ผู้อ่าน Blognone อาจจะทราบแล้วว่า Google จะทำให้ Chrome OS สามารถรันแอพของ Android ได้ และปล่อยอัพเดตที่มีคุณสมบัติดังกล่าวแล้วลง Dev channel ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
คำถามอันหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้คือมันใช้งานได้ดีแค่ไหน หรือมีข้อจำกัดอะไรบ้าง ผมมีโอกาสได้ลองใช้คุณสมบัตินี้หลังจากอัพเดตถูกติดตั้งบน Chromebook Flip เลยนำมาเขียนเป็นรีวิวสั้นๆ เผื่อท่านผู้อ่านที่กำลังสนใจว่าความสามารถนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะกับผู้อ่านที่กำลังคิดจะซื้อ Chromebook
ข้อมูลที่ควรทราบ
ภาพจาก Google
แต่เดิมระบบปฏิบัติการ Chrome OS ถูกสร้างขึ้นโดยเน้นที่อินเทอร์เน็ตเป็นหลักทำให้ตัวระบบปฏิบัติการมีแต่หน้าเบราว์เซอร์เท่านั้น (อ่านรีวิว Cr-48 ของคุณ mk ประกอบได้) ทำให้ที่ผ่านมา Chromebook มีจุดอ่อนเรื่องของการใช้งานแบบออฟไลน์ (ไม่ได้ต่ออินเทอร์เน็ต) ซึ่งทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มที่
ที่ผ่านมา Google พยายามแก้ปัญหาด้วย ARC (Android Runtime for Chrome) แต่กลับเจออุปสรรคจำนวนมาก (อ่านเพิ่มเติมจากข่าวเก่า) การมาของแอพ Android บน Chrome OS อย่างเต็มรูปแบบย่อมแก้ปัญหาของ ARC และปิดจุดอ่อนของ Chromebook ที่ต้องใช้งานแบบออนไลน์เกือบจะตลอดเวลาไปได้ ความสามารถนี้สำคัญมากถึงขนาดตอนที่สาธิตในงาน Google I/O ปีนี้ ทีมงานก็สาธิตว่าทำได้จริงๆ ด้วยการปิดการเชื่อมต่อของ Chromebook ไป (วิดีโอนาทีที่ 10.25 เป็นต้นไป)
แต่ไม่ใช่ Chromebook ทุกรุ่นจะได้ความสามารถนี้ ดังนั้นควรลองตรวจสอบจากรายชื่อนี้สำหรับเครื่องที่จะรองรับคุณสมบัติดังกล่าว สำหรับรีวิวนี้ใช้ Chrome OS รุ่น 53.0.2768.0 ซึ่งเป็นอัพเดตล่าสุดอยู่บน ASUS Chromebook Flip เป็นตัวทดสอบครับ ทั้งนี้ซอฟต์แวร์รุ่นนี้ไม่ใช่รุ่นเสถียร (unstable version) ดังนั้นคุณสมบัติต่างๆ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนและแก้ไขไปได้อีกมากครับ
ติดตั้งและเริ่มใช้งาน
กระบวนการในการอัพเดตไป Chrome OS 53 ทำได้ไม่ต่างจาก Chrome OS ปกติทั่วไป (คงไม่ลงรายละเอียดในที่นี้ว่าจะต้องไปเลือก Dev channel อย่างไร) เมื่อตัวอัพเดตถูกดาวน์โหลดแล้ว ก็สั่งรีสตาร์ทเครื่อง ก็จะพบไอคอน Play store ปรากฏอยู่ที่ shelf ด้านล่าง
เมื่อคลิกเข้าไปก็จะพบหน้าจอต้อนรับ ซึ่งมาด้วยหน้าจอข้อตกลงในการใช้งาน จากนั้น Chrome OS จะขอเชื่อมเข้ากับ Google Account ผู้ใช้ และที่เหลือก็เป็นขั้นตอนการใช้งาน Play store ตามปกติ
ตัว Android Container ที่มาพร้อมกับอัพเดตนี้เป็น Android Marshmallow รุ่น 6.0.1 ซึ่งทีมงานบอกว่าในอัพเดตถัดๆ ไป จะปรับรุ่นให้เป็น Android N
การใช้งานจริง
เรื่องของแอพสามารถดาวน์โหลดแอพเกือบทั้งหมดลงมาใช้ได้แทบจะทันที เช่น Microsoft Word ยกเว้นแอพบางตัวที่ขึ้นว่าไม่สนับสนุนก็จะโหลดไม่ได้ และต่อให้ดาวน์โหลดได้ แอพบางตัวก็จะทำงานไม่ได้อย่างที่คิด ตัวอย่างเช่น Nova Launcher ที่ผมโหลดลงมาแล้วก็เกิดอาการ Force close ตลอดเวลา หรือแอพอย่าง OneNote ที่มักจะปิดตัวเองเมื่อใช้ไปได้ระยะหนึ่ง
ข้อสังเกตอย่างสำคัญข้อหนึ่งคือตัวแอพเวลาขยายหน้าจอขึ้นมาเต็มๆ ตามปกติจะต้องเหลือช่องให้กับ shelf ด้านล่างได้แสดงผลเอาไว้ (ลองดูในรีวิว ASUS Chromebook Flip ได้) แต่เมื่อใช้แอพ Android แล้วจะขยายจนกระทั่งบางส่วนของหน้าจอจะถูก shelf บังไว้ ทำให้กดไม่ได้ ทางออกชั่วคราวในตอนนี้ระหว่างที่รออัพเดตตัวใหม่ คือสั่งซ่อน shelf โดยอัตโนมัติ
แอพบางตัวที่มีความสามารถหน่อย (อย่างเช่นในภาพคือ Google Play Music) เวลาแสดงผลเป็นหน้าต่างขนาดเล็ก สามารถกดเลือกได้ว่าจะแสดงผลเป็นแนวตั้งหรือแนวนอนได้ด้วย
ในกรณีที่เราโหลดแอพลงมาใช้แล้ว และเปิดใช้ครั้งแรกตอนเปิดเครื่อง ไอคอนจะแสดงสถานะรอโหลดแอพแบบภาพด้านล่าง ซึ่งต้องรอกันสักเล็กน้อยครับ
สรุป
เท่าที่ได้ลองใช้งานมา ต้องบอกว่าใช้งานได้เต็มความสามารถจริงๆ เรื่องอาการช้าแทบจะไม่มีให้เห็น (มีบ้าง ตามที่จะกล่าวต่อไป) แต่สิ่งที่เจอตลอดการลองใช้คือเรื่องของบั๊กต่างๆ ที่ยังไม่เข้าที่นัก (เช่น เปิดเต็มหน้าจออยู่ พอเปลี่ยนไปใช้โหมดแบบแท็บเล็ต กลับแสดงไม่เต็มหน้าจอ) หรือในบางกรณีที่ Play store ปิดตัวเองไปดื้อๆ หรือตอนเล่นเพลงอยู่หากเปิดใช้แอพอื่นคู่ขนาน เพลงก็จะสะดุดหรือยืดเพราะเล่นได้ช้าลง เป็นต้น
สิ่งที่ตอนนี้เราต้องฝากความหวังไว้ คือการที่ Google สามารถจัดการกับบั๊กเหล่านี้ให้ได้ ก่อนที่จะปล่อยไปรุ่นเสถียร (stable) ให้กับผู้ใช้ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ของปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งถ้าแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไปได้ จะทำให้ประสบการณ์ในการใช้แอพ Android บน Chrome OS ราบรื่นและดีขึ้นกว่านี้ครับ
Comments
น่ากลัวจริงๆ ครับ
น่าจะเป็นสวรรค์ของคนเล่นเรือในเร็วๆนี้ เพราะตอนนี้มี Beta ออกบน Android (ผมทดลองอยู่) ซึ่งน่าจะใช้บน ChromeOS ได้ด้วยถ้าออกตัวเต็ม ไม่ต้องกังวลเรื่อง Flash พรุนสะกัดอีกต่อไป
Get ready to work from now on.
อยากขาย Nexus 9 ทิ้งขึ้นมาทันที
อยากสอบถามผู้เคยใช้งานครับ ถ้าเปรียบเทียบกับ Remix OS มันมีข้อดีข้อเสียต่างกันเยอะไหมครับ แล้วอันไหนอนาคตจะไปได้ไกลกว่ากัน
ต้องดูกันยาวๆครับ Remix มันโมจากรอมมือถือ ตอนที่ลอง 2.0 ระบบแจ้งว่าเป็น SS
แล้วเรื่องสเกลผมว่าดูดีกว่า Chrome แต่ไม่รู้ 3.0 แก้เรื่อง พท.รอมหรือยัง
แต่ขอเน้นต้องคอยดูครับจะเอา เบต้ามาเทียบกับมาสเตอร์2.0 3.0 มันก็ห่างกันหลายปีอยู่
Remix OS เล่นเกมลื่นหัวแตกคับ ซื้อแฟลชไดรฟ์มาลองเล่นดูได้เลย d(-_-)
แต่จะลื่นหัวแตกยังไง จะสะดุดได้ง่ายๆ ถ้าไม่ใช้ USB3.0 ทั้งแฟลชไดฟร์และช่องเสียบ
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
ผมไม่ได้ใช้ USB 3.0 ลงเป็น HDD ก็ไวมากๆ ข้อเสียของ Remix คือ มันยังไม่ได้รองรับไดร์ฟเวอร์ที่เกินกว่า Opensource มั้งครับ เวลาใช้กับพวกเน็ตบุ๊คเอาไปดูคลิ๊ป 720,1080p อาจจะกระตุก Remix มันเป็น X86 Android ส่วน ChromeOS มันเป็น Linux ตัดให้เหลือแค่เว็บ สุดท้ายผมว่าเดี๋ยวเค้าก็ต้องรวมไปเป็น Android ไปเลยมั้ง เพราะบนเว็บมันคงทำงานทั้งหมดจริงๆไม่ได้ เดาเอา
ฝากทดสอบ kindle ด้วยได้ไหมครับ แสดงเต็มจอไหมแล้วสามารถหมุนจอตามเครื่องได้ไหม
เนื่องจากผมแคปจอไม่ได้ตอนจังหวะที่ใช้เป็นแท็บเล็ต คำตอบก็คือ
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ฝันที่กลายเป็นจริง คอมเครื่องต่อไปซื้อให้คนที่บ้านใช้คงเป็น ChromeOS นี่แหละครับ
Microsoft จะแก้เกมไงนะครับ
ผมว่า Windows มันทำได้หลายอย่างกว่า แต่ก็ต้องใช้ทรัพยากรณ์เยอะกว่าทำให้การที่จะลดราคาลดสเป็คลงมาแข่งกับ Chrome ไม่เวิร์คอย่างแรงเพราะเครื่องจะอืด ซึ่งผมเข็ดกับการซื้อ Notebook ราคาต่ำหมื่นถึงหมื่นต้นมาก แรกๆก็ใช้ดี ใช้ไปสักพักทั้งค้างทั้งช้าทั้งบัค ถ้าจะลงมาแข่งจริงคงต้องทำ OS ใหม่สำหรับ User แล้วหละครับ
ผมว่าน่าจะหมายถึง Microsoft Office on Android นะครับ ในเมื่อเอามาลง Chrome OS ต่อไปคนใช้ MS Office ผ่าน Chrome เยอะขึ้น แล้วทิ้ง Windows ไป เพราะยังใช้ Office ได้ จะค่อยๆ โดนกลืน
Microsoft Office for Android ก็มีแล้ว ChromeOS ก็รัน Android ได้แล้ว ต่อไปนี้ก็อาจจะไม่ต้องใช้ Windows ก็ได้แล้วสินะ ใช้ระบบปฏิบัติการอื่นก็ได้ใช้ Microsoft Office เหมือนกัน แถมใช้ได้ดีระดับหนึ่งด้วย
microsoft office for android มันใช้งานได้เทียบเท่า for Windows แล้วเหรอครับ ไม่ได้หมายถึงเรื่อง feature นะครับ ผมหมายถึง compatibility อย่างเดียวเลย เปิดมาเพี้ยนกระจายต้องจัด format ใหม่ตลอดแบบ win ไป mac นี่ก็ไม่ไหวนะครับ
สำหรับเรื่อง features ยังมีไม่เท่า W10M เลยครับ. ส่วนตัวผมยังมองว่ามันอยู่กันคนละตลาด แต่ Chrome OS ก็มี potential ที่จะเติบโตอยู่ในตลาดของมันเอง ส่วน Windows ก็ต้องปรับปรุงกันต่อไปถ้ายังอยาก Run Everywhere for Everyone อยู่อ่ะนะ
ສະບາຍດີ :)
ตามหลักมาตรฐานแล้ว MS Word ต่างหากที่เพื้ยน
common user ได้เท่านี้ถือว่าเพียงพอมากเลยครับ
ราบลื่น => ราบรื่น
อย่างนี้จะลง Google Talkback + TTS ต่างๆ ใช้งานได้ไหมครับ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.