วันนี้ (5 ก.ค.) มีประชุม กสทช. เรื่องแนวทางการกำกับการแพร่ภาพและเสียงผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต (OTT) โดย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. บอกว่า เลื่อนวันสุดท้ายของการลงทะเบียน OTT ออกไปก่อนจากที่กำหนดไว้เป็นวันที่ 22 ก.ค.
นายฐากรระบุเพิ่มเติมว่า ควรเดินหน้าการกำกับกิจการ OTT ในประเทศไทยต่อไป โดยที่ประชุมมีมติให้คณะอนุกรรมการ OTT ยกร่างหลักเกณฑ์การกำกับกิจการ OTT ให้เสร็จภายใน 30 วันเพื่อเสนอบอร์ด กสทช. ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการรับฟังความเห็นสาธารณะ กำหนดเส้นตายลงทะเบียนจึงต้องเลื่อนไปก่อน
ภาพจาก กสทช.
ที่มา - ประชาชาติธุรกิจ
Comments
"น่าอนาถ"
ท่านนทีครับ? /me ยื่นไมค์
The Dream hacker..
ไม่มีใครให้ค่า OTT เอ้ย ตนไม่ให้ค่า ถือว่าเป็นเพียงล็อบบี้ยิสต์
55555+
ไม้ซึกงัดไม้ซุง
อ่าวเฮ้ย...ไม่เหมือนที่คุยกันไว้
อ้าว ท่าน กำลังลุ้นเลยว่าท่านจะทำยังไงถ้าเขาไม่ยอมลงทะเบียน ปั๊ดโถ่วววว
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
อ่าว อดเห็น Youtube, Facebook เมินคนไทยเลย
That is the way things are.
ความคิดนี้ ขำไม่ออกเต็มๆ เพราะเคยมีบทเรียน YouTube / Facebook กับฝั่งจีนมาแล้ว ดังนั้นจึงสรุปว่า YouTube / Facebook มีประโยชน์มากกว่าโทษตัวจริง เนื่องจาก หลังจากมี YouTube / Facebook รวมถึง LINE / mixi / NicoNico ทำให้มีการวิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดดครับ
ใจเย็นนะครับ เห็นคอมเมนต์ข้อความเดียวกันมาหลายกระทู้แล้ว คนในนี้เค้ารู้ครับว่าประโยชน์มันมีอะไรบ้าง เค้าก็พูดประชดกันเฉยๆ
เห็นแล้วเหนื่อยแทน
ขอโทษครับที่ผมพิมพ์เน้นแต่ประโยชน์ เพราะสถานการณ์ในข่าว ชวนลุ้นระทึกซะจริงๆ ช่วงนี้จึงเน้นบอกประโยชน์ของเทคโนโลยีเป็นหลัก ตอนนี้ได้คำตอบที่ทำให้ใจโล่งขึ้นแล้ว ตอนนี้ก็หยุดเรื่อง Comment ข้อความเดียวกันมาหลายกระทู้แล้วครับ
คือผมประชดน่ะครับ
เห็น reply หลายทีแต่ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าคุณพูดจริงหรือพูดเล่น ก็เลยไม่ได้ตอบกลับอะไรครับ @_@
That is the way things are.
เรื่องเสียหน้าท่าน ดร.นที จะหายตัวทันที
อย่าว่าแต่นายนทีเลย กสทช.คนอื่นก็เป็นเวลาเอาหน้าถึงโปล่
ผมสงสัยว่าแล้วตอนแรกผ่านมาได้ไง
แล้วทำแบบนี้ไม่มีความผิด หรือบทลงโทษอะไรเลยหรอ คือนึกจะทำอะไรทำ ได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
กระจอก
ท่านดร.นทีไม่ออกมาแถลงด้วยตัวเองเหรอครับ
กสทช.ฝั่งกสท.นี่ดูวุ่นวายจัง ปัญหาเยอะแท้ ฝั่งกทค.นี่เงียบดี เลขากสทช.เลยมีทั้งเรื่องที่ได้หน้าและเสียหน้าผสมกัน
แหม่ นึกว่าจะแน่
จำตอนสุภิญญา รับรองช่อง 3 ได้ไหมครับ ที่เชียร์กันเยอะๆ เรื่องเดียวกันเลยครับ regulator ไม่มีหน้าที่รับรองให้ใคร ในอนาคตหากมีข้อภิพาทเกิดขึ้น และเกิดการฟ้องร้อง จำเลยอ้างว่าได้รับการรับรองจาก regulator แล้ว หากศาลตัดสินให้ผิดต้องชดใช้ ก็ให้ regulator จ่าย
ยุบๆไปเถอะองค์กรที่ไม่เคยรู้หน้าที่ตัวเิงว่าอะไรต้องทำ อะไรไม่ใช่หน้าที่แบบนี้
ผมถึงขนาดต้องล๊อกอินมาเห็นด้วย +1 รัวๆ
อันที่จริงๆ ผู้บริหารองค์กรต่างๆ เขาคงคิดแค่ว่าหน่วยงานรัฐมันก็ต้องช่วยๆกันทำงาน
จะมีอำนาจมั้ย ไม่รู้ รู้แต่ว่า ช่วยๆกันทำ จะได้สำเร็จตามธงที่อยากให้เป็น ก็แค่นั้น
อำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบอะไรที่ตราไว้ใน รธน. มันใช่อย่างนั้นซะที่ไหน
รธน. รึจะใหญ่กว่า ม.44
ส่วนจะโดนยุบหรือไม่หน่ะ ก็ถ้าไม่ทำแบบ ยึดหลักการสากล ยึดตัวบท แบบนั้นหน่ะ มีโอกาสจะโดนยุบมากกว่าอี๊ก (เสียงสูง)
เขาเข้าใจผิดว่าเขาเป็นหน่วยงานรัฐ นี่แย่มากเลยนะ
เขาเป็นองค์อิสระนะ มันคือเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 40 ชื่อเดิมคือ กสช.
แต่มาตั้งสำเร็จตอนเผด็จการขิงแก่ปี 50 แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น กสทช. จริงๆสมัยทักษิณก็มีความพยายามจะรวบหัวรวบหางตั้งให้ได้เหมือนกัน แต่ว่าผลประโยชน์มันเยอะ แกรมมี่ถึงขั้นจัดขบวนประท้วง เพราะคนของตัวเองไม่ได้เข้าไปนั่ง เลยล่มกันหลายรอบ
พอตั้งขึ้นมาโดยรัฐบาลเผด็จการชุดก่อน คนที่เข้ามานั่งก็เลยไม่รู้เรื่องอะไรเลย นอกจากมาค้ำผลประโยชน์มหาศาลที่เกี่ยวข้องมันก็เลยเละเทะกันหมดเลย
ตอนนั้นผมทำงานเกี่ยวกับดิจิตอลทีวีเหมือนกัน เห็นสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของคุณสุภิญญา สุดท้ายก็ต้องออกมารับรองอ้างว่าเพื่อให้ดิจิตอลทีวีมันก้าวต่อไปได้
จริงๆช่วงนั้นแกสู้เรื่องนี้มาตลอด เข้าประชุมกับผู้ประกอบการณ์ค้ากล่องดิจิตอลทีวีก็มีแกเข้าประชุมอยู่คนเดียว ไม่เห็นหัวท่านอื่นที่เหลือสักคน แต่พอออกข่าวนี่มาก่อนตลอด
ตอนนั้นเหมือนคนอื่นรู้ว่าไม่ใช่หน้าที่ แต่ว่ามีแต่ สุภิญญาที่ออกมาแจ๋นอยู่คนเดียว
คือเอาตรงๆผมก็กล่าวหานะ ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนที่ออกมาแจ๋นแบบนั้น
กรณีนั้นผมจำไม่ได้แม่น แต่จำได้คร่าวๆ ว่า ช่อง 3 หนะใช้ ชื่อ 2 บริษัทประมูล
กสทช ก็จะต้อง recognise เป็น 2 บริษัท จะไปถือว่าเป็นบริษัทเดียวไม่ได้ ฉะนั้นถ้าจะให้อีกบริษัท ผลิต content ให้ก็จ้าง ซึ่งทำได้อยู่แล้ว แต่เขางอแงจะไม่ทำ ซึ่งเรื่องทางบัญชี ผมไม่รู้ว่า ไม่ทำแล้วได้อะไร แต่ประเด็นคือ สุภิญญาไม่เกี่ยวอะ ไม่รับรอง เอกชน เขาก็ต้องไปหาวิธี ปัญหามันคือเรื่องทางบัญชี แต่สุภิญญาออกมารับรองแบบนั้น ผมก็กล่าวหานะว่า น่าจะเป็นเรื่องการจ้างกันให้รับรองด้วยซ้ำ หรือไม่ก็ สุภิญญารู้ไม่ทัน และอยากจะได้คะแนนนิยม ซึ่งเป็นไปได้ทั้งคู่ และไม่ถูกหลักการทั้งคู่หนะครับ
จริงๆ ผมเพิ่งรู้ตัวว่าผม post ผิดกระทู้ จริงๆ ผมควรจะ post ที่กระทู้นี้ครับ
https://www.blognone.com/node/93700#comment-997121
อ๊ายอายยยยยย
เด็กเล่นขายของ
จากรูปในข่าวนี้แอบสงสารท่านฐากรเหมือนกัน คือท่านนที นี่จะมาแต่งานเบ่งกล้ามสินะ