Tags:
Node Thumbnail

Bloomberg Business รายงานว่าสัดส่วนลูกค้าใหม่ของฐานข้อมูล Oracle Database เริ่มลดลง ถึงแม้ว่าฐานลูกค้าเก่าจะเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เป็นสัญญาณว่าฐานข้อมูล Oracle Database เริ่มถูกชิงส่วนแบ่งตลาดโดยฐานข้อมูลโอเพนซอร์สที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า

Bloomberg ลองสำรวจข้อมูลจากสตาร์ตอัพหน้าใหม่ที่มีมูลค่าบริษัทเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ จำนวน 20 ราย (ในจำนวนนี้มี Cloudflare และ Pinterest) พบว่าบริษัทเกือบทั้งหมดใช้ฐานข้อมูลโอเพนซอร์ส มีหนึ่งรายที่ใช้ Microsoft SQL Server และไม่มีรายไหนใช้ Oracle Database เลย

ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลโอเพนซอร์สที่ได้รับความนิยมคือ MySQL และ Cassandra ส่วนเหตุผลก็เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่าอย่างชัดเจน ตัวเลขที่ Bloomberg นำมาเทียบคือโครงการที่จ่ายค่าไลเซนส์ให้ออราเคิล 500,000 ดอลลาร์ อาจเหลือเพียง 90,000 ดอลลาร์สำหรับค่าซัพพอร์ต Cassandra ที่มีบริษัทอย่าง DataStax ให้บริการ

ถึงแม้ออราเคิลเป็นเจ้าของ MySQL และมีบริการซัพพอร์ตแบบเสียค่าใช้จ่าย แต่บริษัทไอทีรายใหญ่อย่างกูเกิลหรือเฟซบุ๊ก ก็เลือกที่จะดูแล MySQL กันเอง หรือไม่ก็หันไปใช้โครงการข้างเคียงอย่าง WebScaleSQL ซึ่งเป็น MySQL เวอร์ชันปรับแต่งให้รันงานขนาดใหญ่ได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าออราเคิลจะเริ่มสะดุดในธุรกิจฐานข้อมูล แต่ซอฟต์แวร์ธุรกิจอื่นๆ ของออราเคิลยังไปได้ดี ตัวอย่างบริษัทชื่อดังอย่าง Uber เลือกใช้ฐานข้อมูล MySQL แต่ก็ยังเลือกใช้ซอฟต์แวร์ในชุด Oracle E-Business Suite อยู่

ที่มา - Bloomberg Business

No Description

Get latest news from Blognone

Comments

By: sukjai
iPhoneAndroidRed HatUbuntu
on 15 June 2015 - 06:27 #820037

ก็แพงจริงๆ ถ้าผมพัฒนาขายก็เลือกตระกูล mysql,mariadb หรือ postgresql ครับ

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 15 June 2015 - 07:12 #820038

PayPal เองก็ย้ายข้อมูลบางส่วนมาไว้ที่ NoSQL ครับ

ถ้าพี่แกยังขายของแบบยืนพื้นที่(หลาย)ล้านบาทต่อ Instance ใครเขาอยากจะซื้อล่ะครับ?

By: LazarusSP1
ContributoriPhone
on 15 June 2015 - 09:10 #820053

ราคา เพลาๆ หน่อย ก็น่าจะเป็นที่น่าสนใจของกลุ่ม Start Up ได้นะครับ

By: toooooooon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 15 June 2015 - 09:12 #820054

ราคาคือเหตุผลหลัก...

By: neonicus
Android
on 15 June 2015 - 10:08 #820069

เคยทำงานที่มีฐานเป็นOracleเป็นหลักมา
แต่สถานการณ์เริ่มลำบาก ลูกค้าใหม่ๆไม่เอาOracle
ผมก็เลยต้องเปลี่ยนงานด้วยเพราะที่เดิมทำOracleเป็นอย่างเดียว

By: gobman
iPhoneAndroidSymbianUbuntu
on 15 June 2015 - 10:20 #820073

ข่าวออกมาแบบนี้ ผมกลัวใจออราเคิลเกี่ยวกับอนาคตของ MySQL เหลือเกิน

By: chettaphong
iPhoneWindows PhoneAndroidRed Hat
on 15 June 2015 - 10:26 #820074

ใช่ครับ ถ้างานทั่ว ๆ ไปไม่ใช่งานที่อยู่ระดับ หัวใจ เอามาเขียน Application เอง จะเลือกตัวไหนก็ได้ ที่ทีมสามารถเรียนรู้แล้วมีความชำนาญ เช่น Paypal, Google, Yahoo และอีกมากมายที่เป็นบริษัท IT ขนาดใหญ่ และมีทีมที่เก่ง การเลือก open source database สักตัวมาใช้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ครับ
แต่สำหรับ บริษัททั่วไปที่ไม่ใช่ IT การเลือก database ที่มีความเสถียร และทีม support ที่แข็งแกร่ง ที่ไม่ใช่ IT ของตัวเอง ยังมีความจำเป็นอยู่ดีครับ (เพราะถ้าทีมไม่อยู่แล้วใครจะดูแล ?) ผมว่ามันไม่แปลกที่การเติบโตจะลดลง เพราะ ทุกคนมี database ใช้กันแล้ว ที่เหลือก็คือทำอย่างไรจะกินตลาดคู่แข่งมากกว่า

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 15 June 2015 - 10:57 #820079 Reply to:820074
Ford AntiTrust's picture

ถ้าแบบนั้น ผมเลือก SQL Server ดีกว่า ถ้าพูดถึง support ที่แข็งแกร่ง

By: chettaphong
iPhoneWindows PhoneAndroidRed Hat
on 15 June 2015 - 11:13 #820081 Reply to:820079

Scale SQL Server ยังไม่เท่า Oracle ครับ งานฐานข้อมูลใหญ่ ๆ ยังสู้ Oracle ไม่ได้ครับ

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 15 June 2015 - 12:25 #820096 Reply to:820081
Ford AntiTrust's picture

ผมพูดถึงเรื่อง support นะ

งานฐานข้อมูลใหญ่ๆ ที่ว่า ผมก็ไม่รู้ scale ว่าใหญ่ขนาดไหน (ในความคิดเห็นไม่ได้บอก) แน่นอนว่าผมไม่ได้พูดถึงเรื่องขนาดฐานข้อมูล หรือจำนวน transaction นะ เพราะส่วนตัวก็มีอยู่ รู้ว่าอะไรใช้ขนาดไหน แต่ที่สัมผัสผลงาน support แล้วต้องบอกว่ามีปัญหาจริงๆ นั่งแก้ไขปัญหากันเอง

By: waroonh
Windows
on 15 June 2015 - 11:18 #820083 Reply to:820079

Ms sql วันละ 20 ล้าน transaction
พอสู้ oracle ได้มั้ยครับ

By: chettaphong
iPhoneWindows PhoneAndroidRed Hat
on 15 June 2015 - 11:51 #820088 Reply to:820083

Oracle ได้มากกว่านั้นเยอะครับ

ส่วนตัวผมมองว่า Database อะไรก็ได้ครับ แต่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับงาน และ งบประมาณครับ
องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถหยุดได้หรือต้องหยุดระบบให้น้อยที่สุด database ที่เหมาะสมก็คงไม่พ้นพวก scale ใหญ่ ๆ Oracle DB2 ส่วนระบบรองอาจะเป็น MS SQL ก็ได้ไม่ผิดครับ
การใช้ Open source จะมีปัญหาเรื่องการดูแลระยะยาว และความเสถียรของระบบเมื่อนำไปใช้กับระบบที่ Scale ใหญ่มาก ๆ ครับ เช่น สถาบันการเงิน โรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ อันนี้ Opensource database ก็จะไม่เหมาะที่เอามาใช้กับงานที่เป็น core business

By: waroonh
Windows
on 15 June 2015 - 12:00 #820091 Reply to:820088

ครับ ...
ลองนึกดีๆ นะครับ
20 ล้าน transaction
ทำ cluster 3 ชุด
ทุกวัน 24x7 นะครับ

อ้อ .. แล้วคุณ เคยรู้มั้ยครับ
ว่า DB2 ถ้าเปลี่ยน sub version
ไม่ compatible กับ ตัวเดิม 100% นะครับ
เคยทำ 9. อะไรสักอย่าง แต่ของจริงเป็น 9. อีกตัวนึง
เอา script ไป deploy แล้ว function
ทำงานไม่เหมือนกัน

นะครับ..

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 15 June 2015 - 14:22 #820111 Reply to:820091

Cluster 3 ชุด

  • Windows Server Datacenter Edition ประมาณ 200k THB
  • SQL Server Datacenter Edition ประมาณ 600k THB + CALs อีกประมาณครึ่งแสน

นี่คือราคาต่อ Physical Server ทำกี่ชุดก็คูณเข้าไปครับ

*อยากจะบอกว่าระบบ Clustering ของ Windows Server เป็นอะไรที่เห็นแล้วยี้ น่ารังเกียจ Config ยากแล้วบางครั้งอาจใช้งานไม่ได้เลยก็มี (บางทีผมก็กากเอง)

By: waroonh
Windows
on 15 June 2015 - 15:06 #820118 Reply to:820111

Enter'price' ก็ทำ cluster ได้ครับ
แต่ก็ยังแพงอยู่ดี สมัยนี้ใช้วิธี จัด ram หนัก 64 gb
แตก module แล้วใส่เครื่องเล็กๆ ? ลงไปในตู้ flex แทนก็ได้
แค่ระวังอย่าให้ ไฟดับเดี้ยงทั้งตู้ก็พอ หงักๆๆๆ

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 15 June 2015 - 12:27 #820097 Reply to:820083
Ford AntiTrust's picture

ส่วนตัวข้อมูลให้แค่นี้ผมตอบไม่ได้น่ะ ต้องดูจำนวนที่ว่านั้นมีลักษณะการใช้งานอย่างไร ประมวลลักษณะไหนก่อนน่ะครับ งานบางงานอาจจะรับได้ บางงานอาจจะรับไม่ได้ (ยังไม่รวมไปถึงจำนวนเครื่องที่นำมาทำ cluster มี h/w และส่วนประกอบเกี่ยวกับแอพอื่นๆ ด้วย)

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 15 June 2015 - 11:19 #820084 Reply to:820079

เท่าที่ผมสัมผัสมาหลายปีผมว่าง่อยครับ ทีม Support เข้าขั้นโง่แบบกู่ไม่กลับเลย พอๆกับ Oracle ที่หลายๆมหา'ลัยบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าจ่าย MA ไปแต่กลับได้บริการห่วยๆกลับมา

By: Ford AntiTrust
ContributorAndroidBlackberryUbuntu
on 15 June 2015 - 12:29 #820098 Reply to:820084
Ford AntiTrust's picture

ในทีมข้างๆ ผมก็ปวดหัวพอๆ กันครับ คือเรื่อง S/W และระบบไม่มีคำถาม ผมกลับมีคำถามการสนับสนุนหลังการขายที่มีปัญหา หัวหน้าก็ปวดหัว เพราะซื้อมาแพง จะบ่นกับใครก็ลำบาก ><"

By: pongkantaphon
ContributoriPhoneUbuntu
on 15 June 2015 - 13:20 #820104 Reply to:820084
pongkantaphon's picture

เพื่อนผมมักจะบอกว่า

คนที่ support เก่งๆเหมือนก็เหมือนผี รู้ว่ามีแต่ก็ไม่เจอ 5555


COBOL !!

By: Jonathan_Job
WriteriPhoneUbuntuWindows
on 15 June 2015 - 13:23 #820105 Reply to:820084
Jonathan_Job's picture

support จะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับ 2 อย่างคือ severity ของเคส กับ contract level ครับ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่ว่าคุณยอมจ่ายแค่ไหนครับ

คล้ายๆ เหมือนคุณไปหาหมอครับ ถ้าไปรพ.เอกชน หมอเชี่ยวชาญเยอะกว่า เตียงมากกว่า ก็ต่อคิวน้อยหน่อย และเอกชนก็มีหลายระดับความแพง ถ้าคุณจ่ายโคตรแพงหน่อย คุณอาจจะได้ใช้บริการของ Watson ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าหมอมีอยู่จำกัด คนที่มีดบาดมืออาจจะได้รับการทรีทช้ากว่าคนโดนมีดเสียบทะลุปอด

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 15 June 2015 - 15:02 #820117 Reply to:820105

Support ที่ว่าคือจนท.คนไทยนะครับ แต่ละคนนี่ไร้ฝีมือโคตรๆเลย ทุกวันนี้เห็นแต่ Freelance กันหมดแล้ว เนื้อหอมได้โล่ห์ โก่งค่าตัวกันแบบเต็มที่

ฉะนั้นแล้วย่อหน้าแรกของท่านมันไม่มีความหมายอะไรกับลูกค้าประเทศนี้ครับ (และเป็นกันหลายบริษัทด้วย)

*ปล. MS ไทยเป็นบริษัทที่ผมโทรศัพท์ไปด่าบ่อยที่สุดในบรรดาซอฟท์แวร์ที่บริษัทของผมซื้อมาครับ

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 15 June 2015 - 14:48 #820115
mr_tawan's picture

ถ้ามองในมุม Dev ผมว่าแบบฟรีมันมีข้อดีตรงที่ลงกี่ instance ก็ได้ เพราะว่าบางทีเราต้องทำงานกับหลาย ๆ Instance พร้อม ๆ กัน

ถ้ามันมีจำกัดและราคาแพง ก็ต้องใช้แชร์กัน ซึ่งก็จะไปกวนกันเองระหว่าง dev ทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่

แล้วองค์กรก็สามารถซื้อ support เฉพาะ production instance ได้ ไม่ต้องเหมาหมดทั้งองค์กร


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: sukjai
iPhoneAndroidRed HatUbuntu
on 15 June 2015 - 16:48 #820126 Reply to:820115

+1 แม่นเลยครับ 55