Shigeru Miyamoto ผู้สร้าง Mario ให้สัมภาษณ์กับ Famitsu ในโอกาสที่นินเทนโดเตรียมเปิดพิพิธภัณฑ์ Nintendo Museum ในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ โดยเนื้อหาช่วงหนึ่งพูดถึงแนวคิดเรื่องการรักษาแนวทางของบริษัท ไม่ต้องตามทุกกระแสหรือทิศทางที่บริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเกมทำ

Miyamoto บอกว่าสิ่งของที่นำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์นั้น เดิมถูกเก็บรักษาเอาไว้ในคลังสินค้า ซึ่งคงดีกว่าถ้าหากสิ่งเหล่านี้นำมาจัดแสดงให้ทุกคน รวมทั้งพนักงานของนินเทนโดได้ดู ซึ่งเรื่องที่สะท้อนได้จากสิ่งของที่เก็บรวบรวมจาก 3 ชั่วอายุคน คือนินเทนโดเป็นบริษัทที่ไม่ได้เดินตามแนวทางของบริษัทเกมคู่แข่ง หรือต้องใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดในเวลานั้น แม้นินเทนโดก็มีฝ่ายวิจัยพัฒนาอยู่

Shigeru Miyamoto แห่งนินเทนโด ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times โดยตอบคำถามยอดนิยมเกี่ยวกับมุมมองของ Generative AI กับการพัฒนาเกม ซึ่งเขาบอกว่าตอนนี้ AI เป็นหัวข้อที่คนพูดถึงกันมาก ทุกคนต่างก็นำ AI ไปใช้ในแบบเดียวกัน แต่นินเทนโดน่าจะอยากไปในทิศทางที่แตกต่างออกไป โดยต้องดูว่าอะไรที่ทำให้บริษัทพิเศษกว่าคนอื่น

ถึงแม้ Miyamoto จะไม่ได้บอกว่าทางที่แตกต่างคืออะไร แต่ก็เห็นได้ว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธ AI ไปเสียทีเดียว ก่อนหน้านี้ประธานนินเทนโด Shuntaro Furukawa ก็ให้ความเห็นเรื่องการนำ Generative AI มาใช้งาน ว่าสามารถช่วยงานสร้างสรรค์ได้ แต่ก็มีประเด็นเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาที่ตามมาด้วย

The Guardian มีบทสัมภาษณ์ Shigeru Miyamoto แห่งนินเทนโด ส่งท้ายปี 2023 โดยปัจจุบัน Miyamoto มีอายุ 71 ปีแล้ว เขายังไม่เกษียณตัวเอง แต่ไม่ทำงานออกแบบเกมโดยตรงแล้ว เพื่อเปิดทางให้พนักงานรุ่นใหม่ๆ ของนินเทนโดขึ้นมารับช่วงต่อในการพัฒนาเกมใหม่ๆ แทน เขามีหน้าที่ดูแลภาพรวม ช่วยวิจารณ์ไอเดียใหม่ๆ ของเกมที่กำลังพัฒนาอยู่เท่านั้น

Miyamoto เล่าวิธีการออกแบบเกมของเขาว่าเน้นภาพใหญ่ก่อนในช่วงเริ่มต้น ทดสอบให้มั่นใจว่าไอเดียนั้นดีจริง หลังจากนั้นในช่วงท้ายๆ เป็นช่วงการเก็บรายละเอียดให้สมบูรณ์ที่สุด หลายครั้งถึงขั้นว่าส่งเกมไปผลิตที่โรงงานแล้ว Miyamoto ยังขอแก้ไขเกมอีก เขายังบอกแบบติดตลกว่าหลายครั้งที่พนักงานฝ่ายผลิตของนินเทนโดต้องบอกเขาว่า "พอได้แล้ว"

Shigeru Miyamoto แห่งนินเทนโด ให้สัมภาษณ์กับ GameInformer เนื่องในโอกาสภาพยนตร์ Super Mario Bros. ออกฉาย มีประเด็นที่น่าสนใจเรื่องการปรับทิศทางของนินเทนโดให้เป็นมากกว่าบริษัทเกม

Miyamoto บอกว่าในอดีต นินเทนโดมีมุมมองว่าความสำเร็จของตัวเองขึ้นกับว่าเกมที่สร้างขึ้นประสบความสำเร็จแค่ไหน นินเทนโดสร้างคาแรกเตอร์เพื่อให้เกมสนุกที่สุด แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเกินกว่าการทำเกม

Shigeru Miyamoto ผู้สร้างเกมมาริโอ้ ให้สัมภาษณ์ในโอกาสที่ภาพยนตร์แอนิเมชัน The Super Mario Bros. Movie เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ว โดยเขายืนยันว่าแผนการออกเกมมาริโอ้ภาคใหม่ในอนาคต การนำลงเป็นเกมมือถือไม่ใช่แผนงานหลัก

เขาบอกว่าที่ผ่านมานินเทนโดควบคุมประสบการณ์เล่นเกมได้ดี ผ่านการทำงานร่วมกันของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ จากประสบการณ์ที่นำเกมลงมือถือมา พบว่าการต้องให้เกมรองรับสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น แต่ยังให้ประสบการณ์เกมที่ดี คือเรื่องท้าทายที่สุด

คาแรกเตอร์ที่คนทั่วโลกรู้จักอย่าง Mario มักมีภาพลักษณ์ว่าเป็น "ชายวัยกลางคน" ที่ประกอบอาชีพเป็นช่างประปา ในภาพยนตร์ Super Mario Bros. ฉบับปี 1993 ก็ได้นักแสดงชาวอังกฤษ Bob Hoskins ซึ่งตอนนั้นอายุ 50 ปีมารับบทเป็น Mario

แต่แท้จริงแล้ว Mario มีอายุเพียง 24-25 ปีเท่านั้น ข้อมูลนี้มาจากบทสัมภาษณ์ Shigeru Miyamoto บิดาผู้ให้กำเนิด Mario ที่เคยพูดไว้ในปี 2005 แต่เพิ่งถูกนำมาโพสต์อีกครั้ง ในบทสัมภาษณ์นี้ Miyamoto บอกว่าในช่วงการออกแบบตัวละคร เขาไม่ได้ลงรายละเอียดถึงขนาดว่า Mario ชอบอาหารอะไรหรือชอบสีอะไร และปล่อยให้รายละเอียดเหล่านี้ตามมาในภายหลัง แต่เขากำหนดอายุของ Mario ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

นอกจากนี้ นินเทนโดยังให้ข้อมูลว่า Luigi เป็นพี่น้องฝาแฝดกับ Mario ด้วย เพียงแต่เกิดทีหลังเลยเป็นน้องชาย

Shigeru Miyamoto ผู้สร้าง Mario แห่งนินเทนโดที่ขึ้นเวทีเปิดตัวเกม Super Mario Run ในงานแอปเปิลเมื่อคืนนี้ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ กับ Time ถึงที่มาที่ไปของเกมดังกล่าว, ความคาดหวังของนินเทนโด ตลอดจนสาเหตุที่เลือกทำเกมนี้ลง iOS ก่อน มีประเด็นสำคัญดังนี้

• ทีมพัฒนาเกมนี้เป็นทีมงานเดียวกับที่พัฒนาซีรี่ส์ Super Mario จึงมีความเข้าใจในแก่นของ Mario เป็นอย่างดี
• Super Mario Run ยังคงการออกแบบตามแนวทางเกม Mario คือเข้าใจได้ง่ายตั้งแต่เริ่มต้น และค่อยๆ ท้าทายผู้เล่นมากขึ้น ซึ่งเมื่ออยู่บนมือถือเกมจึงออกแบบให้เรียบง่ายที่สุด โดยทำให้ Mario วิ่งไปข้างหน้า และผู้เล่นคอยหลบหลีกหรือเก็บสิ่งต่างๆ ให้ได้ จึงสามารถเล่นได้ด้วยมือเดียว นอกจากนี้เกมยังมีโหมดแข่งขันที่ใช้เวลาไม่นาน และมีไอเท็มที่เพิ่มความสามารถทำให้ไม่น่าเบื่อ
• การทำเกมลงสมาร์ทโฟนช่วยให้คาแรกเตอร์ของเกมเข้าถึงคนได้มากขึ้น และสามารถดึงคนเหล่านั้นมาเล่นเกมบนแพลตฟอร์มของนินเทนโดได้ ดังเห็นได้จากยอดขายเกม Pokémon Red และ Blue ที่เพิ่มขึ้นหลังเกม Pokémon Go ออกมา ดังนั้นเขาไม่มองว่านินเทนโดจะเสียพื้นที่ในฮาร์ดแวร์ไป
• ปัญหาของสมาร์ทโฟนคือความหลากหลาย แต่นินเทนโดต้องการควบคุมประสบการณ์การเล่นเกมจึงทำฮาร์ดแวร์เอง พอเมื่อต้องทำเกมลงมือถือจึงเลือกแพลตฟอร์มของแอปเปิลก่อนเพราะมีการควบคุมที่ดีกว่า

ที่มา: Time

ในงานแถลงข่าวของแอปเปิลวันนี้ ช็อควงการด้วย Shigeru Miyamoto แห่งนินเทนโด ขึ้นเวทีมาเปิดตัวเกม Super Mario Run เกมวิ่งแบบ endless run ที่ใช้ธีมของมาริโอแบบ 2D ด้านข้างวิ่งเก็บเหรียญและเหยียบหัวศัตรู เกมออกแบบมาให้เล่นด้วยมือเดียวได้สะดวก

เกมยังเชื่อมกับระบบคาแรกเตอร์ Miitomo ของนินเทนโด สามารถเล่นแข่งกับเพื่อนได้แบบ vs Mode โดยตรง ตอนเล่นแข่งเราจะเงาของคู่แข่งซ้อนอยู่ในจอของเราให้เห็นว่าคู่แข่งอยู่ตรงไหน

เกมจะวางขายช่วงปลายปีนี้ และยังไม่เปิดเผยราคา

ช่วงนี้ Shigeru Miyamoto เดินสายโปรโมทเกมใหม่ Super Mario Maker โดยเขาให้สัมภาษณ์กับ Eurogamer อธิบายกระบวนการสร้างฉากแรกของเกม Super Mario Bros. ซี่งน่าจะเป็นฉากที่โด่งดังที่สุดในโลกวิดีโอเกมก็ว่าได้

นินเทนโดสร้างฉาก 2-1, 2-2 ก่อน แล้วค่อยมาสร้างฉาก 1-1 ในภายหลัง เหตุเพราะทีมออกแบบพบว่าผู้เล่นไม่ได้ทำในสิ่งที่ทีมคาดหวังไว้ จึงต้องออกแบบฉากแนะนำการเล่นก่อน และหลังจากนั้นเป็นต้นมา นินเทนโดจึงใช้แนวทางสร้างฉากแรกเพื่อสอนวิธีเล่นในลักษณะนี้ เพราะเมื่อผู้เล่นรู้ว่าจะต้องทำอะไรกับเกมแล้ว ก็จะเข้าใจเกมมากขึ้น รู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของเกมแล้ว

นินเทนโดทำคลิปโปรโมท Super Mario Maker โดยเชิญ Shigeru Miyamoto ผู้สร้างคาแรกเตอร์ตัวนี้มาตอบคำถามหลายอย่างที่แฟนๆ สงสัยมานาน

ประเด็นสำคัญคือเกม Super Mario Bros. 3 มีคนตั้งทฤษฎีกันมานานแล้วว่าเกมภาคนี้คือ "ละคร" เพราะตอนเปิดเกมมีฉากม่านถูกเปิดขึ้น และตอนจบแต่ละด่านจะเป็นการเดินออกไปนอกฉากบนเวที ทั้งหมดคือการแสดง ไม่ใช่การผจญภัยของ Mario จริงๆ ซึ่งไม่มีใครยืนยันได้ว่าจริงแท้แค่ไหน แต่ในคลิปนี้ คุณ Miyamoto พยักหน้ายืนยันว่าทฤษฎีนี้ถูกต้อง ทั้งหมดคือละครนั่นเองครับ

แผนภาพอธิบายทฤษฎีที่แฟนๆ ทำขึ้น

นินเทนโดยังไม่แต่งตั้งประธานบริษัทคนใหม่แทนซาโตรุ อิวาตะ ที่เสียชีวิตจากมะเร็ง

ปัจจุบันนินเทนโดมีพนักงานระดับอาวุโสที่นั่งเป็นบอร์ดอยู่สองคนคือ ชิเงรุ มิยาโมโตะ (Shigeru Miyamoto) ผู้ให้กำเนิดมาริโอ้ และ เกนโย ทาเคดะ (Genyo Takeda) ผู้บริหารฝ่ายฮาร์ดแวร์ของบริษัท ที่เคยร่วมสร้าง Nintendo 64

หลังการเสียชีวิตของอิวาตะ ทางมิยาโมโตะก็ออกแถลงการณ์สั้นๆ ว่านินเทนโดจะยังคงสืบทอดแนวทางการสร้างเกมตามนโยบายของอิวาตะต่อไป

อันนี้ก็เป็นข่าวที่ทุกคนคงเดากันได้ไม่ยาก แต่เนื่องจาก Shigeru Miyamoto เป็นคนออกมาพูดเองชัดๆ ก็เลยเอามาลงเป็นข่าวหน่อยนะครับ

Miyamoto ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ IGN ว่าเขาพอใจกับฮาร์ดแวร์ของ 3DS และคิดว่าทำออกมาได้ดีที่สุดสำหรับเครื่องเกมยุคนี้แล้ว สิ่งที่นินเทนโดกำลังคิดถึงในตอนนี้คือ "อนาคตของเกมพกพาในยุคต่อไป"

ยุทธศาสตร์การออกเครื่องเกมพกพาของนินเทนโดคือการออกรุ่นย่อยที่อัพเกรดขึ้นเรื่อยๆ ทีละน้อย (เช่น DS, DS Lite, DSi, DSi XL) แต่ไม่แน่ว่าถ้า Miyamoto พูดแบบนี้ เราอาจเห็น 3DS อยู่นานหน่อยแล้วเปลี่ยนรุ่นครั้งใหญ่เลยก็เป็นได้

ที่มา - IGN

ล่าสุด Edge ได้ไปสัมภาษณ์ Shigeru Miyamoto ผู้เป็นบิดาของ Mario และ Zelda ขณะที่เดินทางไปเปิดตัวการนำเสนอข้อมูลผ่าน Nintendo 3DS ในพิพิธภัณฑ์ Louvre ที่กรุงปารีส

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าคุณ Miyamoto ชอบเล่นเกมอื่นอีกไหมที่ไม่ใช่เกมของ Nintendo ซึ่ง Miyamoto ได้ตอบกลับไว้ เขาชอบเล่น Angry Birds มากเสียจนเขากลายเป็นแฟนตัวยงของเจ้านกโมโหทั้งหลาย

ทั้งนี้ ในรายงานได้กล่าวไว้อีกว่า Miyamoto อยากฝากคำพูดถึง Rovio ว่า ให้มีความสุขในการทำเกม และยังบอกอีกว่า Rovio ทำเกมที่มีความคิดสร้างสรรรค์มาก ๆ และขอให้พวกเขาทำต่อไปเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ "คาดไม่ถึง" สู่สายตาชาวโลก

นี่ก็อาจจะเป็นหนึ่งเหตุผลที่จะทำให้คุณรัก Angry Birds มากขึ้น

Shigeru Miyamoto คือบิดาแห่ง Mario, Zelda และเป็นกำลังหลักของนินเทนโดมาโดยตลอด ว่ากันตามตรงแล้ว เขาน่าจะเป็น game god ที่สำคัญที่สุดของฝั่งญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

แต่เมื่อวานนี้ นิตยสาร Wired ลงพิมพ์บทสัมภาษณ์ของ Miyamoto ซึ่งเขาบอกว่าจะลงจากตำแหน่งผู้บริหารทีม EAD ของนินเทนโด โดยเขาอยากไปพัฒนาเกมโครงการเล็กๆ ร่วมกับนักพัฒนารุ่นใหม่แทนการคุมโครงการเกมสำคัญแบบที่ทำมานาน

ข่าวนี้เล่นเอานินเทนโดหุ้นตกทันที เพราะคนไปตีความว่า Miyamoto กำลังจะเกษียณอายุ

นินเทนโดจึงรีบออกมาแก้ข่าวนี้ โดยโฆษกของนินเทนโดระบุว่า Miyamoto อยากจะเทรนงานให้นักพัฒนารุ่นใหม่เฉยๆ แต่ไม่คิดจะย้ายตัวเองออกจากตำแหน่งบริหารแต่อย่างใด

ในบทสัมภาษณ์ Eiji Aonuma โปรดิวเซอร์ของเกม The Legend of Zelda: Skyward Sword ภาคล่าสุด เขาพูดถึงโอกาสที่เราจะได้เห็น Zelda ภาคเก่าๆ ที่เป็น 2 มิติ ถูก "รีเมค" มาเป็นแบบ 3 มิติ (คาดว่าหมายถึง 3 มิติแบบใส่แว่น ไม่ใช่การแปลงเป็นโพลีกอน) ในอนาคต

Aonuma ให้ข้อมูลว่า Shigeru Miyamoto บิดาแห่ง Zelda (และ Mario) สนใจที่จะกลับไปยัง Zelda ภาคเก่าๆ ในอดีต โดยเฉพาะภาคที่ออกแบบด่านได้ซับซ้อนอย่าง A Link to the Past (ภาค 3 บน SFC) โดยจะแปลงกราฟิก 2 มิติแบบเดิมให้เป็น 3 มิติ เพื่อที่ผู้เล่นจะเข้าถึงโลกของเกมได้มากขึ้น

Aonuma บอกว่าแผนการนี้ยังเป็นแค่ไอเดีย แต่ก็ยอมรับว่าเรามีโอกาสจะได้เห็นมันในอนาคต