หลายๆ คนคงรู้อยู่แล้วว่าทาง DTAC นั้นมีการประกาศรับสมัครผู้ที่ต้องการใช้บริการ 3G ล่าสุดมีข่าวมาจากทาง MX Phone ว่าวันนี้ตอนบ่ายสามโมงเราจะได้รู้กันแล้วครับว่าใครได้หรือไม่ได้ใช้บริการนี้กัน

ใครสมัครแล้วมานั่งรอลุ้นด้วยกันดีว่า

ที่มา - MX Phone

พักจากเรื่องของ 3G บ้านเรามาดูที่ญี่ปุ่นกันบ้าง เพราะว่าไม่นานมานี้ทางค่ายบริการมือถือที่ญี่ปุ่นอย่าง DoCoMo และ KDDI ที่เปิดให้ใช้บริการใช้งานการเชื่อมต่อแบบ 3G กำลังทำให้รูปและหนังอนาจารกระจายตัวมากขึ้นอีก

โดยหนุ่มชาวญี่ปุ่นชื่อทาเคชิ ได้เปิดเผยว่าตัวเขานั้นสมัครใช้บริการ 3G แบบไม่จำกัดซึ่งอนุญาตให้ดาวน์โหลดวิดิโอผู้ใหญ่ด้วยมือถือ ที่มีค่ารายเดือนอยู่ที่ ¥6,300 (ประมาณ 2,200 บาท) อีกทั้งยังกล่าวว่า การดาวน์โหลดคอนเทนต์จำพวกนี้ผ่านมือถือสะดวกกว่าการใช้คอมฯที่บ้านเป็นไหน ๆ

จากผลในครั้งนี้ส่งผลให้ธุรกิจการดาวน์โหลดคอนเทนต์อนาจารออนไลน์มีการขยายตัวถึง 1,000 คนต่อวัน

หลังจากมีข่าวว่า กทช. จะเลื่อนการประมูล 3G ไปเป็นปี 2553 ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ล่าสุดนายเศรษฐพร คูศรีพิทักษ์ หนึ่งในกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า กทช. จะพยายามเปิดประมูล 3G ให้ได้ภายในไตรมาสที่สามของปี 2552 นี้

กทช. จะจ้างบริษัทเนร่าจากสหรัฐอเมริกา มาเป็นที่ปรึกษาเพื่อออกแบบการประมูลความถี่ 3G โดยมีระยะเวลาวิเคราะห์ข้อมูลในด้านต่างๆ 1 เดือน และเมื่อได้รายงานจากบริษัทเนร่าแล้ว กทช. จะสรุปผลได้ใน 1 สัปดาห์ ช่วงที่แบบประมูลเสร็จจะเป็นเดือนสิงหาคม หลังจากนั้น กทช. จะประกาศโครงการประมูลบนเว็บไซต์เป็นเวลา 1 เดือน และเริ่มประมูลจริงในช่วงเดือนพฤศจิกายน

เลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนเราแทบจะไม่ต้องคิดแล้วว่าจะได้ใช้ 3G บนคลื่นความถี่ 2100MHz แล้ว ล่าสุด กทช. ก็ได้ประกาศว่าจะมีการประมูลใบอนุญาต (License) สำหรับเครือข่าย 3G แล้วในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งจะบังเอิญตรงกับช่วงเลือกสมาชิกบอร์ดใหม่อีกด้วย

ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่การเลื่อนมาเป็นเดือนมกราคมนั้นเป็นการเลื่อนจากปลายปีนี้เท่านั้น โดยการเลื่อนการประมูลเพียงไม่กี่เดือนในครั้งนี้ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต่าง ๆ เชื่อว่าจะไม่กระทบกับการทำธุรกิจเสียเท่าไหร่ โดยได้คาดว่า 3G น่าจะเริ่มใช้ได้จริง ๆ ช่วงปลายปี 2010 อยู่แล้ว

ตัวแทนจากบริษัททรูกล่าวว่าการติดตั้งระบบทั้งหมดน่าจะใช้เวลาประมาณ​ 6-7 เดือน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์รายงานว่าจากการจับอันดับของอัลคาเทล-ลูเซ่น ประเทศไทยนั้นติดอยู่ในกลุ่ม 3 อันดับสุดท้ายของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับประเทศเวียดนามและบังกลาเทศที่ยังไม่มี 3G ใช้เช่นกัน แต่ในสองประเทศนี้เริ่มมีการอนุมัติไลเซ่นใหม่แล้ว ในขณะที่บังกลาเทศเองได้มีการอนุมัติให้ใช้ไวแม็กซ์ตั้งแต่ปีที่แล้ว

สำหรับประเทศไทยที่มีประชากรอินเทอร์เน็ต 12 ล้านคน น่าเศร้าที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพียง 1 ล้านคน แต่กลับกัน อัตราการใช้มือถือกลับสูงมากที่ 90.96% และคาดว่าจะทะลุ 100% เร็ว ๆ นี้ คาดว่าหากเทคโนโลยี 3G เกิดขึ้นในประเทศไทยและสามารถใช้ได้จริง จะสามารถดึงตัวเลขอัตราการเข้าถึงของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงขึ้นได้อีกมาก

เป็นข่าวจาก โพสต์ทูเดย์ ช้าไปหน่อยแต่ได้ดีใจอะไรบางอย่างครับ

วิดีโอลิงก์ร้อน กทช.ไม่เอี่ยว โบ้ยไอซีทีคุม

วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552

กทช.เคลียร์ไอซีที ไม่เกี่ยวเรื่องวิดีโอลิงก์อดีตนายกฯ เดินหน้าคลอด 3 ไลเซนส์ 3จี- ไวแมกซ์-นัมเบอร์พอร์ท ไตรมาส 3

กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กล่าวในงานเสวนา 3Gเทคโนโลยีเปลี่ยนชีวิต : โอกาสและความท้าทาย ซึ่งจัดโดยศูนย์เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ว่า กทช.พยายามที่จะกำหนดวิธีสรรหาความถี่ 3G ให้ได้ภายในวันที่ 5 ก.พ. 2552 และจะสามารถออกใบอนุญาตสำหรับการประกอบกิจการได้ภายในเดือน เม.ย. - พ.ค. 2552

และน่าจะได้เห็นบริการ 3G ไม่เกินไตรมาส 2 ของปี 2553

ทางด้าน AIS , DTAC , TRUEMOVE เองก็ได้ออกมาประสานเสียงกันว่า พร้อมดำเนินการและให้บริการทันที หลังจากที่ กทช.อนุมัติ

ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์

หลายคนได้สงสัยในหน้าเวบไซต์ของทรูมูฟเรื่องของการให้บริการ 3G เมื่อเปิดขาย iPhone 3G นั้นว่าจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้แล้วนั้น

แหล่งข่าวจากประชาชาติธุรกิจเปิดเผยว่า TrueMove จะเปิดแถลงข่าวร่วมกับ กสท. ในวันนี้ (14 ม.ค.) เกี่ยวกับความร่วมมือในการทดสอบระบบ HSPA (Hi-speed Packet Access) บนคลื่นความถี่ 850 MHz ซึ่งสามารถทำให้ TrueMove เปิดบริการโทรศัพท์มือถือ ระบบ 3G ได้ พร้อมเปิดใช้งานได้ในวันเปิดตัว Apple iPhone 3G ได้ในระหว่างวันที่ี 16-18 มกราคม 2552 ณ สยามพารากอน

ซึ่งตามรายงานข่าวพบว่า TrueMove ได้ดำเนินการติดตั้งและทดสอบเครือข่ายระบบ 3G แล้ว เน้นกลางเมือง เช่น สีลม สาทร ราชประสงค์ และสุวรรณภูมิ เป็นต้น แต่ยังเปิดให้บริการไม่ได้ เนื่องจากติดขัดเรื่องคลื่นความถี่

รอยเตอร์ รายงานว่า DTAC ได้ตกลงเลือกใช้อุปกรณ์โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G จาก NSN (Nokia Siemens Networks) และ หัวเหว่ย เทคโนโลยี โดยจะทำการอัพเกรดโครงข่ายเพื่อให้บริการ 3G

ก่อนหน้านี้ DTAC เคยประกาศว่าอาจจำเป็นต้องชะลอการลงทุนในโครงข่าย 3G ไปก่อนจนกว่าจะมีความแน่ใจว่าตลาดมีความต้องการใช้บริการสื่อสารข้อมูลไร้สายมากเพียงพอ อย่างไรก็ตามล่าสุด นาย Tore Johnsen ซึ่งเป็น CEO คนใหม่ของ DTAC ตัดสินใจที่จะลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาทกับการสร้างโครงข่าย 3G ในปี 2552 แล้ว โดยกล่าวด้วยว่า บริษัทยังไม่จำเป็นต้องรีบเปิดให้บริการ 3G เท่าใดนัก เพื่อให้แน่ใจว่าตลาดสื่อสารไร้สายของไทยมีความพร้อมที่จะใช้บริการของ 3G โดยเฉพาะในเรื่องของบริการสื่อสารข้อมูลไร้สาย

คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ของฟิลิปปินส์ ประกาศว่าจะให้เวลาแก่บริษัทโทรคมนาคมภายในประเทศ 10 วันเพื่อยื่นแบบร่างคำขอเข้าร่วมการประมูลใบอนุญาตให้บริการสื่อสารไร้สาย 3G เป็นรายที่ 5 ของประเทศ ทั้งนี้เนื่องจาก กทช.ฟิลิปปินส์ จะนำร่างหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้ใบอนุญาต 3G ใหม่มาใช้แทนหลักเกณฑ์เดิมที่เป็นระบบการให้คะแนนเต็ม 30 คะแนน (30-point ranking system) โดยหลักเกณฑ์ใหม่กำหนดให้ผู้เข้าร่วมประมูลต้องผ่านการพิจารณาทั้งด้านกฎหมาย การเงิน และเทคนิค

รายงานข่าวจากไชนา โมบายล์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากแล้ว ที่จะนำสมาร์ทโฟนของกูเกิล ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ออกจำหน่ายแล้ว โดยตัวเครื่องซึ่งจะใช้ชื่อว่า “โอโฟน” (OPhone) นั้นจะใช้งานบนโครงข่าย TD-SCDMA 3G ใหม่ของบริษัท

ก่อนหน้านี้เป็นที่ทราบกันว่า ไชนา โมบายล์ ให้ความสนใจที่จะนำสมาร์ทโฟน ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เข้ามาให้บริการในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจีน ทว่าติดปัญหาที่ว่า จะต้องพัฒนาระบบปฏิบัติการให้เป็นภาษาจีนก่อน ซึ่งคาดว่าจะนำออกจำหน่ายได้ในอีก 3 เดือนข้างหน้านี้

สำหรับผู้ผลิตตัวเครื่องโอโฟนให้กับไชนา โมบายล์ นั้นมีข่าวลือว่าบริษัท เลโนโว โมบาลย์ จะได้รับงานชิ้นนี้

การเคลื่อนไหวในวงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจีนเป็นที่ถูกจับตามองของบรรดาผู้คนที่อยู่ในวงการเนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรนับพันล้านคนและมีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 600 ล้านราย และเมื่อก้าวสู่ยุคการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ของจีน คาดว่าจะมีผู้ขอใช้บริการ 3G มากกว่า 500 ล้านรายภายใน 5 ปีข้างหน้า

ตัวเลขการคาดหมายดังกล่าวของกระทรวง ทำให้ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ของจีนนั้นโตกว่าตลาดของยุโรปถึง 5 เท่าตัวทีเดียว

ที่มา - cn-c114.net

นางรสนา โตสิตระกูล กล่าวในงานเวทีผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมโดยกล่าวในเชิงว่า

บริษัทมือถือสนับสนุนให้เกิดการบริโภคและเสพติดการใช้โทรศัพท์มากขึ้น ซึ่งทำให้เด็กในวัยเรียน ติดโทรศัพท์ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสนทนาออนไลน์ ซึ่งเป็นการทำลายมันสมองของชาติ และอ้างว่าต่างประเทศนั้นมีโทษของการใช้โทรศัพท์ในรถเท่ากับการดื่มสุราขณะขับรถเพราะทำให้คนที่คุยโทรศัพท์ไม่มีสติเหมือนการดื่มสุรา และบอกต่ออีกว่าการใช้บริการมือถือจะมองแต่ความทันสมัยอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการให้บริการมือถือกำลังกลายเป็นสิ่งเสพติดอย่างใหม่ในสังคม และนี่ยังไม่รวมถึงการถ่ายคลิปโป๊ การพนัน การก่ออาชญากรรมและปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัท ดิจิ เทเลคอมมิวนิเคชั่น (DiGi Telecommunications) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ลำดับ 3 ของมาเลเซีย ตามหลังบริษัท แม็กซิส (Maxis) และบริษัท เซลคอม (Celcom) เตรียมแผนใช้ CAPEX (Capital Expenditure) หรือ เงินสดที่บริษัทใช้ไปกับกิจกรรมที่เป็นการลงทุน มากกว่า 1.1 พันล้านริงกิตมาเลเซีย (MYR) หรือประมาณ 11 พันล้านบาท ในปี 2552 โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาระบบสื่อสารไร้สาย 3G

CEO ของบริษัทเปิดเผยว่า ตัวเลขที่ชัดเจนยังไม่ได้กำหนดไว้แต่คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 1.1 – 1.3 พันล้านริงกิตมาเลเซีย โดยในจำนวนนี้ประมาณ 30% ใช้ลงทุนพัฒนาโครงข่าย 3G เป็นหลัก

ที่มา - Telegeography

ยังคงเป็นปัญหาอีกสำหรับการให้บริการสื่อสารไร้สายในมอสโก ทั้งนี้แม้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้บริการสื่อสารไร้สาย 3G ในรัสเซีย 3 รายคือ MTS, Vimpelcom และ MegaFon ได้ลงทุนก่อสร้างโครงข่าย 3G ด้วยเทคโนโลยีและมาตรฐานต่างๆไปแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้และจำเป็นต้องชะลอการเปิดบริการอีกเนื่องจากหน่วยงานทางทหารของรัสเซียยังไม่อนุมัติการใช้คลื่นความถี่สำหรับ UMTS (Universal Mobile Telecommunications System)

แหล่งข่าวจากบริษัท Vimpelcom ให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์ The Moscow Times ว่า ตามที่ตกลงกันนั้น ทางทหารได้ให้คำมั่นสัญญาว่า จะเปิดให้ใช้คลื่นความถี่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2551

นาย Li Yizhong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ของจีนเปิดเผยว่า จีนจะออกใบอนุญาตให้บริการสื่อสารไร้สายยุคที่ 3 หรือ 3G ได้เร็วๆนี้ โดยอาจจะเป็นภายในเดือนนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้า

บริษัท ไชนา โมบายล์ จะได้รับใบอนุญาตสำหรับเทคโนโลยี TD-SCDMA ซึ่งเป็นเทคโนโลยี 3G ของจีนเองทั้งนี้เป็นการยืนยันจากรัฐมนตรี ในขณะที่บริษัท ไชนา ยูนิคอม จะให้บริการด้วยเทคโนโลยี WCDMA ส่วนบริษัท ไชนา เทเลคอม จะได้รับใบอนุญาตสำหรับเทคโนโลยี CDMA2000

บริษัท ควอลคอมม์ (Qualcomm) ผู้ผลิตชิพรายใหญ่ คาดการณ์ว่าภายใน 2 ปีข้างหน้านี้ เครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่จะสามารถดาวน์โหลดที่ความเร็วได้สูงขึ้นถึง 42 Mbps โดยจะใช้เทคโนโลยี HSPA+ ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจาก HSDPA และ HSUPA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้กับ 3G
เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทได้สาธิตการทดสอบการเชื่อมต่อ HSPA เพื่อดาวน์โหลดได้ที่ความเร็วสูงถึง 21 Mbps ในลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร

ได้ยินได้ฟังมาว่า 3G อาจกำลังจะมากันแน่นอนแล้ว ผมเลยอยากจะเอาประสบการณ์มาแชร์ดูบ้างว่า ถ้าเรามี มือถือ 3G, เครือข่าย, และ unlimited data plan แล้ว ชีวิตในหนึ่งวันจะเป็นอย่างไร

นี่เป็นเหตุการณ์ในจินตนาการของวันนึงครับ :-)

ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 9 โมงเช้าของคืนวันอังคาร วันพุธมีสัมมนาที่มหาวิทยาลัย
tweet: sleep

เป็นที่แน่นอนแล้วว่าบริษัท ไชนา ทเลคอม (China Telecom) ได้เข้าซื้อกิจการในส่วนของโครงข่ายสื่อสารไร้สาย CDMA จากบริษัท ไชนา ยูนิคอม (China Unicom) ด้วยมูลค่า 110 พันล้านหยวน (ราว605 พันล้านบาท) ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า และได้เปลี่ยนชื่อใหม่จาก ไชนา ยูนิคอม มาเก๊า เป็นไชนา เทเลคอม มาเก๊า

โครงข่าย CDMA ดังกล่าวเป็นโครงข่าย 3G ซึ่งปัจจุบันเป็นโครงข่ายเดียวที่ดำเนินการโดยบริษัทโทรคมนาคมของจีน

ทั้งนี้แหล่งข่าวจากไชนา เทเลคอม กล่าวว่าจะมีการโอนลูกค้าทั้งหมดที่มีอยู่ราว 40,000 คน พร้อมบริการต่างๆทั้งหมดที่ดำเนินการบนโครงข่าย CDMA โดยผู้ใช้บริการทุกประเภทไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

หน่วยงานกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมของบังกลาเทศ (BTRC) ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะออกใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ในประเทศได้ภายในมีนาคม 2552 ผ่านการประมูลแบบเปิด (open auction) หลังจากก่อนหน้านี้ BTRC เคยประกาศว่าจะออกใบอนุญาต 3G ได้ภายในปี 2551 แต่ก็เกิดความล่าช้า

ประธาน BTRC กล่าวว่า หลังจากที่มีการทดสอบโครงข่าย 3G ของอิริคสัน (Ericsson) แล้วเมื่อสิงหาคม ได้ประเมินมูลค่าของใบอนุญาต 3G ควรอยู่ที่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,000 ล้านบาท)

เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา BTRC เคยอนุญาตให้คลื่นความถี่เพิ่มเติมแก่ผู้ให้บริการรายเดิม 3 รายด้วยเหตุผลมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยมีค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 204 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในบ้านเรา หลายคนในกทม. คงกำลังรอเครือข่ายความเร็วสูง 3G (หลังจากที่บ้านนอกได้ใช้ CDMA ของกสท. และชาวเชียงใหม่ได้ใช้ 3GSM ของ AIS ไปก่อน (ข่าวเก่า) ในขณะที่ กทม. โดนชะลอไว้) วันนี้ AIS เปิดให้ทดสอบบริการ 3G ในกทม. แล้วครับ

แหล่งข่าว AIS Call Center จากในกระทู้เว็บบอร์ด Pantip.com ได้ให้ข้อมูลว่าบริการนี้เริ่มเปิดให้ใช้ในวันที่ 1 ธ.ค. 2551 และใช้ได้เฉพาะพื้นที่บางส่วนในบริเวณห้างเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า เท่านั้น โดยผู้ที่ต้องการทดสอบ ไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนซิมหรือโปรโมชั่น (แต่หากต้องการจะใช้ VDO Call จำเป็นจะต้องสมัครการใช้งานก่อน)

ข่าวเก่าไปนิดแต่ผมคิดว่ายังมีประโยชน์เลยเอามาลงนะครับ เว็บไซต์ Gizmodo ได้ทดสอบการท่องเน็ตบนมือถือรุ่นใหม่ๆ หลายตัว โดยการทดสอบมีทั้งผ่านเครือข่าย 3G และ Wi-Fi ผลลัพธ์แบบละเอียดมีให้อ่านตามลิงก์ ผมคัดมาเฉพาะเกรดสุดท้ายที่ Gizmodo ออกให้มือถือแต่ละตัว

• T-Mobile G1: B+
• BlackBerry Bold: B-/C+
• iPhone: A-
• Nokia E71: B-
• Samsung Epix (IE): F-
• Samsung Epix (Opera): C
• Sprint/Samsung Instinct: C+
• LG Dare: C

สรุปว่า iPhone ยังครองแชมป์ ตามมาด้วย T-Mobile G1 ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเอนจิน WebKit มีส่วนช่วยเยอะในการทดสอบด้านการแสดงผลเว็บไซต์

บริษัท ไดอะล็อก เทเลคอม (Dialog Telekom) ของศรีลังกาเปิดตัวบริการเกมบน 3G ที่สามารถเล่มรวมกันได้หลายคนผ่านทางบริการวิดิโอ คอลล์ (video call) บนเครื่องโทรศัพท์มือถือที่ใช้ 3G ได้ทุกเครื่อง

“3G Play” ซึ่งพัฒนาโดย WaveNET ได้แนะนำเกมใหม่พร้อมกัน 8 เกม บริการดังกล่าวทำให้ผู้ใช้บริการของบริษัทสามารถชักชวน ญาติมิตร เพื่อนฝูง ให้มาเล่นเกมด้วยกันโดยใช้บริการเสริมพิเศษ วิดิโอ คอลล์ เรียกเข้าไปยังระบบ หรืออาจเล่นคนเดียว (กับระบบ) ก็ได้ ตัวอย่างเกม เช่น Tic Tac Toe, Black Jack 21 และ Pokerและในขณะที่เล่น ผู้ใช้ยังสามารถแชท (chat) ได้ด้วย

ถึงแม้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกจะไม่สดใส แต่รัฐบาลอินเดียยังมีความหวังว่า ความต้องการใช้โทรศัพท์ เคลื่อนที่ของอินเดียจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2552 ด้วยบทบาทของโครงข่าย 3G และไวแมกซ์ รวมถึงการเปิดให้บริการ MNP (Mobile Number Portability) ซึ่งเป็นบริการที่ลูกค้ายังคงใช้หมายเลขเดิมได้แม้จะเปลี่ยนแปลงผู้ให้บริการ)

ความต้องการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของอินเดียคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 136 ล้านรายในปี 2552 สูงขึ้น 23.9% จากปี 2551 ที่มีจำนวน 110 ล้านราย ซึ่งจะทำให้ตัวเลขความต้องการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศะเพิ่มขึ้นเป็น 319.9 ล้านรายเมื่อถึงสิ้นปี 2551 โดยเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 กว่า 36.9% ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการ 233.6 ล้านราย

ประธานบริษัท ไชนา ยูนิคอม คาดหวังว่า รัฐบาลจีนจะเร่งกระบวนการออกใบอนุญาตบริการไร้สายความเร็วสูงโดยเร็ว เนื่องจากบริการดังกล่าวจะมีบทบาทที่สำคัญในการช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

อย่างไรก็ตามมีข้อมูลเปิดเผยว่า รัฐบาลอาจพิจารณาเลื่อนการออกใบอนุญาต 3G ใหม่ออกไปจนถึงกลางปีหน้าทั้งนี้เพื่อให้มีเวลาสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายภายในประเทศให้มั่นคงก่อน อย่างไรก็ตามความล่าช้าดังกล่าวส่งผลกระทบต่อแผนของบริษัทที่เตรียมเปิดให้บริการสื่อสารไร้สายที่มีความเร็วสูงขึ้นไปอีก ซึ่งจะเป็นการท้าทายต่อบริษัท ไชนา โมบายล์ ที่เป็นผู้นำตลาดอยู่ในขณะนี้