Farhad Manjoo คอลัมนิสต์ด้านเทคโนโลยี และผู้เขียนหนังสือ "True Enough: Learning to Live in a Post-Fact Society" ว่าด้วยความพยายามครอบโลกธุรกิจของ Apple, Amazon, Facebook และ Google โดย Farhad Manjoo เขียนบทความว่าปี 2017 เป็นปีแห่งจุดเปลี่ยนของบริษัทเทคโนโลยี โดยปี 2017 มีหลายเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีต้องมีส่วนรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกออฟไลน์ ไม่ว่าบริษัทจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม

บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ที่อยู่ในชีิวิตประจำวันของคนมากที่สุดคือ Amazon, Apple, Facebook, Alphabet และ Microsoft และยังเป็นรากฐานสำคัญของสังคมเศรษฐกิจดิจิทัล ครอบคลุมกิจกรรมี่สำคัญต่อเศรษฐกิจในหลายๆ ด้าน เช่น ระบบปฏิบัติการ การขนส่ง ร้านค้าออนไลน์ ระบบปฏิบัติการคลาวด์ เซิร์ฟเวอร์ เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นถนนแห่งสังคมข้อมูลที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ภาพจาก Pexels

อย่างไรก็ตามไม่มีปีไหนที่บรรดาบริษัทเทคโนโลยีจะมีข่าวคราวไม่ดี และส่งผลต่อโลกจริงมากเท่าปี 2017 โดยเหตุการณ์ตัวอย่างแห่งปี ข่าวปลอมบน Facebook, Google, Twitter ถูกใช้เป็นช่องทางแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (อ่านบทความย้อนหลังได้ ที่นี่) อีกเหตุการณ์คือเรื่องอื้อฉาวการคุกคามทางเพศโดยผู้บริหารใน Uber นำมาสู่การเปลี่ยนตัวซีอีโอและปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กรยกใหญ่

ปี 2017 จึงเป็นปีแห่งจุดเปลี่ยน และนำมาซึ่งความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นอีกมากมายที่บริษัทเทคโนโลยีต้องแบกรับ คำถามคือ ยังไม่มีใครรู้ว่าความรับผิดชอบนั้นจะออกมาในรูปแบบใด เพราะไม่ว่ามาตรการของ Facebook ที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นนโยบายเปิดเผยข้อมูลการซื้อโฆษณา, และ Mark Zuckerberg ก็เคยออกมาบอกว่า Facebook กำลังอยู่ระหว่างทดลองใช้ไอเดียใหม่ปรับปรุง News Feed แก้ปัญหาข่าวปลอม แต่ยังไม่มีใครรู้ว่ามาตรการทั้งหมดจะแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่

Roger McNamee นักธุรกิจและนักลงทุนให้ความเห็นว่า ปัญหาไม่สามารถแก้ไขด้วยการว่าจ้าง แต่แก้ได้ด้วยการปรับอัลกอริทึมใหม่ ที่อาจทำให้ Facebook ทำกำไรได้น้อยลง

เมื่อพูดถึงความหลากหลายในองค์กร แม้จะไม่ใช่ประเด็นใหม่ในปี 2017 แต่บริษัทไอทีก็ยังไปไม่ถึงเป้าหมาย Ellen Pao อดีตผู้บริหารระดับสูงของ Reddit ที่ฟ้องร้อง บริษัท Kleiner Perkins Caufield & Byers เรื่องความหลากหลาย ปัจจุบันเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านความหลากหลายที่ Kapor Center for Social Impact ระบุว่าให้เกรด C สำหรับการแก้ปัญหาความหลากหลายในวงการไอที ผุ้นำบริษัทต่างเคลื่อนไหวเรื่องนี้น้อยมาก

ที่มา - The New York Times