ไมโครซอฟท์ถือเป็นบริษัทไอทีที่เข้มแข็งในตลาดองค์กรมาก โดยมีซอฟต์แวร์เซิร์ฟเวอร์ด้านธุรกิจ 2 ตัวที่เป็นหัวหอกสำคัญคือ Exchange กับ SharePoint (ยังไม่รวมถึง Office ที่เป็นฝั่งไคลเอนต์ และพวก SQL Server/Windows Server ที่เป็นระดับงานระบบ) ส่งผลให้ Windows 8 กลายเป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจสำหรับองค์กรธุรกิจที่ใช้ซอฟต์แวร์สายไมโครซอฟท์อยู่ก่อนแล้ว
อธิบายง่ายๆ มันคือโน้ตบุ๊กวินโดวส์ธุรกิจที่กลับชาติมาเกิดใหม่ในร่างแท็บเล็ตจอสัมผัสนั่นเอง ระบบฝั่งเซิร์ฟเวอร์ใช้ของเดิมหมด แต่ฝั่งไคลเอนต์เล็กลง เบาลง เอานิ้วจิ้มจอได้เลย
จุดขายของไมโครซอฟท์ในสายธุรกิจ-องค์กร จึงเน้นไปที่ความเข้ากันได้ ความปลอดภัย และความสามารถในการบริหารจัดการอุปกรณ์เป็นหลัก ซึ่ง (ไมโครซอฟท์คุยว่า) เหนือกว่า iOS และ Android
หมายเหตุ: สำหรับฟีเจอร์ฝั่งคอนซูเมอร์ของผู้ใช้ทั่วๆ ไป อ่านได้จากข่าว ไมโครซอฟท์เผยโฉม Windows 8.1 พร้อมเปิดให้ดาวน์โหลดรุ่นพรีวิวแล้ว ส่วนข่าวนี้เน้นฟีเจอร์สำหรับสายงานธุรกิจ-องค์กรนะครับ (ข้อมูลเพิ่มเติมอ่านได้จากข่าวเก่า ไมโครซอฟท์เผยฟีเจอร์เพื่อการใช้งานในองค์กรที่ได้รับการปรับปรุง/เพิ่มเติมบน Windows 8.1)
ตัวอย่างงานที่ภาคธุรกิจนิยมเอา Windows 8 ไปใช้งานคืออุปกรณ์ที่ทำงานในโหมด kiosk ให้พนักงานบริการหน้างานหรือลูกค้าใช้งานซอฟต์แวร์บางตัว ซึ่งการใช้แท็บเล็ต Windows 8 ที่วางขายอยู่ทั่วไปนั้นถูกกว่าการสั่งซื้ออุปกรณ์ kiosk เฉพาะทางมาก
ใน Windows 8.1 ไมโครซอฟท์จึงสนับสนุนการใช้งานแบบนี้เพิ่มขึ้น โดยเพิ่มตัวเลือก Assigned Access จำกัดสิทธิ์การเข้าถึงหน้าจอหรือแอพต่างๆ เมื่อทำงานในโหมด kiosk ได้ เช่น ให้รันแอพได้ตัวเดียว ไม่ให้เข้าถึงระบบไฟล์ เป็นต้น
ตั้งค่าได้จากหน้า Settings > Accounts ได้เลย ตามภาพด้านล่างคือกำหนดว่าผู้ใช้ KioskUser รันได้เฉพาะแอพ Retail POS เท่านั้น
ตัวอย่างแอพ Retail POS ผู้ใช้จะเข้าแอพอื่นไม่ได้เลย เข้าหน้า Start Screen ก็ไม่ได้
เมื่อโจทย์คือการบริหารจัดการอุปกรณ์โดยฝ่ายไอที ทำให้ไมโครซอฟท์เดินหน้าไปในทิศทางนี้สุดตัว โดยมีระดับของการควบคุมอุปกรณ์ให้เลือกได้ตามต้องการ
เดิมที Windows 8 RT รองรับเฉพาะส่วน Exchange/ActiveSync และ Mobile Device Management ไม่สามารถทำ Enterprise Management ได้ ซึ่งใน Windows 8.1 RT ก็แก้ปัญหานี้แล้ว
ในส่วนของระบบบริหารจัดการอุปกรณ์ (MDM หรือ mobile device management) ที่ปัจจุบันมีบริษัทหลายแห่งทำระบบพวกนี้มาขาย ตอนนี้ก็มีมาตรฐานกลางชื่อ OMA DM (Open Mobile Alliance Device Management) ออกมาเพื่อให้ระบบของแต่ละบริษัททำงานร่วมกันได้ ซึ่ง Windows 8.1 ก็รองรับมาตรฐานนี้แล้ว
อันนี้เป็นฟีเจอร์ที่ต้องใช้กับ Windows Server 2012 R2 ด้วย มันคือการนำอุปกรณ์พกพา (ในที่นี้คือแท็บเล็ต Windows 8.1) ต่อเชื่อมเข้ากับระบบขององค์กร และเข้าถึงข้อมูล-แอพ-บริการที่ใช้ได้เฉพาะเครือข่ายภายในองค์กรได้
ตัวอย่าง Windows Store ขององค์กร ที่ผู้ใช้เลือกติดตั้งแอพได้ตามที่ฝ่ายไอทีกำหนดไว้
ตัวอย่างอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมผ่าน Workplace Join
ฟีเจอร์นี้คล้ายกับการทำ shared drive สำหรับไฟล์ของเราที่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์องค์กร แต่กระบวนการอัตโนมัติกว่าและมีความปลอดภัยสูงกว่ามาก
เมื่อตั้งค่าครั้งแรกเสร็จ พอเราล็อกอินเข้าระบบขององค์กร (Workplace Join) จะมี Work Folders โผล่ขึ้นมาให้ใช้ เมื่อออกจากเครือข่ายขององค์กรก็เลือกได้ว่าจะให้
Work Folder ออกแบบมาสำหรับการใช้งานส่วนตัว (สำหรับไฟล์องค์กร ไม่ใช่ไฟล์ส่วนตัว) ซึ่งจะต่างไปจาก SkyDrive ที่เน้นการแชร์ไฟล์ให้คนอื่น (เน้นไปที่ไฟล์ส่วนตัว)
Windows 8.1 เพิ่ม VPN client ของผู้ให้บริการอีกหลายค่าย เช่น F5, Juniper, Dell SonicWall
ตัวเลือก VPN อยู่ใน network charm เลย
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญของ Windows 8.1 คือรองรับการใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือเต็มรูปแบบ ใช้ได้ทั้งล็อกอินเข้าระบบ ยืนยันการซื้อแอพจาก Windows Store รวมถึงยืนยันตัวตนในแอพ Metro ขององค์กร
ตอนนี้เริ่มมีฮาร์ดแวร์สแกนลายนิ้วมือแบบใหม่ๆ ที่แตะทีเดียวแล้วผ่านเลย ไม่ต้องรูด ไม่ต้องแตะค้างแบบเครื่องสแกนรุ่นเดิมๆ
ตัวอย่างแอพโรงพยาบาล ที่ใช้ลายนิ้วมือยืนยันสิทธิการเข้าถึงข้อมูล
ไมโครซอฟท์โชว์ฟีเจอร์นี้โดยถอดแท็บเล็ตที่ใช้ๆ อยู่ แล้วเอาไปทิ้งลงตู้ปลา (เสียดายของครับ!) เพื่อจำลองสถานการณ์แท็บเล็ตเสียหายใช้งานไม่ได้
เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดของแท็บเล็ตถูกเก็บไว้บน SkyDrive ทำให้การดึงกลับมาทำได้ง่ายภายในไม่กี่นาที ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะดึงข้อมูลมาจากแบ็คอัพของเครื่องไหน
กระบวนการโหลดข้อมูลลงเครื่องใหม่เหมือนกับการเปิดใช้ Windows 8 ครั้งแรก แต่จะโหลดหน้า Start Screen มาให้เราใช้งานเครื่องได้ก่อน ส่วนแอพจะค่อยๆ ทยอยดาวน์โหลดอยู่เบื้องหลัง (แอพที่ยังไม่โหลดจะมีไอคอนรูปลูกศร ระบุว่ารอดาวน์โหลดอยู่)
อย่างสุดท้ายสำหรับคนใช้ Windows RT โดยมีแอพอีเมลเต็มรูปแบบอย่าง Outlook 2013 RT แถมมาให้ตามที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้
Comments
Work Folder กับ VPN เจ๋งดีแฮะ หวังว่าคงทำให้อะไรๆ ง่ายขึ้น