วันนี้ตัวแทนคนขับแท็กซี่ราว 40 คนรวมตัวกันไปยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ดำเนินการจัดการ Uber และ Grab Car อย่างเด็ดขาด ฐานเข้ามาประกอบอาชีพผิดกฎหมาย แย่งงานและทำลายอุตสาหกรรมของคนไทย รวมถึงเป็นแอพจากต่างชาติ เป็นการนำเงินออกนอกด้วย
นายกสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ย้ำด้วยว่า Uber และ Grab Car ส่งผลกระทบต่อแท็กซีที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยเรียกร้องให้กระทรวงบล็อกช่องทางบนโซเชียลมีเดียของทั้งสองบริษัทด้วย เนื่องจากถูกใช้เป็นช่องทางในการเชิญชวนให้สมัครเป็นผู้ให้บริการ พร้อมยืนยันว่ากรณีที่แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น สังคมเหมารวมไปเอง แถมแท็กซี่ที่ทำความดีก็มีให้เห็นบ่อยๆ
ทั้งนี้กรมการขนส่งระบุว่า กำลังจัดทำร่างกฎหมายใหม่ 2 ฉบับ ซึ่งกำหนดให้แท็กซี่ต้องติดตั้ง GPS พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับ กล้องแบบ Snapshot ปุ่มฉุกเฉิน (ที่ส่งข้อมูลมาที่ศูนย์ GPS) มีระบบแจ้งเตือนการใช้ความเร็ว และระบบเรียกใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นผ่านสมาร์ทโฟน โดยกฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้วและอยู่ระหว่างคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ก่อนส่งกระทรวงคมนาคมลงนามประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
ที่มา - ผู้จัดการ
Comments
มองบน..
แล้วคนที่ขับอูเบอร์กับแกร็บไม่ใช่คนไทยเหรอครับ???
นายกสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ควรจัดการคุณภาพการให้บริการของตัวเองให้ได้ก่อนนะครับ
ยังจำได้ไม่ลืมเลย โบกแท๊กซีหน้า เซ็นทรัลเวิล มีแต่แก๊สหมด ส่งรถ ครึ่งชั่วโมงก็ไม่ได้ไป สุดท้ายเรียก ตุ๊กๆ สามล้อ ไปหมอชิต
ถึงผมจะไม่ชอบ Uber แต่ผมอยากถามกลุ่มแท็กซี่พวกนี้ว่า "คุณทำหน้าที่ของคุณหรือยัง" เพราะวันนี้ก็โดนปฏิเสธทั้งๆ ที่แค่นั่งจาก BTS ราชเทวีไปพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำ แล้วฝั่งที่ผมเรียกคือฝั่งโรงแรมเอเชีย ที่แค่เลี้ยวขวาแล้วตรงไปตามทางก็ถึงแล้วครับ
ขอโทษนะครับ แท็กซี่ที่ทำงานกันดีๆ รวมตัวกันยื่นฟ้องได้มั้ยครับ ยื่นฟ้องพวกที่ทำลายอาชีพคนไทยด้วยการขับแท็กซี่แบบที่เห็นๆ กันอยู่นั่นน่ะครับ
คือนายกสมาคมเค้าไม่รู้จริงๆ หรอว่าต้องแก้ปัญหาตัวเองด้วย ไม่เห็นบอกว่าจะทำอะไรยังไงเลย
สำหรับด้านค้านก็ค้านไป แต่ไม่แก้ปัญหาตัวเองด้วยนี่สิ
เค้ามีไว้ทำไมหรอ นายกสมาคมเนี่ย
คือถ้า Uber กับแท็กซี่ทั่วไปให้บริการได้ระดับเดียวกัน ผมว่าแท็กซี่ทั่วไปสะดวกกว่ากันเยอะนะครับ อยากโบกก็โบก ไม่ต้องรอนานเท่าไหร่เพราะผมว่าแท็กซี่มีเยอะมากกกกกก
แต่คือ Uber เจอคนขับไม่ดีเค้าคัดออกไงครับ แต่แท็กซี่ไม่มีอะไรมาคัดออกแล้วปล่อยให้สะสมไว้เรื่อยๆ จน...
จริง ๆ กลไกมีครับ เคยคุยกับนักกฎหมายเขาว่า จริง ๆ ตอนเปลี่ยนมาเป็น Taxi Meter เขาพยายามจะให้มี Taxi อิสระน้อยลงแล้วใช้ระบบแบบบริษัทลงมาดูแลมากขึ้น แต่ว่ามันมีช่องโหว่ กลายเป็นคนเปิดอู่รถมาให้คนเช่าแทน
ถ้าทำแบบระบบบริษัท ลดจำนวน Taxi อิสระลง การควบคุมก็จะง่ายขึ้น ฝั่งขนส่งก็ไปไล่บี้บริษัทแทน แทนที่ในปัจจุบันทุกที่เป็น Taxi อิสระกันหมด อู่ปฎิเสธความรับผิดชอบ การตรวจสอบมีน้อย กลายเป็นขนส่งเหนื่อยที่ต้องไปไล่บี้รายบุคคล
แถมพวกนี้ตั้งตัวเป็นสมาพันธ์ออกมาคุ้มครองตัวเองอีกต่างหาก เรียกว่าเป็นกลุ่มมาเฟียไปแล้วก็ว่าได้
ผมไม่เข้าใจเงื่อนไขอู่นี่แหละ เห็นมีคนบอกแค่มีตังก็เช่าได้ ไม่เอาเอกสารอะไรทั้งนั้นซึ่งมันไม่ใช่ถ้าแบบนั้น ยึดใบอนุญาตไปก็ไม่มีประโยชน์ เถื่อนไม่ต่างจาก Uber Grab ถูกแค่ประเภทรถ
วันก่อนผมโบก taxi จากช่องนนทรีย์ไป terminal 21 ยังไม่ไปเลยครับ อ้างว่าไม่ทัน ไม่รู้อะไรไม่ทัน
แล้วก็เรียกอูเบอร์แทน
เอาตรรกะเดียวกันผู้ใช้รถแทกซี่รวมตัวกัน 40 คนยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ดำเนินการจัดการผู้ขับขี่แทกซี่ไร้พัฒนาการ และไม่มีวีแววจะมีพัฒนาการบริการให้ไปทำมาหากินอย่างอื่นซะ ถนนจะได้ยกระดับขึ้น..บ้างได้มั้ย
มันน่าจะมีระบบแบบว่า คำนวนเวลาส่งรถ พอใกล้ถึงเวลาส่งรถให้รถ lock meter เลย จะได้รับผู้โดยสารไม่ได้ (แบบวิ่งครบจำนวนชั่วโมงแล้วตัดมิเตอร์) จะไปรีบๆขับกลับไป ไม่ต้องมารับผู้โดยสารระหว่างทางที่จะไปส่งรถ เสียความรู้สึก ผู้โดยสารไม่ใช่คนขอติดรถกลับทางผ่าน เห้อ
การที่ประชาชนยอมรับการใช้งานของบริการที่ไม่ถูกกฏหมายอย่างเต็มใจเพราะการบริการที่ดีกว่า ถึงแม้อาจจะแพงกว่าไปบ้างเล็กน้อย พวกคุณๆที่อ้างว่าตัวเองเป็นบริการที่ถูกกฏหมาย ก็ควรพิจารณาตัวเองบ้างนะครับ
"พร้อมยืนยันว่ากรณีที่แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น สังคมเหมารวมไปเอง" สุดยอดแห่งความด้อยพัฒนา นอกจากไม่ยอมรับว่าตนเองมีปัญหาแล้ว ยังดูถูกคนไทยกันเองอีกด้วย ไม่รู้จะสรรค์หาคำอะไรมาด่า
https://www.youtube.com/watch?v=8HCCBXHe-vw
รัฐมนตรียังโดนไป 21 คัน
มีนักข่าวช่องนึงไปถ่าย โดนปฏิเสธไป 15 คัน
ผมเคยโดนปฏิเสธไปมากที่สุดเกิน 30 คัน
ไม่รู้แท๊กซี่ดีๆมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนหมดถึงเราถึงได้เจอแต่แท๊กซี่ เ_ี้ยๆ
"พร้อมยืนยันว่ากรณีที่แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น"
เอิ่ม
Taxi ปฏิเสธผู้โดยสารเป็น bug ที่ reproduce ได้นะครับ
ท้าไปยืนโบกหน้า central world เลย ผมเคยโบกเป็น 10 คัน ไม่มีใครไป
พร้อมยืนยันว่ากรณีที่แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น สังคมเหมารวมไปเอง แถมแท็กซี่ที่ทำความดีก็มีให้เห็นบ่อยๆ
มองบน
ชักแม่น้ำทั้งห้า
ยืนยันอีเสียงครับว่า แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารมีเพียงส่วนน้อย
ผมเรียกแท็กซี่จากสถานีราชเทวี 4 คัน ปฏิเสธหมด 4 คัน เป็นส่วนน้อยมากจากแท็กซี่ที่วิ่งอยู่ใน กทม ครับ
อยากเห็นแท็กซี่ดีๆรวมตัวกันฟ้องแท็กซี่เลวๆที่มีส่วนน้อย แต่ทำให้ส่วนใหญ่เดือดร้อน คนพวกนี้แหละคือคนที่ทำลายอาชีพของแท็กซี่
... ครับ ...
ผมเคยโดนแท๊กซี่ปฏิเสธครั้งเดียวมากกว่า 30 คัน ยืนโบกประมาณชั่วโมงนึง จนไปงานไม่ทัน นี่แหล่ะแท๊กซี่ไทย
555 ไม่ดูตัวเอง
นอกจากนี้ อาจมีสาเหตุอื่นอีกที่ทำให้ต้องปิดบริการ เช่น จัดทำระบบเรียกใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นผ่านสมาร์ทโฟน คล้ายตอนที่ไล่ Uber Moto แล้วเปิดบริการของตนเองเลย ว่าแต่ตอนนี้แอปนั้นเป็นไงบ้าง
ยื่นด้วยเหตุผลแบบนี้มันน่าไหม ควรจะยื่นเหตุผลที่เป็นข้อไม่ดีต่อภาพรวมส่วนรวมหรือผู้ใช้งาน
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมว่า Uber ก็ทำผิดกฎหมายจริงนะครับ แถมถ้ามองกันคนละหมัด การออกมาขับ Uber หรือ Grab สร้างรายได้ให้คนขับได้น้อยกว่าด้วยซ้ำ
คือควรจะเยอะกว่านี้ เพื่อดึงดูดคนมาขับ เราจะอ่านข่าวย้อนหลังไปได้หลายๆข่าวหรือแม้แต่รีวิวคนขับจริงๆของ Uber พบว่ามันไม่สวยหรูอย่างที่คิดเลย ปัญหาภายในของบริษัทก็มีมากมาย องค์กรสร้าง Solution มาตอบปัญหาของคนแท้ๆ แต่ดันไม่ทำให้ Partner ดีขึ้น ก็คือ สร้าง Uber มาในจุดประสงค์หลักคือ "ต้องไม่ปฏิเสธรับผู้โดยสาร" แต่ดันให้รายรับกับคนขับน้อยมากจนแทบอยู่ไม่ไหว ........ ผมกำลังจะบอกว่า "ถ้าขึ้นราคา Uber ให้แพงกว่านี้แต่รักษาบริการไว้ น่าจะดีกว่ามั้ย" .... แต่สุดท้ายพวกเราก็ไม่เห็นคุณภาพชีวิตคนขับ uber ดีขึ้น
ส่วนทาง Taxi เดิมของไทยก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหา "ไม่รับผู้โดยสาร" ได้สักที
เพราะเหตุผลหลักๆของพวกเขา คือต้องการวิ่งรถให้มันคุ้มเท่านั้น
เช่น รับลูกค้า 1 วิ่งไปในสักที่ ลูกค้า 1 ลง ลูกค้า 2 ขึ้นทันที แล้วเส้นทางที่ลูกค้า 2 ก็ไปตรงที่เดียวกับอู่เพื่อส่งรถพอดีอีก (ปีนึงมันจะมีกี่คน route แบบนี้)
หรือ ลูกค้าไปในเส้นทางที่รู้จัก ไม่ขับหลง
หรือ ต้องการให้เหมาค่าเที่ยว ไม่กดมิเตอร์
หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่วิ่งแล้วได้คุ้มที่สุด ซึ่งมันเป็นปัญหาที่ทางรัฐแก้ไขให้ไม่ได้ (คือไม่พัฒนาระบบ sharing economy) เมื่อปัญหาไม่ถูกแก้ไขก็ต้องมีคนแก้ปัญหานี้ กลายมาเป็น uber และ grab
ก็สู้กันต่อไปครับ แต่ถ้าผมเป็น uber ผมอยากทำให้คนขับมีรายได้ดีกว่านี้นะ
คุณมีสิทธิเลือกอาชีพอื่นเสมอนะครับ... ถ้าแทกซี่บอกว่าวิ่งแล้วไม่คุ้ม แล้วเลิกไปทำอาชีพอื่นกันหมด จนแทกซี่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ หาโบกได้ยาก โอกาสวิ่งรถเปล่าก็จะน้อยลง คนวิ่งก็จะคุ้มเองครับ หรือไม่ก็อาจจะมีการพิจารณาปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้น ดึงคนเข้ามา แต่นี่แห่กันมาขับจน Supply ล้น แต่เป็น Supply ที่ไม่ตอบ Demand มันก็เลยคาราคาซังอยู่ยังงี้
ย่อหน้าสุดท้าย ร่างกฎหมายออกมาเกาไม่ถูกที่คันซะจริงๆ สิ่งที่กระทรวงคมนาคมลืมนึกถึงคือการกับกำดูแลบริการแบบนี้โดยนำข้อมูลจากระบบมาใช้ กฎหมายเก่าล้าหลัง คิดแต่ว่ารถไม่ปลอดภัยอย่างเดียว ถ้ากำกับดูแลเองไม่ได้ น่าจะยอมรับแล้วร่างกฎหมายให้เอกชนกำกับดูแลโดยมีหลักเกณฑ์ที่ไม่เอาเปรียบคนใช้ยังจะดีซะกว่า ตัวกระทรวงเองนั่นแหละที่ควรจะถูก disrupt ไปซะเอง
พยายามมองในแง่ดีไว้ ในอนาคตเขาอาจเอาข้อมูล GPS ไปใช้สร้างแอพต่ออีกทีนึง......ตื่นๆๆๆ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เรื่องผิด กม. ก็ส่วนผิดล่ะครับ Grab Uber ผิด กม.จริง
แต่เรื่องที่เอามาอ้างความชอบธรรมว่าโดนทำลายอาชีพนี่ ผมว่า taxi ทำลายตัวเองนะจากการให้บริการของตัวเองนั่นล่ะ
ตลกเรื่องที่ คมนาคม เคยเอามาอ้างว่า การร้องเรียนน้อยลง แสดงว่าเทกซี่ปฏิเสธผู้โดยสารน้อยลง
ตลกละครับ เขาชาชินตะหาก แจ้งไปก็เท่านั้น เคยคุยกับแทกซี่เขาบอกว่าเขาไม่สนใจแล้ว ปรับก็ปรับไป ค่าตีรถเปล่าหรือไปเจอรถติดบางครั้งค่าใช้จ่ายเยอะกว่า ทุกวันนี้ผมโบกแทกซี่ถ้าไปในโซนรถติดนิดหน่อย หรือห่างตัวเมืองนี่โดนปฏิเสธรัวๆ ถ้าไปโซนติดมากนี่เลิกเลย ไปรถเมล์ไวกว่าเพราะไม่มีใครไป
ผมว่า คมนาคม ถ้าจะประหาร Uber Grab ทิ้ง ก็ทำเถอะครับ แล้วมาปฏิรูประบบ taxi ไทยให้ดี ให้มีการตรวจสอบเข้มข้นกว่านี้ ถ้าไม่มีโดนปฏิเสธรัวๆนี่ ผมก็ไม่ไปใช้ Grab หรอก โบกเอาไวกว่าเยอะ
พอเสียผลประโยชน์ ก็อ้างทำลายอาชีพคนไทย
แต่พอคนไทยเรียก ก็ไม่รับ ก็อ้างทำมาหากิน ไปแล้วไม่คุ้ม
เรียกร้อง, ร้องเรียน ขอความเห็นใจ หากเสียผลประโยชน์ แต่ไม่ต้องเคารพสิทธิของผู้อื่นและไม่ต้องทําตามกฎ
มองบน..
เหมือนอาชีพขับแทกซี่ จะเป็นอาชีพสงวนตามกฎหมายป่าวครับ แต่กฎหมายโครตล้าหลัง (รวมถึงช่างตัดผมด้วยป่ะ ?)
เค้าสงวนไว้ ผมว่าก็ถูกแล้วนะ ไม่งั้นให้ต่างด้าวมาขับพอมีเรื่อง หนีกลับประเทศตัวเอง จบละ...
แต่ตอนนี้ก็ใช่ว่าจะดีกว่ากัน..บัตรไม่เคยจะตรงกับหน้า
อีกไม่เกิน 10 ปีได้โดนทำลายแบบไม่เหลือซากแน่นอนเพราะรถยนต์อัตโนมัติปลอดภัยไม่โดนแทงไม่บ่นไม่บ้ากามไม่ส่งรถ
วันนี้ไม่มีรถใช้ โบกเรียกไปออฟฟิศ ห่างประมาณ 4 กม. เจอทั้งแก๊สหมด, ส่งรถ, รถติด
สุดท้ายกด Uber X รอมารับที่บ้าน รอ 15 นาที นั่งไปอีก 28 นาที ค่าโดยสาร 76.87 บาท
ผมมอง กลไก การเอา TAXI เลวออกจากระบบ
ศักยภาพ เท่ากับ 0.00001
ผมทำประกอบการรถบรรทุก
กฎหมาย บังคับ ต้องเสียบใบขับขี่ ให้ตรงประเภทรถ
ทำไม มาบังคับรถบรรทุก ก่อน
มันน่าจะ บังคับรถสาธารณะ ภายใน 1เดือน ด้วยซ้ำไป
ไม่งั้น คนจะรู้ได้ไงว่า ที่ขับอยู่ โดนคดีอะไรอยู่รึเปล่า
เรียกแล้ว ไม่ไป ทำยังไง ระบบจึงจะรู้ แล้ว ลงโทษได้
ถ้า กรมฯ ยังดันทุรัง ให้ระบบทำแบบที่เป็นอยู่ต่อไป
ผมคิดว่า เลิก TAXI ไปเลยดีกว่า
ปล่อยให้ เสรี เอารถอะไรมาวิ่งก็ได้ ไปเลย
ใบขับขี่อะไรมาวิ่งก็ตามสบาย
ให้เอกชน เขาแข่งกัน คัดกรองคนไม่ดี ออกไปเอง
เครดิตบูโร ของ ระบบคนขับรถรับจ้าง เลย
ใครไม่ดี ส่งเข้า ระบบกลาง
ถ้าไม่โดน คนที่ ก้ำกึ่ง ลูกผีลูกคน มันจะไปทางทำเลว ซะมาก
มันต้องโดน นะครับ ไม่งั้น มันจะดื้อด้านอยู่อย่างนี้
มีแต่จะทำให้ เสียหายหนักขึ้น