By: nuntawat 
on 15 October 2015 - 08:40
Tags:
เมื่อครั้งเปิดตัว Surface Pro 4 กับ Surface Book นั้น ไมโครซอฟท์ไม่ได้ระบุรุ่นของซีพียูเจนเนอเรชั่นที่ 6 (Skylake) กับจีพียูของแต่ละรุ่นย่อยของอุปกรณ์ทั้งสอง แต่ต่อมาไมโครซอฟท์ได้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวกับเว็บไซต์ PCWorld ถึงรุ่นของซีพียูกับจีพียู ซึ่งเมื่อประกอบกับข้อมูลจากเว็บอินเทลจะเป็นดังนี้
Surface Book
- ซีพียู Intel Core i7-6600U ที่ 2.6 กิกะเฮิรตซ์ และจีพียู Intel HD Graphics 520
- ซีพียู Intel Core i5-6300U ที่ 2.4 กิกะเฮิรตซ์ และจีพียู Intel HD Graphics 520
Surface Pro 4
- ซีพียู Intel Core i7-6650U ที่ 2.2 กิกะเฮิรตซ์ และจีพียู Intel Iris Graphics 540
- ซีพียู Intel Core i5-6300U ที่ 2.4 กิกะเฮิรตซ์ และจีพียู Intel HD Graphics 520
- ซีพียู Intel Core m3-6Y30 ที่ 900 เมกะเฮิรตซ์ และจีพียู Intel HD Graphics 515
ที่มา: PCWorld
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
แล้วตัว Nvidia GeForce ที่กล่าวตอนเปิดตัว Surface Book หละครับ ทำไมยังไม่เปิดเผยออกมาให้ดูหละ
Get ready to work from now on.
ข้อมูลตามที่ไมโครซอฟท์บอกเลยครับ
รู้สึกบอกแค่นี้มันไม่พอ น่าจะบอกด้วยว่า แรงประมาณรุ่นไหน มีกี่คอร์ clkกี่Hz
เราต้องการสเปคของ custom chip
ทำไม Surface Pro 4 เหมือนจะแรงกว่า
Surface Book มี gpu อีกตัวเค้าเลยใส่มาแค่นี้ เพราะไงใช้กราฟฟิกก้อต้อง nvidia
Surface pro ไม่มี เลยต้องใส่มาแรงๆทีเดียวเลย
แต่ ราคา i7 นี่ ไม่อยากคิดเลย
อยากได้นะแต่บ้านจน
CPU i7 ตัว Surface Book เป็นแค่ U series เอง จะไปฟัดเทียบ Macbook Pro Retina ไหวหรอนี่
เอ่อ ... Hardware การออกแบบเครื่องมันต่างกันพอสมควรนะครับ ที่จริง Software ก็ด้วย ..
my blog
ขนาดต่างด้วยครับ ลืมไปว่าตัว Quad Core มัน 15" ตัว 13" มันก็คล้ายๆ เหมือนๆ กัน
เห็นในงานเปิดตัวเทียบ คงเทียบกับ 13"
ใช่ครับ 13" ชน 13"
ไม่งั้นข้ามรุ่น ชน 15" เลยก็ไม่ไหวเหมือนกัน
MacBook Pro with Retina Display ใช้ Intel Core i7 รหัส U ครับ รุ่น 15 นิ้วถึงไปพวก MQ,HQ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
O-o
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อันนี้อ้างอิงครับ
ป.ล. แก้ไขครับ ใช้ Core i5 ครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เห็นมีผลทดสอบออกมาบ้างแล้วรู้สึกว่า
Core i7 5500U จะช้ากว่า Core i5-5257U
อยู่นะ แต่ใช้พลังงานน้อยกว่ามาก
http://cpuboss.com/cpus/Intel-Core-i7-5500U-vs-Intel-Core-i5-5257U
spec เพียงพอแต่ราคาเกินเอื้อมสำหรับผม
ถ้าออกมาแล้วจะมีข่าวที่แกะเครื่องมาดู design และ review แบบถึงไส้ในเลยไหมน้า
ขาประจำอย่าง iFixit คงไม่พลาดแน่นอนครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
งานขีดๆเขียนๆ book หรือ pro 4 ดี
ผิดหวังกับ SFB นิดๆ นึกว่าจะได้ i7 ตัวธรรมดา
ราคาแบบนี้ สเปคแบบนี้ ซื้อnotebook+ipadคุ้มกว่ากันเยอะ คงขายได้แต่แฟ
นบอยเหมือนเดิม
จะทำงาน จะพรีเซ็นงาน จะเล่นเกม (Steam) เล่นเน็ต จะทำอะไรก็ควักออกมาสะลับกันออกมา แบกสายซาร์จเม้าส์กันไป ผมว่ามันดูเยอะไม่ Professional เลยครับ ส่วนเรื่องคุ้มผมว่าแล้วแต่ว่าจะซื้อมาทำอะไร และอยู่ทีความรู้สึกของคนซื้อด้วย
ສະບາຍດີ :)
จะ professional หรือไม่มันอยู่ที่คนใช้งานครับไม่ได้อยู่ที่อุปกรณ์ ท่าทางจะไม่เคยเห็น professional เลยมโนมาแบบนี้
ก็บอกแล้วไงว่ามันอยู่ที่การใช้งานว่ามันคุ้มไหมอะไรยังไง มโนอะไรครับ นั่นความเห็นส่วนสำหรับผม ผมใช้คำว่า "ผมว่า" มันเยอะไปทำงานจะพกอะไรไปมาก ส่วนคุณ inote กลับบอกว่า ราคาแบบนี้ สเปคแบบนี้ ซื้อ notebook+ipad คุ้มกว่ากันเยอะ ผมก็แค่อยากแย้งในเรื่องนี้ Pro ไม่ Pro นั่นเรื่องส่วนตัวผม ผมคิดว่าถ้าผมพกเยอะแบบนั้นไปพบลูกค้าผมรู้สึกไม่ Pro ครับ.
ปล. ถ้า Apple จะทำ product ที่ทำได้ครบแบบนั้นผมก็ชอบเหมือนกัน ไม่ได้จะปกป้องหนึ่งฟ่ายใด อิอิ
ສະບາຍດີ :)
เรื่อง Professional นี่บอกลำบากเลยครับ บางสายงานการพกอุปกรณ์เยอะ ๆ ดู Professional กว่า
แต่บางสายงานการหิ้วกระเป๋าใหญ่ ๆ ก็ดูไม่ Professional แล้ว
นอกจากนี้ต้องขึ้นกับบริษัทด้วยครับว่าทิศทางและภาพลักษณ์เป็นอย่างไร
บางสายงานที่เน้นว่าต้องหล่อเท่ นี่ยิ่งแล้วใหญ่ครับ เอาง่าย Sale ขาย Software ก้ได้ครับ (ไม่ใช่ทุกบริษัทนะเอาแค่บ.ผมก็พอ) แต่งตัวผูกเนคไทอย่างดี กระเป่าก็ต้องเป็นกระเป๋าหิ้วครับ ใบเดียวบาง ๆ เอกสารน้อย ๆ ไม่งั้นเหมือนคนขายประกัน อย่าใช้เป้เด็ดขาดเพราะดูเข้าอย่างแรงครับ
แล้วบริษัทก็จัด Macbook ให้กับ Sale เพราะมันบางเบา ประสิทธิภาพดี เสียแต่ว่ามัน Run Windows มันก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ล่ะครับในมุมของลูกค้า แต่นั่นแหละ สุดท้ายมันก็ทำให้เราขายของแพงได้
จริงครับ สุดท้ายแล้วความโปรมันอยู่ที่คน แต่ First Impression มันต้องมาก่อนครับ ถ้าแต่งตัวไม่ดี จะขายของแพงคงลำบาก
ทุกวันนี้อุปกรณ์ IT เปรียบเสมือน เครื่องประดับไปแล้วครับ ถือ iPhone ยังดูรวยกว่าใส่ทองอีก
แต่ถ้าตอนไปขายของจะใช้ Notebook ธรรมดานี่มันดูไม่ Professional ครับ (เพราะมันดูไม่แพงนั่นแหละ) ขายโปรแกรมตั้งแพงทำไมยังใช้ของถูกอยู่ โอเคก็ไปใช้ iPad ทีนี้มันก็ทำงานได้ไม่ครบ สุดท้ายก็ต้องเอา notebook ไปอยู่ดี (แล้วจะซื้อ iPad มาทำไม)
ดังนั้นซื้ออุปกรณ์สักชิ้นที่จบในตัวให้มันดู Pro ไปเลยจะดีกว่า (จริง ๆ ส่วนตัวเชียร์ New Macbook นะครับ)
ทำไมผมองกลับกันแฮะ
ถ้าไม่ติดเรื่อง OS ผมว่า SFB น่าสนกว่าเยอะเลย
คอมเม้นนี้สร้างสรรค์ครับ ถ้ามองในมุมเรื่อง os ผมก็เห็นด้วยนะครับ
ipad + mbp ไม่ได้เศษเล็บ sfb
ยังไงMac ก็ได้เปรียบเรื่องOS วันยังค่ำครับ
เพราะมันสามารถลงได้ทุกOS โดยที่ไม่ต้องดัดแปลงแคะแงะเกลาตัวไฟล์หรือDriver ที่ใช้ในแต่ละOS เลย
ในขณะที่ NB PC ถ้าจะลงOS X ยังไงก็ต้องใช้วิชามารสักนิดถึงจะลงได้ และถึงลงได้ประสบการณ์การใช้งานก็ไม่สู้การใช้งานในMacโดยตรงอยู่ดี
ถ้าทำงานพวกเขียนเว็บ หรือเขียนโปรแกรมของทั้งฝั่งWindowsและOS X/iOS ยังไงMacก็ยังเป็นคำตอบสุดท้ายอยู่ดีนะผมว่า
สมมติฐานของคุณยืนอยู่บนพื้นฐานของคนที่ต้องการ OS X นะครับ
อย่าลืมว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้ need มันขนาดนั้น ไม่งั้นส่วนแบ่งตลาด Mac คงเกิน 50% ไปนานแล้ว
จากใจคนใช้ Mac, iPhone
ผมยังไม่เห็นว่าจะ need OSX อะไรขนาดนั้นนะ
และมันมี option อื่นที่เป็นทางเลือกในการลง OS ตัวอื่นแบบไม่ต้องพึ่ง Mac ก็มี
ตามที่ผมอ่านๆ มาเนี่ยก็คงแล้วแต่ที่ใช้แล้วสบายใจแล้วละครับ 55 แบบถ้าคนไหนใข้อะไรแล้วทำงานได้ ไม่มีปัญหาก็โอเค แมคนี่หาเกมให้เพื่อนเล่นใน Steam ยากมากยิ่ง Free to Play นี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย เป็นตัวอย่างว่ามันแล้วแต่ว่าจะใช้ทำอะไรจริงๆ คำตอบสุดท้ายของแต่ละคนก็คงไม่เหมือนกัน ส่วนผมนั้นจับมาทุก OS สนุกกับทุก OS ครับแต่เล่นเกม ทำเกมต้อง Windows เหอะ XD
ສະບາຍດີ :)
บางคนเดินทางบ่อยและไกล เขาไม่มีความจำเป็นต้องแบกของหนักๆเลยครับ
ผมสังเกตหลายกระทู้แล้ว อคติคุณก็ยังคงมีเหมือนเดิม นิสัยยังไม่เปลี่ยน กระแนะกระแหนชาวบ้านทั้ง ๆ ที่ไม่ดูความเป็นจริงว่า MacBook Pro with Retina Display ขนาด 13 นิ้วก็ใช้ซีพียูและชิปกราฟิกที่คล้าย ๆ กัน (ที่รู้เพราะน้องผมใช้อยู่ รุ่น 2015 Force Touch)
ถามจริง iPad กับโน้ตบุ๊ก แบกไปมันหนักไม่ใช่หรอ? แล้วเวลานั่งเล่นเกม นั่งดูหนังบน iPad แล้วปรากฎว่างานด่วนมา เท่ากับว่าคุณต้องเปิดโน้ตบุ๊ก เปิดงาน ทำงานไป คำถามคือมันเสียเวลาหรือเปล่า? ขณะที่ใช้ Surface Book ทำเหมือนกัน เวลางานมา เสียบเข้า dock ทำงานเลย อันไหนมันสะดวกและเร็วกว่ากัน?
ถ้าบอกว่า ไม่เห็นยากเลย ก็ซื้อคีย์บอร์ดมาทำงานก็หมดเรื่อง คำถามคือ คีย์บอร์ดบลูทูธที่ขายกันทุกวันนี้มันออกแบบมาให้ใช้สะดวกหรือไม่ และงานที่ทำนั้น ทำบน iPad แล้วมันได้ประสิทธิภาพพอหรือเปล่า?
แล้วถ้าบอกว่า ให้ไปซื้อ iPad Pro ถามจริงครับว่าคนมีปัญญาซื้อทุกคนหรือเปล่า เพราะมันแพงมาก แถม Keyboard Cover ก็ราคาปาเข้าไป 6,990 บาทแล้ว ยังไม่รวม
ปากกาApple Pencil ที่ปาไป 3,990 บาทอีก ขณะที่ราคานี้ ได้ Surface Pro 4 ที่ความจุสูงกว่า แถมปากกา และคีย์บอร์ดที่ราคาถูกกว่า อันไหนคุ้มกว่ากัน?ถ้าพูดเรื่องแอพ ไม่เถียงว่าใน Store โคตรน้อยและโคตรกาก แต่เนื่องจากมันก็เป็นพีซี รันโปรแกรมได้ตามปกติ ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรนิ?
คิดให้ดีก่อนคอมเมนต์ถากถาง เพราะบางอย่างคุณใช้ bias มากกว่า fact
ป.ล. ผมใช้ iPad mini 2 พิมพ์ส่งข้อความนี้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เห็นด้วยกับคุณครับ คือแต่ละคนมีความชอบมี lifestyle ความจำเป็นไม่เหมือนกัน การจะเลือกซื้อของโดยยึดอยู่บนบรรทัดฐานของตัวเองผมก็ไม่เห็นว่ามันจะผิดอะไร ส่วนตัวผมถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้ของที่ดีที่สุดที่สามารถช่วยให้ทำงานได้ลื่นไหล เอาออกไปพรีเซนต์ลูกค้าก็ไม่ต้องห่วงเรื่องภาพลักษณ์ว่ามันจะดูน่าเชื่อถือมากน้อยขนาดไหน
ดูถูกคนอื่น ก็เหมือนดูถูกตัวเองนะครับ
แต่ปีก่อนผมเห็นโฆษณาตัวนี้ผมขาย macbook pro 2012 + ipad air ทิ้ง แล้วซื้อ surface pro3 แทนครับ
https://www.youtube.com/watch?v=YfpULoEZIHk
ทุกวันนี้งานเสร็จไว มีความสุข สนุกกับจอใหญ่ รัน emulator มือถือจิ้มจอได้ไม่ต้องรอบิ้วลงมือถือ
ทุกวันนี้พก notebook+ipad อยู่ครับรุงรังเอาเรื่องหนักด้วย(T .T) surface book โดนใจผมมากติดแค่ไม่มีตังค์เท่านั้น555 เรื่องคุ้มไม่คุ้มขึ้นอยู่กับว่าต้องการอะไรด้วยครับ
ปล.ผมว่า notebookดีๆ+ipad ไม่ได้ถูกกว่ากันเท่าไหร่นะครับ
Edit +พกเมาส์ปากกาอีกอย่าง
ราคานี้ ทำไมต้องเสียเงินซื้อ Notebook + iPad ด้วยอะครับ?
ที่ iPad สเปคแรงเท่ากับ Surface Pro เหมือนจะไม่มีขาย
ส่วน Notebook ที่เบาเท่า Surface Pro ก็เหมือนว่าจะไม่มีขายเหมือนกัน
ทุกวันนี้ยังไม่เห็น tablet ตัวไหนสามารถใช้ Illustrator กับ Photoshop ได้เต็มสูบเท่านี้จริง ๆ ครับ
บางทีมันไม่ใช่เรื่องคุ้มหรอกครับที่จะซื้อ แต่คือเรื่องที่ว่ามันทำงานได้ตามที่ต้องการหรือเปล่าเท่านั้นเอง
สาย Illustrator กับ Photoshop ใช้ Macbook Pro ดีกว่าครับ
โปรแกรมตัวนี้ฝั่ง Mac ดีกว่าฝั่ง win จริงๆ
มันดีกว่ายังไงครับ เพราะผมใช้ทั้งคู่ไม่ได้ต่างกันเลย(ยกเว้น iMac ที่ผมใช้มันรุ่นเก่าไม่รอบรับการใช้ GPU ช่วย)
ผมไม่รู้สาเหตุแน่ชัดนะครับ ใช้ CC อยู่ของบน Window มันใช้ๆไปเด้ง error แล้วต้องปิดบ่อยมาก ส่วนใน Mac ทำอยู่รวมเวลาใช้งานได้เป็นวันๆอยู่ครับยังไม่เจอ ผมเป็นโปรแกรมเมอร์นะครับเลยใช้ไม่เยอะมาก งานกราฟฟิคนอกจากแต่งภาพเล่นกับตัดรูปเล็กน้อยนอกนั้นไม่ค่อยได้ใช้ อาจยังไม่เจอปัญหาควรจะเจอในฝั่ง OS X
ส่วนประสิทธิภาพอันนี้ไม่ชัวร์จริงๆคือเครื่องผมสเปคไม่เท่ากัน GPU คนละค่ายเลย Macbook มันแต่งภาพลื่นกว่า desktop ที่สเปคเกือบจะแรงกว่าชัดเจนไม่รู้เพราะอะไร แต่ผมอาจตั้งค่าอะไรไม่ดีซักอย่างก็ได้ไม่ค่อยได้สนใจใช้ไม่บ่อยมากที่ว่าช้ากว่ามันก็ delay แวบๆเอง
แล้วก็ถ้าไปซื้อจอ desktop ให้มันเอามาแต่งภาพดีๆราคาจะโดดเกิน mac ไปอะครับ ลองมาหลายรุ่นจอถูกๆสีมันไม่โออะครับเทียบ Macbook ยังไม่ได้เลย พยายามตั้งสีแล้วก็ยังไม่ดี เลยคิดว่า designer ซื้อ iMac เครื่องเดียวจบไม่ต้องคิดเยอะ(ผมไม่ได้แนะนำสำหรับทุกคนนะแค่คิดว่า designer ใช้ทำงานมันน่าจะจบ)
บนOS X ตัวระบบมันไม่ค่อยค้างตามโปรแกรมเหมือนฝั่งWindowsด้วยน่ะผมว่า
บนWindowsโปรแกรมค้างที บางทีกดCtrl+Alt+Delete กว่าจะขึ้นให้บังคับปิดก็รอนานมาก หรือไม่ก็ไม่ขึ้นให้ปิดโปรแกรมไปเลยก็มี จนบางทีต้องกดPowerบังคับปิดเครื่องทำให้งานในโปรแกรมอื่นพลอยไม่ได้เซฟไปด้วย
ในขณะที่ในOS X ถ้าโปรแกรมค้างค้างก็แค่Mission Control เพิ่มหน้าDestopใหม่ กดLOGO Apple แล้วก็ForceQuit ออก ซึ่งในกระบวนการทั้งหมดที่ว่ามา มันไม่มีอาการที่แสดงว่าตัวOSมันอืดลง ค้าง หรือกระตุกให้เห็นเลย ตัวOSยังคงลื่นไหลปกติ
เหมือนกับว่าบนWindowsมันให้ความสำคัญกับโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ในขณะนั้นเป็นอันดับ1
แต่บนOS X มัันจะให้ความสำคัญกับ OS ที่รันอยู่เป็นอันดับ1 แทน
ทำไม iMac ที่ออฟฟิศผม รีสตาร์ตตัวเองบ่อยมาก ๆ เลย อืดลงอย่างเห็นได้ชัดเหมือนกัน (จริง ๆ อืดเพราะ HDD มันช้าแหละครับ พอต่อเพิ่ม SSD ก็ไวขึ้นพอสมควรเลย)
แต่ยังไม่เคยใช้ Windows บน SSD เหมือนกัน ส่วน Macbook SSD นี่ไวจริงอะไรจริงครับ
ถ้าเป็น iMac รุ่นเก่าหรือมีแรมไม่ถึง 16GB แนะนำให้เพิ่มแรมครับ เปิดเครื่องมา OSX ก็เล่นใช้แรมไปแล้วเกือบ 4GB ไม่พอใช้งาน
ลืมเรื่อง RAM ไปเลยครับ พรุ่งนี้คงต้องลองไปเช็คหน่อยว่าเท่าไหร่
แต่... Dell ผม RAM 8GB ยังสบาย ๆ เลยนะครับ = =" ลื่นปรื๊ด
Mac Mini รัน OSX ร้อนแทบจะย่างเนื้อได้ แต่พอรัน Windows เย็นปกติดี
อยากรู้จังว่า OSX กับ Linux มันไม่มีคำสั่ง Low Level เลยหรือกระไร
Mac Mini ผมเคยจับยัด SSD เรื่องความร้อนหายไปเยอะเลยครับ ตามคห.ส่วนตัวคิดว่ามันติดคอขวด HDD โดนบังคับให้โหลดตลอดเวลามากกว่าเลยร้อนโฮก
ผมหมายถึง Tablet หรืออุปกรณ์คล้าย Tablet นะครับ
ผมใช้ Windows มาจนชินมั้งครับ รู้สึกว่าพอไปใช้งานบน Mac แล้วนู่นก็หาไม่เจอนี่ก็ทำไม่ได้อย่างที่เคยทำ
ใช้เวลาทำงานนานมาก ๆ ส่วนเรื่องสีเพี้ยนนี่ไม่มีปัญหาครับ ผมปรับให้มันตรงกับร้านอยู่แล้ว ร้านที่ผมสั่งพิมพ์เค้าไม่ได้ใช้ Mac สีเลยตรงกันครับ ^ ^
ส่วนงานด้าน Logo บน คอม ใช้ Mac แล้วสีเพี้ยนกระจุยครับ (ไม่เพี้ยนได้ไง โปรแกรมออกแบบให้ใช้งานบน Windows เท่านั้น)
สุดท้ายเลยใช้จอ Dell ทำงานครับ สีใกล้เคียงกับบรรดาเครื่องต่าง ๆ ของ User มากที่สุดครับ และพยายามใช้สีที่มันมีโอกาสเพี้ยนน้อย ๆ (แต่ไม่ค่อยสวย)
ปล. เพิ่งเห็นว่าพิมพ์ผิด Surface book เป็น Surface Pro
ของเกรดพรีเมี่ยมเค้าไม่วัดกันครับว่าคุ้มไม่คุ้ม อยู่ที่ความอยากล้วนๆ
ทุกวันนี้ผมก็พก Macbook pro 15 retina + ipad air 2 อยู่
เครื่องร้อนตับแตกแน่ๆ
cpu ultra low voltage อีกแล้ว
ไหนบอกว่าออกมาสู้ macbook pro
สู้กับ MacBook Pro 13 นิ้วไงครับ Ultra Low Voltage เหมือนกัน แต่ไม่มีกราฟิกแยก (ซึ่งเป็นสาเหตุที่ผมไม่ซื้อ MacBook Pro ตัวนี้มาใช้)
Coder | Designer | Thinker | Blogger