ประเด็นความเท่าเทียมทางเพศเป็นเรื่องสำคัญพื้นฐานในทุกวงการอาชีพ Blognone ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับวงการไอทีที่ยังมีปัญหาอยู่
เมื่อมามองดูวงการภาพยนตร์อาจจะยังไม่ชัดนักว่าบนหน้าจอ สัดส่วนตัวละครชายหญิง บทบาท บทพูด เมื่อมานับเฉลี่ยเป็นตัวเลขแล้วมีความเท่าเทียมกันมากแค่ไหน แต่ล่าสุดมีโซลูชั่นสำหรับเรื่องนี้แล้ว โดยใช้ซอฟต์แวร์และอัลกอริทึมช่วยวัดค่าให้แทนคน
สถาบันวิจัยความเท่าเทียมทางเพศในสื่อ Geena Davis Institute on Gender in Media ของมหาวิทยาลัย Mount Saint Mary’s University ในสหรัฐอเมริกา ได้ Google.org ช่วยสนับสนุนด้านงบประมาณ พัฒนาซอฟต์แวร์ชื่อ Geena Davis Inclusion Quotient (GD-IQ) สามารถรวบรวมข้อมูลจำนวนมากจากวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว วิเคราะห์ข้อมูลจากหนังยาว 90 นาทีได้ภายในเวลา 15 นาที ช่วยลดระยะเวลาที่ต้องใช้มนุษย์นั่งเก็บข้อมูลลงได้มาก แถมยังมีความแม่นยำสูงกว่ามนุษย์มาก
ผลการใช้ซอฟต์แวร์ช่วยวิจัยในช่วงแรก ลองทำการวิจัยหนังดังจำนวน 200 เรื่องในปี 2014-2015 อย่างเช่น Jurassic World และ Avengers: Age of Ultron พบว่าในปี 2015 ตัวละครชายปรากฏบนหน้าจอและมีบทพูดมากกว่าตัวละครหญิงถึง 2 เท่า
ภาพจาก Geena Davis
ในหนังที่มีผู้ชายเป็นตัวละครนำ บทและการปรากฏของผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิงมาก (อาจไม่ใช่เรื่องแปลก) แต่หนังที่มีบทผู้หญิงเป็นตัวละครนำ สัดส่วนตัวเลขของผู้หญิงกลับไม่ได้มากกว่าบทของผู้ชาย และมีสัดส่วนการปรากฎตัวพอๆ กัน
ซอฟต์แวร์ยังคงต้องพัฒนาและแก้ไขอีกมาก ซึ่งมีคนมองว่าอยากให้นำเครื่องมือนี้ไปใช้วัดค่าความแปลกแยกทางเพศในวงการอื่นๆ ด้วย
ภาพจาก trailer Jurassic World
ที่มา - Geena Davis Institute on Gender in Media, New York Times
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
มนุษยื ?
ทำไมรู้สึกว่า เรื่องบางเรืองแบบนี้มันดูไร้สาระ บางเรื่องมันก็ไม่ไช่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายจะทำได้และให้ความรู้สึกแตกต่างกันเมื่อเห็น แต่ก็ดีถ้าจะให้เท่าเทียมในอนาคต คำว่า lady first จะได้ไม่ต้องไช้
+1 ไปสนใจกับ Quantity มากกว่า Quality
+1
feministแบบextreme เป็นจำพวกที่ผมกลัวมากๆเลยครับ
อีแบบนี้ผมถือว่ามานั่งจับผิดมากกว่ามาสร้างความเท่าเทียมแล้วล่ะครับ
+1 ครับ
บางทีความแตกต่างก็ควรแยกแยะระหว่าง ความหลากหลาย กับ ความไม่เท่าเทียม
มีหลายอย่างที่ผู้หญิงทำได้ดีกว่าผู้ชาย ทำไมไม่ชูจุดเด่นตัวเองขึ้นมา
เหมือนผัดกะเพราไก่แถวบ้านที่มีแต่ถั่วฝักยาว มันคือความไม่เท่าเทียม!!! แต่ถามว่าอร่อยไหม ก็อร่อยนะ เพราะความลงตัวไม่จำเป็นต้องเท่ากันหรือเยอะกว่าน้อยกว่า มันแล้วแต่จะเสริมสร้างปรับแต่ง
ขอแสดงจุดยืนว่ากะเพราใส่ถั่วฝักยาวไม่อร่อยครับ
+1 ครับ
เรื่องกระเพราถั่วฝักยาวนี่ผมว่าแล้วแต่ร้านนะ เพราะเคยเจอทั้งร้านที่ทำอร่อย และร้านที่ทำไม่อร่อย
แต่ร้านที่ผมจะบอยคอตแน่นอนคือร้านที่ใส่ทั้งถั่วฝักยาวและพริกเขียว แม้จะทำออกมาอร่อยก็ตาม
กะเพราถั่วฝักยาว + พริกเขียว สียังต่างพอจะแยกออกได้ง่าย
ผักบุ้ง + พริกเขียว เนี่ยสิ น้ำตาตกมาหลายทีแล้ว...
ไม่ต้องใส่ผักอื่น นอกจากกะเพรา นั่นดีสุดแล้ว
สำหรับผม ไม่ชอบใส่ถั่วฝักยาวเหมือนกัน และถึงจะใส่ใบกระเพราล้วนๆ แต่ร้านที่ขายผัดกระเพราส่วนใหญ่ ที่ใส่กระเพราขาวนั้น ไม่อร่อยเลย
กระเพราขาว ใบเขียวๆใหญ่ๆ มีแต่กลิ่นเหม็นเขียว ไม่เผ็ด
ต้องใส่กระเพราไทย(หรือที่เรียกกระเพราดำ หรือกระเพราแดง) กระเพราบ้าน แบบเผ็ดถึงใจ(ขนาดไม่ต้องใส่พริกเลยทีเดียว) ถึงจะอร่อย
ปล.กลายเป็นกระทู้ผัดกระเพราไปแล้ว
ททท. โฆษณาต้มยำกุ้งเป็นตัวแทนอาหารประเทศไทย ปีนี้ผลักดันผัดไทย ผมรู้แล้วว่า ปีหน้าควรจะผลักดันอาหารจานไหนต่อไปให้ชาวโลกรับรู้ว่า นี่คืออาหารที่หาได้ทั่วไทย อร่อย จัดจ้าน เด็ดขาด
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
ต้องไม่ใส่ซีอี๋วดำด้วย
ลองๆคิดดูหนังที่มีตัวเอกเป็นผู้ชายมันน่าดูกว่าจริงๆนะ อย่างถ้าแฮร์รี่พอตเตอร์ เปลี่ยนตัวเอกเป็นเฮอร์ไมโอนี่แทน ดัมเบิลดอร์กับโวลเดอมอร์เปลี่ยนไปเป็นผู้หญิงแทน ความน่าดูคงหายไปเยอะเลย หนังที่ผู้หญิงเป็นตัวเอกมันก็ออกจะเป็นแนวผู้หญิงๆ เด็กๆ อย่างซินเดอเรลล่า มาเลฟิเซ่น ส่วนหนังทีตัวเอกเป็นผู้ชายมันจะเป็นหนังที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย
มันขึ้นกับบทที่ส่งให้มากกว่าครับ อย่างซีรีส์ Resident evil (หนังนะ) และ Underworld ก็มีตัวหลักเป็นผู้หญิง อันนี้คงไม่มีใครบอกว่าเป็นหนังเด็กหรือหนัง"แนวผู้หญิง" หรอกนะครับ
หมายถึงส่วนใหญ่นะครับ ผมว่าบทแนวบู๊ๆพอแต่งมาแล้วมันแต่งให้เข้ากับผู้ชายได้ง่ายกว่าผู้หญิงด้วยมั้ง
ผมว่าผู้หญิงมันใส่ลูกเล่นเหมือนผู้ชายไม่ได้
เช่นซีนตีไข่เจมส์บอนด์ผู้หญิงโดนในระดับเดียวกันมันจะดูโหดไป
หรือพวกที่โดนยิงทิ้งยิงขว้างโดนแตะต่อยแบบไร้เหตุผลโดนรถชนปลิวว่อน
ประดับฉากเพื่อความสวยงามระหว่างไล่ล่าพวกนี้ถ้าเอาผู้หญิงมาเล่นก็ไม่ได้อีก
ยิ่งเป็นหนังสตีนิยมตั้งแต่แรกมีแมรี่ซูแน่นอนพอมีคนออกมาวิจารณ์ก็หาว่าเหยียดเพศอีก
ซ้ำ
ทั้งสองเรื่องตัวเอกมันเหนือมนุษย์ครับมันเลยใส่ตัวช่วยเป็นพวกเทคนิคหรือพลังพิเศษให้ตัวละครหญิงสู้ผู้ชายได้
ถ้าเป็นหนังทั่วๆไป
ถ้าตัวเอกเป็นผู้ชาย ถ้าสู้กับผู้หญิงมากๆ ก็เหมือนเป็นการรังแกสตรีอีก สุดท้ายก็ต้องมาสู้กับผู้ชายด้วยกัน
ถ้าตัวเอกเป็นผู้หญิง ถ้าเอาไปสู้กับผู้ชายมากๆ มันก็ดูค่อนข้างเวอร์เกินไป ขาดความสมเหตุสมผล เพราะโดยสามัญสำนึกคนเราก็รู้ๆอยู่แล้วว่า โครงสร้างร่างผู้หญิงมันเสียเปรียบผู้ชาย เอามาสู้กับผู้หญิงด้วยกัน มันก็จะกลายเป็นเหมือนดูผู้หญิงทะเลาะตบตีกัน ดูไม่ค่อยรุนแรง ดุดันเท่าผู้ชายสู้กันอยู่ดี
ผมว่าหนังเดียวนี้เค้าพัฒนาเรื่องบทไปเยอะแล้วนะ บทผู้หญิงแม้จะมีน้อยแต่พอได้ออกฉากนี่ ดึงความสนใจคนดูได้พอสมควรเลย บางเรื่องออกไม่กี่ฉาก แต่เด่นกว่าตัวละครอื่นจนกดความสนใจของตัวละครอื่นไปเลยก็มี(นึกง่ายๆก็BVSไม่ก็Avenger)
+1 ครับ ไม่เกร่อแต่มีคุณภาพ
แนวคิดขององค์กรนี้ คือต้องการให้มีความเท่าเทียมของ screen time ระหว่างชายและหญิงน่ะครับ เพื่อให้คนดูที่เป็นเด็กผู้หญิงมีต้นแบบในอาชีพการงานได้เท่าๆ กับผู้ชาย
ความหวังดีก็ต้องอยู่บนความเป็นจริงและมีเหตุผลด้วย
"เพื่อให้คนดูที่เป็นเด็กผู้หญิงมีต้นแบบในอาชีพการงานได้เท่าๆ กับผู้ชาย" เอิ่ม Avengers กับ Jurassic world
คือถ้าเป็นเด็กผู้ชายก็อาจจะพยายามเลียนแบบนะอย่างเช่นอยากเป็น iron man, cap, spidy แต่อยากให้เด็กผู้หญิงเลียนแบบอยากเป็น Black widow, Scarlet witch จริง ๆ เหรอ? หรือมันมีอะไรที่ลึกกว่านั้น?
ถ้ากำลังพูดถึงในประเด็นเรื่องการแต่งตัวของตัวละครหญิง ต้องไปแก้ตั้งแต่การออกแบบตัวละครเลยครับ เพราะแทบทุกคนมักจะมาพร้อมกับการแต่งตัวละชุดที่เน้นสัดส่วน (บางคนออกแนว sexy และบางคนอีกนิดเดียวก็โป้แล้ว) มากกว่าเน้นให้เข้ากับความสามารถ อย่าง Blackwidow แค่รูดซิปขึ้นให้สุดก็ช่วยได้เยอะแล้ว หรือไม่ก็ออกแบบใหม่อย่าง Batgirl แบบล่าสุดครับ
misuse statistics again
แนะนำหนังในฝันของนักสิทธิสตรี
ที่น่าลองเอาซอฟแวร์นี้ไปวิเคราะห์ดู(เพราะตัวละครหลักเกือบทั้งหมดเป็นเพศหญิง)
No Men Beyond This Point (2015)
http://www.imdb.com/title/tt2556936/
เป็นหนังจากประเทศแคนาดา ฉายเมื่อต้นปีที่แล้ว
สร้างเป็นสารคดีจำลอง(mockumentary)
ติดตามชีวิตชายวัยกลางคน ที่เป็นหนึ่งในผู้ชายที่อายุน้อยที่สุด
เขามีอาชีพที่ดีมากเท่าที่เป็นไปได้ในเรื่อง คือ พ่อบ้าน(housekeeper) ให้กับครอบครัว ภรรยา-ภรรยา ที่มีลูกหลายคน
เนื่องจากหลายสิบปีก่อนหน้า ผู้หญิงเริ่มสามารถตั้งท้องเองได้โดยไม่ต้องใช้สเปิร์ม และเด็กที่เกิดมาทั้งหมดเป็นเพศหญิง
อาชีพหลักๆทั้งหมดในสังคมถูกทำโดยเพศหญิง(ก็ไม่เหลือผู้ชายมากเท่าไหร่แล้วนี่หว่า)
มีการปราบปรามการประท้วงเรียกร้องสิทธิบุรุษ
มีการตั้งเขตกักกันหรือสถานพักฟื้น(Sanctuary) สำหรับบุรุษที่สูงอายุหรือหางานทำไม่ได้
-- สรุป --
หนังตั้งคำถามถึงบทบาทและความสัมพันธ์ในสังคมของทั้งสองเพศ
ไปดูเรื่องความเท่าเทียมในเรื่องค่าตัวอะไรดูจะสมเหตุสมผลกว่านะ
ใส่ Transformer ไป
ได้ข้อสรุปว่า หุ่นยนต์นำ ตกกระป๋องทั้งชาย-หญิง.. :P
โดนอยู่ดีครับ เพราะหุ่นยนต์ใน Transformer ก็มีแบ่งเพศเหมือนกัน :P
ถ้าไปใช้กับอนิเมญี่ปุ่น
เหล่าสิทธิสตรีคงดีใจจนน้ำตาไหล
Halem style
ผู้หญิง 5 บาป ผู้หญิงปรากฏตัวเยอะกว่า
Tokyo Hot ผู้หญิงออกเยอะกว่านะครับ
บางเรื่องผู้ชายก็เยอะกว่านะครับ !