สิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปชอบทำกันเวลาจะโชว์ว่าตัวเองได้ขึ้นเครื่องบินนั้นก็คือการถ่ายรูปตั๋ว (boarding pass) แล้วอัพโหลดขึ้น social network แต่การทำอย่างนั้นอาจเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวโดยที่เราคาดไม่ถึงได้
Brian Krebs บล็อกเกอร์ด้านความปลอดภัยชื่อดังที่เคยมีข่าวน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับตัวเขามากมาย (อ่านเพิ่มได้จากข่าวเก่า) เขียนเล่าว่ามีผู้อ่านบล็อกของเขาคนหนึ่งชื่อ Cory ได้สงสัยว่าบาร์โค้ดที่ปรากฎบนตั๋วเครื่องบินนั้นบอกอะไรได้บ้างหลังจากที่มีเพื่อนบนเฟซบุ๊กคนหนึ่งโพสรูปตั๋ว เขาจึงสแกนบาร์โค้ดบนตั๋วเพื่อหาข้อมูลนี้
Cory บอกว่าสิ่งที่ได้จากการอ่านบาร์โค้ดนั้นนอกจากจะมีชื่อ-นามสกุล, เลขสมาชิกโปรแกรมสะสมไมล์ และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ แต่ยังมีเลขรหัสการจอง (reservation number) สำหรับไฟลท์ Lufthansa วันนั้นอีกด้วย จากนั้นเขาก็เปิดเว็บไซต์ Lufthansa แล้วล็อกอินด้วยนามสกุลและเลขรหัสการจองที่ได้มา เพียงเท่านี้ก็เข้าดูข้อมูลในบัญชีของเพื่อนเขาได้ทั้งหมดแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ เขาสามารถดูไฟลท์ทุกไฟลท์ที่ถูกจองไว้ด้วยเลขสมาชิกโปรแกรมสะสมไมล์ของ Star Alliance รวมไปถึงดูเบอร์โทรศัพท์, ชื่อผู้จองไฟลท์ และแน่นอนว่าสามารถขอเปลี่ยนที่นั่งและยกเลิกไฟลท์ในอนาคตได้ด้วย
รู้อย่างนี้แล้วใครชอบโชว์ตั๋วเครื่องบินก็เลิกได้แล้วนะครับ คนอื่นอิจฉา
ที่มา - Krebs on Security via Gizmodo
ข้อมูลที่ถอดได้จากบาร์โค้ด
Comments
วิธีแก้ปัญหาง่ายมากครับ แค่เอากระเป๋าสตางค์มาหนีบตั๋วให้โผล่มาหางตั๋วว่าบินไปเมืองไหน แค่นี้พอ อ่อต้องติดแก้วสตาร์บัคส์ด้วยครับ ช่วยดึงเฟรมให้พื้นที่ตั๋วลดลง
กุญแจรถยนต์เยอรมัน กระเป๋าฝรั่งเศส แว่นตากันแดดอิตาลี นาฬิกาข้อมือสวิสด้วยครับ.
ถ้าถึงขนาดนั้น ก็ถ่ายแต่ของเถอะครับ
ไม่ต้องถ่ายตั๋วแล้ววว
ทำไมผมอ่านแล้วตลก 5555
ซองมือถือจากอังกฤษ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ฮาก็ตรงคอมเม้นนี่แหละ
ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต ที่หมายเลขบัตรเครดิตเป็น ****-****-****-1234
ดูบาร์โค้ดแทนก็ได้...
บางสายการบินไม่เก็บอะไรเลยนะครับ เช่นนกแอร์จะเก็บแค่หมายเลขเที่ยวบิน (Flight No.) และลำดับการเช็คอิน (Sequence No.) เท่านั้น
ทางที่ดี ถ้าจะถ่ายก็ลอง scan ดูก่อนละกันครับว่ามีอะไรเก็บไว้บ้าง
boarding pass ไม่ใช่ ticket ดังนั้นไม่ควรใช้คำว่าตั๋ว ควรใช้บัตรขึ้นเครื่อง หรือบัตรโดยสรขึ้นเครื่องครับ
แล้วคำว่าตั๋ว ไม่ได้แปลว่า บัตรผ่าน..., บัตรแสดงสิทธิของผู้ใช้..., เหรอฮะ
ในทางการบิน แตกต่างกันครับ
มี ticket แต่ไม่ได้ check-in จะไม่ได้ boarding pass ขึ้นเครื่องไม่ได้
ผมเริ่มงงแล้ว แล้วอะไรคือความหมายของคำว่าตั๋วเครื่องบินครับ
ตั๋วเครื่องบิน = เอกสารที่สายการบินส่งให้เวลาเสียตังแล้ว จะเป็นรายละเอียดว่า เดินทางไปไหน เวลาเมื่อไหร่ อาจจะมีเที่ยวบินต่อ และ/หรือ เที่ยวบินขากลับในตั๋วใบเดียวกันก็ได้ครับ ในกรณีที่บินแวะ และ/หรือ ต่อสายการบินอื่นที่สายการบินที่เราเข้าด้วยขายให้ เช่น BKK/TG>LHR/UA>JFK/UA>SFO/UA>NRT/TG>BKK ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในตั๋วใบเดียวเป็นต้น ซึ่งสามารถนำไปเช็คอินและแลกเป็น Boarding Pass (บัตรผ่านขึ้นเครื่องบิน) ได้ ณ วันที่และเวลาที่คุณจองเอาไว้
ดังนั้น ต้นทางใช้คำว่า Boarding Pass น่าจะใช้คำว่า บัตรผ่านประตูขึ้นเครื่อง มากกว่าครับ เพราะมันไว้สำหรับผ่านขึ้นเครื่องจริงๆ ไม่สามารถนำไปแลกเที่ยวบินต่อได้ นอกจากคุณที่ตั๋วที่สายการบินออกให้ ณ ตอนจองตั๋วครับ
ถ้าตามหลักการน่าจะเป็นอย่างนั้นแหละครับ แต่เรียก Boarding pass ว่าตั๋วก็คงไม่น่าจะผิดอะไรมาก แม้แต่พนักงานบนเครื่องก็ยังพูดว่าขอดูตั๋วเลย
ไม่ได้ครับเพราะเอกสารสองตัวนี้ (ticket และ boarding pass) มันเป็นเอกสารคนละตัวกัน มี ticket แต่ไม่ได้ check-in จะไม่ได้ boarding pass ขึ้นเครื่องไม่ได้
แสดงว่าแบบต้องประชาสัมพันธ์กันใหม่ ให้คนเข้าใจจะได้ไม่สับสน ขึ้นเครื่องทีไรนี่โดนเรียกตรวจตั๋วประจำ
มีพนักงานเรียกตั๋วด้วยเหรอครับ ผมเคยเจอแต่เค้าทับศัพท์ว่า boarding pass
มันคือตั๋วนั่นหล่ะ
Boarding pass ก็ Boarding pass ตั๋ว ก็คือ ตั๋วครับ เอาตั๋วไปเช็กอินเพื่อเอา Boarding pass หรือจะไม่มีตั๋วแต่ปริ้น Boarding pass จากการเช็กอินทางเว็บเพื่อเข้าขึ้นเครื่อง เอาตั๋วเครื่องบินไปแต่ไม่มี Boarding pass เขาไม่ให้ขึ้นเครื่องนะครับ
The Dream hacker..
อันนี้เป็นปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้าหรือเปล่าครับ
สายการบินเปิดให้ใครก็ได้ที่มี barcode ดูได้หมดเลยงั้นหรอ
ถ่ายทำไม
คนไทยเน้นเช็คอินกะถ่ายรูปมากกว่าหรือเปล่าเห็นเพื่อนใน facebook จะมาไหนไปไหนก็เช็คอินสนามบินกัน ส่วน Instagram ก็มี tag สนามบินสุวรรณภูมิเยอะที่สุดเพราะถ่ายรูปแล้ว tag กันเวลาจะมาไหนไปไหนนี่แหล่ะ