลก็เคยมีแบบของตัวเอง ผมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แอปเปิลลอกใคร มันเป็นเรื่องที่ว่าแอปเปิลจะทำหรือไม่ทำเท่านั้น ส่วนเมื่อทำแล้วจะบังเอิญไปเหมือนกับรูปแบบของระบบใดก็แค่นั้น
วิวาทะ
ก่อนหน้านี้สมัย iOS5 ก็เคยมีคนแซวมาแล้วว่าลอกแอนดรอยด์เกือบ 200 ฟีเจอร์ ว่างั้น
งวดนี้ก็คงต้องขอยืมคำพูดมิตรสหายท่านหนึ่งที่กล่าวถึง iOS7 ว่า "ในที่สุด เราก็เอาแอนดรอยด์ลงในไอโฟนได้แล้ว"
จบประเด็นครับ ส่วนล่างนี่ผมเล่าแถมเป็นโบนัสแทร็ก
นิทานอีสป เรื่องรถตู้กับสาวก ฉบับสั้นๆ ไม่ให้เกินสิบบรรทัด
ก่อนหน้า iOS7 iOS เป็นเหมือนรถตู้ที่พาสาวกวิ่งตามถนนอันราบเรียบของตัวเองมาอย่างดี และแน่นอน เพราะรถตู้ทั้งนิ่มสบายและถนนก็เรียบ ทำให้พวกเขาสบาย และมีเวลาว่างพอที่จะตะโกนข้ามไปแซะพวกนั่งรถเมล์ข้างๆ ที่ทางช้าและกระตุก และ force close บ่อย #เอ้ยไม่ใช่ รถเมล์ไม่มี force close (ต่อๆ) แต่วันหนึ่ง มีการเปลี่ยนโชเฟอร์แล้วเกิดตีนผีเหยียบคันเร่งดริฟท์รอบยานแม่ของตัวเอง ซึ่งก็แน่นอน มีสาวกส่วนหนึ่งที่คาดเข็มขัดเกาะรถรอดสถานการณ์มาได้ แต่ก็มีสาวกส่วนหนึ่งไม่คาดคิดว่ารถตู้สุดเสถียรของตัวเองจะดริฟท์ขนาดนี้ หลายคนเลยเงิบตกรถตู้ไปด้วยประการฉะนี้
นิทานเรื่องนี้ส่วนให้รู้ว่า อย่าไว้ใช้โชเฟอร์ใหม่ เพราะเขาอาจพาคุณพุ่งไปข้างหน้าอย่างจรวด หรือไม่ก็พาคุณดริฟท์รอบยานแม่พาคุณตกรถได้
จบครับ
คำว่า more polished ของผมหมายถึงในแง่ของ design การจัดวางองค์ประกอบน่ะครับ ส่วนเรื่อง feature มันเหมือนกันอยู่แล้ว สงสัยจะเขียนไม่ชัดเจนเอง
ส่วนเรื่องสายตาผมสายตาดีมาตลอดครับ บอกมาตลอดก่อน project Butter จะออกว่า Android กระตุกไม่ลื่นแต่ไม่มีใครเชื่อ เถียงกันคอเป็นเอ็น พอตอนหลัง Android ทำ project Butter ออกมาถ่าย vdo เทียบ frame ต่อ frame คนถึงได้ยอมรับกันว่าแต่ก่อนหน้านั้นมันกระตุกจริง (ลอง search ดูได้ครับ)
That is the way things are.
สำหรับผมถือว่าสวยมากกกกกกกกและเป็นแนวใหม่เลยนะ ชอบหลายๆสีอยู่แล้ว+จอที่คมมาก ทำให้ตอนแรกที่อยากได้แอนดรอยตอนนี้อยากลองตระกูลไอโฟนเลย อิอิ
จอมันแค่ 326 ppi ไม่คมมากหรอกครับ (หลายๆ ค่ายเขาไป 400+ dpi กันนานแล้ว)
ผมมองว่าหลายๆอย่างเป็นการดึง app จาก cydia มามากกว่าครับ เกือบทุกอย่างเลยที่มันมีใน cydia อยู่แล้ว apple อาจจะต้องการลดจำนวนคน jailbreak ลงก็ได้ครับ เพราะคนก็อ้างว่า jailbreak เพราะต้องการ sbsetting กันเยอะพอสมควรเวลาผมถามๆ
ลอกมาแล้วขัดซะสวยเลย ใช้ได้อยู่นะฮะ
ชอบ
ไม่ชอบ
ต่อยกันเลยดีกว่า
ทำไมท่านอ่านใจผมได้
เห็นไอคอนของ Settings แล้วนึกว่าเจอหนอนยักษ์ใน Dune
@TonsTweetings
ใช่ๆ ตอนแรกก็แบบ... อะไรอะนั่น เฟืองบวมๆ
...
หนอน!
อารมณ์คล้ายๆ กระจกฝ้า
ใน Sailfish by Jolla ก็หลายๆ ส่วน
http://www.youtube.com/watch?v=zxv7iXwIgno
ใน iOS 7 ก็เช่น Control Center
ปล.เค้าเรียกว่าแรงบันดาลใจ 555
ผมชอบนะ หรือว่าเอียนกับของเก่าแล้วก็ไ่ม่รู้
เข้าประเด็น เท่าที่ผมรู้ผลการลอกของแอปเปิลทำให้เกิดสิ่งสามสิ่งนะ
1. สาวกทะเลาะกัน(ทะเลาัะกันเอง,ทะเลาะกับหุ่นเขียว,ทะเลาะกับอีฟ,etc.)
2. ของยังใงก็ขายดี
3. แอปเปิลรวยขึ้น
เกลียดแอปเปิล ยังไงก็ไม่ใช้
ชอบไม่ชอบไม่รู้ รู้แต่ัยังไม่มีตังค์ซื้อ ... จะเป็น apple dev ได้ต้องมีตังค์ระดับนึง ซิกๆ
+99($)
^
^
that's just my two cents.
นั่นแหละที่ผมเศร้าใจ T_T จะไปโหลด iOS 7 SDK beta, Xcode 5 มาลองก็ไม่ได้ ไม่ได้มีบัญชี Apple Dev
ใช้แล้วรู้สึกโอเค เพราะ รู้สึกคุ้นเคย เหมือนใช้ แอนดรอย...
(นี่ HTC Sense เวอร์ชั่นไหนเนี่ย?)
//วิ่ง
ใช้อย่างที่ใจและกระเป๋าตังท่านต้องการ
เป็น Apple Dev ใช้สินค้ามือสองก็ได้ครับ หลังๆ ราคาพอรับได้อยู่
ผมว่างานออกแบบ ไอฟ์ เขาเน้นความบางเสียเหลือเกิน ความบางของเขามันดูดีแต่ขาดความสมบูรณ์ยังไงก็ไม่รู้ โดยเฉพาะเรื่องตัวอักษร, ฉากหลังกับไอค่อน
หรือเขาออกแบบมาเพื่อรองรับกับหน้าตา iPhone ตัวต่อมา?
+1111111 แม่นแล้วนาย.....ใครจะออกแบบเพื่ออดีตหละครับ
แล้วทำไมเขาไม่ออกแบบให้มันเข้ากับสีดำสักหน่อยละครับ
ซาฟารี นึกว่าโปรแกรมนำทาง
มองกี่ทีก็รู้สึกว่า Metro สวยที่สุดแต่เรื่องใช้งานนี่น่าหนักใจจริงๆ จะมาอ๋อตอน windows 8.1 นี่หละที่ดูเข้าท่าหน่อย
ส่วนตัวผมชอบปุ่ม multitasking ที่แอนดรอยบางรุ่นใส่มานะครับ ได้ใช้บ่อยจริง
เช่นเดียวกับมุมซ้ายของ windows 8 แต่ windows phone เสือกไม่มี
การที่ต้องมานั่งกด home ทุกครั้งมันน่าเบื่อ และติ่งบนหน้าจอยิ่งไม่ไหวจะเคลีย
แล้วเวลามี apps เพิ่มขึ้นมากๆจนไม่รู้อะไรอยู่ตรงไหนเนี่ย ยังไม่มีใครคิดวิธีที่ดีกว่าแบ่งแฟ้มได้แล้วใช่ไหมครับ
อันนี้แนวคิดเรื่อง recently used กับ category ของ Microsoft น่าสนใจมาก
อีกทั้งการที่พิมพ์แล้วแสดงผลค้นหาเลยเนี่ย แถมแยกชนิดได้ด้วย มันแจ๋วจริงๆ (แต่บางครั้งก็เอ๋อนะ)
อย่างน้อยก็ดีกว่าปุ้ม start + program แล้วก็เจอแฟ้มที่เป็นชื่อผู้พัฒนาแทนให้งงเล่น
หรือ search ที่ค้นมันทุกสิ่งแล้วเจอแต่ temp file
หรือ stack และ dock ที่พอไปใช้เครื่องคนอื่นก็มานั่งงมกันว่ามันเก็บอะไรไว้ไหนมั่งวะ
บนมือถือนี่มันพูดยากจริงๆ ส่วนตัวขออย่ามาค้างตอนรับสาย หรือเข้าโหมดโทรศัพท์ช้าโคตรก็พอใจมากแล้วครับ
อีกนิด T9 contacts search มันสำคัญสำหรับผู้ขับขี่ในกรณีเร่งด่วนจริงๆครับ
ในแง่ function ที่ควรจะมี ก็มาครบหมดละ แต่ที่ผมหนักใจกว่า คือ เรื่อง Multi Task กลัวว่าจะทำให้ การใช้งาน ไม่ไหลลื่น เหมือนเดิม