รัฐบาลสหรัฐ ออกร่างนโยบายกำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลกลาง ต้องเปิดเผยซอร์สโค้ดซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเอง (หรือจ้างพัฒนาด้วยเงินของรัฐ) เพื่อเปิดให้หน่วยงานอื่นของรัฐสามารถนำไปต่อยอดได้
นโยบายนี้มองว่าการที่หน่วยงานรัฐใช้เงินพัฒนาซอฟต์แวร์ซ้ำซ้อน เป็นการเปลืองงบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนโดยเปล่าประโยชน์ การเปิดซอร์สยังส่งเสริมให้หน่วยงานรัฐร่วมมือกันสร้างนวัตกรรม และเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกที่มีฝีมือเข้ามาช่วยตรวจสอบคุณภาพของโค้ดด้วย
ตอนนี้นโยบาย Source Code Policy ยังมีสถานะเป็นฉบับร่าง และเปิดรับฟังความเห็นจากสาธารณะ ใจความหลักของเอกสารกำหนดให้หน่วยงานรัฐต้องเปิดซอร์ส "ทั้งหมด" ให้หน่วยงานรัฐด้วยกัน และเปิดซอร์ส "บางส่วน" (อย่างน้อย 20%) ต่อสาธารณะ โดยมีผลบังคับใช้กับซอฟต์แวร์โครงการใหม่เท่านั้น
ที่มา - Whitehouse, ภาพจาก Whitehouse Blog
Comments
ไม่เหมือนของไทย บอกว่าเป็น Open Source แต่ยอมไม่เผยแพร่ให้ใครเอาไปแก้
เช่น โปรแกรมจัดการโรงพยาบาลชุมชน
เอ่อ... หมายถึง HOSxP หรือเปล่าครับ
เพราะมีคำว่า Open Source และคำว่า โปรแกรมจัดการโรงพยาบาลชุมชน ก็เลยนึกออกแค่อันนี้น่ะครับ
HosXP ช่องโหว่เยอะมาก ระบบล่มได้ง่ายๆ เลย
เป็นการ ลดค่าใช้จ่ายในส่วนของ testing และ การนำ ซอร์ฟแวร์ไปต่อยอดได้เยอะเลยทีเดียว
มีคนช่วยพัฒนาต่อให้ฟรี แถมยังช่วยทดสอบระบบใหม่ ๆ และ ทดสอบความปลอดภัยด้วย
ดีจริม ๆ
โน้ตบุ๊ค ของบารัค ยี่ห้อไรครับ ??
จากรูป MacBook ชัวร์
ดูจากทรงแล้ว ทรงนี้มี Macbook, Dell, ASUS แต่คงเป็น Macbook ชัวร์
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
อ่ะ edit ไม่ได้ ดูจากฐานแล้ว Macbook Pro
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ดูจากAdapterอันรกรุงรังแล้วMacbookชัวร์
Macbook Pro เลยฮะ
( ต้องต่อหัวแปลงจาก Displayport แบบนี้ ฮา)
สมมุติว่า NSA พัฒนาโปรแกรมถอดรหัส หรือกระทรวงกลาโหม (DoD) พัฒนาระบบควบคุม Norad ต้องเปิดซอร์สด้วยไหมครับ
ถ้าเปิดละก็ คงสนุกน่าดูเลย (ล้อเล่นครับ)
นโยบายสวนทางกับ รัฐบาลอิเลคโทรนิคส์ของเราเลยนะ ว่าแต่นั่นมันแมคบุ๊คโปรนินา ติดโลโกทำเนียบฯด้วย
ผมว่าตราประจำตำแหน่งมากกว่า
Seal of the President of the United State
ซอฟต์แวร์คือซอร์สโค๊ด ถ้าไม่ได้ซอร์สโค๊ด ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของซอฟต์แวร์ ได้แค่สิทธิการใช้งานเท่านั้น
การเป็นซอร์สโค๊ดให้หน่วยงานรัฐบาลด้วยกัน ก็ถือว่าเป็นการกระจายความเป็นเจ้าของให้กับหน่วยงานภาครัฐ ทำให้ภาครัฐโดยรวมมีความเป็นเจ้าของในซอฟต์แวร์ใด ๆ มากกว่าแค่มีเจ้าของหนึ่งหน่วยงานแล้วให้หน่วยงานอื่น ๆ ยืมใช้งานเฉย ๆ
ส่วนที่เปิดให้สาธารณะแค่ 20% เนี่ยอาจจะมองว่า ทำไมภาครัฐเสียเงินจ้างเขียน เป็นเงินประชาชนสหรัฐ แต่กลับต้องเปิดให้คนนอกสหรัฐเข้าถึงได้ ก็เลยเปิดแค่นั้นก็ได้ (นอกจากนั้นก็เรื่องความมั่นคง)
น้ำตาจะไหล อิจฉาจริง ๆ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!