Alan Mulally ซีอีโอของ Ford เพิ่งกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ต่อเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับในงาน IFA ที่ผ่านมา และนับถึงตอนนี้คล้อยหลังมา 4 เดือน Ford ก็เผยโฉมรถยนต์ไร้คนขับรถรุ่นต้นแบบออกมาให้เห็นแล้ว

รถต้นแบบของ Ford นั้นพัฒนาโดยใช้รถรุ่น Fusion Hybrid ซึ่งสามารถแล่นไปตามเส้นทางทดสอบได้เองโดยอาศัยชุดเซ็นเซอร์ตรวจจับเส้นทางและวัตถุภายนอก ซึ่ง Ford เผยว่าจะยังไม่รีบผลักดันรถยนต์ไร้คนขับนี้เข้าสู่ท้องตลาด แต่จะค่อยๆ ทยอยดึงเอาเทคโนโลยีตัวช่วยการขับอัตโนมัติ (ตัวอย่างเช่น ฟังก์ชันการเข้าจอดในซองอัตโนมัติที่มีให้เห็นมาแล้ว) มาใส่ในรถยนต์ที่จะวางขายจริงเรื่อยๆ ซึ่งคาดว่ากว่ารถยนต์ไร้คนขับที่มีฟังก์ชันสมบูรณ์จะได้ออกวางขายจริงน่าจะเป็นปี 2025

ด้านการทำงานของรถยนต์ต้นแบบนี้ ใช้กล้องถ่ายภาพมุมมอง 360 องศารอบคัน ควบคู่กับ LiDAR ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะรูปทรงกระบอกจำนวน 4 ชิ้น ติดตั้งไว้บนหลังคารถ โดยอุปกรณ์ทั้ง 2 ส่วนจะทำงานร่วมกันในการตรวจจับวัตถุและสิ่งของสถานที่รอบตัวรถ เพื่อสร้างแผนที่ 3 มิติขึ้นมา

Ford ระบุว่าในอนาคตรถยนต์ที่กำลังวิจัยพัฒนาอยู่นี้จะสามารถเลือกเส้นทางขับขี่เพื่อเลี่ยงปัญหาจราจรได้, แก้ไขความผิดพลาดของผู้ขับได้, มีระบบหลีกเลี่ยงการชน และช่วยปรับรูปแบบการขับขี่เพื่อให้ประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในฟีเจอร์ที่จะมีเพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยเรื่องดังกล่าว คือการสื่อสารกันระหว่างรถยนต์ ซึ่ง Ford มองว่าจะช่วยให้ระบบขับเคลื่อนปรับความเร็วและตำแหน่งของรถให้สอดคล้องกับรถยนต์คันอื่นที่อยู่โดยรอบได้ดียิ่งขึ้น

ที่มา - The Verge