หนึ่งในโรคร้ายที่ส่งผลต่อมนุษย์ในทุกวันนี้คงหนีไม่พ้นโรคมะเร็งที่ยังไม่มีทางรักษาที่ได้ผลเต็มที่ แต่งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยจอร์เจียได้แสดงให้เห็นความสำเร็จในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในหนูเพื่อต่อสู้กับเซลล์มะเร็งอย่างได้ผล
วัคซีนตัวนี้เป็นวัคซีนสังเคราะห์ เพื่อต่อสู้กับเซลล์มะเร็งที่มีโมเลกุลน้ำตาลในรูปแบบที่ต่างไปจากเซลล์ทั่วไป ซึ่งโดยปรกติแล้วภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราจะไม่ทำลายเซลล์มะเร็งเนื่องจากเป็นเซลล์ที่เกิดจากร่างกายของเราเอง
ทีมงานวิจัยหวังว่าจะดำเนินการทดลองในมนุษย์ได้ในระยะเวลาประมาณหนึ่งปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามการนำวัคซีนมาใช้งานโดยทั่วไปยังต้องการการทดสอบอีกจำนวนมาก และใช้เวลาอีกนาน อีกทั้งวัคซีนหลายๆ ตัวที่ได้ผลสำเร็จในหนูก็ไม่มีผลต่อคนแต่อย่างใด
โดยทั่วไปแล้วเราใช้วัคซีนเพื่อป้องกันโรค แต่วัคซีนสังเคราะห์นี้สร้างขึ้นมาเพื่อกระตุ้นการทำงานของภูมืคุ้มกันเพื่อให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคที่อยู่ในร่างกายของเราอยู่ก่อนแล้ว
ที่มา - PhysOrg
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ก่อนอื่น 1 ดอก ภูมิคุ้นกัน -> ภูมิคุ้มกัน
เรื่องวัคซีนป้องกันมะเร็งนั้นไม่แปลกหรอกในสมัยนี้ หลักการก็คือ ทำอย่างไรให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย สามารถตรวจจับเซลล์มะเร็งได้ว่าเป็นเซลล์แปลกปลอม
ขณะนี้เองก็มีวัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer) ออกมา แต่เป็นการป้องกันทางอ้อม โดยสร้างภูมิคุ้มกันต่อ Human papilloma virus (HPV) หลายๆ strains ที่ทำให้เซลล์ที่ปากมดลูกเกิดความผิดปกติ กำลังเป็น campaign สำคัญในออสเตรเลียนะ ฉีดฟรีสำหรับหญิงวัยเจริญพันธุ์ กลุ่มเป้าหมายหลักๆ คือหญิงที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ (น่าจะทำในไทยบ้างเพราะมะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งอันดับหนึ่งของผู้หญิงไทย)
แต่โครงสร้างต่างๆ ของเซลล์ในแต่ละสปีชีส์มันไม่ได้เหมือนกัน 100% ดังนั้นก็ไม่แปลกที่ได้ผลในหนู แต่ไม่ได้ผลในคน
Henshin
We need to learn to forgive but not forget...
แก้ไขแล้วครับ
แถวนี้คนทำงานด้านการแพทย์ตัวจริงมีเยอะ เขียนไปกลัวผิดไป - -"
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
จริงด้วยๆ ว่าจะ comment หน่อย แต่ไม่เอาดีกว่า ของเรานี่มั่วล้วนๆ
จริงๆ ไม่น่าจะเรียกว่าเป็นวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเลยนะครับ น่าจะเรียกว่าวัคซีนป้องกัน HPV มากกว่า
แต่จะว่าไปแล้วถ้าสังคมเป็นระบบผัวเดียวเมียเดียว ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นเลย คงไม่ติดกัน.. แต่คงเป็นไปได้ยาก -_-"
ผัวเดียวเมียเดียว แต่ก่อนหน้านั้นผู้ชายเคยผ่านคนอื่นมาก่อนก็เสี่ยงเหมือนกัน เพราะฉะนั้นยากที่จะรู้ว่าผู้ชายคนไหนมีหรือไม่มี HPV
วัคซีนตัวนี้ถึงได้แนะนำให้ฉีดในผู้หญิงที่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันก่อนที่จะได้รับ HPV ครับ
Little RX
My Twitter
ผมยังไม่เคยนะ
แปลกใจตัวเองเหมือนกัน สงสัยอยู่กับคอมมากไปหน่อย
นับเป็นข่าวดีจริงๆ หากวัคซีนสำเร็จผมว่านักวิจัยชุดนี้ควรได้รับรางวัลระดับโลกหลายๆ
มะเร็งฆ่าชีวิตมนุษย์ต่อปี ไม่รู้กี่แสนคนต่อปี
ปรกติ กับ ปกติ ใช้อันไหนถึงถูกต้องเหรอครับ
ใช้ได้ทั้งสองแบบครับ
ปกติ เป็นรูปบาลี
ปรกติ เป็นรูปสันสกฤต
———————
คิดๆ ขีดๆ เขียนๆ
LinkedIn
ขอโทษนะครับ
เซลล์ที่เปิดจากร่างกาย หรือว่า เซลล์ที่เกิดจากร่างกาย?
แก้ไขแล้วครับ
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
สะกดผิดครับ
เอาชนะไม่ได้ตลอดหรอก เคยได้ยิน หมอประเวศ พูดว่าในทางการแพทย์ปัจจุบันสามารถรักษาโรคภัยได้เพียง 10% เท่านั้น นอกนั้นจะเป็นโรคที่หายได้เอง สิ่งสำคัญคือการรักษาภูมิคุ้มกันภายในให้ดี ตั้งแต่ต้น ที่มะเร็งเป็นโรคฮิตในยุคนี้เพราะการดำเนินชีวิตที่ผิดเพี้ยนในยุคปัจจุบัน
ผมมองว่าข้อความที่ว่ารักษาได้เพียง 10% เป็นการชี้นำที่ผิด แม้เนื้อความจะถูกก็ตามที
แม้การแพทย์ของเราจะไม่ได้ดีขึ้นขนาดที่สามารถรักษาโรคได้จำนวนมาก อย่างโรค ไข้หวัด เองทุกวันนี้เราก็ไม่ได้มีหนทางรักษา แต่การแพทย์ที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้นมันทำให้เราสามารถมีคุณภาพที่ดีขึ้นขณะที่เราเป็นโรคนั้นๆ ได้ ไม่ว่าจะด้วยยาแก้ปวด หรือยาลดไข้อื่นๆ ไม่นับถึงว่าเราสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อเท็จจริงคือ อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในร้อยปีมานี้ (ดูวีดีโอของ Hans Rosling ในงาน TEDTalk)
ขณะที่การใช้ชีวิตที่ดีเป็นเรื่องสำคัญ ผมไม่เชื่อว่าการดูถูกการแพทย์ในเชิงวิทยาศาสตร์เป็นแนวคิดที่ถูกต้อง ลองนึกถึงการระบาดของโรคต่างๆ ในช่วงหลายปีมานี้เช่นโรค SARS ที่คร่าชีวิตคนไปเกือบ 800 คน ในช่วงปี 2002-2003 เทียบกับโรคอื่นๆ ที่เคยระบาดในโลก เช่น ไข้หวัดฮ่องกงเมื่อสี่สิบปีก่อนที่คร่าชีวิตไปกว่าสามหมื่นคน หรือสิบปีก่อนหน้านั้นก็ยังมีไข้หวัดเอเชียที่คร่าชีวิตไปกว่าเจ็ดหมื่นคน และนี่เรายังไม่พูดถึงโรคต่างๆ ก่อนหน้านี้ที่มีคนตายกันนับล้าน
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
โห พึ่งเคยเห็นอันนี้ Gapminder
เจ๋งๆ
--
--
จากเนื้อความนี้หมอเน้นให้อยู่กับการรักษาโรคภัยด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยตัวเองก่อนที่จะมาพึ่งพาหมอครับ
ส่วนเรื่องเกี่ยวกับมะเร็งนี่ผมเห็นเลยว่าเป็นโรคที่เกิดจากการดำเนินชีวิตของมนุษย์ปัจจุบันเองแท้ๆ คือไม่เห็นด้วยที่จะบอกว่าเราสามารถรับประทาน junk food ได้แล้วเพราะเรามีวัคซีนป้องกัน ซึ่งสุดท้ายก็เป็นการพึ่งพาการแพทย์ไม่มีที่สิ้นสุดโดยไม่จำเป็น
ที่ว่าเจ้าตัววัคซีนมะเร็งนี่เป็นสิ่งไม่จำเป็นเพราะเราสามารถป้องกันได้แต่แรกอยู่แล้วแต่ไม่ทำเองตะหาก เหมือนๆ กับการพยายามคิดค้นยาลดความอ้วนที่เป็นอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ของประเทศร่ำรวยนั่นแหละ
การทานอาหารมีส่วนช่วยป้องกันได้ก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะได้ 100%
แล้ววิธีการป้องกันมะเร็งที่ทำกันทุกวันนี้ คือป้องกันไม่ให้ลุกลามไปจนรักษาไม่ได้ ด้วยการหมั่นตรวจอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์
นอกจากนี้การเกิดมะเร็งส่วนหนึ่งก็มาจากกรรมพันธ์ ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วปัจจุบันมันต่างกับในอดีตตรงที่การแพทย์ก้าวหน้ากว่ากัน ทำให้ผู้คนมีอายุยืนขึ้น จึงมีโอกาสได้เกิดโรคมากขึ้น ดังนั้นมันไม่ฮิตแค่มะเร็งหรอกครับ ทั้งโรคทางหัวใจและหลอดเลือด อัลไซเมอร์/พาร์กินสัน ฮิตทั้งนั้นแหละครับ
Little RX
My Twitter