กลุ่มองค์กรสิทธิมนุษยชนกว่า 50 องค์กรรวมตัวกันเรียกร้องต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ให้ช่วยพิจารณาขอบเขตของกฎหมายและสืบสวนหาข้อเท็จจริงในการนำเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าไปใช้งานอย่างไม่เหมาะสม หลังเทคโนโลยีนี้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายและมากเกินความจำเป็น จากภาครัฐ ทั้งตำรวจและ FBI
กลุ่มองค์กรเผยว่า ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายที่จำกัดการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้อย่างมีขอบเขตและเป็นธรรม โดยชี้ว่าเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าแทบถูกเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงนำไปใช้งานอย่างแพร่หลาย และอาจนำไปสู่การใช้งานโดยอคติ ซึ่งกรณีนี้กระทรวงยุติธรรมกำลังสอบสวนองค์กรตรวจอยู่ด้วย
ขณะเดียวกันการวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัวของเมือง Georgetown เผยว่าชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่กว่าครึ่งในพื้นที่หนึ่งๆ เคยถูกเจ้าหน้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ตรวจจับใบหน้าสแกนไปแล้ว รวมถึงชี้ด้วยว่าจากสำนักงานตำรวจ 106 แห่งทั่วประเทศ มีเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายในการใช้งานเทคโนโลยีนี้
ขณะที่สำนักงานตำรวจส่วนใหญ่ ไม่มีกระบวนการตรวจสอบการใช้งานซอฟต์แวร์ด้วยว่า สามารถตรวจจับใบหน้าได้ถูกต้องเพียงใด หลังมีงานวิจัยชี้ว่า ระบบตรวจจับกลุ่มคนผิวสี (African-American) ผิดพลาดราว 5-10% มากกว่ากลุ่มคนผิวขาว
ที่มา - TechCrunch
Comments
สิทธิเยอะจริงๆเลย ประเทศนี้ น่าไปอยู่ ครอบครองปืนก็ไม่ผิดกฎหมาย
บ้านเราก็สามารถครอบครองปืนแบบไม่ผิดกฎหมายได้เหมือนกันครับ