Michael Walkley นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมไอทีจาก Canaccord Genuity ได้เผยผลวิจัยล่าสุดที่นำตัวเลขการรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของผู้ผลิตมือถือรายต่าง ๆ พบว่าแอปเปิลน่าจะมีส่วนแบ่งกำไรจากตลาดผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือทั้งหมด 86% ในขณะที่ซัมซุงมีส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 18% ซึ่งถือว่าเป็นจุดต่ำสุดของบริษัทตั้งแต่ปี 2011
ที่น่าสนใจคือส่วนแบ่งกำไรตลาดมือถือของแอปเปิลและซัมซุง หากนำมารวมกันแล้วจะมีค่าเกิน 100% เพราะผู้ผลิตรายอื่น ๆ เช่นไมโครซอฟท์ และโมโตโรล่าต่างก็ขาดทุน โดยมีส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ -2% และ -4% ตามลำดับ ส่วนผู้ผลิตอีกรายที่ยังมีส่วนแบ่งกำไรในตลาดมือถือคือ LG ที่มีส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 2%
หากมาดูทั้งอุตสาหกรรมผู้ผลิตมือถือ จะพบว่ารายได้โดยรวมลดลง 17.3% จากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว เหตุผลดังกล่าวอาจจะเป็นเพราะว่าผู้ซื้อเริ่มหันไปใช้มือถือแบรนด์จีนมากขึ้น และแบรนด์จีนต่าง ๆ ไม่มีการประกาศผลประกอบการ ทำให้ไม่สามารถนำข้อมูลมาใช้เปรียบเทียบได้
ที่มา - Apple Insider
Comments
ไม่ต้องวิเคราะห์ก็ได้ ผลตอบรับไอโฟนหกทั่วโลกดีขนาดนี้ก็ดูออกแล้ว เกมต่อไปมาดูว่า แอปเปิ้ลกับซัมซุง จะแก้มือจากแบรนด์จีนยังไงดีกว่า
ผมว่า Apple ก็ยังจะขายได้ต่อไปเรื่อยๆแบบนี้อีก 2-3 ปีครับเพราะ iPhone ก็คือ iPhone คนที่ตั้งใจจะซื้อ iPhone อยู่แล้วส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเปลี่ยนใจนะ
แบรนจีน เช่น xiaomi น่าผลกระทบต่อ Android ตัวท๊อป SS SONY LG HTC มากกว่าจะส่งผลกระทบต่อ iPhone เยอะครับ อารมณ์ประมาณว่า Mi3 Mi4 ทำอะไรได้พอๆกับ S5 M8 หนิลง App ตัวเดียวกันได้อีกคนที่คำนึงเรื่อง ประสิทธิภาพ/ราคา เป็นหลักก็เลยเปลี่ยนไปไปใช้ xiaomi กันเยอะ
จริงๆนับจาก 4s นี่ความน่าสนใจลดลงเยอะเพราะเรื่องขนาดจอ ถ้า 6 ยังดื้อไม่เพิ่มขนาด ไอโฟนอาจจะไม่บูมก็ได้
แต่เพราะเขายื้อนี่แหละครับ เลยเป็นจุดที่น่าสนใจ
จะว่าไปก็ถูก เหมือนเป็นไพ่ตาย รอถึงเวลาค่อยวางไพ่
ทีนี้ หน้าจอที่เท่ากัน ถือว่ายกต่อๆ ไปต้องหาไม้เด็ดมาล่ะ
สิ่งหนึ่งที่ยังเหนือกว่าคู่แข่ง น่าจะเป็น iOS นี่ละ
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
ไม่จำเป็นต้องตามครับ ตลาดล่างปล่อยให้แดงเถือกไปจะดีกว่า ยังไงจุดแตกต่างก็คือ OS นะครับ เพราะ App ใช้งานพอๆกัน นี่ถ้า Windows Phone มี App ใช้งานพอๆกับ 2 OS แรก Microsoft ก็สบายหน่อยเหมือนกัน ถึงจะมีเจ้าอื่นเอา OS ไปใช้ แต่ก็คงได้ค่าสิทธิ์
กำไรต่อเครื่องก็สูงที่สุด ยอดขายก็เยอะกว่า Flagship ทุกเจ้ารวมกัน ใครจะไปสูกะพี่ได้ละครับบบ
ทำไมบางคนยังไม่เข้าใจนะว่าไอโฟนมันดียังไง น่าจะใช้ไอโฟนกันให้หมดทุกคนเลย
ปล. สำหรับผม hardware iPhone ดีครับ ...แต่ผมไม่ชอบ iOS
+5.0 ยังไง iOS ก็ยังน่าเบื่อเหมือนเดิม
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ตรรกะอะไรเนี่ย =_=
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ลองยกตัวอย่างหน่อยซิครับ หรือคุณเองก็งงๆ ซื้อมาเหมือนกัน
เอาฮาใช่ไหมครับเนี้ย?
ผมก็ใช้พวกสินค้าของ Apple นะครับ แต่ผมอ่าน commnet คุณแล้วตะหงิด ๆ -_-
ไม่เข้าใจตรรกะคุณจริง ๆ
ผมไม่เข้าใจครับ อธิบายให้ผมฟังหน่อย
ของเค้าดีจริงครับแต่ผมไม่สามารถทนกับกรอบต่างๆที่ยี่ห้อนี้ตั้งไว้ได้เท่านั้น เลยต้องใช้ยี่ห้ออื่น
ราคาครับราคา
ราคาผมว่าถ้าคนใช้ iPhone อยู่แล้วไงๆก็ซื้ออยู่ดีแหละครับ
ผมหมายถึงว่าราคานี้ไม่ใช่ราคาที่ทุกคนจะซื้อกันได้สบายๆ ครับ
+1 อยากใช้นะ แต่... 3 หมื่น ผมก็ไม่ได้อยากขนาดนั้น
:: DigiKin8 ::
5S 32GB ราคา 13000 ปลายๆเองนะครับ
มี iphone อย่างเดียวโลกไม่เจริญแน่ฯ ใส่ในหุ่นยนยังหาดีไม่ได้เลย รองรับ drive ก็ไม่หลากหลาย iphone รุ่นใหม่ฯเกือบถึงทางตันแล้วมั้งไม่มีไรใหม่ฯใส่ลงมาบ้างเลย พัฒนาแพ้googleไปเรื่อยฯ
ถ้าเป็นแบบที่คุณว่าเทคโนโลยีบนโลกนี้คงถิงอวสารแล้วหละ กำไรก็ไม่ได้ให้ผู้ผลิดเยอะเลยจะเอาไรไปเป็นทุนพัฒนา พัฒนาก็แบบแทบไม่หวังอนาคตเลย
iphone จะมีความสามารถน้อยที่สุดบนมือถือแล้ว ถ้าบนโลกนี้มีแต่ android แทน
มิน่า ไอโฟนขายดีจัง
บางคน ถึงแม้ว่าจะมีของดีแค่ไหน เขาก็ไม่ใช้ เพราะอยากได้อะไรที่แตกต่างจากคนอื่น
The Dream hacker..
สาเหตุที่บางคนไม่ใช้ iPhone
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
+555 vertuสินะ555555
ไม่ใช่แค่ Vertu เจ้าเดียวนะครับ อ่านเพิ่ม:เมื่อมือถือเป็นมากกว่ามือถือ: รู้จักกับตลาดมือถือหรู
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ถ้าพูดถึงกำไรก็แน่นอนครับ เพราะ iOS ไม่มี fragment เหมือน Android
แสดงให้เห็นถึงแนวทาง marketing ที่ยอดเยี่ยม
ส่วนเรื่องอื่นๆต้องพิจารณาไปเป็นกรณีๆไป
สตีฟจอบส์เป็นนักประดิษฐ์
แต่ทิมคุกเป็นนักธุรกิจ
เรื่องนี้ต้องยกความดีให้การบริหารจัดการของทิมคุกเขานะครับ
สตีฟจอบส์ก็เป็นนักธุรกิจครับ
เค้าเป็นนักสร้างมากกว่าครับ ไม่งั้นไม่สามารถ drive ลูกทีมได้ขนาดนี้หรอก
ถ้าสังเกตุดีๆ บริษัทส่วนใหญ่ที่ดังได้ CEO มาจากนักสร้างทั้งนั้น โปรแกรมเมอร์ วิศวะ
นอกจากหุ้น APPL แล้วสตีฟ จ๊อบส์เขาไม่ได้ถือหุ้นที่ไหนเลยนะครับ
"สตีฟจอบส์เป็นนักประดิษฐ์" ห๊ะ คือ job ทำอะไรไม่เป็นเลยนะครับท่าน เขาเก่งตรงที่เขารู้ว่าจะจ้างใครมาทำ
ศึกษาประวัติของจ๊อบส์ก่อนนะครับ
คุณก็ลองศึกษาดูครับ สิ่งประดิษฐ์ของ apple ส่วนหนึ่งมาจากคนในทีมที่ job มักจะขโมยมาโมเมเว่าเป็น idea ของตัวเอง
และผลัดกดันให้มันเกิดขึ้นจริง เขาเลยมีชื่อเสียงในขณะที่เจ้าของ idea ตัวตริงไม่สามารถทำได้อย่าง job
Good artists copy, great artists steal. ครับ
แล้วเคสของจ็อบส์ไม่เรียกว่าเป็นนักประดิษฐ์ยังไง?
ในเมื่อเขาทำให้มันใช้ได้จริงๆ แล้วผลงานก็เยอะแยะเต็มไปหมด
คงจะเข้าใจคำว่า "นักประดิษฐ์" คนละแบบกับผมล่ะครั้บ นักประดิษฐ์ ต้องคิดและสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเองซิครับ
เช่น เอดิสัน หรือ วอซเนียก
เอดิสันก็ขโมยจากนิโคลา เทสลา นะครับ อิอิ
Steve Jobs ประดิษฐ์อะไรบ้างครับ ผมว่าเขาคุมทีมและมองธุรกิจเก่งมากกว่าครับ ส่วนนักประดิษฐ์คือ Steve Wozniak นู่นครับ
ສະບາຍດີ :)
Woz ออกจาก Apple ไปนานมากแล้ว ยังขุดมาอีก
หมายถึงว่าเขาเป็นตัวอย่างของนักประดิษฐ์ เทียบกับ Steve ไม่เกี่ยวกับแอปเปิล
ສະບາຍດີ :)
Steve Jobs ไม่ใช่นักประดิษฐ์ครับ
ดูได้จากนี่
http://www.nytimes.com/interactive/2011/08/24/technology/steve-jobs-patents.html
ลองศึกษาดูครับ
ไม่เอาน่า ทั้งจ๊อบและวอซเนียกต่างก็เป็นนักประดิษฐ์ทั้งคู่ ผลงานคือ เครื่อง apple 1
แต่หลังๆวอซเนียกนั้นเก่งด้าน hardware กว่า จ๊อบเลยเปลี่ยนตัวเองเป็นลูกมือ แล้วเน้นนำเสนอสินค้าแทน
จ๊อบอยุ่กับ งาน creative ซะเยอะ จนเรียกได้ว่าเป็นนักคิด นักสร้าง และมีทักษะการพูดที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่ใช่นักธุรกิจแน่นอนครับ
Steve Jobs แกเป็น artist ครับ
Steve Wozniak ต่างหากถึงเป็น นักประดิษฐ์ครับ
ในมุมมองของผมจ็อบส์เป็นนักคิด/นักธุรกิจมากกว่าครับ ไม่ได้ทดลองหรือสร้างอะไรแต่มีแนวคิด ให้คนอื่นทำหรือทดลองแทนเขาจนได้ผลที่เขาพอใจ
สร้างครับเครื่อง apple 1
นั่งเชื่อมสายไฟกับวอซเนียกอยุ่ในโรงรถ
หลังจากนั้นก็ทั้งสร้าง ทั้งขโมย ทั้งเลียนแบบ พี่แกคลุกคลีอยุ่ในห้องออกแบบตลอด
แอปเปิ้ลโตมากับความเนียบของสินค้า และภาพลักษณ์ล้วนๆ การตลาดน้อยมาก
อ้อ เสริมนิดพี่แกก็เป้นทีมสร้าง toy story 1 ด้วยนะ ถือว่าเจ๋งสุดๆไปเลย
การประดิษฐ์ไม่ได้หมายถึงงานฝีมืออย่างเดียวนี่ครับ
คนที่เป็นนักประดิษฐ์คือคนที่คิดว่าต้องการจะทำอะไรให้ออกมาเป็นแบบไหน
ส่วนจะทำเองหรือจ้างใครทำมันเป็นอีกเรื่อง
เหมือนกับการสร้างบ้าน สถาปนิกไม่ได้ก่ออิฐเอง ไม่ได้ไปเอาดินเหนียวมาเผาเป็นอิฐเอง ไม่ได้เป็นคนคิดวิธีการสร้างอิฐ
แต่เป็นคนที่คิดและคอยคุมว่าอยากจะให้บ้านออกมาหน้าตาเป็นยังไง ในภาพรวม
แล้ว สถาปนิก ไปเหมือนกับ นักประดิษฐ์ ได้ยังไงครับเนี่ย =0= หรือผมสับสน สร้างบ้านเนี่ยเรียกประดิษฐ์บ้านเหรอครับ ถ้านักออกแบบที่ออกแบบก็ว่าไปอย่าง ผมว่าหลายคนเข้าใจคำว่า ประดิษฐ์ สับสนกับ ออกแบบ หรือเปล่า
ສະບາຍດີ :)
แค่เปรียบเทียบให้ฟังระหว่าง สถาปนิกกับคนงานก่อสร้าง นักประดิษฐ์กับคนงาน
สถาปนิกไม่ต้องก่อปูนเอง นักประดิษฐ์ก็ไม่ต้องทำชิ้นส่วนและประกอบเอง
สิ่งที่นักประดิษฐ์กับสถาปนิกเหมือนกันคือเขาเป็นเจ้าของไอเดียว่าจะเอาไง
คนที่ลงมือสร้างจริงๆอาจจะเป็นเขาเองหรือจ้างคนอื่นมาทำก็ได้
คนสมัยนี้สับสนง่ายจัง
หาอ่านประวัติกับผลงานของจ็อบส์ได้ตามเน็ตเลยครับ
ผมซื้อมาอ่านเป็นเล่มเลยครับ
ซื้อมาแล้วได้อ่านไหมครับ แค่ชื่อคุณยังสะกดไม่ถูกเลย
จ๊อบส์เองสมัยเด็กก็มีความสนใจทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ และยังเป็นเคยทำงานเป็นคนออกแบบเกมให้ Atari
ไหนจะเรื่องการออกแบบแผงวงจรของเครื่องแอปเปิ้ล และรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่จ๊อบส์มีส่วนร่วมแทบจะทุกอย่าง
อืม ผมว่าคุณสับสนล่ะ นั่นมันความหมายของนักออกแบบ
นิยามให้ฟังหน่อยสิครับ ว่ามันต่างกันยังไง
เหตุผลที่ iOS ขายดีกว่า Android เพราะ User ส่วนใหญ่ไม่ใช่ Geek ครับ การปรับแต่งอะไรนั้นไม่ได้เป็นประโยชน์สำหรับเค้า iOS ตีกรอบให้ใช้ง่ายๆ User ธรรมดาก็เลย ok กว่าครับ(ขนาด App store user 80%ยังใช้ไม่เป็น) โดยเฉพาะ Android ที่ไม่ใช่ตัวเรือธง User interface ส่วนใหญ่จะแย่ทำให้คนที่เคยซื้อถูกๆมาลองใช้มีประสบการณ์ที่ไม่ดี ครั้นจะซื้อรุ่น TOP ก็ราคาเท่าๆกับ iphone อีก ซึ่ง ณ จุดนี้แบรน Apple ราคาสูงกว่า Samsung คนก็เลยเทไป Apple
ผมพิมงงมั๊ยเนี่ย
เข้าใจผิดไปไกลละครับ iOS device ไม่ได้ขายดีกว่า Android device เลยครับ ถ้าดูตัวเลขจากหลายๆ สำนักจะบอกตรงกันว่ายอดขาย Android สูงกว่า iOS มากหลายๆ เท่าด้วยซ้ำ และ Android Phone ที่ขายดีที่สุดในโลกเป็นของยี่ห้อ Samsung ครับ ขายดีกว่า iPhone หลายเท่าด้วย
ประเด็นของข่าว คือ กำไรต่อค่าเครื่องที่ iOS ทำได้มากกว่า Android ซึ่งผมเข้าใจว่า เพราะว่า Android device มีการแข่งกันเองอย่างรุนแรง โดยตลาดบนแต่ละยี่ห้อแข่งกันอัดสเปก แต่ไม่สามารถตั้งราคาให้สูงกว่า iPhone ได้ ทำให้ margin เหลือน้อย ถ้าจะมีเจ้าไหนทำราคาแรงๆ เพื่อไปชนกับ iPhone โดยตรงมันก็จะเป็นอย่างกรณี iPhone6 และ Note4 ที่แม้แต่ในบ้านตัวเองยังขายสู้ไม่ได้เลย สรุปว่าตลาดบน Android Phone กำลังฆ่ากันเองโดยมี iPhone เป็นเพดานของลานประหารนั่นเอง
ส่วนตลาดล่าง ก็มีมวลมหาแบรนด์กำลังแข่งกันตัดราคาอยู่ เรื่อง margin ไม่ต้องพูดถึง เรียกว่าแข่งกันขายทำยอดดีกว่า
ผมเชื่อว่าในอนาคตตลาดรวมของ Android จะมีมูลค่าสูงมาก แต่ทำกำไรจากค่าเครื่องได้น้อยแบบนี้ไปเรื่อยๆ คนที่อยู่ยาวที่สุดก็คือรายใหญ่ที่สายป่านยาวๆ หน่อย เสือนอนกินก็เหมือนเดิมครับ Google นั่นเอง หากินจากการขายของใน Store และบริการต่างๆ ไป ส่วนตลาดบนก็ยกให้ iPhone ไปตามระเบียบ ดูจากยอดขาย Galaxy เรือธงรุ่นหลังๆ ก็เห็นแล้วว่า Samsung ยังต้องทำการบ้านเรื่องการเพิ่มมูลค่าของแบรนด์อีกเยอะ
ส่วนเรื่องของ UI นั้นพูดไม่ได้ครับ มีคนรู้จักของผมบางคนบอกว่า iOS ใช้ยากกว่า Android ด้วยซ้ำ :-p
+1 ตามนี้เลย ผมแฟน Android และชอบให้ตลาดออกมาแข่งกันลักษณะนี้แหละยังไง ก็ได้ตัว
top android ที่ราคาต่ำกว่าIphone แน่ ๆ .. ;)
ตามนั้นครับ
ที่ผมเข้าใจ คือยอดขาย Android เหนือกว่าเพราะเล่นทุกตลาดครับ ยอดขายเค้าแยกไม่ได้ว่า ตลาดบน (S/Note) เทียบกับ iphone แล้วใครเหนือกว่าครับ เพราะผมคิดว่า margin มาจากตลาดบนครับ
ชอบ "มี iPhone เป็นเพดานของลานประหาร" เห็นภาพเลยครับ
+100 ผมสังเกตุมาหลายปีพบเรื่องน่ากลัวเรื่องหนึ่งครับ
คือเทคโนโลยีไปไว จนคนทั่วไปและเด็กรุ่นใหม่ตามไม่ทันแล้ว (เมื่อก่อนคนรุ่นใหม่รู้เทคโนโลยีเยอะ คนรุ่นเก่าตกยุคใช้เทคโนโลยีไม่ค่อยเป็น) เดี๋ยวนี้ไม่ว่ารุ่นไหน ใช้เทคโนโลยีไม่ค่อยเป็นทั้งทั้นครับ
ผลที่ตามมาในระยะยาวคือ ทุกคนจะโง่ลงในเรื่อง IT และรายการ IT ตาม TV จะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด (เดาเอานะ)
ทุกวันนี้คนที่ไม่ใช้ไอโฟน มักมองว่าคนใช้ไอโฟน ใช้เพราะแบรนด์ บ้าแบรนด์ ซื้อมาไม่คุ้ม... เหมือนโดนหลอกด่าว่าโง่เลย จริงๆนะ แค่พูดว่าจะซื้อไอโฟน ก็โดนด่าแล้ว ทุกวันนี้ความคิดเหล่านั้นลามมายังคนใกลชิด ผมลำบากใจมาก
ว่าไม่ได้ครับ เพราะคนส่วนใหญ่ก็ซื้อเพราะเหตุผลนั้น
ที่ว่าคนส่วนใหญ่ซื้อ iPhone เพราะ... (ที่คุณเข้าใจ) นี่มีอะไรอ้างอิงไม๊ครับ หรือมโนเอาเอง...
คนรอบตัวครับ และผมขอถามกลับบ้าง มีอะไรอ้างอิงมั๊ยครับว่าสิ่งที่ผมพูดผิดหรือมโนเอาเอง?
มันไม่มีอะไรเป็นลายลักษณ์อักษรหรอกครับ มองไปรอบๆตัวนั่นแหละครับ เดี๋ยวก็เห็น สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวคงไม่ต้องไปหางานวิจัยหรอกมั้งครับ แต่ถึงคนรอบตัวจะคิดยังไง ผมก็ใช้ Apple ต่อไปนะ มีคนว่ามาผมก็สวนเมื่อเขาล้มเช่นกัน ไม่ปราณีหรอก
"อย่าเอาวิชาการมาพูดกับผม บางเรื่องมันต้องใช้ความรู้สึก"? - มิตรสหายท่านหนึ่ง
คำว่า"คนส่วนใหญ่"มันเป็นข้อเท็จจริงนี่ครับ ถ้าไม่สำรวจแล้วจะรู้ได้ไงว่าน่าจะส่วนใหญ่จริงหรือแค่ส่วนใหญ่ในมโนตัวเอง
คนบางคน (โดยเฉพาะผู้หญิง) ที่ผมเจอ+รอบๆตัว บอกว่าใช้เขียวคุ้มกว่า ดีกว่า แต่เท่าที่ผมเจอ เขาก็ใช้แค่ทั่วๆไป ไม่ต่างจากไอโฟน แถมชอบพูดทำนองว่าคนใช้ไอโฟนโง่ -"- ยิ่งช่วงหลังๆนี่เจอบ่อยมาก ที่พูดนี่ไม่มีอะไรมากอยากขอพื้นที่ระบายความในใจ
อาจเป็นเพราะเขามองว่าใช้งานเรื่องทั่วไป เลยซื้อเครื่องสเป็ครองที่มีราคาต่ำลงมาถือว่าได้ใช้งานคุ้มราคากว่ารึเปล่าคับ?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ผมลืมบอกไป ผมหมายถึงเทียบกับตัว flagship ยี่ห้ออื่นๆ โดยมาก Samsung แต่พักหลังๆมานี่พูดถึงกันแต่ Oppo, Xiaomi มาแรงปิดเกมเลย แล้วบางคนที่ผมเจอก็ไม่เข้าใจ ecosystem ซึ่งมันเห็นเหตุผลหลักๆของการใช้ไอโฟนเลย เขาอาจจะไม่ได้ลงเม็ดเงินไปในระบบเยอะ โหลดแต่แอพฟรีมาใช้ เลยไม่ได้คิดอะไรย้ายไปย้ายมาได้ แต่ผมลงเม็ดเงินไปเยอะแล้ว จะย้ายไปทีก็ลำบาก ทุกวันนี้ควบสองเครื่อง แต่ก็ยังเปรมกับความนุ่มของไอโฟนอยู่นะแม้ว่า iOS 7, 8 จะผิดหวังไปบ้าง และก็ยังคงจับตาดู ecosystem ฝั่งเขียวอยู่ว่าทำให้รู้สึกดีเหมือนไอโฟนได้ไหม เมื่อไหร่ที่ทำได้ ผมก็ย้ายนะ เพราะ service อื่นๆของ google มันครบวงจรมาก
ผมย้ายไม่ได้ก็เพราะลงเงินไปเยอะเช่นกันครับ ค่า App เนี่ย
ผมใช้เพราะไม่ต้องการชีวิตที่ยุ่งยากครับ สมัย WP ผมเคยโม ROM, Registry จนเอียนครับ กว่าจะได้เครื่องที่ใช้งานกับเราได้จริงๆ
พอเครื่องใหม่ขอเป็น iPhone เลย ไม่อยากโมอะไรทั้งนั้น หยิบเครื่องปุ๊ป ใช้งานปั๊ป, มี Business App, เอาเงินไป เอา App มา..จบ ไม่เปลืองเวลาชีวิต
ปล. เครื่องเงินเราซื้อเองครับ แคร์ทำไมกับอคติของคนที่ไม่เกี่ยวข้อง :)
ผมเอียนมาตั้งแต่สมัย WM แล้วครับ เปลี่ยนรอมจนเหนื่อยก็ยังไม่เสถียรซะที
มาถึงยุคนี้ถ้าเทียบระหว่าง iOS กับ Android สิ่งที่ผมต้องการคือระบบที่นิ่งๆ ที่ไว้ใจได้ว่ามันจะไม่หน่วง หรือเกิด crash บ่อยๆ ส่วนไอ้ที่ว่าฟีเจอร์มหาศาลแปดล้านอย่าง ทำนั่น นู่น นี่ได้มากกว่า เอาเข้าจริงไม่ได้จำเป็นกับชีวิตของผมเท่าไร... อันไหนที่มันจำเป็นและมีประโยชน์ iOS ก็ทำได้เหมือนๆ กัน
คนส่วนใหญ่?
จริงตามนั้นครับ
คุณเป็นคนอ้างข้อมูลเชิงสถิติด้วยคำว่า "คนส่วนใหญ่" ดังนั้นคุณจึงมีหน้าที่ไปหาข้อมูลมาพิสูจน์คำอ้างของตัวเองครับว่าไม่ใช่เป็นการคิดเองเออเองแบบลอย ๆ ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นที่ต้องไปหาข้อมูลหลักฐานมาหักล้างคำกล่าวของคุณ
คุณบอกว่าคนรอบตัวคุณซื้อเพราะ brand แต่ใคร ๆ ทุกคนก็มีคนรอบตัว ผมเองก็มีคนรอบตัว ถ้าคนรอบตัวผมต่างก็ซื้อเพราะ ecosystem ซื้อเพราะ app ซื้อเพราะ design ซื้อเพราะคุณภาพการบริการหลังการขาย หรือเหตุผลอื่น ๆ คุณจะยังสรุปแบบเดิมได้อีกเพียงเพราะคนรอบตัวคุณเองเพียงอย่างเดียวอีกหรือ ?
นี่ยังไม่นับว่าที่คุณคิดว่าคุณรู้เหตุผลว่าคนรอบตัวคุณซื้อเพราะอะไรเนี่ย คุณได้ไปถามเหตุผลเขามาจริง ๆ หรือคิดเหตุผลแทนเขาไปด้วยอีกกันแน่
"ส่วนใหญ่" เหอะ
That is the way things are.
มาอีกแล้ว คือว่านะ ถ้าจะให้เขาไปรวบรวมข้อมูลต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าใหร่ เพื่อว่ายืนยันว่าเป็นไงบอกแล้วว่าใช่ โครตคุ้มกับการลงทุนจังเลยนะครับ คนที่มาอ่านในนี้มีความคิดเป็นของตัวเองหมดแหละ จะเชื่อไม่เชื่อที่เขาพูดมาก็ใช้ประสบการณ์ของตัวเองตัดสินได้ครับ เพราะถึงเข้าใจผิดไปมันมีผลได้ผลเสียยิ่งใหญ่ขนาดต้อง ไปทำสถิติเลยเหรอ
แล้วแต่คนไปครับ
อย่างผมไม่ใช้ iPhone ให้ฟรีก็จะเอาไปขายแล้วซื้อ Android
แต่ถ้าคนมาขอคำแนะนำ ผมก็จะแนะนำ iPhone เพราะผมขี้เกียจมานั่งเป็น Helpdesk ครับ OTL
(แต่ขนาดนี้แล้ว ผมก็ยังโดนใช้เปลี่ยนริงโทนอยู่ดี)
แต่สมัยนี้ใช้มุกนี้ไม่ค่อยได้แล้ว เพราะเค้ามีเงื่อนไขว่า "ไม่เอา iPhone!"
น่าจะเป็นเพราะเขาเป็นผู้ใช้แบบทั่วๆไป ไม่ใช่ฮาร์ดคอร์ ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจริงจัง
ของที่ดูเหมือนใช้ได้เหมือนๆกัน เขาก็ต้องอยากได้ที่ถูกกว่าหรือให้ความรู้สึกว่าได้มามากกว่า
ทั้งที่ไอ้ที่ได้มาก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ผมมองว่าผู้ใช้สมัยนี้รู้ดีพอนะ ว่าในตลาดมีตัวเลือก และเขาเลือกอันไหน
แต่ถ้าลองสมมติว่าข้อความนั้นเป็นจริง ถ้าเขาซื้อมาแล้วใช้ได้สะดวกกว่ายี่ห้ออื่น ก็แสดงว่าเขาเลือกได้ถูกแล้ว
แถมคำว่า "ใช้" ของทั้งสองฝั่งอาจจะไม่เท่ากันด้วยนะครับ เสป็ค กล้อง การใช้งาน ความพอดีมือ ความใช้เป็น โลโก้ คอนเทนต์ จำนวนเคสที่เลือกได้
เหมือน window ไง ผูกขาดพอสมควร
Android กำไรขายน้อย แต่ Google รวยจาก Ads
มันต้องเลือกระหว่างเละไปเลยแบบ nokia หรือมีกำไรบ้างนะครับ
ผมว่า iphone จะยังคงมีกำไรเรื่อยๆ เพราะขายเครื่องแพง แต่ก็จะขายใด้ในส่วนแบ่งการตลาดที่น้อยลงเรื่อยๆ เรื่องจาก android แข่งขันกันเองจนกลายเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ในที่สุด ios ก็จะหดตัวหายไปยกเว้นบางประเทศที่นิยมแบบเดียวกับ mac แล้ว app ก็จะคอยๆหายตามแบบเดียวกับ pc vs mac
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ไอโฟนเหมือนขนมหวานแพงๆ นานๆออกมาให้กินที แอนดรอย์เหมือนบะหมี่เกี๊ยว จะปรุงอะไรเพิ่มก็ได้ตามใจชอบ แต่ไปกินรสชาติจะไม่เป๊ะเหมือนเดิมทุกครั้ง
ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นแล้วครับ เพราะตอนนี้แอปเปิ้ลตีโจทย์แตกแล้ว คือขาย Hw แถม OS ซึ่ง ตอนนี้ MS กำลังปวดหัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้กำไรจาก Hw แถม OS ลงทุนพัฒนามาก็ขายแพงไม่มีคนซื้อ ทำให้พันธมิตร MS กำลังจะแตกแล้วครับ
อย่าลืมว่า Android แจกฟรีตั้งแต่แรก ส่วน windows เริ่มแจกฟรีแล้วนะครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ต่อไปหลังจาก iphone 6 จอใหญ่ ความต้องการเปลี่ยนมือถือ น่าจะน้อยลงมากนะครับ (คล้ายๆ iPad) แต่ Ads ยังไงก็วิ่งได้ตลอด
ผมว่าไม่ต้องนักวิเคราะ ก็ดูออกแล้วครับ แต่ละรุ่นที่ออกมา สเป็คไมได้หนีห่างกันเลย เพิ่มอะไรมานิดหน่อย ก็ขายได้เยอะขนาดนั้น กำไรเต้มๆ ถ้ายอดขายมินิสาม ขายได้เยอะ ยิ่งคุ้มเลยนะ ครับ
ผู้หญิงข้าง ๆ โต๊ะทำงานผมบอกว่าที่ซื้อ iPhone เพราะมัน "เลอค่า" ครับ
ผู้หญิง 8 คนใช้ iPhone ไป 7 คน
/me นั่งกด Nexus 5 ต่อไป ลุ้น Lollipop จะมาเยือน
ถ้ามีคนถามว่าซื้ออะไรดี ผมก็แนะไป iphone อย่างเดียวเลย เพราะขี้เกียจตามไปเซ็ตนู่นเซ็ตนี่ให้ เหอออ
^
^
that's just my two cents.
iPhone กับ Android เถียงกันไปก็เท่านั้นแหละครับ
มันคนละอารมณ์อยู่แล้ว
จะมาบอกว่า อันนึงซื้อมาไม่คุ้ม อันนึงซื้อมาไม่ดี มันไม่ได้
จะว่า iPhone ซื้อมาไม่คุ้ม มันก็ไม่ถูก
เพราะราคาขายต่อ ตกน้อยสุดแล้ว
จะว่า Android ไม่เสถียร ตอนนี้มันก็ไม่ใช่แล้ว
สรุปมันก็แล้วแต่คนชอบอยู่ดี
งานนี้ apple กับ google รับทรัพย์ไปเต็มๆ
ใช่ครับ Tim Cook ทำอาหาร larry page (plate)เตรียมจาน อร่อยกันอยู่สองคน
มันก็น่าจะมากกว่าล่ะนะ
คิดง่าย ๆ ในยอดขายและราคาเปิดตัวระดับเดียวกัน เจ้านึงขายเพียว ๆ อีกเจ้าซื้อ Phone แถม Tablet มันจะไปเท่ากันได้ยังไง (ในปริมาณจำนวนเครื่องพอ ๆ กันนะ)
อีกเรื่องคือ ต้นทุนต่อหน่วย ก่อนที่ iPhone จะแปลงร่าง มันมีเพียง 1 เดียวมาตลอด ในขณะที่คู่แข่งอย่างซัมเซ็งเลือกที่จะเปิดทีละ 2 มันก็ไม่เท่ากันอยู่ดี จะเทียบกับตัวไหนล่ะ จะเอามารวมกันได้ไหม ในเมื่อซัมเซ็งก็บอกเองว่า S กับ Note เป็นคนละกลุ่มกัน แต่คู่ต่อสู้คือ iPhone เหมือนกัน
ว่าไม่ได้ ตอนนี้ iPhone ก็ได้ดำเนินการเหมือน S/Note เป๊ะ แถมยังมาพร้อมกันไม่มีก่อนหลังอีก ทีนี้จะเทียบกันตรง ๆ ได้หรือยัง หรือยังเทียบไม่ได้ เพราะ + ไม่มีปากกา ?
ไม่มีใครไปบังคับให้ Samsung ออกรุ่นถี่ยิบอย่างที่ทำอยู่นี่ครับ เข้าใจว่าเค้าคงแบ่ง Segment ของลูกค้าเอาไว้ละเอียดเกินก็เลยทำการตลาด/การผลิตไปตามแนวคิดที่ว่า ก็อยู่ที่ฝ่ายบริหารล้วนๆ ถ้าจะกำไรลดเพราะมีสินค้าคงคลังมากเกินไป (เนื่องจากมีรุ่นย่อยมากเกิน ใช้อะไหล่ร่วมกันไม่ค่อยได้) ก็ต้องไปโทษฝ่ายบริหารอีกนั่นแหละ
ผมว่าตอนนี้ Samsung ก็กำลังปวดตับเพราะอยากจะฉีกออกจากคู่แข่งที่เป็น Android ด้วยกัน แต่ยังไปไม่รอดเพราะ Tizen มันไม่เกิด ขั้วที่ 3 อย่าง Windows ก็กำลังค้นหาตัวเองอยู่ เลยต้องอยู่กับ Android ไปแบบหวานอมขมกลืนไปก่อน ตลาดบนมี iPhone ค้ำคออยู่ ตลาดล่างมีแบรนด์จีนกำลังรุกคืบขึ้นมา ที่มีข่าวลือว่าจะหนีไปตลาดกลางผมว่าเค้าคงไม่ได้ตั้งใจทำ แต่กำลังถูกทำให้เหลือแค่นั้นมากกว่า
ถ้าชอบแบบใช้อย่างเดียว ไม่ตชอบปรับแต่งอะไรมาก ก็เลือก iphone
ถ้าชอบปรับแต่ง ความหลากหลาย ก็เลือก android
ไม่ได้ปรับแต่งอะไรก็ใช้ android ได้ครับ ใครเขาบังคับเหรอ
คนรอบข้างผมหลายคนก็ใช้ android แบบไม่ปรับแต่งครับ แต่ผมปรับแต่งให้ลงตัวก็หยุดปรับแต่งเพิ่มแล้ว
คนที่ชอบบอกว่า "คนใช้ iPhone โง่" คนที่พูดส่วนมากจะเป็นคนที่ไม่มีความรู้จริง คนที่มีความรู้จริง geek จริง ที่ใช้แอนดรอยเขาไม่มาถ่มคนอื่นกันหรอกครับ
+1
ตราบใดที่ยังมีคนบางส่วนซื้อ iPhone มาใช้แล้วโพสถาม ปัญหาการใช้งานแบบไม่ "make sense" แม้ว่าบางทีเขาอาจจะแกล้งไม่รู้ก็ตามแต่ มันก็ยังคงลดอคตินี้ได้ยาก
ป.ล.ความเห็นส่วนตัวผม มองว่าประเด็นเหล่านี้มันเกิดจาก การพยายามเหยียดและแบ่งแยกในสังคมมากกว่า(ซึ่งอันนี้ไม่รู้ใครเริ่มก่อนใคร)
เรื่องที่จะรู้หรือไม่รู้จริง
ไม่เชื่อ
ถ้าจากมุมมองของผู้ผลิตนะ
ทำแอนดรอยด์ขายนี่ เหนื่อยเปล่า เหมือนกรรมกรอิเล็กโทรนิกส์ยังนั้นเลย
ผู้บริโภคเฮ... ได้ใช้ของดีราคาถูก กูเกิ้ลรวยขายแอพ ขายแอดได้เพียบ แต่โรงงานเกือบเจ๊ง
ผมเชื่อว่าหลายเจ้าก็คิดแบบนี้นะ แต่ดันของเด่นๆ ตัวเองไม่ออก ไม่บูมเท่าแอปเปิ้ลเท่านั้นเอง
คิดต่างยังคิดไม่ออก เลยทำขายไปก่อน พอประทัง อารมณ์ประมาณนั้น
ในมุมมองผม iPhone มันเปรียบเหมือนเครื่องประดับ เครื่องแสดงฐานะ ของบุคคลได้ในระดับหนึ่ง
และชอบความลื่นหัวแตกกับใช้งานง่ายของ iOS
(ถึงเบื้องหลังจะผ่อน 0% 10 เดือนก็เถอะ)
ที่ไหนล่ะ เค้าผ่อน 0% 20 เดือนต่างหาก //เผ่น
คนแบบนี้มีทั้ง 2 ฝั่งแหละครับ Android ก็มี บางคนก็อยากดูคูล ไม่อยากเหมือนคนอื่น ผมว่าเรื่องมือถือแล้วแต่คนชอบมากกว่า มันไม่มีดีกว่ากันทุกด้านหรอกครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
Android ก็ลื่นหัวแตกได้ครับ
Android ก็ 0% 10 เดือนได้ครับ
ผมก็ผ่านมาเยอะแล้วทั้ง Android ทั้ง iDevices
เล่นจนปรุมาทั้งสองค่าย ทั้งรูททั้งลงคัสตอมรอม ทั้งเจลเบรคลงทวีค
สุดท้ายก็กลับมาใช้ iPhone อยู่ร่ำไป
สิ่งเดียวที่ลูกค้าอย่างผมย้ายจาก iDevices ไปยัง Android ไม่ได้จริงๆสักที
ยิ่งอยู่นานยิ่งฝังลึกคือ iTunes ที่ซื้อเพลงเอาไว้เยอะ แล้ว App Store ที่แอพนั้นคุณภาพมากกว่าจริงๆ
คนแบบผมผมว่ามีเยอะครับ ที่ซื้อเพลงซื้อหนังใน iTunes และ App อีกมหาศาล
ทำให้โดนผูกขาดให้ใช้ iDevices ต่อไป
ผมพึ่งรู้จุดประสงค์ของตัวเองมานานพักนึงละครับ ว่าซื้อมาสักแต่ใช้ แล้วเอาเวลาไปทำอย่างอย่างอื่นในชีวิตดีกว่า
เรื่องที่จะมานั่งแต่ง Theme ลงสารพัด Widget เปลี่ยนไอคอนแบต ไอคอนสัญญาณ ฯลฯ
สำหรับผมมันไม่สำคัญอีกแล้ว เปิดเครื่องมาใช้และใช้อย่างเดียว
ดูจาก Top Chart ของ App จากคนละฝั่งก็ได้ครับ ว่าคุณภาพมันเป็นยังไง
ยอมรับเถอะว่า App ขยะฝั่ง Android เยอะมาก
(นี่ยังไม่นับกองทัพ Baidu และสารพัดแอพเลียนแบบ iOS ก็มีแต่ไม่เยอะจนน่าเกลียดขนาดนั้น)
แล้วเรื่องสื่อบันเทิงของฝั่ง Android (ระบบขายเพลงและหนัง) ผมย้ายไปแล้วจะทำยังไง
จะรองรับลูกค้ากลุ่มนี้ยังไง (Rip ใส่เครื่อง?)
คนใช้ iPhone หรือ iDevices ส่วนใหญ่ไม่ได้โง่หรือมองว่าเป็นเครื่องประดับทุกคนหรอกครับ
คนที่ใช้ทุกอย่างในระบบ Eco System ของ Apple แบบผมก็มีไม่น้อยครับในประเทศไทย และจะมีมากขึ้นอีกครับ
+1
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมใช้งานแบบคุณครับ มองเรื่องคุณค่าของสิ่งที่จะให้เป็นผลผลิตออกมาจากอุปกรณ์ที่ใช้งานมากกว่ามามองว่ามันมาจากเครื่องไหน โอเอสอะไร ขอแค่มันทำได้อย่างที่ผมต้องการ มีแอพมารองรับ และเสถียรไว้ใจได้เมื่อต้องการใช้งาน แค่นั้นก็พอแล้ว ไอ้เรื่องจะต้องมานั่งแคะแกะเกามันเสียเวลาในชีวิตมากเกินไป
ผมเป็นแบบนี้เลยแหะ ใช้มาทั้งสองค่าย(สามด้วย WP) ตั้งแต่สมัยก่อนที่ iPhone มี Custom Rom อ่ะ จนมาสมัย Android ปรับจนปรุ โมจนไม่รู้จะโมยังไง สุดท้าย คืนสู่สามัญ ใช้แต่ Nexus หรือไม่ก็ iPhone ไปเลย ขนาด Nexus ยังใช้แบบเดิม ๆ แล้วเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ปัจจุบันก็ iPhone ถึงแม้ว่ามันจะช้ากว่า Nexus แต่ถ้าใช้แบบ เดิม ๆ แล้ว iPhone มันสะดวกกว่า ครั้นจะไปโม Nexus ก็ขี้เกียจจะทำ
ขอแค่ Device ลื่น ๆ ไม่จุกจิก และ Ecosystem ดี ๆ ก็พอละ จบ หวยเลยมาออกที่ iPhone แต่ก็ยุให้แฟนใช้ Nexus จนสำเร็จ อย่างน้อยก็ได้จับ ๆ คลำ ๆ ได้ 5555
ป.ล. ลงเงินไปกะ App Store ไปเยอะเหมือนกันแหะ - -*
+1 เหมือนกันเลยครับ ที่ถือไอโฟนไม่ได้คำนึงเรื่องมันเป็นเครื่องประดับเลย
ใช้ Android มา 3 รุ่น ไอโฟน+ไอแพดมาอีก 3 เครื่อง
สุดท้ายจบที่ไอโฟนเป็นเครื่องใช้งานหลัก (แต่ปัจจุบันถือ Nexus 4 คู่กันด้วย นานๆ ควักออกจากกระเป๋ากางเกงที)
ที่ใช้ไอโฟนเป็นหลักไม่ใช่อะไร เรื่องคุณภาพแอพล้วนๆ 555+
ผมเห็นด้วยเรื่องไม่ได้โง่ แต่ก็ไม่ได้ฉลาดเป็นพิเศษหรือแตกต่างไปจากคนใช้ Android แต่ที่โดนด่าว่าโง่น่าจะเกิดจากการเอาคืนเพราะสมัยก่อนด่าเค้าไว้เยอะ เดี๋ยวนี้พอคนรู้ความจริงมากขึ้นเค้าเลยเอาคืน มันเป็นวัฏจักรเป็นคนเริ่มก็ต้องโดนกลับคืนครับ
อ่านแล้วจับใจความได้ว่า ไม่ว่ายังไงคุณก็จะสรุปให้ได้ว่าไอ้สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายก็ล้วนเริ่มมาจาก Apple (คนใช้ Apple) สุดท้ายเลยโดนเอาคืน
มันเป็นธรรมชาติที่ติ่ง Android ต้องรู้สึกอย่างนั้นอยู่แล้วนี้ครับ ถ้าผมดันไปคิดว่าทุกอย่างที่ไม่ดีมันเริ่มจาก Android แล้วผมจะเป็นติ่ง Android ได้อย่างไร ผมต้องติ๊งต๊องมากถึงจะคิดอย่างนั้นได้ ยิ่งผมเป็น Anti-Apple ด้วย ย่อมคิดว่าผิดตั้งแต่เป็นติ่ง Apple แล้ว
ผมเชื่อว่าท่านผู้เป็นติ่ง Apple ก็ย่อมโยนสิ่งไม่ดีให้อีกฝ่ายหมด แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครรู้ว่าใครเริ่มก่อนแต่การ เอาคืนกันไปมา มีมานานแล้ว ดังนั้นผมสรุปให้ท่านใหม่ว่าความจริงมันผิดทั้งคู่ แต่ติ่งแต่ละฝ่ายจะไม่ยอมมองความผิดของตัวเองทำให้เกิดการโยนความผิดให้ฝ่ายตรงข้ามฝ่ายเดียว
และผมเชื่ออีกว่าท่านจะบอกว่าไม่ได้เป็นติ่ง Apple แต่เป็น Anti-Anti-Apple ซึ่งมันก็คือติ่ง Apple ที่พิมพ์ยาวขึ้นครับ แนะนำให้ยอมรับในสิ่งที่ตนเป็นจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาคำแก้ตัวครับ
มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะแจ้งให้ทราบครับ ถึงผมจะเป็น Anti-Anti-Apple แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมไม่ได้ชอบ Android เพราะผมก็ยังรู้สึกดีกับ Android อยู่ ซึ่งก็น่าจะเหมือนกับเพื่อนๆ หลายคนของผม ที่ชอบขนาดว่าหา Android G1 มาใช้เลยด้วยซ้ำซึ่งตอนนั้นผมก็ได้แต่มองตาปริบๆ ผมกับเพื่อนเนี่ยเป็นพวกชอบเทคโนโลยีครับแล้วก็ไม่ได้ยึดติดกับฝั่งไหนถ้าอีกฝั่งสามารถตอบสนองการใช้งานก็พร้อมจะย้ายได้ตลอด ชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่บังเอิญผมก็เลือกใช้สิ่งที่ถนัดและสิ่งที่ผมเลือกสิ่งที่เห็นว่าเป็นประโยชน์กับผมอาจจะดูไปขัดหูขัดตาคุณเข้า และนิสัยส่วนตัวที่เจอติ่งคล้ายๆ คุณอีกหลายคนแล้วรู้สึกไม่ขอบในทัศนคติก็แค่นั้นครับ
เรื่องใครโยนให้ใครก่อนตรงนี้ผมคงไม่ไปสืบหาอะไรเพราะขึ้นชื่อว่าสาวกก็มักจะมีอคติมาบังตาอยู่แล้ว และแน่นอนผมไม่เคยโยนไอ้เรื่องความผิดให้ใครนะครับ ถ้าใครมีเหตุผลหักล้างผมก็ยินดีรับฟัง เพราะผมก็มั่นใจว่าผมไม่ได้รู้ไปทุกเรื่อง
คุณรู้ได้ยังไงครับว่าคนใช้ iPhone ทุกคนด่า แล้วคุณต้องเอาคืน?? เท่าที่เห็นๆก็มีแต่สาวกที่บ้าๆแบรด์มาโจมตีกันไปมา หรือคุณจะไปอยู่ในกลุ่มนั้นกับเขาด้วย อย่าเหมารวม อย่าคิดเองเออเองซิครับ
ผมไม่เคยด่าผู้ใช้ iPhone ว่าโง่เลยครับ ผมแค่มาอธิบายว่าทำไมคนอื่นเค้าด่ากัน ท่านก็เหมารวม คิดเองเออเองเอาผมไปอยู่ในกลุ่มคนด่าผู้ใช้ iPhone ว่าเป็นคนโง่ มันก็เหมือนกับท่านว่าที่ผมเหมารวม คิดเองเออเองว่าผู้ใช้ iPhone ทุกคนด่าผู้ใช้ Android มาก่อน ท่านทำได้แต่คนอื่นห้ามทำหรือครับ ซึ่งจริง ๆ มันไม่จำเป็นต้องพูดทุกคน แต่มันเป็นตัวแทนของกลุ่มนั้นที่พอพูดออกมาทั้งกลุ่มก็ต้องรับผิดชอบ การด่ากันไปมามันเป็นเรื่องธรรมชาติ อย่างผมอธิบายเสร็จเดี๋ยวก็ต้องโดนด่ากลับอีก ไม่มีใครเค้าไปดูว่าด่ากันครบทุกคนหรือยัง เช็คชื่อกันครบ เอ้าได้เวลาเอาคืน ผมว่ามันแปลก ๆ นะท่าน
หมายใครด่าคนใช้แอนดรอยด์ล่ะครับ หรือกำลังจะบอกว่าจขกท.นี้ไปด่าไว้เลยโดนคืน
โดยทั่วไปแล้วผมไม่เคยเห็นมีใครไปด่าคนใช้แอนดรอยด์เลย คิดไปเองหรือเปล่า ประมาณมีปมด้อย
ผมพยายามหาที่มาที่ไปให้ท่านจะได้ทำใจกันว่า "ตัวเองก็ไม่ได้ดีเลิศเลอ ด่าคนอื่นเค้าเอาไว้มาก พอโดนเอาคืนแล้วดิ้น" เพื่อให้ท่านเข้าใจและทำใจในธรรมชาติของโลก ทำไมมาด่าผมว่ามีปมด้อยละ ผมเสียใจนะครับ:v
คิดไปเองมากกว่ามั้ง
คนที่มีปมด้อยไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตีความว่าด่ากันได้หมดครับ ที่มาที่ไปของมันก็เป็นแบบนั้นเอง
ตัวอย่างเช่น มีคนบอกว่าเขาเลือกซื้อสมาร์ทโฟนแอปเปิ้ลเพราะมันทำด้วยโลหะจับแล้วดูเนียนมือกว่าพลาสติก
คนที่ปมด้อยก็จะคิดว่าเขาด่ามือถือพลาสติก ทั้งที่เป็นแค่รสนิยมหรือความชื่นชอบที่ต่างกัน
แอปเปิ้ลเองก็มีผลิตสมาร์ทโฟนที่เป็นพลาสติกและก็มีคนซื้อ เพียงแต่ไม่ใช่คนที่ชอบเคสโลหะ
ถ้าผมไม่ติดแอพที่ซื้อมาผมก็คงย้ายไปไอโฟนเหมือนกันมั้ง
เป็นแบบที่ว่าเหมือนกัน สมัยก่อนที่เล่น Symbian, Palm, PocketPC มาจนยุค Android ผมอัพรอมแต่ธีม ปรับนั่นนี่เยอะแยะ จนวันนึงเริ่มรู้สึกว่าชีวิตมันเสียเวลากับเรื่องที่ว่านั่นมากเกินไป แล้วมันไม่ได้เป็นสาระในชีวิตด้วย (แต่ยอมรับว่าสนุกและมันส์ดี)
ตอนนี้ผมต้องการเครื่องที่ไว้ใจได้ ปัญหาน้อยๆ หรือไม่มีเลย ใช้งานลื่นๆ ไม่ต้องคอย reset แก้เครื่องอืดบ่อยๆ เอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่าครับ
+1 มาช่วยยืนยันว่าผมก็เป็นเเบบคุณ
หือ เหมือนกันเลย
คอมเมนท์นี้มัน...ตัวผมอีกคนนึง! ขอบคุณครับ ไม่ต้องเขียนเองเลย
กราบเลยฮะ
ผมก็แบบนี้เหมือนกัน คือใช้จนติดบ่วง Ecosystem ของ Apple ไปแล้ว
ยิ่งใช้ Mac คือมันยิ่งผสานกัน ซึ่งมันทำให้ชีวิตง่ายขึ้น (iCloud, Continunity)
เมื่อก่อนผมก็มาสาย Jailbreak ปรับแต่งนู่นนี่ นั่นจนสุดท้ายเบื่อ
เลิกเจล แล้วก็ใช้มันอย่างเต็มที่ เน้นซื้อแอพมาใช้งาน
ผมก็คุยกับคนใช้สินค้า Apple หลายคนรอบตัว (ซื้อมาใช้จริงๆ ไม่ใช่สินค้าหมวดเครื่องประดับ)
พูดเหมือนกันหมดว่าบางทีก็อยากลอง Android ดูมั่งแต่ติดบ่วง Ecosystem ไปแล้ว
หรือบางคนย้ายไป ก็รู้สึกยุ่งยากวุ่นวาย จนสุดท้ายก็ย้ายกลับมา
ผมก็เลยรู้สึกเฟลหลายๆ ครั้งครับ ที่บางคนไม่เข้าใจว่าผม (หรือคนอื่นๆ) ใช้สินค้า Apple เพราะอะไร
อวดรวย ? โง่ ? โอ้ยยยย สาระพัด บางทีก็พยายามอธิบายให้เข้าใจ แต่ก็นั่นแหละตังใครตังมัน ความคิดใครความคิดมันเนอะ
เอาจริง ๆ ผมเคยมีชุดความคิดแบบเดียวกันกับคนซื้อ BB มาใช้นะ คือบ้าแฟชั่น ตามกระแสดารา และเข้าสังคม
แต่พอหลัง ๆ มา ผมว่า iOS โอเคขึ้นกว่าแต่ก่อนนะ (แต่ยังคงดึงผมไม่ได้เหมือนเดิม เพราะว่าหน้าตา UI มันยังไม่ใช่)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ใช่เลย rep นี้
iPhone ข้ามคำว่าอุปกรณ์ IT ไปแล้ว มันยกระดับเข้าไปในหมวดเครื่องประดับ ที่เน้นคุณค่าทางจิตใจ และเป็นเครื่องบอกสถานะทางสังคมไปแล้ว อะไรก็ตามที่เข้ามาในหมวดนี้ ส่วนใหญ่กำไรเยอะ ส่วนตัวผมมองว่าทิมคุกกำลังพยายามทำให้ Brand Apple มุ่งไปทางเครื่องประดับมากกว่าที่จะมาสู้กับ Android โดยตรง
ส่วน Google ผมว่าไม่ได้สนเรื่อง Margin ต่อเครื่องเท่าไหร่ เนื่องจาก Model ธุรกิจของ Google เน้นเรื่องปริมาณ เพื่อให้กระจายสื่อของตนเองให้มากที่สุด มันก็เลยไปขัดกับ Model ธุรกิจของบริษัท Hardware ทั้งหลาย ที่ก็อยากยกระดับสินค้าของตนให้มี Margin สูงขึ้น ดังนั้นถ้า Apple ไม่สะดุดขาตนเองล้มก็ก่อน ก็น่าจะกินตลาดบนหมด ส่วนตลาดกลาง กับล่างก็เป็น Android ตามที่ Google อยากให้เป็นเพราะได้จำนวนเครื่องมากกว่า
ส่วน Microsoft ส่วนตัวมองว่า เขาน่าจะเข้าสู่ตลาดบริการมากกว่า คือ ไม่เน้นเรื่อง WP แต่เน้นเอาบริการที่ตนเองมีอยู่ ใส่ไปในมือถือทุก OS ให้ได้ แล้ว Microsoft ก็จะมีที่ยืนของตนเอง
สรุป
Apple มุ่งไปที่ธุรกิจเครื่องประดับ
Google เน้นไปที่ธุรกิจโฆษณา
Microsoft เน้นไปที่ธุรกิจให้บริการซอฟต์แวร์ที่ตนเองถนัด
ผุ้ผลิต HW ของ Android ก็แข่งขันกันต่อไปในการขายสินค้าในหมวด IT
ดังนั้นผมว่า Win-Win ทุกฝ่ายอยุ่แล้ว เพียงแต่ผู้ผลิต HW เนี่ยเหนื่อยสุด
ผมว่า Apple ยังมี iTunes อยู่ด้วยนะ วันไหนหมดมุกก็ปล่อย iTunes for Android กินได้อีกยาว
อันนี้คือเรื่องที่โนเกียเคยกลัวรึเปล่าครับ ถ้าใช้แอนดรอยอนาคตจะเป็นเช่นนี้ ฟาดฟันกันรุนแรงมาก
ว่าแต่แอนดรอยนี่โปรแกรมอ่าน blognone กับ pantip มีโปรแกรมอะไรดีเหมือนบนไอโฟนบ้างหรือเปล่าครับ ผมว่าแอนดรอยผมหาโปรแกรมใช้งานดีถูกใจไม่ค่อยเจอเลย
ผมเจอปัญหาว่า เวลาที่ใช้งาน iPad ของน้องชายแล้วไม่เจอแอปที่ถนัดมือเหมือนตอนใช้ Android ล่ะ ^^'a
ลองดูว่า 2 แอปนี้พอจะแก้ขัดได้ไหม :)
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
อยากบอกว่า pantip cafe ยังไม่ดีพอนะสำหรับผม
บริษัทที่ทำกำไรได้น้อยแต่สร้างตัวเลือกให้ผู้บริโภคอย่างผมมากกว่าผมว่าเป็นบริษัทดีนะ แต่บริษัทที่ผมไม่เลือกก็ควรมีนะ เพราะผมไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล คนอื่นย่อมชอบสิ่งที่แตกต่างกันได้ คนบางคนชอบอิสระ บางคนชอบอยู่ในกรอบ (กระจก)
(ไมได้ login user มานาน)ไอ้ตรรกะที่ว่าใช้ iPhone แล้วโง่ เมื่อไหร่จะเลิกคิดกันสักที อ่านแล้วป่วยจิต ตัวผมเองใช้ iPhone อยู่ และก็เคยผ่านการใช้ Android มามากมาย ที่หลายคนบอกว่าใช้ iPhone กันส่วนใหญ่เพราะมันดูเลอค่า ผู้หญิงซื้อมาเพราะแบบนั้น (โดยอ้างจากคนรอบข้าง) คุณรองถามเขาหรือยังครับว่าเขาผ่านการใช้งาน Android มาแล้วหรือยัง ผมเชื่อว่าสาวๆที่คุณว่านางผ่านการใช้ Android หรือได้สัมพัสมาหมดแล้ว ที่นางยังคงใช้ iPhone แน่นอนคุณคิดไม่ผิดหลอกว่านางอยากดูเลอค่า แต่จุดประสงค์หลักๆ ถ้าใช้แล้วมันไม่ดีจริงนางคงไม่ใช้ อย่างคนรอบๆข้างผม ที่ใช้ๆกันยอมรับว่าเรื่องแบรนด์ทำให้ตัดสินใจใช้ แต่ที่สำคัญกว่านั้น และทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันคือ มันง่าย!! มันคุ้นมือ แทบทั้งสิ้น คุณอาจจะบอกว่า Android มีอะไรที่ดีกว่าและมีฟีเจอร์อะไรที่หลากหลายกว่า แต่ต้องยอมรับว่าขยะก็เยอะกว่า อะไรที่มันมากๆ ไปสาวๆหลายคนบอกเลย ใช้ไม่เป็น!! นี้หรือเปล่าคือโจทย์ง่ายๆของการขายของ คนที่คิดว่าสาวๆซื้อเพราะมันคือ iPhone เหมือนคุณกำลังดูถูกความคิดเขา ว่าซื้อเพราะโง่ ซื้อเพราะใช้เงินไม่เป็น ซื้อเพราะ เห็นใครๆก็ใช้ คิดง่ายๆแค่นี้ คน คนหนึ่งไม่ได้เกิดมาแล้วซื้อมือถือเครื่องเดียวครับ เขาคงใช้มาหลายอย่างแล้ว และที่ยังใช้ iPhone อยู่เขาก็ต้องมีเหตุผลของเขา แค่เอาความคิดง่ายๆตัดสินใจจากความรู้สึกของคุณ มันวัดอะไรไม่ได้หลอก ขนาดผมใช้มาทั้ง android และ iOS โมมาทุกอย่าง ทั้งสอง OS ยังกลับมาใช้ iOS พอเริ่มเบื่อหน่ายกับการที่ต้องมานั่งปรับแต่ง ยังคิดว่า iOS นี้แหละวะแม่งง่ายสุดแหละ ใช้ง่ายสะบาย ไม่ต้องยุ่งยาก ไม่ต้องมาปวดหัว ถึงแม้มันจะไม่ดีได้ที่สุด แต่เอากันตรงๆผมมองว่ามันเสถียรที่สุด คือไม่ต้องไปรปับแต่งอะไรมันมาก สาวๆหลายคนที่ลองไปใช้ Android จากคนรอบตัว ล้วนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าใช้ยาก (หรือคุณไม่เคยได้ยิน) คุณจะเถียงว่ามันไม่ยากแค่คุณใช้ไม่เป็นเอง อันนี้ก็ไม่ว่ากัน แต่ผู้ซื้อนะครับ ต้องการอะไรที่ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก และดูเลอค่า เข้าใจนะครับ ไม่ได้โง่
แก้คำผิด
สมัยก่อน Android โดนโจมตีเรื่องความสเถียร ความลื่นไหลการใช้งาน
ก็ต้องยอมรับความจริงว่า iOS มันเริ่มต้นได้ดีจริงๆ
แต่ปัจจุบันคงโจมตี Android ได้แต่เรื่อง Apps
ส่วนใครจะใช้อะไรยังไงก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล ใครจะติดแบรนด์ ใครจะติดEco ฟังตามคนอื่นมา ฯลฯ ก็ไม่แปลก
ก็มันมีจริงๆ คนที่ซื้อเพราะคิดว่ามันหรู มันดี และดีกว่ายี่ห้ออื่น คนที่ซื้อเพราะเชื่อโดยรับสื่อแค่ด้านเดียว
หรือคนที่คิดว่าซื้อเพราะความคุ้มค่าในการใช้งาน แต่จะมากจะน้อยก็แล้วแต่จะคิดละกัน
อย่าง น้องๆที่ออฟฟิศผม 7-8 คน ใช้ iPhone ก็ไม่เห็นว่ามีใครใช้อะไรที่พิเศษกว่า Android
ไม่มีใครซื้อ Apps ซื้อหนัง ซื้อเพลง อัพเดท iOS ทีก็ถามหาแต่เมื่อไหร่จะเจลเบรคได้
ผมยังซื้อเสียเงินซื้อ Apps ใน Play Store เยอะกว่าเลยครับ
ผมก็มองจากคนรอบๆตัวนะ แต่ผมก็คงบอกแค่ว่าใครจะซื้ออะไร ใช้อะไรก็เรื่องของเค้า
ใช้เพราะเป็น iOS ล้วน ๆ เลยครับ มันเป็นตัวที่เป็นต้นแบบของสมาร์ทโฟนยุคมัลติทัชจริง ๆ before after เลย ผมว่ามีหลายคนที่คิดแบบนี้เป็นตัว reference
ผมใช้เพราะ 2สาเหตุสำคัญ
1 คือลงทุนกับ หนังกับเพลงไปหลายหมื่น และที่สำคัญที่ผมกล้าลงทุนเพราะผมเอามาใช้กับ pc ได้ ipad ผมได้ iphoneได้ imacได้ apple tv ได้ ซึ่งคุ้มค่ากว่าการไปลงใน android ซึ่งผมมองว่าไม่คุ้มค่าเลยสักนิด ขนาดผมมี android ถอดเสียง dts ได้ผมยังไม่เคยซื้อหนังสักเรื่องเลย ผมเอามาเป็นตัวผ่าน file อย่างเดียวเลย ผมเลยมองว่า android ไม่เหมาะที่จะลงทุนเลยสักนิด นี้ยังไม่นับรวมappที่ผมซื้อไว้อีกหลายตัวทั้งมีคุณภาพใช้งานได้จริงอีกด้วย
2 คือ streaming
ใช้ z1เป็นเครื่องหลัก แต่เพราะ streaming ของ android ห่วยแบบไม่มีคำบรรยายได้ๆ เวลาเร่งด้วยจะใช้ดูนี้แทบโยนทิ้งต้องพก ipad อีดกเรื่องไว้เพื่อการนี้เฉพาะซึ่งลำบากมากตอนนี้เลยจะถอย iphone มาใช้แล้วเอาz1เป็นที่ทับกระดาษแหละ ผมบอกคำเดียวว่าคุณภาพappนี้ห่างใกล้จากคำว่าใช้งานได้จริงเป็น10เท่ายังไม่นับรวมapp เกี่ยวกับ finance กี่มากมายที่android ใช้จริงไม่ได้เลย มีแค่คำว่ามีapp เหมือนกันแต่เวลาใช้งานต่างกันหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยคับ
ผมว่าคนใช้ ios ไม่ได้โง่ทุกคนหรอกคับ ผมแหละเพื่อนๆหลายคน ใช้ ios ทำงานหาเงินซึ่งandroid ทำเรื่อพวกนี้ได้เล็กน้อยถึงไม่ได้เลย
เอาเลยครับ สาวกเขาเยอะขายดีอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้จะหาอะไรมารีดเงินคนซื้ออีกล่ะครับ หลายๆอย่างที่เคยดูถูกไว้ก็กลืนเสลดกินเองทำเองหมด
ต่อไปคงใส่ปากกามาเพื่อความว้าว
ติ่งซัมซุงเดือด
ถ้าจะเฉพาะปากกาลองดู Wacom Bamboo stylus fineline ครับ http://www.wacom.com/en/th/everyday/bamboo-stylus-fineline เคยซื้อมาใช้แล้วให้ความรู้สึกเหมือนเขียนบน Note มาก เหมือนมากจนสุดท้ายต้องหนีไปใช้ Pen Tablet ตามเดิมเพราะมันวาดแล้วความรู้สึกไม่ได้เรื่องทั้งคู่ =*=)
ถ้าใส่มาผมจะดีใจมากๆครับ (เป็นคนชอบวาดรูป)
เชื่อไหมว่า Streaming for iPhone ทำให้คนไทยหลายคนยังต้องใช้ iPhone อิอิ
ยังไงแอ๊ปเปิลก็ไม่ได้กำไรค่าเครื่องจากผมโดยตรงแน่นอนครับ ยี่ห้ออื่นก็เกือบไม่ได้ เพราะผมซื้อตอนลดเกือบ 50% เสียส่วนใหญ่ ยกเว้น Oneplusone ยอม แต่กำไรก็คงไม่เท่าไหร่
ยังมีคนคิดว่า Android นี่สำหรับ geek อีกรึ
คนใช้ แอนดรอยด์ มี geek แน่นอน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นนั้น
พวกแอดมินดูแลระบบเน็ตเวิร์คจะชอบใช้แอนดรอยด์ รุ่นที่ รูตรอม ได้
เอามาลงแอพพวก สนิฟเฟอร์ ไว้ตรวจตราแพ็กเก็จในเครือข่าย
geek ตัวจริงเค้ามีทั้ง 2 OS นั่นแหละ (เผลอๆมีวินโดวโฟนด้วยนะ 555+)
ผมใช้ทั้ง 3 OS แต่ขาย Windows Phone ไปแล้วเพราะมันไม่ดีพอ
ส่วน iOS โดนใจคนเล่นเกมมากสุดครับ เกมดีเพียบ
แต่ Android ยังโดนใจ Geek มากสุดอยู่ดีครับ เพราะปรับแต่งได้เยอะมากกว่าค่ายอื่นอยู่ดี
คือจะบอกว่าตาสีตาสาตอนนี้ก็ android กันทั้งนั้น มันไม่ได้ใช้ยากแบบที่ต้อง geek ถึงจะใช้ได้เหมือนที่เมื่อก่อนว่ากัน
ต้องดูว่าเอามาใช้ทำอะไร แล้วทำแค่ไหน ถ้าซื้อ app ยังต้องให้ลูกมากดซื้อให้ มันก็ยังยากอยู่
เถียงกันทำไมมมม ไม่เอาน้า
ตั้งแต่ใช้ mac ก็ตัดใจจาก ios ไม่ได้แฮ่ะๆ แต่ถ้าวันใดที่ระบบอื่นดีกว่าก็ไประบบนั้น
แต่ตอนนี้ผมโอเคกับ iphone มาก และจากทั้งบ้านใช้ iPhone หมดไม่ค่อยมีไคบ่อยถึงแอพเด้งและปัญหาอื่นๆเลย
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
แปลกใจในยุโรป แอนดรอยด์มีส่วนแบ่งเฉลี่ยเกิน 80% เขานิยมใช้ยี่ห้ออะไรกัน หรือว่าเป็นแอนดรอยด์ยี่ห้อแปลกๆที่ไม่รู้จัก