Steam ประกาศหยุดรับจ่ายเงินด้วย Bitcoin มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นมาก และราคา Bitcoin ที่มีความผันผวนสูง
ตัวเลขที่ Steam ยกตัวอย่างมากแสดงเช่นค่าธรรมเนียมการจ่ายเงินผ่าน Bitcoin ตอนนี้สูงถึง 20 ดอลลาร์ เทียบกับตอนที่ Steam ประกาศรับจ่ายเงินด้วย Bitcoin ซึ่งอยู่ที่ 0.20 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ และส่งผลให้ราคาเกมที่จ่ายด้วย Bitcoin แพงขึ้นแบบไม่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ราคา Bitcoin ที่ผันผวนสูง ในบางวันขึ้นลงมากกว่า 25% ก็ทำให้ลูกค้าที่จ่ายเงินด้วย Bitcoin พบปัญหาต้องจ่ายเงินให้ทันตามช่วงเวลา ไม่อย่างนั้นมูลค่าที่ต้องชำระอาจเปลี่ยนไปมาก
จากปัญหาดังกล่าว Steam จึงตัดสินใจหยุดการจ่ายเงินด้วย Bitcoin ไปก่อน จนกว่าจะหาวิธีการที่เหมาะสมกว่านี้ได้ จึงจะพิจารณาอีกครั้ง
ที่มา: Steam
Comments
น่าจะพอตบปากกลุ่มคนที่บอกว่า bitcoin มีเสถียรภาพได้ละนะทีนี้
แต่คนที่บอกว่าฟองสบู่ตั้งแต่ 2000 นี่ปากชาไปแล้ว
จริงๆ คนที่บอกว่าฟองสบู่หลายคนก็ยังมองแบบนั้นอยู่นะครับ คือมันโตจากความต้องการอย่างเดียวโดยที่ยังไม่มีอะไรมารองรับนอกจากความต้องการอีกที จนกว่ามันจะมีเป้าหมายมารองรับชัดๆ นอกจากความต้องการซื้อของคนถัดๆ ไปนั่นแล
แต่มีความต้องการของคนถัดๆ ไปอย่างเดียวก็ใช่ว่ามันจะไม่มีมูลค่าอย่างทองคำเองก็มีมูลค่าจากความต้องการนั่นแล ปัจจัยอื่นๆ ก็มีแต่ไม่ได้ดันให้ราคาทองคำมันควรมีมูลค่าขนาดนั้น
คนละเรื่องครับ คนที่บอกว่าฟองสบู่ไม่ได้แปลว่าราคาจะไม่ขึ้น แต่มันเสี่ยงสูงเพราะมันไม่มีอะไรรองรับราคาที่ขึ้น มันมาจากการเก็งกำไรเป็นหลัก จริงไม่จริงต้องถกกันอีกเรื่องนึง และคนที่รับความเสี่ยงระดับนี้ไม่ได้เค้าไม่ลงอะไรพวกนี้อยู่แล้ว ส่วนใครอยากเสี่ยงหรือรับความเสี่ยงได้จะซื้อก็เก็งกำไรก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมเป็นคนหนึ่งที่ยังมองว่ามันคือฟองสบู่ที่รอวันแตก แต่ผมก็ไม่ได้บอกนะว่ามันจะแตกตอนไหน
เห็นด้วยครับ
น่าจะอารมณ์เดียวกับ หวยเป็นสิ่งมอมเมาแต่ก็ยังมีคนเล่นเรื่อยๆมั้งครับ เจ้ามือก็รวยเอาๆ
ถ้าเคยผ่านเมื่อปี 2541 มา ก็ต้องมองมันเป็นฟองสบู่อยู่แล้วครับ
ใครจะซื้อก็ซื้อเถอะ แต่อนาคตมันจบไม่สวยแน่นอน ได้แต่หวังว่ามันจะไม่กระทบคนนอกระบบ (ซึ่งก็คงเป็นไปไม่ได้ ถ้ามันฟองสบู่แตกเมื่อไหร่ มันก็กระทบอยู่แล้ว)
มันไม่มีหลักอะไรค้ำประกันเลย เงินก็ยังมีน้ำมันมีทองคำ btc จะให้เอาอะไรค้ำ
แต่ฟองแตกก็ไม่กระทบใครหรอกนอกจากนักลงทุนใน btc เพราะมันไม่มีอะไรค้ำ
ฟองสบู่ คือมันจะแตกแน่นอนครับ แค่เมื่อไร แต่มันต้องโตถึงที่สุดก่อนถึงแตกครับ
แก้ไข : ซำ้ จากปัญหาการเชื่อมต่อ
ก็ต้องดูกันต่อไปล่ะครับ เรื่องเชียร์แขก ในนี้เป็นสาย Tech กันอยู่แล้ว ไม่แปลกเลยที่อะไรๆแนวนี้จะถูกดันอย่างออกหน้าออกตา
อันนี้ต้องเข้าใจก่อนนะครับ ว่า Steam ไม่ได้รับ Bitcoin ตรง ๆ แต่ใช้ Payment gateway ที่ชื่อว่า Bitpay แล้วโดยปรกติ การจ่ายแบบนี้จะ Overpay เพราะค่าธรรมเนียมต้องแพงเผื่อที่จะได้มีการ confirm transaction ได้ก่อน transaction ทั่ว ๆ ไป ภาระจึงตกไปอยู่ที่จ่าย ถ้าเขาจะเปลี่ยน Payment gateway ใหม่ เพื่อใช้เหรียญอื่นก็มีความเป็นไปได้ แต่ก็ต้องไป Deal อีกที อย่าง Bitpay เขาเป็นเจ้าแรก ๆ แล้วก็ใหญ่มากในวงการนี้
มันมีกองทุนปั่นครับ ปั่นหุ้น หุ้นเจ๊ง ปั่นน้ำมัน ราคาสินค้าพุ่ง เดือนร้อนกันทั้งโลก ปั่นทอง ทองเจ๊ง ปั่นอสังหา อสังหาก็เจ๊ง ตอนนี้ไปปั่น bit coin เดี๋ยวก็เจ๊ง ผมว่าถ้าเจ้ามือปั่นออกตูมเดียว ค่าหล่นลงมาเหลือซัก 6,000 ก็อ๊วกพุ่งกันหมดแล้ว ยกเว้ยคนที่ถือยาวไว้ตั้งกะ ปีที่แล้ว
หมายถึงกองทุนสำหรับปั่นโดยเฉพาะ หรือกองทุนทั่วไปที่เข้าไปปั่น bc เหรอครับ
เข้าใจว่าไม่ใช่กองทุน (mutual funds) ตามนิยามหลักทรัพย์นะ
น่าจะหมายถึงเจ้าที่ถือเงินก้อนใหญ่มากกว่า
ผมคิดว่าเหมือน หุ้นปั่น กับ gold future อ่ะครับ feeling นี่ใช่มาก ถ้าคนที่ถือไว้เยอะสุดเทออกตูมเดียว ผมว่าลงไม่ต่ำกว่า 50% ครับ หลังจากนั้นจะเป็นขาลง ไม่เล่นมุขรู้อะไรรู้งี้นะครับ รู้ครับแต่ไม่กล้าซื้อตั้งกะ $1,000 แล้ว
ขนาดมั่นใจว่ามันจะขึ้นอีกผมก็ไม่กล้าครับ ความรู้ไม่พอจะเสี่ยงกับตลาดใหญ่นี้ รู้แต่ด้านเทคนิค
เข้าใจคำว่า เสถียรภาพของเงิน ชัดเจน จากตัวอย่างนี
จากรูปการณ์ปัจจุบัน BTC น่าจะยังไม่สามารถใช้เป็น currency จริงๆ ได้อีกนาน
ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาค่า hash ที่ได้ไปทำอะไรแฮะ (หมายถึงคำนวนไปทำอะไรน่ะครับ)
ที่มันอยู่ได้ผมว่าเป็นเพราะ
มีคนเอาเงินซื้อ
มีคนเอาสินค้ามาแลกขาย
ทั้วสองอย่างทำให้ตัวบิตคอยมีราคา
ถ้าไม่เจอปัญหาทางเทคนิค แฮค รั่ว หาย คงอยู่ยืนยงอีกนาน
ธรรมดาเงินแบบนี้มันคุมไม่ได้มันก็ต้องแปลไปเรื่อย ๆ ไม่นิ่ง
ยกตัวอย่างมากแสดง ?