ขนส่งทางบกสิงคโปร์ (Land Transport Authority - LTA) ประกาศโครงการรถเมล์แบบปรับเส้นทางตามความต้องการของผู้ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการแทนที่จะเป็นการปล่อยรถเมล์ตามรอบเวลาและตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเช่นทุกวันนี้
การบริการแบบใหม่นี้ผู้ใช้จะสามารถเรียกรถเมล์ไปยังป้ายที่กำหนดไว้ พร้อมกับแจ้งป้ายที่ต้องการลงจากรถ แนวทางนี้ทำให้ผู้ให้บริการรถเมล์สามารถปล่อยรถตามความต้องการจริงแทนที่จะวิ่งรถเปล่าตามเส้นทาง พร้อมๆ กับอาจจะปรับเส้นทางไปตามความต้องการผู้ใช้ โดยคาดว่าจะนำระบบนี้ไปทดสอบในเขตที่มีการใช้งานรถเมล์นอกช่วงเร่งด่วนจำนวนน้อย
โครงการนี้แบ่งออกเป็นสามช่วง โดยช่วงแรกจะเป็นการจำลองการทำงานของระบบเพื่อสร้างโมเดลคุณภาพบริการที่จะได้รับ และจำนวนรถที่ต้องการในระบบ จากนั้นจึงทดสอบฮาร์ดแวร์จริงในปี 2018 และคาดว่าจะทดสอบให้บริการจริงได้ในปลายปี 2018
ที่มา - Strait Times
Comments
รถเมล => รถเมล์
นึกถึงรถแดงที่เชียงใหม่เลย ปรับตามใจคนเรียกจริงๆ
อ๊ะ แนวคิดน่าสนใจ แบบนี้ก็อาจไม่ต้องมีเลขสายรถแล้ว (อาจยังมีบอกเขตเดินรถ) แต่ก็ยังสงสัยว่าใช้ระบบแจ้งเตือนผู้โดนสารว่าถึงที่หมายแล้วอย่างไร
งงๆ ว่ามันทำงานยังไง?
เพราะกว่ารถจะไปถึง คนอาจจะไปขึ้นอย่างอื่นแทนแล้ว
เดาว่ามีคอมอยู่เบื่องหลังจัดการเรื่อง สถิติ / weight น้ำหนัก / กระจายรถ
คงบอกเวลาเดินทางโดยเฉลี่ยล่วงหน้าใด้ด้วยแหละ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ภายใต้โครงการทดสอบนี่เฟสแรกคือจะหาว่ามันควรทำงานยังไงนี่ล่ะครับ เป็น simulation อย่างเดียว
ให้เดาคือมีข้อมูลการเดินทาง (ส่งคนไปสำรวจไว้ว่าคนขึ้นตรงไหนลงตรงไหน) + ข้อมูลสภาพจราจรอยู่แล้ว ก็มานั่งหาว่าถ้าปรับเงื่อนไขใหม่ ว่ารู้ข้อมูลการเดินทางล่วงหน้า จะสามารถ optimize ได้มากแค่ไหน รถใช้ได้น้อยลงหรือไม่ คนโดยสารสามารถเดินทางได้เร็วขึ้นไหม ฯลฯ
ปล. คิดว่าคล้ายสร้าง bot มาเล่นเกม mini metro แต่เป็นรถเมลจริง แถมเปลี่ยนสายได้เร็วๆ เหมือนในเกม
lewcpe.com, @wasonliw
รถเมล์เขาก็ไม่ได้ดูใหม่เลย แต่ดูดีกว่าของเราพอสมควร
ปล. ผมเกลียดรถมังกรทอง
รถร้อนในชั้นในใน SG ไม่ค่อยเห็นนะครับ เดี๋ยวนี้สายในเมืองส่วนใหญ่กลายเป็นรถปรับอากาศหมดแล้วครับ
อันนี้รูปเมื่อสิบปีที่แล้วครับ ปัจจุบันไม่มีแล้ว
ทาง LTA เค้าทำโครงการ crowdsourcing เพื่อปรับปรุงการให้บริการ โดยเริ่มโครงการ Beeline ตั้งแต่สองปีก่อน ช่วงแรกให้ประชาชนโหวตระบุต้นทางและปลายทางในการเดินทาง แล้วระบบจะคำนวณเส้นทางที่เหมาะสม (crowndsourcing) ขึ้นเป็นสายขึ้นมาให้คนเลือกใช้ ซึ่งสายส่วนใหญ่เป็นสายเช้า (7-8 โมง) เพื่อเอาคนจากโซนอยู่อาศัยไปโซน CBD
เทียบกับรถเมล์จูเรนเจอร์บ้านเรา ...
That is the way things are.
แล้วประเทศเราเปลี่ยนสายใหม่หมดเลย คิดมาจากอะไรนะ...
มาจากการที่ของเดิมบางสายมันมีตัวอักษรไทยมาปนกับเลข ทำให้ผู้โดยสารต่างชาติงง ของใหม่นี่เลยเปลี่ยนเป็นภาษากฤษไปอันนี้เห็นด้วย แต่มันมีนอกเหนือจากนั้นอีกครับ คือไหนๆจะทำแล้วเลยแบ่งสีรถตามเขตการเดินรถเสียใหม่ว่ารถนี้วิ่งอยู่โซนไหน เหนือ ใต้ ออก ตก (โซนละสี) แต่เลขรถนั้นจัดการกันเองโซนใครโซนมัน เท่ากับว่าเลขรถเบอร์เดียวสามารถซ้ำกันได้สูงสุด 4 สาย แค่ฟังก็มึนแล้วครับ มันจะยากอะไรนักหนากับการรันเลขไปเรื่อยๆมี 100 สาย ก็มี 100 เลข ทำไมต้องให้มาซ้ำกันด้วยไม่เข้าใจ ที่สำคัญเขายังอุส่ากลัวคนงง เลยเอาเลขเดิมมาแปะไว้ข้างเลขใหม่ ส่วนเลขใหม่นอกจากจะมีสีบอกแล้วเขาคงกลัวคนตาบอดสีเลยระบุไปในเลขสายด้วย เช่น รถสีเหลืองสาย 53 ก็กลายเป็น Y53 แต่ยังมิวาย บางทีมีสายพิเศษอีก เป็น Y53 B Y53C สรุปเพื่อจะแก้ปัญหานักท่องเที่ยวขึ้นรถไม่ถูกผมว่าแค่ปรับ จาก ก ข เป้น A B ก็พอแล้ว ที่เหลือนี่บรรเจิดเกิน ทั้งนี้ทั้งนั้นรถเก่าเหมือนเดิมนะครับ เพิ่มเติมคือความเมา
เริ่มปฏิรูปเลข-สีรถเมล์ ปฏิบัติการที่เริ่มแบบผิดเป้า
อ่านหัวข้อก็นึกว่าผู้โดยสารเดินไปทางไหนแล้วรถเมล์ก็ตามหลังไปด้วย
บ้านเราขอเป็นรถแอร์เกือบ 85% ก็หรูละ
แอบตลกดี asia แถวนี้ชอบใช้ non-aircon bus กันจัง อากาศก็ไม่ได้เย็น ส่วนประเทศตะวันตกก็ใช้แต่รถแอร์ แต่หนาวทีเร่ง heater ไม่ทัน