คณะกรรมการด้านการค้าของสหรัฐ (Federal Trade Commission หรือ FTC) ยื่นฟ้อง Qualcomm ในข้อหาพยายามผูกขาดชิปสื่อสาร/โมเด็มสำหรับสมาร์ทโฟน โดยใช้เทคนิคด้านค่าสิทธิบัตรกีดกันผู้ผลิตสมาร์ทโฟนไม่ให้ใช้ชิปของคู่แข่ง
Qualcomm เป็นผู้นำตลาดชิปสื่อสาร (baseband processor) อยู่แล้ว และบริษัทมีสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารระบบ cellular เป็นจำนวนมาก ตามปกติแล้ว กรณีที่บริษัทใดๆ มีสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานขององค์กรกลาง เจ้าของสิทธิบัตรจะคิดค่าไลเซนส์ในราคาที่ยอมรับได้และเป็นธรรม (fair, reasonable, and non-discriminatory หรือ FRAND)
แต่สิ่งที่ Qualcomm ทำคือขายพ่วงชิปของตัวเองร่วมกับค่าไลเซนส์สิทธิบัตร เพื่อกีดกันไม่ให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนไปใช้ชิปของคู่แข่ง โดย FTC แจกแจงเป็นข้อหาดังนี้
FTC ขอให้ศาลสั่งห้าม Qualcomm กระทำการ 3 ข้อข้างต้น เพื่อให้ตลาดชิปสื่อสารกลับมามีสภาวะแข่งขันได้อีกครั้ง ที่เหลือก็เป็นขั้นตอนตามกระบวนการของศาลต่อไป
ฝั่ง Qualcomm ออกแถลงการณ์ตอบโต้ข้อหาของ FTC โดยระบุว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีน้ำหนักและเหตุผลสนับสนุนที่ดีพอ บริษัทปฏิเสธว่าไม่เคยตั้งเงื่อนไขขายชิปพ่วงไลเซนส์ และจะต่อสู้คดีในศาล
ก่อนหน้านี้ไม่นาน รัฐบาลเกาหลีใต้ก็สั่งปรับ Qualcomm ในข้อหาผูกขาดชิปสื่อสารในลักษณะเดียวกันมาแล้ว โดย Qualcomm ระบุว่าจะยื่นอุทธรณ์ นอกจากนี้ Qualcomm ยังถูกสอบสวนจากข้อหาเดียวกันในสหภาพยุโรปและไต้หวันด้วย