Lars Backstrom ผู้บริหารของ Facebook ออกมาอธิบายถึงการปรับอัลกอริทึม News Feed ครั้งล่าสุด โดยมีประเด็นดังนี้
- สิ่งที่ Facebook ทำคือพยายามประเมิน "คุณค่า" (value) ของเนื้อหาแต่ละชิ้น และแสดงเนื้อหาที่มีคุณค่ามากกว่าให้เยอะขึ้น (ตัวอย่างเช่น ภาพ meme ตลกย่อมมีคุณค่าน้อยกว่าบทความเชิงลึก)
- ปัจจัยหลักที่ Facebook ใช้ประเมินคุณค่าของเนื้อหาคือ "แหล่งที่มา" ของเนื้อหานั้น (source of content) โดยมีระบบให้คะแนนว่าเนื้อหาจากสื่อหรือแหล่งข้อมูลรายใดมีคุณค่าเหนือกว่ากัน
- Facebook ไม่ได้ปรับอัลกอริทึมเพื่อลดคะแนนของสื่อรายใดเป็นพิเศษ แต่ในมุมมองของบริษัท โพสต์ภาพตลกที่เขียนบรรยายแนวว่า "one like = one respect" (เทียบกับของเมืองไทยก็ประมาณ "ขอหนึ่งไลค์") ได้คะแนนเยอะเกินไปในระบบอัลกอริทึมเดิมที่ให้ความสำคัญกับการกดไลค์เยอะ
- Backstrom ยกตัวอย่างว่าอัลกอริทึมใหม่อาจทำให้เราเห็นภาพตลกลดลง 10% และเห็นลิงก์บทความเพิ่มขึ้น 10% แต่ไม่ได้แปลว่าจะไม่เห็นภาพตลกอีกเลย
ที่มา - AllThingsD
Comments
ถึงว่าช่วงนี้ News feed เอ๋อๆ บ่อยเลยครับ
WE ARE THE 99%
1 like = 1 บาท
1 share = 3 บาท
May the Force Close be with you. || @nuttyi
จะเข้าไปดูอะไรฮาๆ ดันขึ้นบทความวิชาการซะนี่
ปล.เฟซบุ๊คช่างมีประโยชน์จริงๆ
และเราจะได้เงินโฆษณามากขึ้น ... (พี่Markไม่ได้กล่าวไว้)
เจอแต่เรื่องเดิมๆ -
พี่แค่เรียงตามเวลาให้ผมตลอดก็พอครับ -*-
มันไม่พอสำหรับหลายๆ คนนะครับ ถ้าเอาทุกโพสมาโชว์มันเยอะมาก ผมเองเพื่อนไม่ค่อยเยอะยังอ่านไม่ค่อยทันเลย ขนาดเป็นระบบที่กรองบางส่วนไม่โชว์แล้วนะ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เข้าไป เจอแต่อันเดิม ปรับไปเป็น most recent ก็เจออันเดิม.....หรือ FB ไม่อยากให้เข้าไปเล่นบ่อยหนอ
สรุปกลับไปเปิด twitter
บางสิ่งที่ดูด้อยคุณค่าอาจจะมีค่าต่อบางคนมากๆๆ
FB ต้องคิดถึงคนที่ไม่ได้ like เพจเยอะ ๆ ด้วยครับ
เพราะอยากอ่านทุกโพสของเพจที่เรา like ไว้ ไม่ใช่เลือกแสดงแค่บางอัน