Bluesky เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ส่งท้ายปี Trending Topics แสดงหัวข้อที่กำลังเป็นกระแสพูดถึงจำนวนมากในเวลานั้น โดยสามารถดูหัวข้อที่เป็นเทรนด์ได้เมื่อเลือกกล่องค้นหา ใช้งานได้ทางบนเดสก์ท็อปและแอปมือถือเวอร์ชันล่าสุด
Bluesky บอกว่าฟีเจอร์นี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้ใช้งานร้องขอมามากที่สุด ซึ่ง X หรือ Twitter มีมานานแล้ว ส่วน Threads มีการแสดงเทรนด์มาตั้งแต่ต้นปี
ในตอนนี้ Trending Topics รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษก่อน ผู้ใช้งานสามารถปิดการแสดงเทรนด์ได้ใน Settings นอกจากนี้หากผู้ใช้งานเลือก Mute คำใดที่เป็นเทรนด์เวลานั้น ในหน้าเทรนด์ก็จะไม่แสดงหัวข้อดังกล่าวมาให้เห็นด้วย
Bluesky อัปเดตแอปเวอร์ชัน 1.96 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายรายการดังนี้
นอกจากนี้ Bluesky ยังเพิ่มการแปลภาษาเพิ่มเติมได้แก่ ภาษาเนปาล ภาษาเขมร และภาษาโรมาเนีย
ที่มา: TechCrunch
ไมโครซอฟท์เป็นแบรนด์ไอทียักษ์ใหญ่รายล่าสุดที่เปิดบัญชี Bluesky ใช้ชื่อว่า Microsoft@microsoft.com โดยโพสต์แรกและโพสต์เดียวในตอนนี้คือ ภาพพื้นหลังของ Windows XP พร้อมคำบรรยายว่า We've always been a fan of blueskies.
Frank X. Shaw หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรของไมโครซอฟท์ โพสต์อธิบายไว้ใน LinkedIn ว่าเป็นนโยบายของบริษัทที่จะสื่อสารกับลูกค้าบนทุกช่องทางโซเชียลอยู่แล้ว โดยปรับแต่งวิธีการสื่อสารให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม กรณีของ Bluesky มาพร้อมกับแนวคิดใหม่เรื่องการให้อำนาจผู้ใช้ควบคุมประสบการณ์ใช้งานของตัวเอง แนวทางกระจายศูนย์ของ Bluesky จะสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่เชื่อมทุกคนเข้าด้วยกันได้
Bluesky โซเชียลมีเดียไมโครบล็อกกิ้งแบบกระจายศูนย์ที่มาแรง เป็นทางเลือกของคนที่ต้องการหนีจาก X ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มมาตลอดแต่ถึงตอนนี้แพลตฟอร์มก็ยังไม่มีโมเดลหารายได้ที่ชัดเจนนัก ทำให้ข้อสงสัยเริ่มเกิดตามมาว่า Bluesky จะต้องไปในทิศทางแสดงโฆษณาแบบโซเชียลอื่นหรือไม่?
Bluesky ปรับเกณฑ์การใช้งานแพลตฟอร์ม โดยบัญชีที่ล้อเลียนหรือปลอมเป็นบุคคลอื่น (impersonation) จะต้องแสดงข้อความให้ชัดเจนในชื่อและข้อมูลผู้ใช้งาน (name and bio) เพื่อให้ผู้ติดตามบัญชีเหล่านี้รับทราบแต่แรกว่าไม่ใช่ตัวจริง โดย Bluesky จะแปะป้าย impersonation ให้เห็นชัดๆ อีกทางด้วย
Bluesky ยังบอกว่าการเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ (identity churning) เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตาม เป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตให้ทำ และทีมงานได้เพิ่มกำลังการตรวจสอบเนื้อหา 4 เท่า เพื่อให้สามารถรับมือกับผู้ใช้งานจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเกิดปัญหาสแปม บ็อต และบัญชีปลอมตามมา
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ครีเอเตอร์หลายคนย้ายจาก X มาอยู่ Bluesky เพราะนโยบายเรื่องการนำข้อมูลไปเทรนปัญญาประดิษฐ์ ซึ่ง Bluesky ก็อ้าแขนรับพร้อมบอกว่าจะไม่มีการนำโพสต์เนื้อหาของผู้ใช้งานมาเทรน AI แบบ X
Bluesky ประกาศหลักไมล์สำคัญโดยมีจำนวนผู้สมัครใช้งานมากกว่า 20 ล้านบัญชีแล้ว สะท้อนการเติบโตอย่างรวดเร็วจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบอกว่ามีผู้ใช้งาน 14.5 ล้านบัญชี
ถึงตรงนี้ผู้อ่านอาจมีคำถามว่าแล้วจำนวนผู้ใช้งาน Threads ที่เป็นอีกโซเชียลทางเลือกของคนหนีจาก X เป็นอย่างไร? ตัวเลขที่ Meta รายงานล่าสุดคือมีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (Monthly Active Users - MAUs) 275 ล้านบัญชี
Bluesky แพลตฟอร์มโซเชียลที่กำลังมาแรง ประกาศว่าจะไม่นำโพสต์ของผู้ใช้งานไปเทรน AI และไม่มีแผนจะทำด้วย โดยบอกว่าตอนนี้ศิลปินและครีเอเตอร์จำนวนมากเริ่มย้ายมาอยู่ Bluesky กัน เพราะกังวลจากแพลตฟอร์มเดิมที่อยู่ว่านำข้อมูลพวกเขาไปเทรน AI
ก่อนหน้านี้ Bluesky เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ครีเอเตอร์และศิลปินเลือกย้ายมา หลังจาก X ประกาศข้อกำหนดใช้งานว่าข้อมูลโพสต์จะถูกนำไปเทรน AI (แต่ Opt-out ได้) เช่นเดียวกับ Threads ที่มีแนวทางเรื่องนำคอนเทนต์ไปเทรน AI ตามแพลตฟอร์มอื่นในเครือ Meta
Rose Wang ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Bluesky ระบุกับ The Verge ว่าตอนนี้ Bluesky มีผู้ใช้งานรวมกว่า 14.5 ล้านคน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา (ซึ่ง Donald Trump ชนะการเลือกตั้ง) Bluesky มีผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้นถึง 700,000 คน
ปัจจุบัน Bluesky อยู่ในอันดับ 2 ของแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์กฟรีบน App Store ในสหรัฐฯ รองจาก Threads ของ Meta
ก่อนหน้านี้ Bluesky เติบโตต่อเนื่อง เช่น หลังจากที่ X อัปเดต Privacy Policy เปิดให้ 3rd Party มาเทรน AI จากข้อมูลบนแพลตฟอร์ม ก็ทำให้มีผู้ใช้ใหม่กว่า 1.2 ล้านบัญชีในเวลาแค่ 2 วัน
Bluesky ประกาศว่าแพลตฟอร์มกำลังพัฒนาบริการ Subscription สำหรับผู้ใช้งาน แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นระบบซื้อติ๊กฟ้าเพิ่มการมองเห็น เพราะ Bluesky บอกว่าฟีเจอร์ที่ได้จะเป็น การอัปโหลดวิดีโอความละเอียดสูง, ปรับแต่งหน้าโปรไฟล์ได้มากขึ้น เป็นต้น การแสดงโพสต์ของผู้ใช้งานบนฟีดยังใช้รูปแบบเดิม ไม่มีการเพิ่มน้ำหนักการมองเห็นให้บัญชีที่เป็น Subscription
Bluesky ยังประกาศความก้าวหน้าของแพลตฟอร์มอีกหลายอย่างได้แก่
Bluesky ยังคงได้อานิสงส์จากการประกาศนโยบายใหม่ของ X โดยล่าสุดแพลตฟอร์มประกาศจำนวนผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบัญชี ภายในระยะเวลาสองวัน (เมื่อวานหนึ่งวัน 5 แสน) ทำให้จำนวนผู้สมัครใช้งานรวมทะลุ 12 ล้านบัญชีแล้ว
กระแสนี้ทำให้ Bluesky ขึ้นเป็นแอปดาวน์โหลดยอดนิยมในสโตร์หลายประเทศ ส่วนประเทศไทยอันดับล่าสุดอ้างอิงจาก App Figures นั้น iOS App Store อยู่ในอันดับที่ 4 และ Google Play อยู่ในอันดับที่ 6
Bluesky แพลตฟอร์มโซเชียลไมโครบล็อกกิ้งแบบกระจายศูนย์ เปิดเผยว่ามีผู้สมัครใช้งานใหม่ภายในวันเดียวถึง 500,000 บัญชี ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากการประกาศนโยบายใหม่ของ X หลายอย่าง
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้ใช้งาน X ได้รับการแจ้งในแอปถึงการเปลี่ยนแปลง ว่าโพสต์ที่เป็นสาธารณะ บัญชีที่ผู้ใช้งานบล็อกก็ยังสามารถอ่านเนื้อหาโพสต์ได้ แต่จะโต้ตอบไม่ได้ ซึ่งทำให้ผู้ใช้จำนวนมากไม่พอใจ เพราะมองว่าทำให้ฟังก์ชันบล็อกไม่เป็นอย่างที่ควรเป็น
ผลจากคำสั่งที่บราซิลสั่งบล็อกการเข้าถึง X ในประเทศ (แม้ตอนนี้จะใช้งานได้ชั่วคราว) ทำให้แพลตฟอร์มโซเชียลอื่นน่าจะมีคนย้ายไปใช้งานมากขึ้น ที่ได้อานิสงส์อย่างชัดเจนคือ Bluesky แพลตฟอร์มไมโครบล็อกกิ้งที่มีลักษณะคล้ายกับ X แต่ไม่ใช่แค่ Bluesky เท่านั้น
Tumblr เปิดเผยว่าแพลตฟอร์มมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 349.55% ในวันที่บราซิลออกคำสั่งบล็อก X โดยก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งออกมา จำนวนผู้ใช้งานในบราซิลก็เพิ่มขึ้นมาก่อนถึง 30%
ไม่ต้องรอกันนาน Bluesky แพลตฟอร์มไมโครบล็อกกิ้งแบบกระจายศูนย์ ที่กำลังมาแรงโดยเฉพาะในบราซิล ประกาศรองรับการโพสต์คอนเทนต์แบบวิดีโอแล้ว
อย่างไรก็ตามวิดีโอบน Bluesky ยังมีข้อจำกัดหลายอย่างหากเทียบกับ X โดยหนึ่งโพสต์ลงวิดีโอได้เพียง 1 คลิป แต่ละคลิปยาวไม่เกิน 60 วินาที สามารถใส่ซับไตเติ้ลในวิดีโอได้ รวมทั้งมีลิมิตโพสต์วิดีโอได้วันละไม่เกิน 25 วิดีโอ ขนาดไฟล์รวมกันไม่เกิน 10GB ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้จะได้รับการปรับปรุงในอนาคต
Bluesky แพลตฟอร์มไมโครบล็อกกิ้งแบบกระจายศูนย์ ยังคงได้ประโยชน์ต่อเนื่องจากการที่บราซิลสั่งบล็อก X โดยล่าสุดบริษัทประกาศว่าจำนวนผู้สมัครใช้งานในช่วงที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 3 ล้านบัญชีแล้ว จำนวนผู้ใช้งานรวมทั้งแพลตฟอร์มมากกว่า 9 ล้านบัญชี
ข้อมูลล่าสุดทั้ง App Store และ Play Store ในบราซิล Bluesky มีจำนวนดาวน์โหลดสูงสุดเป็นอันดับ 1 โดย Threads แพลตฟอร์มไมโครบล็อกกิ้งของ Meta อยู่ในอันดับ 2
Bluesky แพลตฟอร์มไมโครบล็อกกิ้งที่กลายเป็นตัวเลือกหลักของผู้ใช้งาน X ในบราซิล หลังจากศาลรัฐบาลกลางบราซิลออกคำสั่งบล็อก ยังคงมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด Bluesky เปิดเผยว่าจำนวนผู้สมัครใช้งานใหม่เพิ่มขึ้น 2 ล้านบัญชี ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ Bluesky บอกว่าผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านบัญชี ภายในเวลา 3 วัน และจำนวนกิจกรรมในบราซิลก็ทำสถิติสูงสุดของแพลตฟอร์ม
Bluesky โซเชียลเนตเวิร์กไมโครบล็อกกิ้งแบบกระจายศูนย์ เปิดเผยว่าจำนวนกิจกรรมการใช้งานบนแพลตฟอร์ม จากผู้ใช้งานในประเทศบราซิลทำสถิติใหม่สูงสุด ซึ่งน่าจะเป็นผลจากคำสั่งแบน X ในประเทศที่ออกมาเมื่อวานนี้ ขณะที่ภาพรวมของแพลตฟอร์มมีผู้สมัครใช้งานใหม่เพิ่มขึ้น 1 ล้านบัญชีภายในเวลาสามวัน
Bluesky แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบกระจายศูนย์ (decentralized) ซึ่งมี Jack Dorsey อดีตผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Twitter เป็นผู้ริเริ่มไอเดียและร่วมก่อตั้ง ยืนยันการลาออกของ Dorsey จากตำแหน่งบอร์ดของ Bluesky แล้ว
บัญชีของ Bluesky โพสต์ขอบคุณ Dorsey ทั้งในฐานะผู้ร่วมให้ทุนสนับสนุนและริเริ่มโครงการนี้ขึ้นมา โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการสรรหาบอร์ดคนใหม่มาแทนที่ในตำแหน่งของ Dorsey
Bluesky บริการโซเชียลแบบกระจายศูนย์ที่แยกตัวออกมาจาก Twitter เปิดให้คนทั่วไปสมัครบัญชีได้แล้ว ไม่จำกัดว่าต้องมีคำเชิญอีกต่อไป
การใช้งานสามารถเข้าไปยังหน้าเว็บแอพ Bluesky แล้วสมัครโดยใช้อีเมลและยืนยันรหัส OTP ผ่าน SMS โดยจะได้บัญชีผู้ใช้เป็น username.bsky.social ส่วนไคลเอนต์มีทั้งผ่านเว็บแอพ, iOS, Android
Bluesky โซเชียลเน็ตเวิร์คแบบกระจายศูนย์ ที่มีอดีตผู้ก่อตั้ง Twitter (ปัจจุบัน X) อย่าง Jack Dorsey ดำรงตำแหน่งในบอร์ดบริหาร โพสต์ผ่านหน้าเว็บไซต์ตัวเองเกี่ยวกับการปล่อยเวอร์ชั่น 1.61 โดยมีทั้งอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ และแก้ไขบั๊กหลายอย่าง ซึ่งทำให้ประสบการณ์ใช้งานเหมือน X มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมีรายละเอียดดังนี้
Bluesky บริการโซเชียลแบบกระจายศูนย์ที่ผลักดันโดย Jack Dorsey เปิดตัวโลโก้ใหม่อย่างเป็นทางการ จากของเดิมเป็นภาพท้องฟ้าธรรมดา กลายมาเป็นรูปผีเสื้อสีฟ้า
Bluesky บอกว่าเหตุผลที่เลือกรูปผีเสื้อ เพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลง (change and transformation) แต่จุดเริ่มต้นจริงๆ มาจากผู้ใช้ Bluesky เองเริ่มใช้อีโมจิรูปผีเสื้อ 🦋 เพื่อบอกว่านี่คือชื่อ username ในระบบ Bluesky ทำให้ทีมงานชอบและนำมาใช้งานต่อ
Bluesky บริการโซเชียลแบบกระจายศูนย์ของ Jack Dorsey อดีตซีอีโอของ Twitter ประกาศรับเงินทุนรอบ seed round จำนวน 8 ล้านดอลลาร์ ที่นำโดยบริษัทลงทุน Neo และมีนักลงทุน angel investor อื่นๆ อีกหลายราย
Bluesky บอกว่าจะนำเงินก้อนนี้ไปพัฒนาโปรโตคอล AT Protocol และตัวแอพ Bluesky รวมถึงส่วนงานต่างๆ ในบริษัท (สถานะของแอพตอนนี้ยังเป็น waitlist)
นอกจากนี้ Bluesky ยังประกาศความร่วมมือกับบริษัทจดโดเมน Namecheap เปิดให้ผู้ใช้งาน Bluesky สามารถซื้อโดเมนเนมที่ต้องการทำ custom domain ได้สะดวก (เช่น อยากได้บัญชีเป็น @username.mydomain.com แทนที่จะเป็น @username.bsky.social หรือมีโดเมนเนมขององค์กรใช้งานอยู่แล้ว) ถือเป็นบริการแบบเสียเงินตัวแรกของ Bluesky ด้วย
Bluesky แพลตฟอร์มโซเชียลกระจายศูนย์ของ Jack Dorsey ผู้ก่อตั้ง Twitter ประกาศปิดระบบสมัครผู้ใช้งานใหม่ชั่วคราว เนื่องจากพบปัญหาประสิทธิภาพการใช้งานโดยรวม ทั้งนี้ Bluesky ยังเป็นแพลตฟอร์มที่สมัครใช้ได้เฉพาะผู้ได้รับคำเชิญเท่านั้น ก่อนหน้านี้ Bluesky ก็บอกว่ามีคนเข้าคิวรอลงทะเบียนรับคำเชิญถึง 1.9 ล้านคน
Bluesky รายงานในหน้าสถานะบริการ โดยพบปัญหาประสิทธิภาพการใช้งานลดลง ทราฟิกที่เพิ่มสูงขึ้น และจำนวนผู้ใช้งานที่เข้ามามาก ตั้งแต่เวลา 00:47น. ตามเวลาในไทย สอดคล้องกับเวลาที่ Twitter มีปัญหาใช้งาน และประกาศลิมิตจำนวนทวีตที่อ่านได้ต่อวัน
แพลตฟอร์มโซเชียล Mastodon ก็มีจำนวนผู้สมัครใช้งานเพิ่มขึ้นสูงจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน บัญชี @mastodonusercount รายงานตัวเลขล่าสุดมีผู้สมัครใหม่มากกว่า 4 หมื่นบัญชี ในช่วง 1 วันที่ผ่านมา
Bluesky บริการโซเชียลตัวใหม่ของ Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ทางบริษัทบอกว่ามีผู้ใช้ราว 60,000 คน โดยยังจำกัดเฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น และมีผู้ลงทะเบียนว่าต้องการใช้งานมากถึง 1.9 ล้านคน
Bluesky ยืนยันว่าจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนผู้ใช้ทีละน้อยๆ และพยายามสร้างวัฒนธรรมในกลุ่มผู้ใช้ของตัวเองขึ้นมา ตัวอย่างคือผู้ใช้ Bluesky เรียกข้อความที่โพสต์ว่า skeet ซึ่งมาจากการผสมคำว่า sky กับ tweet
หลังจากปิดปากเงียบมานาน ในที่สุด Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Twitter ผู้ซึ่งเคยบอกว่า Elon Musk คือคนเดียวที่ผมไว้ใจให้ดูแล Twitter ก็ออกมาวิจารณ์ Elon Musk แล้ว
Dorsey ไปโพสต์เรื่องนี้ใน Bluesky บริการตัวใหม่ที่แยกตัวจาก Twitter และเขาเป็นผู้ริเริ่มไอเดีย ตอบคำถามของผู้ใช้อีกคนหนึ่ง โดยแสดงความเห็นว่าหลังจาก Musk ซื้อแล้ว ทุกอย่างแย่ลง (it all went south) แถมยังย้อนไปพูดเรื่องจังหวะการซื้อของ Musk ไม่ดี และสิ่งที่ Musk ทำหลังจากนั้น (ยอมเดินหน้าซื้อต่อ) ก็เป็นความผิดพลาด ควรยอมจ่ายค่าฉีกสัญญาซื้อกิจการเป็นเงิน 1 พันล้านดอลลาร์แทนจะดีกว่า