ในงานแถลงข่าว Apple Watch เมื่อคืนนี้ มีภาพที่ทิม คุก นำมาเสนอเกือบตลอดงานอยู่ภาพหนึ่ง ผมค่อนข้างติดใจภาพนี้มาก วันนี้มีเวลาเลยลองหาในหน้า Live ของแอปเปิล กลับไม่มีภาพนี้อยู่ สุดท้ายเลยต้องเปิดวิดีโอย้อนดูอีกครั้งเพื่อแคปหน้าจอเก็บไว้
ภาพนี้ภาพเดียวเป็นเหมือน "แผนการ" บอกเราว่าแอปเปิลกำลังจะทำอะไรบ้างในอนาคต
เข้าใจถูกแล้วครับ ภาพนี้คือแผนผังสินค้าของแอปเปิลที่นำมาจัดเรียงกัน ไล่จากจอเล็กไปเป็นจอใหญ่ (อาจขาดไปบางชิ้น เช่น Apple TV) และทิม คุกเองก็หยิบจับแต่ละส่วนมาเล่าให้เราฟังว่าความคืบหน้าของแต่ละส่วนเป็นอย่างไรบ้าง ผลิตภัณฑ์แต่ละอย่างใน "จักรวาลของแอปเปิล" มีอะไรใหม่และอัพเดต
นอกจากภาพข้างต้นที่แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลมีทุกขนาดหน้าจอ แยกย่อยจับตลาดชีวิตติดจอของมนุษย์ยุคใหม่ได้เกือบครบวัน ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา เราเห็นทิศทางชัดเจนว่าแอปเปิลพยายามเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์แต่ละตัวเข้าด้วยกัน ผ่านบริการอย่าง iCloud, Apple ID, iTunes/App Store รวมไปถึงการเชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์แต่ละตัวโดยตรงผ่าน AirDrop หรือ Continuity
ในแง่ผู้ใช้งานคงเป็นเรื่องดี ถ้าหากอยู่ในจักรวาลของแอปเปิลเต็มรูปแบบ มีผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลทุกตัว และทุกตัวสามารถประสานงานระหว่างกันได้แบบ seamless
แต่ในโลกความเป็นจริงมันมีอะไรซับซ้อนกว่านั้น
ถ้าย้อนกลับไปดูภาพข้างต้นอีกรอบ สังเกตดีๆ อาจรู้สึกว่าภาพนี้คุ้นๆ ใช่ไหมครับ?
เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หรือประมาณ 4 เดือนก่อนหน้านี้ เราเห็นแผนผังลักษณะคล้ายๆ กัน (ผมขอเรียกเล่นๆ ว่า "แผนผังล้มทิม") จากอีกองค์กรหนึ่ง
หมายเหตุ: ภาพข้างต้นยังไม่มี Microsoft Band ที่เปิดตัวในภายหลัง
วิสัยทัศน์ของไมโครซอฟท์ก็ไม่ต่างอะไรกับแอปเปิล (เผลอๆ จะยิ่งใหญ่กว่าด้วยซ้ำ) ความฝันของไมโครซอฟท์คืออุปกรณ์ทุกประเภทตั้งแต่ IoT ไร้จอ ไปจนถึง Surface Hub จอแขวนผนังขนาด 84 นิ้ว จะต้องรัน Windows 10 ทั้งหมด ใช้แพลตฟอร์มการพัฒนาแอพแบบเดียวกัน มีระบบจัดจำหน่ายแอพตัวเดียวกัน
เมื่อพูดถึงไมโครซอฟท์แล้ว จะไม่พูดถึงกูเกิลก็คงไม่ได้ ถ้าเข้าหน้าแรกของ Android.com เราจะเจอภาพนี้แบบเดียวกัน (อันนี้แถมรถด้วย)
สรุปง่ายๆ ว่าทุกคนคิดเหมือนกัน บริษัทไอทีรายใหญ่ทั้งสามราย (ที่ผมเคยนิยามไว้ว่าเป็น "สามก๊กไอที") มีแผนคล้ายคลึงกันคือต้องการสร้างอาณาจักรเบ็ดเสร็จของตัวเอง อาณาจักรที่ตัวเองควบคุมได้ทุกอย่าง (และสร้างมูลค่าจากมันได้มหาศาล) ที่ซึ่งประชาชนในอาณาจักรนั้นจะอยู่อาศัยกันอย่างมีความสุข
ปัญหาของวิธีคิดแบบสร้างอาณาจักรลักษณะนี้ คือประชาชนจะมีความสุขก็ต่อเมื่อ "เลือกข้าง" เข้าสังกัดกับอาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่งเท่านั้น
ประชาชนที่รวนเร หลายใจ รักหมดทุกคนเลย เริ่มจะมีที่ยืนน้อยลงเรื่อยๆ เพราะเจ้าอาณาจักรทั้งสามต่างก็พยายามบีบให้คนกลุ่มนี้ต้องตัดสินใจ "เลือกข้าง" ด้วยวิธีการต่างๆ นานา ถ้ายังฝืนคิดจะเหยียบเรือสองแคม (หรือสามแคม) ชีวิตก็จะอยู่ยากขึ้นทุกวัน
เราต้องการอย่างนี้กันจริงๆ หรือ?
ภาพ thumbnail จาก Wikipedia
Comments
ชอบครับๆ
+1
เป็นศึกสามก๊กที่ไม่มีผู้ชนะที่แท้จริงครับ
I am waiting for Mozilla. They are going to save everything. Or maybe Canonical, but I like Mozilla more.
ส่วนตัวคนใช้ Win8.1 และ OSX และ Android tablet ไปพร้อมๆ กัน แต่ส่วนมากมันก็เลือกได้ระดับนึงนะครับ Office ก็ลงได้เกือบทุกอัน (เมื่อไรแอพในแอนดรอยด์มันจะเข้าไทย ._.) แชร์ไฟล์ผ่าน GDrive/Dropbox/OneDrive ก็ลงไคลเอนท์ได้ทุกอันที่ใช้ เบราเซอร์ Chrome มันก็ซิงค์กันได้หมด พวก Adobe/Autodesk นี่รันได้หมดสบายอยู่แล้ว นอกจากเกม กับพวก XCode/Visual Studio อ่ะนะ
ส่วนตัวผมโอเคกับสถานการณ์ปัจจุบันระดับนึงนะ (ที่ยังอยากได้คือแอพทวิตเตอร์ที่ซิงค์สถานะการอ่านทวิตใหม่ข้ามเครื่องได้) แต่ก็กลัวต่อๆ ไปเหมือนกัน แต่ผมว่าบริษัทใหญ่ๆ ไม่บังคับขนาดนั้นหรอกมั้งครับ ยังไงก็ต้องง้อนักพัฒนาซึ่งมักจะเป็นพวกมัลติแพลตฟอร์มสักด้วยสิ
ชีวิตประจำวันผม ก็ขาดก๊กใดก๊กหนึ่งไปไม่ได้เหมือนกันครับ (ถ้าให้ผมเลือกตัดออกก๊กแรก ผมตัดก๊กผลไม้ครับ)
ใจผมไปทาง Linux ครับ ( แม้กายจะยังต้องอยู่กับทั้ง 3 ก๊กนี้ก็ตาม) ^^
คอมเต็มบ้าน เมียมองแล้วมองอีก (เมียผมไม่สนใจไอทีเลยแม้แต่นิดเดียว - เนทมีไว้ อ่านเมล์ เฟสบุ๊ค และชอปปิ้ง)
คนไอทีไม่น่ามีปัญหานะ เพราะใช้ทุกค่ายพร้อมกันอยู่แล้วและก็จัดการได้ ส่วนคนทั่วไปเค้าก็ไม่ซีเรียสกัน(มั้ง)
Apple เลือกที่จะหันข้างให้ผู้ใช้
Microsoft และ Google เลือกที่จะหันหน้าเข้าหาผู้ใช้
แต่อย่างน้อย ถ้าอยู่บน "จักรวาลของ Microsoft" ก็ยังสามารถขยับขยายไปจักรวาลข้างๆ ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ผมรู้สึกเช่นนั้น
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
หันข้าง หมายถึง "แถ" เหรอครับ? ระวังถลอกนะครับ สีข้างน่ะ...
พอดีดูรูปแล้วประโยคมันเด้งขึ้นมาเลยครับ ยังไม่ทันได้นึกไปไกลขนาดนั้น
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เพิ่งเก็ตย่อหน้าแรก หลังจากที่เลื่อนขึ้นไปดูรูปอีกครั้งหนึ่ง
อืม หันข้างจริงๆ... กะจะโชว์ความบางสินะ ว่าแต่ Will it bend?
มุมมองนี้ชอบๆ ผมเองก็มอง(ผลไม้)และเล่น(หุ่น)ผ่านหน้าต่างอยู่เป็นหลัก (เคยเป็น fanboy หุ่นแต่หลังๆ ก็ลดศรัทธาและเริ่มมองทุกค่าย..เอาเป็นว่าผมพร้อมจะแปรพรรค)
กวาดสายตาจากขวามาซ้าย ผมมองเห็นเหมือนภาพสโลว์ ไอแมคเป็นคนหมดแรงจะเดิน นั่งคุกเข่า ถัดมาก็ทิ้งตัวลงเป็น Orrz ตรงแมคบุ๊คโปรเป็น z ตรงไอแพดไอโฟนเป็น rr และสุดท้ายแอปเปิลวอชเป็น O
ก้มกราบสินะ
กว่าจะเก็ต O.o
ผมคิดไปไกลละ พึ่งนึกได้ 5555
ล้ำลึกมากกกก
Windows&Android
แบบนี้บอกเป็นนัยๆว่าจะประกาศสงคราม "รวมเป็นหนึ่ง" ของแต่ละก๊กใช่ไหมครับ
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
Windows 10
เห็นรูปแล้วนึกว่าแอปเปิ้ลกำลังทำเครือข่ายมือถือหรือเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตนะครับเนี่ย ผมคงมโนไปเองแหละครับ
ผมว่าดรอยกับโดไม่เชิงเป็นคู่ปรับกันสะทีเดียว แต่ทั้งคู่นั้นเป็นคู่ปรับกับแอปแน่นอน
windows mobile,rt,phone - Android - ios
windows pc - chrome os - mac os
product อยู่บน section เดียวกัน จะไม่แข่งกันใด้อย่างไร ?
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ไม่เอาก๊กแรกพอละครับ
ออกมาแต่ละอย่าง ทำร้ายเงินในกระเป๋ามาก
ขงเบ้ง ก็เปรียบเสมือน สตีฟ จ็อบ เพราะตอนนั้นการบริหารคือรวมศูนย์ ทุกอย่างต้องผ่านจ็อบหมด พอจ็อบสิ้นไป ลูกน้องสามารถรักษาได้เหมือนเดิมหรือดีกว่าได้มั้ยในอนาคต พอขงเบ้งสิ้นไป ลูกก็บริหารจัดการก๊กไม่ดี ถึงกาลล่มสลาย
เปรียบ jobs เป็น โจโฉ ก็ได้นะ
ทิม คุก เป็นสุมาอี้ รอรวมแผ่นดิน (แต่ไม่น่าเป็นไปได้)
ถ้าเทียบจาก Business Model แล้วรู้สึกว่า Google มีความได้เปรียบมากๆที่สุด และเชื่อว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะกลายเป็นบริษัทเบอร์ 1 ของโลก
Google ค่อยๆขยายบริการต่างๆไปครอบคลุมชีวิตประจำของผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละวันเราใช้ยริการของ Google ไปกี่อย่าง(ไม่อยากจะนับเลย) โดยที่คู่แข่งไม่มีทางเอาชนะหรือสู้ได้เลย เพราะแพ้ทั้งเรื่องต้นทุนและผลตอบแทน เนื่องจาก Google พลักภาระต้นทุกไปที่ค่าโฆษณาได้แต่บริษัทอื่นทำไม่ได้
ถ้ามองกันจริงๆ Apple Google Microsoft ไม่ได้ชนกันตรงๆแค่เพียงมาคาบเกี่ยวกันเฉยๆ เพราะฉะนั้นทั้ง 3 บริษัทจะเติบโต แต่ Google จะเติบโตมากที่สุด
Google น่ากลัวสุดครับ ตามที่คุณคิดนั่นแหล่ะเขาโตเรื่อยๆ โมเดลธุรกิจเขาเน้นฐานแน่นค่อยๆโต
จริงหรอครับวันผมใช้อย่างมากก็ Google search อะครับ YouTube เล็กน้อย
นั่นแหละครับท่าน
1 อย่างที่คุณใช้ 100 ล้านคนที่ใช้เหมือนคุณ ลองนึกค่า Ads ดูสิครับ ผมว่า Google นี่แหละ มั่นคงทางต้นทุนเอามากๆ น่ากลัวครับ หมายถึง บริาัทคู่แข่งนะที่ต้องกลัว
เสียดาย Google+ ชิง social network มาจาก Facebook ไม่สำเร็จ
ถ้าทำได้นี่ครอบงำกว่านี้อีกเยอะครับ
ผมขอเหยียบสามแคมต่อไป... ทุกค่ายมันดีกันคนละอย่างเลย
Windows = เล่นเกม แต่ใช้พลังงานสิ้นเปลือง (การออกแบบผลิตภัณฑ์ เริ่มดีขึ้น (ผมสังเกตจาก hp))
Apple = ประสิทธิภาพ/การใช้พลังงาน ดี การออกแบบสวย Ecosystem ดีและพร้อมใช้งานในประเทศไทยมากที่สุดในกลุ่ม แต่ราคาแพงไปหน่อย
Google = ราคาถูก ตัวผลิตภัณฑ์จะเอาไปใช้กับค่ายอื่น ค่ายไหนก็ได้ (ผมเอาไว้ top-up มากกว่านะ)
ดังนั้นก็เหยียบสามแคมต่อไป...
แคมที่สามนี่ท่านใช้อะไรเหยียบครับ #แซว
มันยาวขนาดนั้นเลยเหรอครับ #รู้สึกทึ่ง
ผมเองก็สังเกตเห็นตรงจุดนี้มานานแต่ไม่มีโอกาสได้พูดเสียที ล่าสุดผมก็สื่อใน node ของ S6 ว่า Samsung ไม่มีค่าอะไรเลย เพราะ ไม่มีบริการสำหรับสร้าง Ecosystem เหล่านี้ ซึ่งภาพเหล่านี้มันก็ฟ้องอย่างนั้นจริงๆ
จริงๆคือ Samsung พยายามทำ แต่จุดไม่ติดนี่แหละครับ
ปัญหานี้ไม่ใช่เพาะ Samsung แต่ผู้ผลิต Android รายอื่นๆก็เจอ คือผูกตัวเองเข้ากับ Google Service มากเกินไป ด้วยความที่ Google มีหมด ก็ใช้ของที่ Google มีนั่นแหละ
มี Xiaomi ที่แหวกออกมาได้ชัดหน่อย มี Ecosystem ของตัวเองที่ชัดเจนและครบถ้วนและประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง
ผมมองว่า Samsung ก็พยายามทำครับ แต่เป็นพวก printer / แอร์ / เครื่องซักผ้า ผูกกับ android app
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ในโลก IT ก็ใช่ครับ แต่ในโลกกว้างแล้ว Samsung ก็เป็นเต้ยในเรื่องธุรกิจอยู่ครับ มีเกี่ยวอยู่ทุกวงการ
อย่างในนิคมฯ มาบตาพุด นี่samsungเยอะนะครับ แต่เป็นengineering ดูการออกแบบและรับเหมาสร้างโรงกลั่น
เทียบ3เจ้านี้ แอปเปิ้ลดูจะโตยากสุด แต่ก็ตายยากสุด กลุ่มลูกค้าชัดเจน เหมือนเมืองที่มีทหารเข้มแข็ง
ไมโครซอฟนี่ครองฝั่งpc + office แถมมีเกมช่วยอีก เหมือนมีเมืองหลวงที่แข็งแกร่ง ใครก็ตีไม่แตก และคอยส่งทหารไปตอดเมืองอื่นเรื่อยๆ
Googleนี่เหมือนเจ้าเมืองวาทะศิลป์ดี ตัวเองไม่มีหัวเมืองใหญ่ แต่เลือกเมืองที่ทำเลดี สร้างพันธมิตรได้ไว ตัวเองมีหน้าที่ปั้มเสบียง ส่งให้พันธมิตร บุกไม่ชนะตัวเองก็ไม่เสียทหาร
เกมยังอยู่กับ MS อีกไม่นานหรอกครับ มันมีแนวโน้มไปทางคลาวด์มากขึ้นเรื่อย ๆ อีกหน่อยเกมส่วนใหญ่คงเล่นได้กับทุกแพลตฟอร์มแหละครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมว่ายากครับ ลองดูเกมใหมญ่ๆสิครับ กินสเปกกันทั้งนั้น
ผมกลัวว่าจะเล่นได้ แต่ไม่เต็ม 100% นี่สิครับ
ปัญหาเรื่อง Driver โดยเฉพาะฝั่ง Linux นี่เป็นเรื่องใหญ่หลวงเลย
ส่วน OSX ไม่น่ามีปัญหามากเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ส่วนแบ่งตลาดเยอะพอ
แนะนำว่าลองไปถามลอร์ดเกบเจ้าพ่อ Steam ดูสิครับ
แล้วคุณจะรู้ว่าโพรงกระต่ายนั้นลึกแค่ไหน?
เปรียบเทียบได้ดี ชอบๆ
Apple มีกวนอู 10 คน ไม่เยอะแต่เก่ง(มีตัง) Brand Loyalty สูง
M$ ครองเมืองหลวง ทรัพยากรณ์เยอะ ทั้งตลาดองค์กรณ์และ x86 + Windows ที่ยังไงก็ไม่ตายง่ายๆ
Google นีพวกเยอะจริง ดึงแบรนด์อื่นมาทำ Android ตัวเองชักใยเบื้องหลัง
อ่านเม้นนี้แล้วเอาไปเทียบกับ 3 ก๊กได้เลย
Apple = ง่อก๊ก อยู่ในที่ที่ของตัวเอง พยายามทำให้ปชช.ของตนพอใจที่สุด
MS = วุยก๊ก มีอำนาจจากยุคก่อน พยายามตีเมืองอื่นเรื่อยๆ
Google = จ๊กก๊ก ไม่มีหัวเมืองใหญ่ เร่ร่อนไปเรื่อยๆ พยายามสร้างพันธมิตรโดยใช้วาทะศิลป์
อย่าลืมว่า MS นี่มีโทรจันด้วยนะครับ
ผมนี่ฮาลั่นเลย
ผมคนนึงล่ะครับที่ไม่ต้องการ แม้ว่าปัจจุบันผมจะสิงอยู่ก๊กเดียวเลยก็เถอะนะ
อย่างน้อยๆ ตอนนี้ก็เหมือนว่าไมโครซอฟท์จะพยายามแฝงไปทุกก๊กอยู่บ้างล่ะนะครับ ไม่รู้จะอีกนานแค่ไหน (MS Band ใช้ได้ทุก OS หลัก, ออกแอพทุกค่ายหลัก ฯลฯ)
+1 ไม่ว่าจะด้วยภาวะจำยอมหรืออะไรก็แล้วแต่
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เป็นเรื่องเดียวที่ผมชอบ แต่ก็แอบกลัวไมโครซอฟท์ในเวลาเดียวกัน คือมันเป็นแผนการระยะยาวที่ต้องการจะผูกติดผู้ใช้ให้อยู่กับบริการของตัวเอง ซึ่งหากไมโครซอฟท์พลิกกลับมาครองความเป็นเจ้าตลาดได้อีกครั้ง ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าจะยกเลิกการกระจายไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ ตรงนี้แล้วหันกลับมาผูกขาดไว้กับแพลตฟอร์มตัวเองแบบที่เจ้าอื่นๆ ทำ
ตอนนี้บางเรื่องก็เลยเหยียบสองแคมอยู่เหมือนกัน
เหตุผลที่ผมยังคงจำเป็นต้องใช้ window มีแค่ cad กับ office แค่นี้จริงๆ
ผิดกับผมแฮะ เมื่อก่อนก็ใช้แมค แต่ตอนนี้รู้สึกมันทำไรที่อยากทำลำบาก มันมีความยากในความง่ายของมันสำหรับผมนะ ตอนนี้เลยใช้วินโดวส์สบายใจสุด
ผมใช้สามอย่างต่อไปครับ เพราะมันมีสะพานเชื่อมกันอยู่แล้วบ้างส่วน ทำให้ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
แต่สามารถนำมาใช้งานได้ทุกอย่าง แต่อาณาจักรของผมคงอยู่กับ แอปเปิล 555
ตราบเท่าที่ MS ยังไม่ทำให้ Bing ใช้ได้ดีเหมือน Google ในไทยก็ยังคงใช้ Google Search ต่อไป
Microsoft : Desktop PC, Laptop, Lumia (เครื่องรอง), Surface(ในอนาคต)
Apple : iPhone (เครื่องหลัก), iPad, iTunes
Google : Search, Mail
โดยสรุป ถ้าให้เลือก 1.MS 2.Apple 3.Google แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นก็หนีไม่พ้นอยู่ดีที่จะต้องใช้ทั้งสามอัน
ก้าวแรกที่สำคัญของการปลดแอกตัวเองจากบริการของ Google คือ กลับมาใช้ Internet Explorer (ความรู้สึกไม่ค่อยต่างกับตอนที่ใช้ Chrome เท่าไหร่)
เรื่อง Search ผมเคยได้ยินว่าของ Bing ในแง่ต่างชาติหรือฝรั่งนี่การค้นหาเฉพาะในส่วนของข้อมูลภาษาอังกฤษนี่ดีกว่า Google อันนี้จริงหรือเปล่า แต่ Google เก่งในแง่ภาษาอื่นๆ ในโลก คือตัวผมรับว่าไม่ถนัดภาษาอังกฤษเคยของใช้ภาษาไทยหาใน Bing มันก็ได้ข้อมูลระดับหนึ่งนะ พวกเรื่องทั่วไปคำค้นหาธรรมดาเป๊ะๆ ก็พอใช้ได้อยู่ แต่ก็น้อยกว่า Google ที่ไม่รู้ไปขุดอะไรมาหา
Bing เก่งกว่า Google แต่แค่บ้านเกิดของตัวเอง ได้ยินข่าวว่า Bing กำลังซุ่มพัฒนา Search อยู่ อยากให้ใส่ Cortana ใน Bing ด้วยจะดีมากๆเลย
เคยใช้บ้างผ่าน Bing Search ใน WP
ภาษาอังกฤษได้ผลลัพธ์น่าพอใจครับ แต่ไม่เคย compare จริงจังกับ Google
แล้วสุมาอี้ตอนนี้ฝังตัวอยู่ก๊กไหน
Pebble?
ยังไม่โผล่ ยังอยู่ในยุค โจโฉ ขงเบ้ง กวนอู
ซุนกวนป่าวครับ
ความคิดผมตอนนี้
Google + Xiaomi = ลูกเมียหลวง
Apple, Microsoft = ลูกเมียน้อยคนที่ 1 กับ 2
แต่ถ้าจะให้ตัดขาดก็คงไม่ได้ (เท่ากับอดใช้แอพกับเกมที่ไม่มีในอีกเครื่องสิ)
เห็นแล้วนึกถึงวิสัยทัศน์ Ubiquitous Value Network ของ Sony เมื่อช่วงปี 2000 จิงๆ
ภาค 2 นี้ไม่มี Sony ซินะ
Sony วิสัยทัศน์ผ่าน มองอะไรออกตลอดนะ
แต่ปฏิบัติจริงไม่ค่อยเวิร์คตลอด ออกของมาก็ดี แต่เหมือนไม่สุด เหมือนไม่ Mass พอ
บางทีอยากทำ Mass แต่คนชอบคิดว่า Sony มันต้องเฉพาะกลุ่ม ก็ไม่กล้าลองอีก
พอยี่ห้ออื่นทำบ้างเหมือนกันเลย ขายดิบ ขายดี
+1 Smart Watch ของ Sony ทำออกมาขายก่อนชาวบ้านเป็นปีไม่มีใครใช้
แต่พอ Apple กับ Google ประกาศข่าวเท่านั้นแหละ คนแห่กันมาทำเพียบ
เจ้าที่ทำตามขายดิบขายดีกันเป็นแถว แต่ Sony ก็ขายไม่ออกเหมือนเดิม
จริงเรย Smartband talk น่าใช้สุดๆ
ทำมาตั้งแต่สมัย Bluetooth Watch ของ Sony Ericsson ยังจุดยังไงก็ไม่ติดเลย
ผมว่าSony
1.ลูกค้าเค้าฝังใจตั้งแต่ที่บังคับให้คนมาใช้สกุลไฟล์เสียงของเค้าแทน.mp3 แล้วหล่ะครับ
2.บวกกับเวลาออกสินค้ามาแต่ละอย่างก็แพงกว่าคนอื่น แต่ไม่เคยโฆษณาเลยว่าทำไมถึงแพง
ผมว่าถ้าSonyมีนิสัยแบบAppleขึ้นมา(หวงนวัตกรรม/ไล่ฟ้องดะ) ทั้งสามก๊กมีสิทธิ์ล้ม เพราะนวัตกรรมที่สำคัญๆมีอยู่เยอะมากเหมือนกัน หมุนจอเอย เลนส์กล้องอีก พวกแผ่นต่างๆBD/DVD และพวกตลาดเครื่องเสียงและการแสดงผลภาพอีก และอื่นๆอีกมากมายก่ายกอง ซึ่งผมว่าเราพึ่งมันมากกว่าบริการของGoogleอีก
แต่Sony "เค้าถือว่าใครทำสินค้าออกมาดีกว่าของSony Sonyก็มีหน้าที่ทำสินค้าให้ดีกว่าสินค้านั้นๆเท่านั้น" ผมว่ามันคือแนวทางแห่งการพัฒนานวัตกรรมโดยแท้เลยครับ และไม่แปลกใจเลยที่เค้าจะมีนวัตกรรมอยู่มากมาย
แต่จากใจผมเลยน่ะ "Sonyมึงฟ้องคนอื่นเพื่อความอยู่รอดของบริษัทมึงบ้างก็ได้น่ะ"
มีกำแพงเล็กๆที่ชื่อ "อารยธรรม Sony" คั่นอยู่ครับ
แต่กำแพงเล็กๆนี่คนส่วนใหญ่กลัวที่จะข้ามเข้าไปใช้เลยแหละ
Google + Apple ครับ
ต่างฝ่ายต่างมีของดี เลยหยิบแต่ละส่วนมาใช้
สบายใจ
สำหรับผม ส่วนตัวแล้วตัด Microsoft ทิ้งได้เลยครับ ไม่นับที่ทำงานนะ
คอมย้ายมา OSX มีความสุขดี ส่วนมือถือนี่คง Android แหละ ไม่ได้ปลื้มอะไรใน iOS เลย ยกเว้นจากอยากได้กล้องซึ่งช่วงหลัง Android ดีๆ ก็มีให้เห็นบ้างแล้ว
May the Force Close be with you. || @nuttyi
Microsoft เป็นหลัก Google มาเบอร์สอง แต่ขาด Search Engine ไม่ค่อยได้เพราะ Bing ภาษาไทยยังห่วยแตกมาก
ส่วน Apple นี่ผมไม่ค่อยได้ใช้อะไรเลย ผลิตภัณฑ์ของ Apple อันสุดท้ายที่ใช้ก็ iPod nano 2GB เจนแรกเมื่อเกือบๆสิบปีที่แล้ว แต่ก็ยังตามอยู่เรื่อยๆครับ เพราะผมมองว่า ecosystem ของ Apple ก็น่าสนใจ แต่ของแต่ละอย่างออกมานี่ราคากะฆ่ากันชัดๆ
ผมนี่เมื่อก่อนก็ด่า Microsoft นะครับตอนใช้ Windows 7 ว่ามันห่วย OS Crash บ่อย รันโปรแกรมนู่นนี่นั่นก็ Crash
จนกระทั่งได้ลงของแท้ทั้งเครื่องของบริษัท เพราะโครงการ Bizspark ค้นพบว่าเครื่องเดิมเนี่ยแหละ จอฟ้านี่แทบจะลืมไปเลยว่ามีมันด้วย ปีนึงจะมีสักหนสองหน
ผิดกับเมื่อก่อน วันนึงนี่ต้องมีหนสองหน
ส่วน iMac ของพี่ชายที่ใช้งานอยู่ก็ไม่เคยเจอจอฟ้าเหมือนกันครับ Restart ตัวเองดื้อ ๆ นั่นแหละ กำลังทำงานอยู่ดี ๆ (ของแท้ทั้งเครื่องด้วย) แต่ก็ไม่บ่อย ปีละหนสองหน
เป็นไปได้ยากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลยมากกว่า Apple โอเคอาจจะมีบ้างบางคนที่ใช้ทุกผลิตภัณฑ์ แต่ Apple ไม่มีทางครองโลกแน่นอน เพราะอุปนิสัยกลุ่มผู้ใช้ประเภทอยากปรับแต่งอุปกรณ์ได้มาก ๆ ไม่หมดไปจากโลกนี้แน่
แต่อย่าง OS Desktop Windows แล้วจะใช้ Windows Phone ด้วย หรือใช้ Chrome OS กับ Android ทุกวันนี้มันทำงานได้ไม่ครอบคลุม มันไม่ง่ายที่จะให้คนไปเปลี่ยนใช้ OS อื่นกัน
ผมว่าเขาก็แค่โชว์ว่าผลิตภัณฑ์ของเขามีอะไรบ้างในภาพเดียวแค่นั้นแหละ ซึ่งแน่นอนเป็นบริษัทใหญ่ ๆ ทั้ง 3 แห่งก็ต้องทำผลิตภัณฑ์หลากหลายกันมาอยู่แล้ว ตามเทรนโลกอะนะ
บริษัทที่คิดจะครองโลกและเคยทำสำเร็จมาแล้วคือ microsoft แต่พอเทรนด์เปลี่ยนมาทางอุปกรณ์ mobile มันเลยเหมือนตาชั่งอีกไปอีกข้างทันที ตอนนี้ microsoft ยังแข็งแกร่งจากฐานลูกค้าองค์กรอยู่แต่ในอนาคตเมื่อทุกอย่างขึ้นไปอยู่บน Cloud ผมว่าเกมเปลี่ยนแน่ๆ
ส่วนบริษัทที่มีโอกาสครองโลกมากที่สุดน่าจะเป็น google นี่แหละ เพราะผู้คนส่วนมากติดกับบริการของเค้าไปแล้ว อย่างน้อยก็ต้องใช้ google search กันเกือบทุกวัน บางคนใช้หมด ทั้ง search, maps, mail, youtube ฯลฯ และใช้ทุกวันด้วย (ผมก็ด้วย)
ส่วนตัวผมชอบระบบปิดแบบของ Apple ที่สุดเพราะใช้สินค้า Apple มาหลายอย่างแล้ว มันเชื่อมต่อกันได้ดีมาก ยิ่งมี continuity ยิ่งดีใหญ่เลย มันไม่ใช่ระบบที่เหมาะกับทุกคน แต่ผมว่าคนส่วนใหญ่ที่มีโอกาสได้ใช้ก็จะอยากใช้ต่อไปเรื่อยๆ นะเพราะมันสะดวกดีจริงๆ ส่วนคนที่ชอบปรับแต่งระบบเองน่าจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายนะครับ
อีกเหตุผลที่ผมคิดว่า Apple ก็ครองโลกไม่ได้อยู่แล้ว คือ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีกำลังซื้อสินค้า Apple ได้แทบทุกอย่างนะครับ 555
เอาจริง ๆ นะครับ ไม่มีวันที่องค์กรจะนำทุกอย่างขึ้นไปอยู่บน Cloud
ข้อมูลเงินเดือนอยู่บน Cloud ผมว่าอันตราย
1. ข้อมูลต้องวิ่งผ่านตัวกลางกว่าจะมาถึงบริษัท
2. ข้อมูลเก็บไว้ในที่ไหนก็ไม่รู้
3. ถ้าเกิดตัวกลางมีปัญหา จ่ายเงินไม่ได้ จะเหนื่อยแน่ ๆ
สำหรับบริษัทที่เงินหนักยอมใช้ On-Premise อยู่ดีล่ะครับ อย่างดีก็แค่ Cloud ในองค์กร
หรือกรณี Patent ผมว่าไม่น่าจะมีบ.ไหนฝากไว้บน Cloud แล้วเข้าถึงง่าย ๆ นะครับ
ในแง่ของ Consumer เนี่ยของแค่มันถูก แล้วฟีเจอร์เยอะ ๆ ความปลอดภัยไม่มีใครสนหรอกครับ
แต่ Microsoft ทำกลับกันเน้นปลอดภัยซะเหลือเกิน แต่ฟีเจอร์ไม่ค่อยจะมีเลย
Windows Phone มีระบบล็อกอิน 2 ชั้นแล้วในขณะที่ OTG ยังไม่โผล่เลย (เซ็ง)
Surface Pro ก็มาพร้อมกับ BitLocker ซึ่งผู้ใช้บ้าน ๆ ไม่ได้สนใจอยู่ละ มันแทบไม่มีมูลค่าสำหรับ Consumer เลย แต่บ.ใหญ่ ๆ ต้องการ
แต่ cloud นี่ผลตอบรับจากบริษัทไม่ค่อยดีครับ โปรแกรมเงินเดือน โปรแกรมบัญชี ไม่ค่อยมีใครไว้ใจ ทุกวันนี้หลาย ๆ บริษัทก็ใช้อยู่ในเครื่องที่ไม่ได้ต่อเน็ตเลยด้วยซ้ำครับ (ไม่เคยอัพเดตวินโดว์เลยด้วย)
เสริมครับ
Cloud นี่เป็นข้อกังขาใหญ่ของระบบ ERP ในปัจจุบันเลยแหละครับ
อย่าง SAP ที่กำลังพยายามขาย Cloud solution ก็โดน concern จากลูกค้ากลับมาเยอะว่าข้อมูลทั้งหลายแหล่ที่เป็นของสำคัญของบริษัท (เช่นข้อมูล HR อย่าง Employee data, Payroll & Compensation ซึ่งเป็น Top Confidential ของบริษัท) พอขึ้นไปอยู่บน Cloud แล้วจะมั่นใจในความปลอดภัยได้ขนาดไหน
ใช่ครับ เสี่ยงหลายต่อมาก อย่างแรกเลย Data ไปอยู่ในมือใครก็ไม่รู้ มันเป็น Unknown ทำให้เค้าไม่มั่นใจ
ต่อมาตอนที่ดึงข้อมูลมาใช้ ก็เจอปัญหา Man-in-the-middle อีกเราก็การันตีได้แค่ระดับนึง
แล้วเรื่องข้อมูลสูญหาย อันนี้เค้าก็กลัวพอบอกว่า Backup ไว้ให้ ก็กลัว Backup รั่วอีก (มี Copy เดียวก็กลัวจะแย่แล้วนี่ หลาย Copy)
จะให้ Copy มาเก็บไว้ในบริษัทเอง ก็มีค่า Bandwidth อีก พร้อมกับคำถามว่า แล้วพี่จะซื้อ Cloud ทำไมในเมื่อก็ต้องมี Server ในบริษัทอยู่ดี
คือเป็นไปได้ยากครับที่จะอยู่บน Cloud ทุกอย่าง หลายบริษัทยอมตั้งเครื่องแยกต่างหาก ไม่มีต่อเน็ตไม่มีต่อสายเชื่อมไปอะไรทั้งนั้นเลยมีแค่สาย คีย์บอร์ด เม้าส์ กับปริ้นเตอร์ไว้พิมพ์ payslip เท่านั้น
ทำไม ผมชอบ ก๊ก apple
แต่ผมขาด ก๊กใดก๊กหนึ่งไปได้
ทุกวันนี้ใช้ iphone, windows, google search engine อยู่ตลอด
ผมว่ามันดีคนละอย่าง
แล้วแต่คนเราจะเลือกใช้
แต่ผมว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเลือกสักอันไปเลย
สำหรับผมแล้ว ขาด Apple ไปไม่ได้รู้สึกเสียหายเลยแม้แต่นิดเดียวเลยครับ
แต่ขาด Google กับ Microsoft นี่เหงื่อคงไหลเป็นน้ำตกเลย
ผมใช้ Android สำหรับโทรศัพท์เพราะมันเหมาะสมกับการใช้งานธรรมดาบ้านๆในราคาที่เหมาะสม
ผมใช้ Windows สำหรับคอมพิวเตอร์การทำงานต่างๆเพราะทุกที่ต่างก็ใช้รวมถึงเล่นเกมต่างๆนานา
ผมใช้ Ubuntu สำหรับความยืดหยุ่นการใช้งานและเหตุผลเรื่องกระเป๋าสตางค์
ไม่มี Apple Device ซึ่งอาจจะเป็นเพราะหน้าที่ที่ต้องทำอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องมี
แต่ถึงมี ผมก็ไม่รู้สึกว่าจะต้องเปลี่ยนการทำงานของตัวเองเพราะว่าตอนนี้มันลงตัวมากที่สุดแล้ว
ถ้าให้ต้องเลือกซื้อ set นึงมาใช้
ขอเลือก ข้อสองละกันครับ เพราะเล่นเกมออนไลน์ DOTA FIFA
เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของมนุษยชาติเป็นหนทางรอดที่ดีที่สุด เหมือนที่ internet กำลังทำอยู่ ไม่ว่าก๊กไหน ถ้าไม่ทำอย่างนี้สักวันต้องล่มสลายแน่นอน (best solution for successful business model)
ใช้ทั้ง ๓ ค่ายเลยแฮะ ก็ชอบหมดนะ
Apple - macbook air , ipad mini2
MS - windows 8.1 (ใช้ผ่าน bootcamp) , office 365 จะไม่ใช้วินโดวส์เลยก็ไม่ได้ เพราะคอมที่บริษัทเป็นวินโดวส์หมด โปรแกรมเมอร์เค้าก็ใช้มันพัฒนาแอปต่างๆ บางอย่างยังต้องใช้ IE8 เปิดเลย
Google - android ,youtube,gmail,map etc. (ใช้มือถือซัมซุง)
แถม Sony - ตระกูล Playstation แม้จะไม่ได้ใช้มือถือ ทีวี วอร์คแมน แต่ยังอยากเห็นโซนี่อยู่นะ เป็นติ่งมาตั้งแต่ PS1
สงสัยผมจะเหยียบเรือ 6 แคม
ผมใช้ Pebble + Fitbit + iPhone + Windows 8.1 + LG G Pad (Android) + Online service ของทั้ง 3 ค่าย + Ubuntu (ที่เอาไว้รัน dynamips/dynagen) และยังไม่นับ Surface RT ที่ตอนนี้แทบจะไม่ได้ใช้เลย
MS ระยะยาวยังดูลำบากอยู่เลย(ฝั่งอุปกรณ์เคลื่อนที่ end user) gg ก็ยังไม่เห็นตั้งโต๊ะสำเร็จชัดเจนมีชัดเจนคือโฆษณา apple ก็ยังเพิ่มความสะดวกให้ OSX ยังไม่ดีพอจะย้ายจากวินโดวส์และอุปกรณ์ยังกินตลาดได้ไม่มากพอจะเกิด network effect ที่แข็งแกร่งพอ ถึงข้อมูล+การประมวลผลจะย้ายไปบนเมฆก็ยังต้องใช้หน้าจอแสดงผลดังนั้นต้องแข่งกันเรื่องระบบนิเวศผ่านทาง ux ใครจะมัดใจได้มากกว่าบางทีลูกค้าบ้าน ๆ ก็เป็นผู้กำหนดชะตาผลิตภัณฑ์ (จากอดีตที่่วินโดวส์ก็ไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุดแต่ก็มีคนใช้งานมากที่สุดจนผูกขาดอยู่นาน)
Apple นี่เหมือนพยายามให้เลือกข้างมานานละ ออกผลิตภัณฑ์มาเน้นให้ใช้กับ eco ของตัวเองสะดวกเท่านั้น และสุดโต่งกว่าคนอื่นด้วย เช่น iTunes ไม่ปล่อยให้คนอื่นใช้ อย่าง Google Music ยังใช้ได้หลาย OS
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
สำหรับผมเลือกไว้แล้วในใจแต่ต้องพึงพาอีก 2 ก๊กอยู่บ้าง...
ขาด Apple หรือ Microsoft ไปผมก็ไม่ตายครับ ทุกวันนี้ก็แทบไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับ 2 เจ้านี้แล้ว แต่ถ้าขาด Google ผมตายแน่ ๆ
เรียนจบมาก็เพราะ GSearch นี่ล่ะ
mail ก็ใช้ Gmail
Socail network หลัก ๆ ก็ Youtube (ผมใช้เวลาต่อวันไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงบน Youtube)
เก็บข้อมูลก็ GDrive
ทำงานก็ ChromeBook + GDocs
จด Note ใช้ GKeep
นำทาง GMaps
มือถือ Android เท่านั้น
Browser ก็ Oper... เอ๊ย Chrome
TV ก็ AndroidBox
แฟนในอนาคตก็วิศวกรของ Goo... เอ๊ย ไม่ใช่ พอ ๆ จบ ๆๆ
พอได้นะครับ แต่ขอเป็น Kingdom of Google นะ :D
พอจะบทวิเคราะห์ความต่างของ Apple กับ อารยะธรรม Sony ใน 10 ปีก่อนหรือเปล่าครับ? ว่าเหมือนหรือต่างกันยังไง? ทำไม Apple ถึงประสบความสำเร็จ แต่ Sony กับเจ๊ง (หรือแค่ยังไม่ถึงเวลาของ Apple)
แบบสั้นๆ คือวิธีคิดของ Sony มาจากอุปกรณ์แบบเก่าที่มัน stand-alone น่ะครับ พอมาเป็นยุคที่มันเป็น network แล้ว Sony เก่งแต่ฮาร์ดแวร์อย่างเดียวเลยไปไม่ค่อยจะถูกเลย
ตัวอย่างง่ายๆ คือวิสัยทัศน์ Xperia Play เจ๊งไม่เป็นท่านั่นล่ะครับ ทั้งที่มีของเยอะมาก ข้างในคงไม่ประสานงานกันดีเท่าไร
จริงครับ ผมเสียดาย Xperia Play มาก บอดี้สวย ออกแบบมาได้ดีแล้ว (ถ้าไม่นับปุ่มจริงชุบโครเมี่ยมที่ลอกง่ายมาก) ดันมาตายตรง Hardware ที่กั๊กสเปกเกินไป คิดได้ไงให้แรม 512 กับพื้นที่เก็บข้อมูลแค่ 400MB แถม Software ก็ไม่มีความเสถียรเอาซะเลย แต่อีกด้านก็อาจจะเป็นเพราะ android 2.x มันก่งก๊งเองด้วย ที่แย่ที่สุดคือชูจุดขายที่เกม แต่ไม่มีเกมดีๆ ลงเลย นอกจากทำตัวเป็น ps1 emulator กับใช้เล่นเกม android (ที่ไม่ได้เน้นปุ่มกดอยู่แล้ว)
ถ้ามี Xperia Play2 ผมก็ซื้อนะ ขอให้ออกแบบสวยๆ อัดสเปกให้มันสมราคาหน่อย
เพื่อนผมมันบอกว่าราคานี้ทำไมไม่ซื้อ PSP มาเล่นไปเลย ผมก็เออจริงว่ะ
PSP มันโทรไม่ได้ไง
ตอนแรกผมก็เถียงไปแบบนี้แหละมันตอบกลับมาว่า "ก็เอามือถือมัดไว้กับ PSP ดิ" ผมนี่เงิบเลย
จะใช้ของก๊กไหนเงินและข้อมูลต่างๆก็เข้า USA
ไม่ว่าใครแพ้ใครชนะ USA ชนะ
เพิ่มเติมนะครับ ภาพนี้ปรากฏครั้งแรกในงาน October Event 2014 ของ Apple (เปิดตัว iMac 5k กับ iPad Air 2) ซึ่งมาหลังงาน Microsoft สองสัปดาห์ ไม่ใช่เพิ่งมาใช้
โฮ นี่เจอสาวกตัวจริง
ก๊กไหนซื้อใจคนทั้งโลกได้มากที่สุดก็เป็นฝ่ายชนะไป ตอนนี้กำลังห่ำหั่นอย่างหนักเลย
ชอบทุกอัน แต่ apple สู้มากไม่ไหว แพงจริง
ตอนแรกนีกว่าข่าวแปล ที่แท้คุณ MK จัดเอง
เพื่อ?
มันคือบทความชุดในโครงการสามก๊กไอทีครับ
ลองตามอ่านดิครับ สนุกดีนะ เรื่องจริง อิงประวัติศาสตร์
มันคือ 101 Blognone เลยละ
พึ่งอ่านครั้งแรกหรือครับ ?
MS เปรียบเสมือน ก๊กของ ซุนกวน ที่มีพื้นที่มาก คนมาก ทรัพยากรณ์ดี แต่การรบไม่ค่อยเป็น
Apple เปรียบเสมือน ก๊กของ โจโฉ มีอำนาจมาก รบคล่องแคล่ว ผู้นำเด็ดขาด
google เปรียบเสมือน ก๊กของ เล่าปี่ มีความทะเยอทะยาน เปิดโอกาสให้คนมีความสามารถมาเข้าด้วย เน้นเป็นมิตร
ขงเบ้งอยู่ก๊กไหน ผมก็จะอยู่ก๊กนั้น
ทั้งสามก๊กนี่เป็นฝรั่งหมดเลย ผมว่าขงเบ้งคงอยู่กับ Mi หรือไม่ก็ Huawei มากกว่า #โดนถีบ
ยังมีตลาดจีนอยู่นะครับ
อย่าลืม Baidu
ห๊ะ
ไอ้นี่มันโรคระบาด
โผล่มาให้ต่อสู้แบบไม่รู้ตัวอยู่เรื่อย กลายพันธุ์ไปเรื่อยๆเพื่อจู่โจมทั้งสามกลุ่ม
ถ้ามองว่า trend ต่อไปจาก smart phone คือ IoT โดยเราจะค่อยๆ เห็นอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อ internet ได้ค่อยๆ โผล่ขึนมา นาฬิกา, รถยนต์ และที่เห็นชัดที่สุดคืออุปกรณ์ไฟฟ้าของ Samsung
ผมมองว่าถ้าอนาคตไปทางนี้ Android ดูท่าจะไปได้ต่อ ส่วน Microsoft กับ Apple คงต้องพยายามเยอะหน่อย
อนาคตของ IoT ลูกค้าอาจจะอยู่พวกตลาดองค์กรก็ได้ พวกนี้ขายทีขายได้เยอะเลย
+1
หลายคนคงไม่เลือกข้าง เพราะบางคนใช้ iPad เช็คจีเมลล์และตารางนัดหมายใน Google Calenda และใช้บริการ Office365 พิมพ์สเปรดชีท และเปิดเพลงฟังจาก iTunes Radio สรุปว่าใช้ สินค้าและบริการจากทั้ง 3 ก๊ก ใครเป็นผู้นำในการกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรม และเมื่อกำหนดไว้แล้วสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงหรือไม่ นำเสนอให้กับผู้บริโภค ผู้บริโภคตอบรับหรือไม่ เร็วเกินไปหรือช้าเกินไป บริษัทที่เน้นขายซอฟแวร์อย่างเดียวแบบไมโครซอฟท์ เมื่อถึงยุคที่อุตสาหกรรมและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง จะมาขายของแบบเดิมอีกไม่ได้ เพราะซอฟแวร์ที่ดีต้องการฮาร์ดแวร์ที่ดี จึงเป็นโอกาสของ Apple ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการควบคู่กันไป และพยายามพัฒนาในหลายๆด้านเพื่อให้ สร้างความแตกต่างในอุตสาหกรรมให้ได้ ไม่ใช่นั้น SmartPhone คงไม่มีตลาดกว้างใหญ่แบบทุกวันนี้ แต่เรื่องบริการโดยเฉพาะ Search Engine คงหนีไม่พ้น Google ซึ่งมีความโดดเด่นและแข็งแกร่ง แต่ระยะยาว ผู้บริโภคต้องการอะไร IoT ที่เข้าถึงง่ายในทุกอุปกรณ์ และฉลาด งานนี้ Google และ Apple น่าจะได้เปรียบ เพราะตลาด SmartPhone โดนผูกขาดไปแล้วจาก Android และ iOS และไมโครซอฟท์ จะแทรกลำบาก หลายคนคงจะได้ใช้ Window 10 และบริการ Cloud จากไมโครซอฟท์ แต่ Window Phone 10 นี่คงมีจำนวนน้อย ยกเว้นว่า ไมโครซอฟท์ จะแทรกตลาดได้ในอนาคต
ผมมี iMac(ชอบจอใหญ่ภาพสวย) เปิดทุกวันแต่ไม่ได้ทำอะไรเลย(เปิดเฉยๆแล้วก็ปิด 555)
มี Macbook(ชอบแบตภาพสวย/ตลอดปีที่ผ่าน เปิด 5 ครั้งได้มั่ง)
HP(Win8.1) ทำงาน ใช้ทุกวัน ทั้งวัน เล่นเกมส์ เล่นเน็ต
มี Nexus5(ใช้หลักติดตัว)
Note8(ใช้อ่านหนังสือ) ใช้รอง ติดกระเป๋า
สรุป ชีวิตคงฝากอยู่กะ Google และ ทำงานกะ MS
ขอไม่เลือกได้มั้ยคะ ไม่ค่อยชอบถูกผูกมัด ขอเลือกใช้แต่สิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุดหรือจำเป็นต้องใช้ดีกว่าค่ะ ไม่ค่อยอินกับวัฒนธรรมแฟนบอย แฟนเกิลในโลก IT เท่าไหร่ แต่ถ้าต่อไปโดนบีบให้เลือกจริงๆ ก็คงเลือกข้าง Google กับ Microsoft อยู่ดี นอกจาก iTunes แล้ว ฝั่ง Apple ไม่ค่อยมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันซักเท่าไหร่
+1
+1 ความคิดดีคับ
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้เป็นแบบนี้หมือนกันครับ ตอนนี้หลายอย่างของผมผูกเข้ากับ Google มันก็รู้สึกสะดวกดีนะ แต่ว่าก็อดกังวลไม่ได้เหมือนกัน ถ้าหากวันหนึ่งเกิดอะไรขึ้นกับ Google หรือตัว Google เองมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข นโยบาย
Google : Android (Nexus 4, 7LTE, M8 GPE .... etc), chromecast, Play Music, GMail, Drive, Maps ..... ฯลฯ
MS : ThinkPad (Win7) ใช้ทำงาน + Media Server เปนหลัก, ThinkCentre (Win7) ใช้เป็น Home Server
Apple : ใช้แค่ iTunes ซื้อเพลง
ถ้าต้องเลือกก็คง Google + MS ละกันครับ
Apple เค้าคัดประชาชนของเค้านะครับ เงินไม่ถึงหมดสิทธิ์เข้าร่วม
Google เน้นเอาประชากรเยอะๆไว้ก่อน เพราะประชากรถือว่าเป็นสินค้า ฮาๆ
Microsoft เอาหมดทั้งประชากร ทั้งเงิน
Pebble Technology นี่นับเป็นก๊กได้ด้วยเหรอ ดูแล้วน่าจะเป็นกลุ่มชนประมานเสเหลียง (ม้าเทง) ป่ะครับ
ผมยังรอ itunes สำหรับ Android อยู่นะ สงสัยจะแห้วละ
เออแฮะ มีค่าย apple นี่แหละไม่ค่อยแคร์ค่ายอื่นเลย ของ Google กับ MS ยังทำแอปทำบริการให้ค่ายอื่นๆ ใช้ได้
--
เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าจะอยู่ก๊กกูเกิล อะไรที่ต้องใช้และถ้ากูเกิลมี ก็จะใช้ของกูเกิล เพราะรู้สึกสะดวกดีไม่ต้องวุ่นวายหลายบัญชี
แต่พอใช้ Windows Phone ทำให้ผมตะหนักถึงการพึ่งพาบริการเจ้าเดียวมากเกินไป โดยเฉพาะเจ้าที่มี OS เป็นของตัวเองและพยายามทำให้ผู้ใช้อาศัยอยู่ในเฉพาะ ecosys ของตัวเอง(น้ำตาจะไหล หมดสโตร์มีแอพกูเกิลอยู่แอพเดียว)
เมื่อตะหนักได้ดังนี้ ผมจึงค่อยๆ ถอยห่าง แล้ว...เพิ่มการใช้งานให้หลากหลายเจ้ามากขึ้น โดยเฉพาะจากก๊กที่ไม่ได้ทำ OS ด้วย ทุกวันนี้เลยรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย หากกูเกิลหรือเจ้าอื่นบางเจ้าที่ผมใช้บริการอยู่จะปิดบริการทุกอย่างในวันนี้พรุ่งนี้ก็คงไม่ทำให้ผมเดือดร้อนซักเท่าไหร่(ยกเว้นบริการค้นหา) อีกอย่างเวลามีข่าวโดนแฮกหรือโดนดังฟังก็ไม่ต้องกังวลมากด้วยว่าข้อมูลทุกอย่างที่มีจะไปหมดทั้งยวง ภาษาการเงินเขาเรียก "การกระจายความเสี่ยง" ละมั้ง
เสริมนิด : ผมเคยเกือบติด Google Drive พร้อม Google Doc ละ แต่มันไม่มีแอพบน WP ตอนนี้เลยพยายามลดละเลิกแล้วหันมาใช้ MS Office online แทนอยู่ ซึ่งที่จริงแล้วก็ไม่อยากใช้หรอก แต่ไม่รู้จะไปใช้เจ้าไหน
+1 เห็นเอาทั้งหมดไปฝากไว้กับบริษัทใดก็แปลกแล้ว บริษัทตั้งขึ้นเพื่อแสวงหากำไรตอบแทนผู้ถือหุ้นลูกค้าเป็นเพียงทางผ่านที่ต้องการจริง ๆ คือกำไร
ผมลองมองดูเอาจริงๆน่ะ
ทั้งสามก๊กเนี่ยถ้าจะล้มจริงๆมันคงมีสิ่งที่ดีกว่าขึ้นมาชดเชยจนเราใช้เป็นหลักแล้วหละครับ เราๆเนี่ยคงไม่เดือดร้อนกันหรอก
ส่วนเรื่องจะให้เราเลือกก๊ก ผมว่าก๊กไหนที่คิดแบบนี้เตรียมตัวตาย เช่น
ถ้าวันไหนที่Windowsบังคับให้ค้นหาได้แค่จากBing วันนั้นWindowsจะไม่ใช่OSที่แพร่หลายที่สุดในโลก
ถ้าวันไหนที่Google ไม่ให้อุปกรณ์จากค่ายอื่นSearch จากGoogle วันนั้น Google Search ก็คงร่วงจากแชมป์
ถ้าวันไหนที่Appleไม่ให้อุปกรณ์อื่นลงiTuneได้ iPhoneก็มีสิทธิ์ร่วงจากแชมป์สมาร์ทโฟน
ถ้าเราลองไม่มองว่ามันเป็นการแย่งลูกค้ากันหละ เหมือน The Star รอบสามคนสุดท้าย ลองสังเกตดูพิธีกรเค้าจะไม่โน้มน้าวให้สาวก1ให้ไปเลือก2หรือ3 แต่เค้าจะบอกว่าชอบใครก็โหวตเยอะๆ สรุปงานนี้นักร้องWinทั้งสามคน แต่คนที่Winสุดคือค่ายมือถือ
แล้วสงครามก๊กนี้ คุณว่าใครคือค่ายมือถือ?
ถ้าขาดอันไหนแล้ว ลงแดงตาย ผมตัด Apple ออกก่อน ง่ายดายเลย
ขาด windowsไม่ได้ การงาน โปรแกรมทำงานได้ครบสมบูรณ์ ทุกอย่างเป็นแบบเปิด
ขาด google ไม่ได้ ข้อมูลที่ซิงค์ทุกอย่าง google youtube map จำเป็นต่อชีวิต
Apple มีแค่ ความดูดี ใช้งานง่าย เพราะถูกบังคับให้อยู่ในecosystemเขา แต่ลึกๆไม่ได้เรื่อง
เอิ่ม...ทุกวันนี้ผมและหลายๆ ท่านทำงานบนแมคเพื่อหาเลี้ยงชีพได้นี่คือเรียกว่าไม่ได้เรื่องคงไม่ได้ล่ะมั้งครับ