Blognone มีอายุครบ 20 ปีแล้วครับ โพสต์แรกของเราลงวันที่ 27 สิงหาคม 2004 มาถึงวันนี้มีอายุเกิน 20 ปีไปเรียบร้อยแล้ว (หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเพิ่งมาโพสต์ครบรอบวันนี้ เหตุผลง่ายๆ คือลืมครับ)

ถ้ามองย้อนกลับไป ตัวเลข 20 ปีถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนานอย่างเหลือเชื่อ (เราเกิดปีเดียวกับ Facebook ที่อายุครบ 20 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์) ในฐานะผู้ก่อตั้งเองก็ไม่นึกไม่ฝันเหมือนกันว่าจะเปิดเว็บมาได้นานขนาดนี้ เพราะความคิดในตอนแรกคือเปิดเอาสนุกๆ เท่านั้น

เนื่องในโอกาสเว็บมีอายุครบ 20 ปี ผมต้องขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด 3 ฝ่ายที่ทำให้เราเดินทางมาได้ถึงวันนี้

Content Shifu ร่วมกับ Hummingbirds Consulting ออกสำรวจความเป็นไปได้ในอนาคตของวงการ Martech (Marketing Tech) ประเทศไทย เพื่อหวังจะยกระดับวงการ Martech และธุรกิจไทย ซึ่ง Blognone ได้เข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์ด้วย

เราเลยอยากเชิญชวนผู้อ่าน Blognone ร่วมตอบแบบสอบถาม Thailand's Martech Report 2025 เพื่อเป็นไกด์ในแง่ความรู้แบบเจาะลึก ทั้งเทรนด์ งบประมาณ และสิ่งที่ธุรกิจต้องเตรียมตัวรับมือในปีหน้า

เปิดตัวรายการใหม่ของ Blognone ชื่อว่า "Cloudnone" ซึ่งสามารถอ่านออกเสียงว่า "คลาวด์นั้น" หรือ "คราวนั้น" ได้ตามใจชอบ

เป้าหมายของรายการนี้เกิดจากการเห็นว่าประเทศไทยยังขาดองค์ความรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์ ซึ่งสำคัญขึ้นเรื่อยๆ ในโลกไอทียุคใหม่ (แม้ไม่เซ็กซี่เหมือน Blockchain/AI แต่ทุกหน่วยงานกลับต้องใช้งาน) แต่คลาวด์เองกลับมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากหาช่องทางพูดคุย ถ่ายทอดประสบการณ์ระหว่างกันในหมู่คนทำงานด้าน architect, infrastructure, SRE, DevOps รวมถึงหัวข้ออื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการออกแบบระบบทางไอทีที่ดีขึ้นในภาพรวม

รายการไอทีอื่นอาจเป็นการรีวิวฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ แต่รายการนี้อยากเป็นที่จดจำในการรีวิว VM หรือ instance บนคลาวด์ยี่ห้อต่างๆ ว่าตัวไหนดี ตัวไหนถูก ตัวไหนไม่โดนปิดทิ้งไว้กลางทาง ฯลฯ ซึ่งหวังว่าความรู้เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการทำงานของคนไอทีในบ้านเราต่อไป

Blognone สัมภาษณ์ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (@teng_mfp) รองเลขาธิการ ฝ่ายพัฒนาระบบข้อมูลและดิจิทัล พรรคก้าวไกล ลงลึกถึงรายละเอียดทางเทคนิคของนโยบาย AI ปราบโกง ทำได้จริงแค่ไหน

วันนี้ 15 เมษายน 2566 เวลา 20.00 น. ทาง Twitter Spaces

อัพเดต ฟังรายการย้อนหลัง

Blognone เปิดรับสมัครนักข่าว / นักเขียนมาร่วมทีมในตำแหน่ง Senior Content Creator ที่สามารถเขียนข่าวและบทความเกี่ยวกับไอที เทคโนโลยีในแง่มุมต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับมือถือ แกดเจ๊ต โซเชียลมีเดีย คอมพิวเตอร์ เกม แอปพลิเคชัน IoT รีวิว ไปจนถึงแง่มุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโลกไอที เช่น ธุรกิจบริษัทไอที การเมืองหรือการเงิน ที่มีแง่มุมของไอทีเข้าไปเกี่ยวข้อง

นอกจากงานเขียนแล้ว นักเขียน Blognone จะต้องร่วมงานกับทีมวิดีโอโปรดักชัน เพื่อสร้างสรรค์สคริปต์คอนเทนต์วิดีโอ สำหรับเผยแพร่ทาง Facebook และ YouTube ของ Blognone ด้วย

Blognone มีบริการหางานด้านไอที Blognone Jobs มาประมาณหนึ่งปีกว่า ตัวบริการเปิดให้ใช้ฟรี และตลอดเวลาที่ผ่านมาก็มีหน่วยงานเข้ามาใช้บริการประกาศหางานมากกว่า 1,200 แห่ง

จากสถานการณ์ COVID-19 และปัญหาเศรษฐกิจที่ตามมา เราเห็นบริษัททั่วโลกออกมาตรการลดค่าใช้จ่าย ทั้งปลดพนักงาน ลดเงินเดือน รวมถึงหยุดการจ้างงานใหม่ด้วย

Blognone Jobs เห็นข้อมูลเชิงสถิติแรงงานด้านไอทีในช่วงนี้ น่าจะสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดแรงงานได้พอสมควร จึงนำข้อมูลมากฝากกัน

มาถึงสัปดาห์นี้ ชาว Blognone หลายคนน่าจะต้องทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) กันแล้ว Ask Blognone จึงขอเชิญชวนมาร่วมแชร์ประสบการณ์กันว่า ทำงานจากที่บ้านอย่างไรถึงจะเวิร์ค แต่ละคนมีบทเรียนอะไรกันบ้างทั้งด้านบวกและด้านลบ (Do & Don't) เพื่อให้การทำงานของทุกๆ คนราบรื่นกันมากขึ้นครับ

วันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนการยกเลิกบัตรเอทีเอ็มแบบแม่เหล็กในประเทศไทย หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มบังคับธนาคารทุกแห่งต้องให้บริการบัตรชิปมาตั้งแต่ปี 2016 นับเป็นการอัพเกรดเทคโนโลยีความปลอดภัยครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศไทย แม้จะเป็นเรื่องน่ายินดีที่มีการปรับปรุงและจะไม่มีใครเป็นเหยื่อที่ต้องสูญเสียเงิน (อย่างน้อยก็ช่วงเวลาหนึ่ง) ให้กับอาชญากรอีก แต่เราไม่ควรลืมว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก, กระบวนการเปลี่ยนผ่านใช้เวลาหลายปี, และในวันนี้เองก็ยังมีบัตรที่ยังไม่ได้เปลี่ยนอีกนับล้านใบ

วันนี้ (27 สิงหาคม 2019) ถือเป็นวันครบรอบ 15 ปีของ Blognone ครับ (โพสต์แรกเมื่อ 27 สิงหาคม 2004)

ระยะเวลา 15 ปีถือว่ายาวนานมาก ถ้าเป็นเด็กคนหนึ่งก็คือโตจนเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อได้แล้ว ถือเป็นการเติบโตที่พวกเราก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะอยู่มาได้นานขนาดนี้

Blognone Jobs เริ่มต้นจากการเป็นบอร์ดประกาศหางานใน Blognone และในปี 2018 ก็ได้พัฒนาจนเป็นเว็บไซต์ของตัวเอง (jobs.blognone.com) เพื่อให้รองรับฟีเจอร์ด้านการค้นหางานมากขึ้น

ตลอดเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา Blognone Jobs ยังรองรับเฉพาะการประกาศตำแหน่งงานจากบริษัทผู้ว่าจ้าง (Employers) เพื่อกระจายช่องทางการมองเห็นตำแหน่งงานเหล่านี้ แต่ในมุมของผู้สมัครงาน (Candidates) ยังต้องยื่นใบสมัครผ่านช่องทางอื่น (เช่น อีเมลหรือหน้าเว็บของบริษัท) ไม่สามารถกดสมัครผ่าน Blognone Jobs ได้โดยตรง

วันนี้ฟีเจอร์สมัครงานโดยตรงผ่านระบบของ Blognone Jobs เปิดให้บริการแล้ว ผู้สนใจสามารถใช้บัญชี Blognone ที่มีอยู่แล้ว ล็อกอินเข้าระบบเพื่อสร้าง Profile และยื่นใบสมัครงานได้ทันที

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Blognone ได้รับรายงานจากคุณ Sarawut Hongsakul ถึงช่องโหว่ความปลอดภัยที่อาจจะกระทบกับผู้ใช้ โดยช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์สามารถสร้าง URL มุ่งร้าย เพื่อเปลี่ยนค่าใน HTTP header จากเซิร์ฟเวอร์ได้ โดยสาเหตุเกิดจากรูปแบบการคอนฟิก nginx ที่เปิดทางให้โจมตีเช่นนี้ได้

ผลกระทบจากช่องโหว่นี้ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเปลี่ยนแปลงค่าใน HTTP header เช่น สั่งตั้งค่า cookie ใหม่โดยที่ไม่ได้มาจากตัวเว็บเอง ในบางกรณี ผู้ใช้อาจจะได้หน้าเว็บเพื่อหลอกลวงให้ใส่ข้อมูลสำคัญ โดยที่เป็นโดเมนของ Blognone เอง (phishing) แม้รูปแบบหน้าเว็บจะแปลกออกไป

ปีที่ผ่านมานับเป็นปีที่กระแสการออกแบบ Dark Mode หรือจอภาพแบบมืดกลับมาได้รับความนิยมกันอีกครั้ง เช่น ทวิตเตอร์ที่เพิ่งรองรับหน้าจอแบบมืดสนิท หรือกูเกิลเองก็เริ่มรองรับ Dark Mode บนโครม

วันนี้ Blognone เองก็เริ่มใช้งาน Dark Mode เช่นกัน เพื่อลดการใช้พลังงานในจอภาพแบบ OLED ลดแสงเข้าไปยังดวงตาผู้อ่านทุกท่าน

Blognone Jobs ระบบเดิมที่เป็นเว็บบอร์ดธรรมดาถูกใช้งานมาหลายปี และได้รับความนิยมไม่น้อย เฉพาะหน้าแรกของ Jobs มีผู้เข้าชมเดือนละ 3-4 หมื่นครั้ง และมีบริษัทจำนวนมากประสบความสำเร็จ ได้พนักงานจากการโพสต์ใน Blognone Jobs ไปเป็นจำนวนมากเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม Blognone Jobs เดิมมีข้อจำกัดมากมาย เพราะตัวมันเองเป็นแค่เว็บบอร์ดธรรมดาที่ความสามารถไม่เยอะนัก ตั้งแต่ต้นปีนี้ เราจึงพัฒนา Blognone Jobs ตัวใหม่ที่มีฟีเจอร์ทัดเทียมกับเว็บไซต์หางานในตลาด

Data Cafe Thailand เป็นชุมชนของผู้สนใจด้าน Data Science ที่สนับสนุนโดยบริษัท MFEC และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หลายคนอาจรู้จักโครงการ Data Cafe ที่เปิดคอร์สฝึกอบรม Data Scientist อาชีพที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม (โครงการเพิ่งปิดรับรุ่นที่สองไปเมื่อเร็วๆ นี้)

ในงาน Blognone Tomorrow ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ Data Cafe ทั้งสองคนคือ ดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล อดีต Data Scientist ของ Facebook (บทสัมภาษณ์) และ ดร.ธนชาตย์ ฤทธิ์บำรุง ผู้เชี่ยวชาญด้าน Data Analytics และอาจารย์พิเศษหลายสถาบัน มาร่วมกันเล่าการประยุกต์ใช้พลังของ "ข้อมูล" เพื่อยกระดับการทำงานขององค์กร โดยเล่าประสบการณ์ของ Data Cafe ในการสร้างและพัฒนาคนในตำแหน่งที่หายากเป็นอย่างยิ่งในตอนนี้

วงการค้าปลีกเป็นอีกสมรภูมิที่กำลังเผชิญกับ digital disruption อย่างรุนแรง โดยความท้าทายจากบริษัทอีคอมเมิร์ซเป็นตัวเร่งให้บริษัทค้าปลีกเก่าแก่ต้องเร่งปรับตัวเพื่ออยู่รอด

กลุ่มเซ็นทรัลเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของยักษ์ใหญ่วงการค้าปลีกที่ปรับตัวอย่างมากในช่วงหลัง โดยเฉพาะการร่วมทุนกับบริษัท JD จากประเทศจีน ตั้งเป็น JD Central เพื่อตอบโจทย์ฝั่งอีคอมเมิร์ซ แต่ในฝั่งที่เป็นห้างสรรพสินค้าก็ต้องปรับตัวเช่นกัน และการนำ "ข้อมูล" มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน

John Berns ผู้บริหารตำแหน่ง Chief Data Officer ของ Central Group จะมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังในงาน Blognone Tomorrow ในหัวข้อ Data in the Transformation of Retail

ผู้อ่าน Blognone คงจำข่าวอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ TOP500 รอบล่าสุดกันได้ เพราะสหรัฐอเมริกาสามารถทวงบัลลังก์จากจีนได้สำเร็จ หลังจากปล่อยให้จีนผูกขาดแชมป์มานานหลายปี โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกตอนนี้คือ Summit ของ Oak Ridge National Laboratory (ORNL) ห้องวิจัยของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่พัฒนาโดย IBM

Summit ไม่ได้เป็นเพียงแค่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ สำหรับงานประมวลผลสมรรถนะสูง (High Performance Computing - HPC) เท่านั้น แต่มันถูกออกแบบมาสำหรับงานประมวลผลด้าน AI ด้วย

ขอโทษที่ต้องรอกันนานกับรายชื่อ Speaker ในงาน Blognone Tomorrow สำหรับคนที่ต้องการรอดูข้อมูลของงานก่อนตัดสินใจซื้อตั๋ว วันนี้เรามีข้อมูล Speaker และหัวข้อการพูดในงานมาแล้ว

งานนี้จะแบ่งออกเป็นช่วงเช้าที่เป็นห้องรวม (Main Stage) ส่วนช่วงบ่ายจะแยกเป็น 2 ห้องคือ Data Stage และ Things Stage

หมายเหตุ: รายชื่อเหล่านี้ยังเป็นแค่บางส่วนเท่านั้น ข้อมูลจะทยอยอัพเดตอย่างต่อเนื่องในหน้านี้

เมื่อวานนี้ผมประกาศถึง Bn Coin ว่าเป็นเงินคริปโตเพื่อผู้อ่าน Blognone แม้จะเป็นมุกตลก April Fools ในปีนี้ แต่หากใครรันคำสั่งตามที่ผมเขียนเอาไว้ ก็อาจจะเห็นแล้วว่าสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้จริงๆ

เพราะโลกกำลังเข้าสู่ยุค 4.0 ที่ทุกวงการจะถูกปฎิวัติจากหน้ามือเป็นหลังมือ เงินคริปโตและบล็อคเชนกำลังเข้าไป disrupt ทุกวงการอย่าง บล็อคเชนกำลังแก้ปัญหาทุกอย่างในโลก ตั้งแต่ค่าธรรมเนียมโอนเงินราคาแพง, ปัญหาแรงงานต่างด้าวในอุตสาหกรรมประมง, ท่อระบายน้ำตันในกทม., หรือแม้แต่สันติภาพในตะวันออกกลาง

วันนี้ Blognone จึงเปิดตัว Bn Coin เครือข่ายบล็อคเชนแรกสำหรับผู้อ่านบล็อกนันที่ "มีความเชื่อ" และ "มั่นใจ" ว่าบล็อคเชนกำลังมาเปลี่ยนโลก

สวัสดีครับ ขอแนะนำแอพสำหรับอ่านข่าว blognone ใน Android เป็นแอพ Blognone Unofficial ที่พัฒนาโดยผมเอง โดยชื่อแอพ Bn Story มาจากชื่อเต็มว่า Blognone Story ซึ่งเป็นไปตามกฎของ blognone ที่ไม่อนุญาตให้ใช้ชื่อ blognone ในชื่อแอพ

Bn Story มาพร้อมกับความสามารถต่างๆ เกี่ยวกับการอ่านข่าวใน blognone และทำให้เหมาะสำหรับการอ่านในอุปกรณ์ Android โดยผมจะขอแนะนำความสามารถและหน้าตาของแอพ Bn Story ต่างๆดังต่อไปนี้

ถ้าใครอ่าน Blognone ทุกวันคงเห็นชื่อคุณ sunnywalker ในเว็บอยู่เรื่อยๆ นะครับ เพราะเธอทำงานในฐานะพนักงานประจำของ Blognone มาตั้งแต่ปี 2016 แต่แม้จะทำงานประจำมาต่อเนื่อง แต่ระดับผู้ใช้บนเว็บก็ยังยังเป็น Contributor ที่การนำข่าวขึ้นหน้าแรกต้องผ่านการอนุมัติจาก Writer คนอื่นอยู่ดี

หลังจากทาง Blognone ได้เล่นเกมให้คุกกี้ทำนายกัน ตอนนี้ข่าวหมายเลข 99999 ก็ออกไปแล้ว คือข่าว Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์รับภาพรุ่นใหม่ ความละเอียด 1.46 ล้านพิกเซล เป็น BSI และ global shutter ในตัวเดียว ของคุณ BlackMiracle เวลาโพสข่าวนี้ตามหมายเลข epoch คือ 1519175879