Meta ประกาศเลิกทำ Workplace (ชื่อเดิมคือ Facebook at Work แล้วเปลี่ยนเป็น Workplace by Facebook) โซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับองค์กร โดยจะปิดบริการอย่างถาวรในปี 2026
Meta ส่งอีเมลแจ้งลูกค้า Workplace บอกว่าจะให้บริการตามปกติจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2025 หลังจากนั้นจะปรับสถานะเป็น read-only และไม่คิดค่าบริการ เพื่อให้ลูกค้าดาวน์โหลดข้อมูลเก่าออกมาได้จนถึง 31 พฤษภาคม 2026 ซึ่งจะลบทุกอย่างออกจากระบบ
Meta ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ เชื่อมต่อระบบโซเชียลในองค์กร Workplace (เดิมชื่อ Workplace from Facebook) เข้ากับ Microsoft Teams
ก่อนหน้านี้ ทั้งสองบริษัทเพิ่งประกาศความร่วมมือกันโดย หน้าจอ Facebook Portal จะรองรับวิดีโอคอลล์จาก Microsoft Teams ด้วย
Facebook มีผลิตภัณฑ์ Facebook Workplace สำหรับใช้งานในองค์กร เป็นคล้ายๆ โซเชียลแต่เพื่อการทำงาน เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 ล่าสุด Facebook เผยตัวเลขผู้ใช้งานแบบเสียเงินมี 7 ล้านราย ซึ่ง Facebook ระบุว่าเพิ่มขึ้น 40% จากปี 2020
Facebook ประกาศอัพเดตล่าสุดเกี่ยวกับ Workplace บริการ Facebook สำหรับใช้งานในองค์กรว่า ตอนนี้ Workplace มีผู้ใช้งานแบบเสียเงินถึง 5 ล้านรายแล้ว พร้อมกับเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในชื่อว่า Workplace Rooms ระบบวิดีโอคอลสำหรับประชุมทางไกลที่รองรับผู้ใช้งานสูงสุดถึง 50 คน
วิธีใช้งาน Workplace Rooms คือผู้ใช้สามารถเริ่มวิดีโอคอลผ่าน Workplace Chat, Groups, News Feed หรือ Portal ก็ได้ และแชร์ลิงก์เข้าร่วมผ่านแชท, โพสต์, อีเมล หรือข้อความให้ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในบริษัทสามารถใช้งานได้ด้วย รวมถึงมีระบบแชร์หน้าจอ และล็อกห้องไม่ให้คนอื่นมาเข้าร่วมเพื่อป้องกันเหตุการณ์คนอื่นแอบเข้าไปในห้องเหมือนกับ Zoom ที่มีศัพท์เรียกว่า Zoomboombing
CERN หน่วยงานวิจัยนิวเคลียร์ของยุโรป ที่เรารู้จักกันจากโครงการ Large Hadron Collider แต่ก็ยังมีโครงการอื่นอีกมาก (WWW ก็เกิดที่นี่) ประกาศเลิกใช้งาน Facebook Workplace บริการโซเชียลสำหรับลูกค้าองค์กรของ Facebook แล้ว
CERN บอกว่าทดลองใช้ Facebook Workplace มาได้สักระยะหนึ่ง เนื่องจาก Facebook เปิดให้ลองใช้ฟรี แต่ผลลัพธ์ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก มีบุคคลากรในเครือข่าย CERN มาเปิดบัญชีประมาณ 1,000 คน และมีผู้ใช้งานจริงๆ (active user) ประมาณ 150 คนต่อสัปดาห์เท่านั้น โดย CERN วิเคราะห์ว่าสาเหตุน่าจะมาความไม่เชื่อมั่นเรื่องความเป็นส่วนตัวข้อมูลที่เก็บไว้บน Facebook
Facebook ประกาศอัพเดต Workplace ซึ่งเป็น Facebook สำหรับการใช้งานภายในองค์กร โดยระบุว่าตอนนี้ Workplace มีผู้ใช้แบบเสียเงินถึง 2 ล้านคนแล้วในระยะเวลาเพียง 2 ปีกว่า ๆ เท่านั้น หลังจากเปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2016
Workplace by Facebook นี้มีองค์กรใหญ่ใช้งานเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ Walmart, Nestle, Delta Air Lines, Booking.com, Virgin Atlantic ไปจนถึงสตาร์ทอัพอย่าง Spotify, Grab หรือแม้กระทั่ง NGO อย่าง WWF, Unicef UK และ Save the Children ซึ่งถ้านับเฉพาะองค์กรใหญ่ที่มีจำนวนผู้ใช้มากกว่า 1 หมื่นคนที่ใช้ Workplace ก็มีราว 150 แห่ง
บริการ Workplace by Facebook หรือ Facebook เวอร์ชันสำหรับองค์กรธุรกิจที่เปิดตัวในปี 2016 เตรียมย้ายออกจากโดเมน facebook.com ไปใช้โดเมน workplace.com ด้วยเหตุผลเรื่องแบรนด์ Facebook ที่มีชื่อเสียด้านข้อมูลหลุด
ปัจจุบันเว็บไซต์ workplace.com เป็นหน้าโฆษณาบริการ Workplace by Facebook อยู่แล้ว แต่ยังถูกใช้เพื่อการโฆษณาเพียงอย่างเดียว การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มเห็นในปี 2019 แต่ไม่ระบุช่วงเวลาแน่ชัด
Facebook ประกาศเข้าซื้อบริษัท Redkix ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มส่งข้อความสำหรับใช้งานภายในองค์กรจากอิสราเอล โดยทางบริษัทจะหยุดให้บริการแอพทั้งหมดและจะรวมทีมงานของ Redkix เข้ากับ Workplace by Facebook
Redkix นั้นเป็นบริษัทที่เน้นพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีอินเตอร์เฟสแบบเชื่อมต่อกันระหว่างอีเมลและระบบแชทในองค์กร เช่น ผู้ใช้ Redkix สามารถตอบข้อความส่วนตัวในแอพ Redkix เองหรือจะตอบผ่านอีเมลก็ได้
งาน F8 เมื่อคืนที่ผ่านมา นอกจากบริการและฟีเจอร์ใหม่ๆ ทางฝั่งเฟซบุ๊กแล้ว ยังมีเรื่องของ Workplace ด้วยโดยเฟซบุ๊กประกาศเชื่อมต่อกับบริการ Software-as-a-Service สำหรับองค์กรกว่า 50 เจ้า สามารถเรียกใช้งานได้ (ถ้าเชื่อมต่อ) ทั้งในกรุ๊ปหรือแชท
อีกฟีเจอร์สำหรับ Workplace คือบริการไดเรกทอรีสำหรับแชทบอทองค์กร ซึ่งรองรับทั้งแชทส่วนตัวและแชทกลุ่ม ช่วยตอบคำถามต่างๆ อาทิ เงินเดือนหรือวันเงินเดือนออกได้
ที่มา - Venturebeat
เฟซบุ๊กเดินหน้ารุกตลาดองค์กรเพิ่มเติม จากการซุ่มเปิดตัว Workplace Chat แอปแชทเวอร์ชันเบต้า สำหรับ Workplace แพลตฟอร์มโซเชียลของเฟซบุ๊ก ทั้งบนพีซีและแม็ค
โฆษกของเฟซบุ๊กยืนยันการเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ โดยระบุว่าเป็นหนึ่งความต้องการของลูกค้า Workplace ที่มีเข้ามามากที่สุด โดยหน้าตาของ Workplace Chat ถอดแบบออกมาจาก Messenger เวอร์ชันเว็บ มีฟีเจอร์ครบทั้งข้อความ ภาพ วิดีโอ คลิปเสียง อีโมจิ GIF แชร์ภาพจากกล้องหรือแม้แต่แชร์ภาพจากหน้าจอ สามารถพูดคุยได้ทั้งแบบกลุ่มและแยกห้องออกมาแบบเดี่ยวได้ตามปกติ
ที่มา - TechCrunch
หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่แล้ว เฟซบุ๊กพยายามอัพเดตและเพิ่มความสามารถให้ Workplace by Facebook แพลตฟอร์มโซเชียลสำหรับฝั่งองค์กรอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดในงาน F8 ตัว Workplace ก็รองรับการเชื่อมต่อ (intergration) เข้ากับผู้ให้บริการคลาวด์ เพื่อการจัดการไฟล์ที่ไหลลื่นและง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งพาร์ทเนอร์ที่เฟซบุ๊กประกาสออกมาตอนนี้มี Box, Onedrive (Office) และ Saleforce (Quip)
Workplace แพลตฟอร์โซเชียลสำหรับการทำงานของ Facebook เตรียมออกเวอร์ชันใช้ฟรี เพื่อให้ธุรกิจขนาดเล็ก-กลางสามารถร่วมใช้งานได้
โดยเวอร์ชันฟรีนี้จะมีคุณสมบัติพื้นฐานเหมือนกับเวอร์ชันเสียเงิน แต่ตัดคุณสมบัติระดับองค์กรใหญ่ออกไป อาทิ มีผู้ดูแลระบบ, Single sign-on ฯลฯ เรียกชื่อว่า Workplace Standard
โฆษกของ Facebook บอกว่าปัจจุบันมีองค์กรที่ใช้ Workplace Premium แบบเสียเงินอยู่หลายพันแห่ง ส่วน Workplace Standard จะเปิดให้สมัครใช้งานเร็วๆ นี้
เมื่อครั้งที่เฟซบุ๊กเปิดตัว Workplace by Facebook เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นเฟซบุ๊กระบุว่ามีการเชื่อมต่อกับบริการอื่นๆ อย่าง G Suite, Windows Azure AD และ Okta ล่าสุดเฟซบุ๊กประกาศเตรียมจะรองรับแอพฝั่งองค์กรเพิ่มขึ้น
Julien Codorniou หัวหน้าฝ่าย Workplace ประกาศในงาน TechCrunch Disrupt ว่า Workplace จะมาพร้อมกับแอพ Software as a Service ฝั่งองค์กรที่ได้รับความนิยม อาทิ Box, Saleforce และ Google
อย่างไรก็ตามตัวอย่างดังกล่าว รวมถึงแอพอื่นๆ ที่ไม่ได้พูดถึงยังอยู่ระหว่างการเจรจาเท่านั้นและข้อตกลงยังไม่เป็นที่สิ้นสุด
รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศนำ Workplace by Facebook มาใช้งานในหน่วยงานราชการทั้งประเทศภายในเดือนมีนาคมปีหน้า
เดิมรัฐบาลสิงคโปร์มีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสำหรับการติดต่องานภายในอยู่แล้วในชื่อ Cube แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก โดยเฉพาะการที่ไม่สามารถใช้งานบนสมาร์ทโฟนได้ รัฐบาลสิงคโปร์จึงนำเอา Facebook Workplace มาทดลองใช้กับหน่วยงานรัฐ 15 หน่วยงานตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนจะพบว่าข้าราชการกว่า 82% ที่มีแอคเคาท์ กลายเป็น active weekly users ไปแล้ว
การใช้ Facebook Workplace นี้รัฐบาลสิงคโปร์จะต้องจ่ายค่าบริการให้กับเฟซบุ๊กเป็นจำนวนเงิน 155,000 เหรียญสหรัฐต่อปี จากจำนวนผู้ใช้งานทั้งหมดราว 143,000 คน
มาตามนัด Facebook at Work บริการโซเชียลสำหรับการทำงาน เปิดตัวอย่างเป็นทางการในชื่อใหม่ Workplace by Facebook
Workplace by Facebook เปิดบริการมาก่อนแล้วใน 5 ประเทศ และมีองค์กรใช้งานกว่า 1,000 ราย ตอนนี้ Workplace เปิดบริการแก่องค์กรทุกรายที่ต้องการใช้งาน โดยคิดราคาตามจำนวนผู้ใช้งานจริง (monthly active users) เริ่มต้นที่ 3 ดอลลาร์ต่อคนต่อเดือน และถ้ามีผู้ใช้มากกว่า 10,000 ราย ราคาจะเหลือเพียง 1 ดอลลาร์ต่อคนต่อเดือน สำหรับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานไม่หวังผลกำไร สามารถใช้งานได้ฟรี
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา Facebook กำลังมีโปรเจกต์ทดลองอย่าง Facebook at Work ซึ่งเป็นโปรไฟล์แยกจากบัญชีส่วนตัว ซึ่งเห็น และใช้งานร่วมกันได้เฉพาะคนในองค์กรเดียวกัน (เห็นกันแค่ในองค์กร) ซึ่ง TNW ระบุว่าจะมีโมเดลเก็บเงินด้วยในปีนี้
หลังจากที่มีข่าวว่า Facebook จะทำเครือข่ายสังคมรูปแบบคนทำงาน วันนี้ก็ได้ปล่อยแอพที่ชื่อ Facebook at Work ออกมาแล้ว (ดาวน์โหลดได้เฉพาะอเมริกา และมีแต่เวอร์ชั่น iOS)