หลังจากเป็นข่าวฮือฮาทั่วอินเทอร์เน็ตไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กับภาพครุฑยืนประดับพระเมรุมาศพร้อมโลโก้ Apple, Facebook และ Google ล่าสุด เว็บไซต์ SpringNews ได้ออกมารายงานความคืบหน้าล่าสุด โดย นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ได้มีคำสั่งด่วนให้ถอดโลโก้ดังกล่าวออกด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่ครอบคลุมและไม่สอดคล้องกับคติความเชื่อในการสร้างพระเมรุมาศ รวมถึงปัญหาเรื่องลิขสิทธ์ของตัวโลโก้ โดยระบุเพิ่มเติมว่า ในขั้นตอนลงพื้นที่ตรวจแบบไม่พบ 3 โลโก้ดังกล่าวในแบบ
ในฟากของผู้รับผิดชอบด้านการออกแบบ นายพิทักษ์ เฉลิมเล่า ประติมากรชำนาญการ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้ออกมาชี้แจงผ่านบัญชี Facebook ส่วนตัวในช่องคอมเมนต์ของโพสต์ที่โชว์รูปครุฑ (ซึ่งในขณะนี้ได้ถูกลบออกไปแล้ว" ว่า การใส่โลโก้ทั้ง 3 ลงไปเป็นแค่สัญลักษณ์บ่งบอกถึงเวลา แค่ห้วงเวลาหนึ่ง ว่าช่วงเวลาหนึ่งที่พระองค์ท่านสวรรคต บนโลกใบนี้มีอะไรที่มีอิทธิพลต่อโลกใบนี้และต่อทุก ๆ คน
ที่มา: SpringNews
Comments
ให้ครุฑเหน็บสมาร์ทโฟนที่เอวแทนครับ เอาโลโก้มาแปะแบบนี้ดู...
เป็นปกติหรือป่าวครับที่จะมีลวดลาย บอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนั้นๆ
ปัญหาคือลิขสิทธ์ของตัวโลโก้กับความเหมาะสมแหละ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
โทษทีครับ ผมพิมพ์เหมือนประโยคบอกเล่าไปหน่อย
คือจะถามว่า ในยุคสมัยก่อนๆ เค้าทำกันแบบนี้หรือป่าวครับ ปั้นตัวครุฑที่แสดงถึงเรื่องราวสมัยนั้นๆ
น่าเสียดายนะครับ กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะชิ้นงานศิลปะที่ controversial มากที่สุดของไทย เผลอๆติดอันดับโลก สุดท้ายก็เป็นแค่ 'รูปปั้นพญาครุฑสวยๆ'
เข้าใจว่าประเด็นอยู่ที่ลิขสิทธิ์มากกว่าความเหมาะสมนะครับ
ถึงแม้คนจะเอาความเหมาะสมมาเป็น drama มากกว่า
แต่ผมกลับมองว่าเรื่องลิขสิทธิ์คงไม่ใช่ประเด็นครับ เพราะรูปปั้นนี้ก็ไม่ได้เป็นการทำขึ้นเพื่อการค้าแต่อย่างใด ยังอยู่ในข่าย fair use อยู่
เครื่องหมายการค้า นำไปใช้กับของอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการค้าได้? เป้าหมายในการจดเครื่องหมายการค้า น่าจะเพื่อบอกว่าสินค้าหรือบริการนั้นมีความสัมพันธ์กับบริษัทที่เป็นเจ้าของไม่ใช่เหรอครับ?
my blog
ที่ผมพูดถึงไม่ใช่ว่าทำแบบนี้เป็นเรื่องที่ถูกครับ ประเด็นคือมันเหมือนจะยังอยู่ในข่าย fair use ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ที่เจ้าของแบรนด์จะสนใจมาเอาเรื่องกับกรณีนี้หรือเปล่า ซึ่งถ้าจะเอาเรื่องจริงๆ ก็คงจะจบที่แค่เอาออกแค่นั้นครับ
ใช้เพื่อโปรโมทให้แบบนี้ คงไม่ติดอะไรล่ะครับ ประเด็นนี้คงไม่น่าใช่เรื่องหลัก
น่าเสียดายนะครับ ที่ งานพระราชพิธี จะมาใช้เป็นการโปรโมทแบรนด์ของ บริษัทไอทีแบบนี้
+1024
ผมไม่เห็นด้วยเพราะคิดว่าในหลวงท่านนั่นแหละครับคือไอค่อนของยุคใหม่ ตรงกันข้ามผมคิดว่า แบรนด์เหล่านั้นควรเอาท่านไปเป็นไอค่อนแทน
น่าเสียดายนะครับ ที่เอาออกซะละ ผมนึกว่าจะได้ฮายาวๆไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
แค่เอาโลโก้มาแปะมันจะสื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งได้ยังไง
เอาตรง ๆ นะ เอาแค่โลโก้มาแปะแล้วบอกอยากให้สื่อถึงยุคสมัยว่าตอนนั้นมีอะไรมันดูสิ้นคิดอ่ะ เหมือนแค่นั่งนึกว่า "อ้อ ยุคนี้ Apple Google Facebook ดังไง งั้นเอาโลโก้ไปแปะซะเลยแล้วกัน ง่ายดี" ทั้ง ๆ ที่สามบริษัทนี่ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวพันธ์ลึกซึ้งอะไรกับบ้านเราสักหน่อย แถมจะกลายเป็นไปโฆษณาให้เขาแบบฟรี ๆ ซะด้วย
น่าจะปั้นรูปครุฑกัดแอบเปิ้ล เอาเท้าเหยียบหุ่นกระป๋อง
เป็นแนวคิดที่เผือกมากเลยครับ ปรบมือรัวๆ
Like เลย ชอบๆๆๆ
แนวความคิดจากสมัยสงครามเย็นชัดๆ
เอาออกไปดีแล้ว ไม่อย่างนั้นโดนกระแสสังคมบางทีอาจหมดอนาคต
สันนิฐานว่า คิดแนวๆวัดบางวัด ที่เอาโดราเอมอนไปอยู่ในกะทะทองแดง ให้ดูขำๆ
แต่งวดนี้ผิดกาละเทศะ เลยเละตามระเบียบ
สมแล้วครับ ทำอะไรสิ้นคิด
พูดง่าย ๆ นะ งานศพน่ะ คงไม่มีใครเอาแบรนด์อะไรไปประกอบหรอกนะ มันไม่เข้ากับงาน มันผิดกาละเทศะเกินไป
ยิ่งเป็นพระราชพิธีที่สำคัญอย่างนี้ อย่าเลย (ถ้าเรื่องวิทยุเนี่ยอาจจะอีกเรื่องหนึ่ง ละมั้ง)
ตรงกันข้ามกับคำสอนของในหลวง ร.9 ท่านที่บอกว่า "ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง" เลยนะ
ใช้สินค้า IT ไอทีคือไม่ชีวิตพอเพียงหรอครับ
อันนี้ไม่เกี่ยวกับตราอะไรทั้งนั้นนะ
โฆษณาพอเพียงยังใช้ MacBook เลยครับ
ไม่เกี่ยวกันเลยนะ พอเพียง กับ Apple Google Facebook
บางคนเข้าใจคำว่า "พอเพียง" ผิด คิดว่าต้องทำไร่ทำนาเลี้ยงปลาปลูกผักเท่านั้น
ในหลวงท่านทรงตรัสแค่ว่า "ใช้เท่าที่หาได้ มีเงินเก็บออม" เท่านั้นเองครับ
ส่วนทำไร่ไถนานั่นเกิดจากการประชาสัมพันธ์มากกว่า
ใช่ครับ
ใจความของพอเพียงจริงๆแล้วคือแบ่งส่วนเงินใช้จ่ายให้พอเพียงกับรายได้ไม่จ่ายเกินตัวแค่นั้นเอง
ซึ่งใช้ได้กับทุกระดับรายได้
แต่ชาวท่าแซะก็จะพยายามสื่อไปในทางปลูกผักมีรายได้น้อยอยู่ตลอด
ไม่ใช่แค่ชาวท่าแซะหรอกครับ
พวกทาซานเค้าก็เข้าใจไปในทางปลูกผักกันอยู่ตลอด พวกมนุษย์เงินเดือนหลายท่านมีความฝันอยากอยู่บ้านนอกปลูกผักเลี้ยงปลา เพื่อทำตามเศรษฐกิจพอเพียง มันคนละเรื่องกันเลย
อย่าทำเป็นเล่นไปครับ ญี่ปุ่นขยันเข็นละครดราม่าเกี่ยวกับการเกษตร
/ อาชีพ ท้องถิ่น / สำนึกรักบ้านเกิด เข็นมาหลายปีดีดักแล้ว และตอนนี้เริ่มลุยลงทุนปลูกพืชไปทั่วลงทุนทั้งที่เวียดนามและอื่นๆ
คนเรามองไกลไม่เท่ากัน
เข้าใจครับ ผมไม่ได้ว่าเรื่องทำเกษตรนะ บ้านผมก็มีไร่ปลูกผักชีขาย แต่อันนี้พูดถึงความเข้าใจของคนครับ เรื่องการเกษตรแบบผสมผสานกับเศรษฐกิจแบบพอเพียงมันคนละเรื่องกันเลย อันนึงคือด้านเกษตรกรรม อีกอันคือการจับจ่ายใช้สอย แต่หลายๆคนเข้าใจว่าเศรษฐกิจพอเพียงคือเกษตรกรรม
เป็นแผนโปรโมตชิ้นงานของกรมศิลป์น่ะครับ เจ็บตัวหน่อย แต่ลดค่าโฆษณาไปเยอะ :P
ผมว่าสมที่ลบทิ้งแล้ว เพราะมันเหมือนเป็นการโปรโมตแบรนด์แค่ apple Facebook Google แล้วพวก Microsoft Adobe Autodesk ฯลฯ พวกนี้ล่ะ ผมว่ามันสำคัญกว่าแอเปิ้ลด้วยซ้ำ
ที่ผมไม่เห็นด้วย
ข้อแรก เพราะมันเป็น "ตราสินค้า" ครับ
ข้อสอง งานสำคัญมากๆ แบบนี้ควรตรงตามประเภณีเดิม ให้มากที่สุด
ถ้าอยากปั้นงานร่วมสมัย อย่างให้ใส่แว่นกันแดด ถือกระป๋องน้ำอดลม
ยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทร หรือ จะใส่รองเท้าวิ่ง
ทำได้ แต่ไม่ใช่ในพิธีนี้
+1
มองในมุมศิลปะ - ส่วนตัวผมว่ามันไม่มีชั้นเชิงอ่ะครับ เอาโลโก้มาแปะกันทื่อๆแบบนี้
(แต่ถ้าถามผมว่าแบบไหนถึงมีชั้นเชิง ผมตอบไม่ถูกเช่นกันนะครับ :3)
มุมของลิขสิทธิ์หรือการตลาด - ตามที่ความเห็นด้านบนว่ามา
+1
+2
ถ้าจะสื่อถึงสมาร์ทโฟน ทำเป็นโทรศัพท์คาดเอวไว้ยังดูดีกว่าอีก
ลิขสิทธ์ => ลิขสิทธิ์
พาดหัวข่าวมั่วมากครับ ไปกล่าวหากรมศิลป์ถอย อะไรกัน งานปั้นที่เห็นนั่นอยู่ในขั้นตอนปั้นแบบ
เป็นดินน้ำมัน ในขั้นตอนนี้คนปั้นก็คือ ช่าง
ในขั้นตอนปั้นมันไม่ได้เป็น linear คนปั้นต้องแก้แล้วแก้อีก ไปว่ากรมศิลป์อีก
เฮ้อ คนเสพข่าวยุคนี้ เอามโนตัวเป็นที่ตั้ง คิดเองเออเอง แล้วไปเขียนให้คนอื่นเออไปด้วยอีก
สื่อเสื่อม คนเลียนแบบสื่อ ก็เสื่อมตาม
ในข่าวอัพเดท เห็นว่ากรมศิลป์บอกว่า ช่างปั้นจิตอาสาเป็นคนนำเสนอความคิดนี้เอง
แต่ก็นะ ถ้าไม่โพสเองในเพจตั้งแต่แรก ก็คงไม่เกิดกรณีแบบนี้รึเปล่า?
ก็โพสต์รูปโชว์ก่อนเองนี่ครับ คนเห็นเค้าไม่สนหรอกว่าเสร็จหรือยัง แต่สิ่งที่เห็นมันไม่ถูกใจเค้าก็วิจารณ์กันไป ไม่เห็นต้องมโนเลย ตัวกรมศิลป์ก็ไม่ได้ออกมาพูดแบบ "เฮ้ย นี่มันยังไม่เสร็จครับ เดี๋ยวต้องแก้อีก แบบนี้ยังไม่ผ่าน" อะไรแบบนี้สักหน่อย
โพสในเวบศูนย์ข้อมูล ไม่ได้โพสด้วยกรมศิลป์ แต่เขียนพาดพิงเฉยเลย
จับแพะชนแกะมั่วไปหมด ไม่มโนจะให้เรียกอะไร ?
การมโนแบบนี้ก็เสมือนโดนโกงเงิน ในเฟสบุค
แต่ไปฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก กระทรวงดิจิตอล เพราะนึกว่าคือ "ก้อน” อะไรสักอย่าง ครือคล้าย เดียวกัน
แต่คนที่ปั้นก็เป็น "ประติมากรชำนาญการ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร"
และกรม ศิลปากรก็เป็นคนสั่งให้ถอนออก แบบนี้ไม่เรียกว่า "ถอย" เหรอครับ
แล้วถ้ากรมศิลปกรไม่สั่ง "ถอย" รูปปั้นที่เสร็จออกมาก็คงมี logo facebook แปะรึเปล่าครับ?
จริงๆ ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะเรื่องราวมันจะออกมายังไง ถ้าหากเรื่องนี้ยังไม่มีคนนอกได้เห็น ยังไม่มีการวิจารณ์ใดๆ จนกระทั่งผ่านได้เป็นผลงานออกมาอย่างที่เห็น แล้วค่อยมีคนไปเจอเข้าทีหลัง