จุดอ่อนสำคัญของระบบปฏิบัติการ Windows คือการรองรับจอภาพความละเอียดสูง (High DPI) ที่แอพพลิเคชันรุ่นเก่าหลายๆ ตัวไม่สามารถขยายขนาดตามความละเอียดจอภาพ (scaling) ได้ดีนัก โดยเฉพาะการต่อสองจอที่ความละเอียดไม่เท่ากัน ส่งผลให้เกิดปัญหาตัวหนังสือเบลอ หรือแสดงผลหน้าต่างใหญ่-เล็กเกินไป
ในโอกาสที่ Windows 10 Creators Update กำลังจะเปิดให้ดาวน์โหลด ไมโครซอฟท์ก็ออกมาอธิบายการเปลี่ยนแปลงเรื่อง High DPI Scaling ว่าปรับปรุงไปอีกเยอะพอสมควร และช่วยให้การแสดงผลแอพพลิเคชันดีขึ้นกว่าเดิม แก้ปัญหาเดิมๆ ไปเกือบหมด แม้จะยังมีปัญหาบางจุดหลงเหลืออยู่ก็ตาม
สิ่งที่ไมโครซอฟท์แก้ไขใน Creators Update มีดังนี้
สิ่งสำคัญของ Creators Update คือไมโครซอฟท์ออก API ตัวใหม่ Per-monitor DPI awareness V2 (PMv2) เพื่อให้แอพพลิเคชันตรวจสอบได้ว่า ตอนนี้ทำงานอยู่ในความละเอียดระดับไหน
PMv1 ถูกเพิ่มเข้ามาใน Anniversary Update แต่ยังมีข้อจำกัดที่ว่า โพรเซสชั้นบนสุด (top-level process) ของแอพนั้นๆ เท่านั้นที่สามารถรู้ถึงข้อมูล DPI ที่ใช้อยู่ ถ้ามีโพรเซสลูกหรือหน้าต่างย่อย ก็ต้องส่งค่า DPI ระหว่างกันเอง (ซึ่งนักพัฒนาส่วนใหญ่ก็ไม่ทำ) แต่พอมาเป็น v2 ก็ไม่ต้องทำเองแล้ว
นอกจากนี้ PMv2 ยังแก้ปัญหา UI ของระบบบางจุดที่สเกลขนาดไม่ถูกต้อง เช่น เมนู สกรอลบาร์ ไดอะล็อกบ็อกซ์ ให้แสดงขนาดได้เหมาะสมกว่าเดิม
PMv2 เป็นเครื่องมือช่วยให้นักพัฒนาปรับแก้แอพของตนให้เหมาะกับจอ DPI ต่างขนาดกัน แต่ถ้านักพัฒนาไม่ยอมแก้ ผู้ใช้จะทำอย่างไรดี
ไมโครซอฟท์จึงออกสิ่งที่เรียกว่า DPI-scaling overrides หรือการบังคับค่า DPI ให้แต่ละแอพ สามารถเลือกได้ผ่านเมนูคลิกขวาที่ไฟล์ .exe เลือก Properties และหมวด Compatibility ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด
นอกจาก 2 อย่างที่กล่าวมาแล้ว ไมโครซอฟท์ยังปรับปรุงแอพพลิเคชันเก่าๆ ของตัวเอง ให้รองรับหน้าจอ High-DPI ได้ดีขึ้น เช่น Internet Explorer, Office 2016 หรือการแสดงผลไอคอนของ Windows เอง ให้ถูกต้องกว่าของเดิม
ตัวอย่างไอคอนที่ขยายขนาดผิด (Anniversary Update)
ตัวอย่างไอคอนที่ขยายถูกแล้ว (Creators Update)
ไมโครซอฟท์ยอมรับว่า Windows 10 ยังมีปัญหาเรื่องการแสดงผล High DPI หลงเหลืออยู่ เช่น แอพเก่าๆ บางตัวถูกกำหนดค่าความละเอียดมาตายตัวที่ 96 DPI ซึ่งในอดีตไม่ใช่ปัญหา แต่ปัจจุบันเป็นปัญหา และไมโครซอฟท์จะพยายามแก้โค้ดเหล่านี้ให้ทันสมัยมากขึ้น
ที่มา - Windows Blog
Comments
แก้ปัญหาได้ดีเท่า macOS หรือยังครับ แต่ผมว่ายังไงก็แก้ไม่หมด ถ้าไม่ได้เป็น PDF base ตั้งแต่แรกเหมือน macOS
ถ้าเป็น UWP ก็ไม่มีปัญหาใดๆ ครับ มันออกแบบมาให้รองรับตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ส่วนแอพเก่าๆ ที่เป็น GDI ก็ตามแก้กันไป ถ้าจะเทียบก็คงเหมือน Mac Classic ที่ไม่ใช่ Cocoa แต่ยังใช้งานกันอยู่ เทียบแบบนี้ ยังไงก็แพ้ Mac แน่นอน
โอ้ววว ลองอัพดูแล้วทำไมมันแย่กว่าก่อนอัพอีกล่ะนี่
แย่กว่ายังไงครับ?
แจ้งไปที่ไมโครซอฟท์เลยครับ จะได้พอแก้ไขทันก่อนปล่อยตัวจริง หรืออัพเดตตามหลังอีกที
ผมกับ @virusfowl อัพแล้วแบตอึดขึ้นนะครับ ส่วนตัวผมยังไม่เจอปัญหาอื่นที่แย่ลง ที่เจอแย่ลงนี่ตรงไหนครับผมจะได้ไปเช็คบ้างเผื่อเป็นเหมือนกันแต่ไม่ทันรู้ตัว
อัพแล้วมัน Reset Default App หมด
MS ถือวิสาสะอะไรมาปรับ Pesonalize Setting ของผู้ใช้แบบนี้
pdf กลับไปเป็น IE
Default Browser กลับไปเป็น Edge และไม่มี Firefox ให้เลือกในหน้าแรก (แต่ถ้าเลือก Default App by protocol จะมี Firefox ให้เลือก)
Default Music, Video กลับไปเป็นโปรแกรมของ MS หมด
แย่มาก
ของผมไม่โดนรีเซ็ตสักตัวนะครับแต่โดนลบแทน จะเปิดรูปมันยังถามเลยจะใช้อะไรเปิดดี
เรื่อง reset default app ไม่แน่ใจครับ (ปกติใช้ default มั้งนะ) แต่โดนลบนี่เป็นเหมือนกันครับ
Jusci - Google Plus - Twitter
โดนลบเหมือนกัน
ปัญหาแรกที่เจอคือ windows spotlight ไม่ทำงาน
หน้า lock screen กลายเป็นสีพื้นโล้นๆเลย