กูเกิลมีบริการรถเมล์รับส่งพนักงานในเมืองซานฟรานซิสโกมาเป็นเวลานาน แต่วันนี้รถเมล์คันหนึ่งถูกกลุ่มผู้ประท้วงหยุดไว้ครึ่งชั่วโมง แสดงความไม่พอใจที่กูเกิลไปใช้งานป้ายรถเมล์โดยไม่ได้ขออนุญาต
รถเมล์ของกูเกิลจอดป้ายรถเมลสาธารณะ MUNI ในเมืองซานฟรานซิสโกทั้งหมดประมาณ 200 ป้าย รวมวันละ 7100 ครั้ง กลุ่มผู้ประท้วงระบุว่าการเข้าไปจอดเช่นนี้คือการใช้ทรัพยากรของเมืองอย่างไม่เป็นธรรม และหากกูเกิลต้องจ่ายค่าปรับย้อนหลังตั้งแต่เริ่มโครงการรถเมล์พนักงานนี้ มูลค่าค่าปรับจะเกินพันล้านดอลลาร์แล้ว
แม้ว่าแนวคิดการมีรถเมล์ให้พนักงานจะทำให้พนักงานของกูเกิลใช้รถส่วนตัวกันน้อยลงซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเมืองเอง แต่กลุ่มผู้ประท้วงก็ไม่เห็นด้วยที่กูเกิลสามารถใช้ป้ายรถเมล์ได้ฟรี เพราะเมื่อป้ายรถเมล์แน่นกว่าที่คนใช้รถเมล์สาธารณะใช้งานปกติ ก็จะลดจำนวนผู้ใช้รถเมล์สาธารณะไปด้วย
อีกเหตุผลหนึ่งของการประท้วงคือรถเมล์เหล่านี้ทำให้ค่าเช่าบ้านตามเส้นทางรถเมล์ปรับตัวสูงขึ้นถึง 20% ทำให้ผู้ประท้วงไม่พอใจ
ที่มา - eWeek
Comments
รถเมล => รถเมล์
พนักงงาน => พนักงาน
ป้ายรถเมล => ป้ายรถเมล์
คิดไม่ถึงเรื่องแบบนี้เลยจริงๆ (O_o)
โดนมวลมหาชนไปอีกราย
ความจริงแล้วถ้าใช้ป้ายรถเมล์ควรจ่ายค่าเช่าหรือเปล่าครับ ? ผมว่า Google เองก็คงจะจ่ายนะครับถ้าหาก City Council เรียกจริงๆ ?
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
ย้อนหลังนี่สิครับ
มันก็จริงป้ายรถเมล์ก็สร้างโดยภาษี
ถ้ารถเมล์ Google เลิกวิ่ง ค่าเช่าบ้านจะลดลงมั้ย? ผมว่าไม่นะ
รถเมล์ Google จอดตามป้ายรถเมล์ พนักงาน Google ก็มาเช่าบ้านเยอะ สมมติเผอิญพนักงาน Google มีรายได้ดีกว่า ก็เลยอาจจะเช่าในราคาสูงกว่า ทำให้ค่าเช่าโดยรวมแพงขึ้น
สุดยอด ผมลืมข้อนี้ไปเลย
แสดงว่าพนักงานของ Google รายได้ดีผิดกับคนอื่นมากๆ และมีจำนวนมากๆ ถึงขนาดทำให้ค่าเช่าบ้านขยับได้เลยเชียว
หรือว่ารถของ Google ทำให้เมืองเจริญทางอ้อม
เคยได้ยินประโยคที่ว่า "ทำเลทอง" "ใกล้รถไฟฟ้า" "ใกล้มหาวิทยาลัย" ไหมครับ? นั่นแหละครับที่ยิ่งทำให้ราคาสูงขึ้น
แต่ "ทำเลทองใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ" หลังเปิดใช้งานจริง ทำเอาอสังหาแถวๆนั้นร้างไปเลย
ไม่ค่อยมีคนชอบฟังเสียงเครื่องบินมั้งครับ :) (ที่จริงผมว่าขายได้เฉพาะกับเจ้าหน้าที่สายการบินแหละ)
ก็คนเราส่วนใหญ่ไม่ได้ขึ้นเครื่องบินกันทุกวัน
ก็เพราะเขาคิดว่าใกล้สนามบินแล้วจะเป็นแหล่งค้าขายสำคัญนั่นแหละครับเลยพากันเก็งกำไรแล้วสร้างหมู่บ้านขึ้นเป็นว่าเล่น
แต่พอสนามบินใช้งานจริงปุ๊บ คนยกเลิกจองกันเพียบ (ดังนรกขนาดนั้นผมยังไม่ไหวเลย) เป็นไปตามคาดจริงๆครับ
กูเกิลบอกเองว่าโครงการ Google Fiber หรือการเข้าถึง internet หรือบริการต่างๆ จะเพิ่มมูลค่าของบริเวณนั้น
คิดได้สารพัดเรื่องจริงๆ
เรื่องค่าเช่าบ้านนี่ไม่เกี่ยวเลยซักนิด (ในเมื่อพื้นที่ตรงนั้นเจริญขึ้น อะไรๆ มันก็แพงขึ้น)
เอามาผูกกันได้นะ แบบนี้ทำอะไรก็ผิด หาข้ออ้างมาเอาผิดได้ตลอดซซิ
ต้องดูข้อกฏหมายว่า รถที่ไม่ใช่รถประจำทาง สามารถหยุดรับส่งที่ป้ายรถประจำทางได้หรือไม่
หากไม่ได้ ก็สมควรโดนปรับ
เป็นตรรกะที่ประหลาดมาก ถ้าต้องจ่ายค่าปรับจริง
ก็เปลี่ยนวิธีการจอดก็ได้ ในเมื่อไม่ใช่รถสาธารณะ เรียกร้องแบบนี้ ก็จอดตามใจฉันไปเลย จอดแป๊บเดียวแล้วไปยังไงก็ไม่โดนจับอยู่แล้ว เหมือนรถรับส่งนักเรียน
A smooth sea never made a skillful sailor.
นั่นสิครับ จอดเป็นระเบียบไม่ชอบ
ลองดูรถบัสรับส่งพนักงานโรงงานจอดแล้วจะรู้สึก
เมืองนอกไม่เหมือนบ้านเราครับ ถนนไม่ใช่ว่าอยากจอดที่ไหนก็ได้ แล้วเค้ามีกล้องวงจรปิด(ที่ใช้งานได้จริง) จอดแป๊บเดียวก็โดนย้อนหลังได้ครับ
+1 โดนใจครับ
อืม ผมไม่เคยไปเมืองนอกนะ แต่คิดว่าถ้าไม่ได้จอดแช่ คือ คนมาถึงก่อนเวลา รถมาถึงจอดปุ๊บ คนขึ้นปั๊บ รอออกเลย ถ้าไม่ใช่บริเวณที่ห้ามจอดจริง ๆ (เช่นขาวแดงบ้านเรา)การจะจับมันไม่ค่อยจะ make sense เท่าไหร่
เพราะถ้าแค่จอดให้คนขึ้นปุ๊บรถออกปั๊บยังผิด นี่แปลว่าเมืองนอกก็คงแวะรับเพื่อนระหว่างทางไม่ได้แน่ ๆ
A smooth sea never made a skillful sailor.
ผมว่าเวอร์ไป เมืองที่ผมอยู่ ถ้าบริเวณห้ามจอดก็ใช่ แต่ตรงอื่นก็ธรรมดาจอดรับส่งคนได้ปกติ
งง แล้วรถเมล์ทั่วไปต้องจ่ายค่าจอดป้ายด้วยเหรอครับ ถ้าต้องจ่าย ผมว่า google ก็ควรต้องจ่าย
เพิ่งรู้นะนี่นึกว่ารถประจำทางจอดได้ทุกคันซะอีก
ผมว่าสมควรต้องจ่าย เพราะมันก็เหมือนกับการที่เราจอดรถส่วนบุคคลปะหน้าป้ายรถเมล์ มันก็สร้างความเดือดร้อนเหมือนกัน แล้วอีกอย่าง จากเดิมที่มีแต่คนรอรถเมล์มารอ กลายเป็นพนักงานมารอรถกูเกิ้ลด้วย มันเป็นการกีดกันสิทธิของคนจะขึ้นรถเมล์ครับ
ถ้า Google ไม่มีรถรับส่งพนักงาน
1. แย่งขึ้นรถไปทำงาน รถไม่พอ ด่า Google
2. ซื้อรถขับไปทำงาน รถติด ด่า Google
3. ซื้อรถขับไปทำงาน ที่จอดไม่พอ ด่า Google
4. ซื้อรถขับไปทำงาน เกิดมลภาวะ ด่า Google
5. ขี่จักรยานไปทำงาน อุบัติเหตุเยอะขึ้น ด่า Google
ผมว่าข้อมูลยังไม่มากพอที่สรุปได้หรอก
แต่เห็นตรรกะมันเริ่มเพี้ยนๆ ในยุคคนทำผิดกฎหมายได้รับการเชิดชู
ผมว่ามันคนละเรื่องกันนะ
อย่าเอามาปนกันสิ
เขากำลังพูดถึงเรื่อง Google ใช้ป้ายรถเมล์สาธารณะ เป็นที่จอดรับส่ง
ซึ่งถ้ากฏหมายไม่รองรับตรงนี้ มันก็ทำไม่ได้จริงๆ นี่ครับ
มันเป็นการมองมุมเดียวนะแบบนี้แต่ผมมอง 2 มุม
มุมที่ 1. Google ทำแบบนี้เผื่อให้รถติดน้อยลงพนักงานประหยัดแถมไม่ต้องสร้างความเดือดร้อนไปแย่งคนที่ไม่ได้ทำงาน Google แต่ัมีคนเสียผลประโยชน์คือพวกที่ต้องการเงินจากพนักงานเหล่านี้ (รถเมล์ทั่วไป รถรับจ้าง)ส่วนที่ค่าเช่าเพิ่มขึ้นเพราะรายได้ความเป็นอยู่ดีขึ้น(เงินออมได้เยอะขึ้น)
มุมที่ 2. คนที่ได้รับผลกระทบเสียหายแค่ไหนบ้าง รถ Google จอดนานจนทำให้เดือนร้อน(นาที-ชั่วโมง)หรือป่าว กีดขว้างทางจราจรหรือป่าวต้องเรียกร้องเอาค่าเสียหาย ส่วนค่าเช่าบ้านเพิ่มอยู่ที่เจ้าของบ้านเห็นว่าเส้นทางเหล่านี้มีพนักงาน Google ต้องการไม่ใช่เหรอผลกระทบจากรถรับส่งมันตรรกะแปลกๆ (เหมือนทำเลดีขายของได้ก็ขึ้นราคาซะเลย)
แท็กซี่ไปรับส่งผู้โดยสารที่ป้ายละ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรึเปล่า??? เหอๆ
เมืองไทยรถบัสรับส่งพนักงานเพียบ เคยเห็นโรงงานนึง มีกะละร้อยกว่าคัน เหอๆ ชาวบ้านแถวนั้นก็จะบ่นๆตอนรอกลับรถนะ เพราะเยอะจริงๆ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเลี่ยงไม่ให้มาเวลาเดียวกัน
แต่ถ้าไม่มีรถรับส่ง ให้แต่ละคนมาเอง รถก็จะโคตรติด และหาที่จอดกันไม่ได้อยู่ดี
ค่าเช่าขึ้นนี่ผมว่าเจ้าของชอบนะ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ถ้าเอากฏหมายนี้มาใช้ในบ้านเรา
วินรถตู้ วินมอเตอไซ taxi รถทัวร์
น่าจะโดนปรับย้อนหลังรวมกัน หลัก ล้านล้าน บาท
ประเทศเขา ความคิดบ้าจี้ๆ เยอะกว่าบ้านเราครับ แต่บ้านเราก็มีรถเมล์ฟรีนะ :D แต่เฉพาะสายอ่ะ
บ้านเรานี่รถ Taxi จอดรอแช่ที่ป้ายเลยครับ ไม่สะทกสะท้านอะไร รถมงรถเมล์แทบจอดไม่ได้
แล้วพนักงานกูเกิลไม่จ่ายภาษีหรอครับ??
พนักงานกูเกิลก็ถือว่าเป็นประชาชนเช่นกัน มีสิทธิ์ใช้ทรัพยากรของรัฐเช่นกัน
ซึ่งรถเมล์กูเกิลก็ไม่ได้มีไว้เพื่อแสวงหาผลกำไรสักหน่อย
แล้วถ้าเปลี่ยนเป็น พนักงานกูเกิล มาขึ้นรถเมล์สาธารณะแทน เค้าจะมาบ่นว่า ทำให้รถเมล์เต็มไว ทำให้คนไม่อยากใช้ แบบนี้อีกรึป่าว?
โลกเราชักแปลกๆขึ้นทุกวันแล้วสิ
เรื่องแบบนี้ จะไม่เกิดขึ้น ถ้า google จ่ายภาษีป้ายซินะ
รถของ google ไม่ใช่รถเมล์ แต่ ไปจอดในที่ของ รถเมล์
ถ้าจ่ายก็จบ เมืองมีรายได้ นำไปพัฒนาเมืองต่อไป
พอไม่จ่าย เมืองก็เสียประโยชน์ ผู้คน ก็ มาประท้วง
ส่วนเรื่อง ค่าเช่าบ้านแพง คนที่ไม่ได้ทำงานที่ google ก็ย่อมไม่พอใจเป็นธรรมดา
ตัวเองไม่ได้มีรถมารับส่ง แต่กลับต้องเสียค่าเช่าแพงขึ้น
+1 เห็นด้วยครับ
ผมว่าทางฝรั่งเขาเป็นอย่างนี้อยู่แล้วนะ
คือพอเขารู้สึกเขาเสียประโยชน์อะไรเขาก็ฟ้องก่อน
ได้ไม่ได้ว่ากันอีกที เผื่อกูเกิ้ลยอมความมีรถประจำทางฟรีให้ประชาชน
หรือช่วยค่าบ้าน หรือจ่ายเงินให้ชุมชน เขามองว่าเขาฟ้องเขา win-win
ไม่น่าปรับ ที่น่าปรับคือไทย 5555 แย่งกันจอด .... ณ เวลาเดียวกัน ที่เคยเห็นมากที่สุด รถเมล์เล็กใหญ่หลากสี 5 คัน ต่อคิว 2 ซ้อนเลนที่ 2 อีก 3 + 2 แถว 2 คัน + แท็กซี่ 4 คัน + รถตู้ อีก 3 + มอไซต์นิดหน่อย + รถส่วนบุคคลจอดรับ-ส่งญาติ รวมแล้วรถติดบรรลัย คนใช่บริการอาจไม่รู้สึก คนที่ขับรถเองจะทราบดี
ไม่เคยไปแถบนั้นว่าเค้าเป็นยังไงกัน แต่ลองเทียบกะเรา อยากแนะนำเค้าว่า อย่าไปเก็บเล้ยย
ถ้าอยากรอมชอมก็ตั้งรถเมล์สายกูเกิลให้ประชาชีขึ้น ใครจะไปเส้นเดียวกันก็โดดขึ้นมาเลย แต่เสียตังนะ พนักงานฟรี
ไม่รู้กฎหมายจราจรบ้านเขาเป็นไงแฮะ
ปัญหานี้แค่ Google ไปจอดรับส่งที่อื่นนอกป้ายรถเมล์ก็คงจบ ถ้าไม่ผิดกฎหมายจราจร
ส่วนค่าเช่าบ้านขึ้น ปัญหาของ Google เรอะ !!!!!!!! ประชาชนคิดไปเองหรือเปล่า?
หรือจะเลียนแบบบ้านเรา เอะอะ อะไรก็โทษแก๊สโซฮอล์
ไม่ใช่รถเมล์อาจจะไม่สามารถจอดที่บัสเลนได้รึเปล่า อย่าเอาความรู้สึกตัดสินต้องดูกม.เขาด้วย
Google แจกรถให้พนักงานขับเลย จะได้รู้ๆกัน
ขอเถียงแทนกูเกิลว่า...
มันคือการช่วยลดมลพิษให้กับเมือง รวมถึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ อีกทั้งลดการการใช้พลังงานเชื้อเพลิง แถมช่วยให้การจราจรของเมืองคล่องตัวขึ้น อันจะส่งผลให้รักษาพื้นผิวถนนไม่ให้เสียหาย เป็นผลทางอ้อมในการช่วยลดอุบัติเหตุ สร้างความปลอดภัยต่อชีวิตคนในสังคมมากขึ้น เท่ากับว่าลดรายจ่ายของรัฐทำให้เสียค่าบำรุงน้อยลง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เจ้าที่รัฐโฟกัสงานที่สำคัญมากขึ้นได้ แถมยังเป็นการเพิ่มดัชนีความสุขให้ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและคนในสังคม เมื่อคนในสังคมมีความสุขมากขึ้นทุกคนทำงานดีขึ้น จะทำให้รัฐเก็บภาษีได้มากขึ้นโดยปริยาย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคือการช่วยเมืองมิได้เอาเปรียบ แถมช่วยฟรีด้วยนะ อิอิ
ส่วนเรื่องกินพื้นที่จอด อาจส่งผลกับรถเมล์อื่นบ้าง แต่เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ข้างต้นแล้ว คุ้มครับ!
ในความคิดของคนเมกาส่วนใหญ่จะเชื่อว่าบริษัทใหญ่มีเงินมหาศาลจากการดึงทรัพยากรส่วนใหญ่ของประเทศมาเป็นของตัวเอง ดังนั้นถ้าพวกเขารู้สึกว่าการดำเนินการใดใดของบริษัทเหล่านั้นกระทบต่อชีวิตประจำวันของพวกเขาก็จะต้องฟ้องเพื่อให้บริษัทออกมารับผิดชอบโดยการหาทางออกที่ดีขึ้น มันเป็นประชาธิปไตยแบบปกติที่จะต้องมีการต่อรองกันระหว่างกลุ่มคนต่าง ๆ เพื่อหาทางออกที่ดีขึ้น ต่างกับประเทศไทยที่นิยมการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ยอม ๆ กันไป ทำให้คนกลัวที่จะปกป้องผลประโยชน์ตัวเองเพราะจะถูกมองว่าเห็นแก่ตัว ทำบริษัทใหญ่เอาประโยชน์จากคนในพื้นที่ได้เรื่อย ๆ (เริ่มยาวและรู้สึกว่าเริ่มออกทะเล)
สรุป มันเป็นแค่การต่อรองกันระหว่างคนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบกับบริษัทที่ใช้ทรัพยากรบริเวณนั้น จ่ายไม่จ่ายต้องคุยกันระหว่างคนในพื้นที่เอง ผมว่าเราไม่มีสิทธิไปตัดสินว่าใครถูกผิด ทำได้แค่วิจารณ์การกระทำของแต่ละฝ่ายว่าทำเกินไปหรือไม่ครับ (เริ่มไปมหาสมุทรแล้ว 555 )
มีคนในนี้ ที่พอรู้กฎหมายของ เมืองซานฟรานซิสโก มาอธิบายความเรื่องนี้ให้อ่านกันหน่อยก็ดีนะครับ เราคนไทยอยู่ไกลไปตั้ง 12 ชั่วโมง มีแต่เดากันเอาเอง
จะได้เป็นความรู้ต่อไป