สืบเนื่องจากที่ Tesla ออกมาประกาศว่า ฮาร์ดแวร์ของรถยนต์ที่ถูกผลิตตั้งแต่ตอนนี้ รองรับระบบไร้คนขับแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งถึงแม้จะต้องรออีกหลายปีกว่าซอฟต์แวร์จะพร้อม แต่บริษัทก็ออกมาประกาศกั๊กเจ้าของรถที่หัวใสแล้วว่า ห้ามนำระบบไร้คนขับของ Tesla ไปหารายได้ด้วยการรับส่งคนภายใต้บริการอย่าง Uber หรือ Lyft
สาเหตุสำคัญก็คงหนีไม่พ้น การที่ Tesla มีโครงการที่ให้เจ้าของรถสามารถนำรถของตัวเองที่ไม่ได้ใช้ ไปสร้างรายได้ด้วยการรับส่งคนอยู่แล้ว ซึ่งเป็นโครงการภายใต้แผนการขั้นสุดยอด ตอนที่ 2 หรือ Master Plan, Part Deux โดยเว็บไซต์ The Verge ระบุว่าทาง Tesla มีการพูดถึง Tesla Network ในการประกาศห้ามครั้งนี้ด้วย แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ที่มา - The Verge
Comments
เพราะจะทำเองไง
ถ้าทำจริงนี่ น่าซื้อขึ้นเยอะเลย
ขับไปทำงานตอนเช้า เสร็จแล้วก็ปล่อยให้มันไปหารายได้มาให้เรา
พอใกล้เลิกงานก็เรียกมันมารับเรากลับบ้าน
ทำเองแน่นอนคับ เพราะอยู่ใน roadmap ของทางบริษัทครับ
ความฝันของโลกอัตโนมัติในระยะยาวคือคนเราจะเลิก "ซื้อรถ" ไปเลยครับ เพราะสามารถกดเรียกรถเมื่อไหร่ก็ได้ รถมีจำนวนมากพร้อมตลอดเวลา กดแล้วรอ 15 นาทีรถก็มารับแทบจะเสมอ การซื้อรถกลายเป็นของแพงที่ไร้ความจำเป็น
lewcpe.com, @wasonliw
+1
ผมสงสัยว่า Tesla มี "สิทธิ์" บังคับเจ้าของรถได้ด้วยเหรอ? ในเมื่อสิทธิ์การใช้งานรถทั้งหมดเป็นของเจ้าของรถ
คือเคสนี้มันเหมือนกับเราซื้อเพลงมาแผ่นนึง แล้วห้ามนำไปปล่อยให้เช่าต่อรึเปล่าครับ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ถ้าไปห้ามคงไม่ได้แต่อาจจะหลุดประกันหรือไม่รับผิดชอบกรณีผิดพลาดอะไรอย่างนี้มั้งครับ
ระบบไร้คนขับมันสามารถไปหาที่จอดเองได้มั๊ย
ได้ครับ