Adobe เปิดให้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ Adobe XD รุ่นเบต้า สำหรับผู้ใช้งาน Windows 10 แล้ว โดยเป็นแอพตัวแรกจาก Adobe ที่เขียนขึ้นบนแพลตฟอร์ม UWP ทำให้ต้องใช้กับ Windows 10 Anniversary Update ขึ้นไป

Adobe XD ตอนนี้จะยังไม่รองรับการแชร์ต้นแบบ ผ่าน Creative Cloud และฟีเจอร์อื่นๆ จะตามมาในอัพเดตต่อๆ ไป ซึ่งจะมีมาทุกเดือน

ผู้ที่ต้องการเสนอแนะและรายงานปัญหา สามารถทำได้ผ่าน Twitter และหน้า UserVoice

Adobe ได้ออกอัพเดตโปรแกรมแต่งภาพ Photoshop ใหม่ โดยรองรับการใช้งานผ่าน Touch Bar ของ MacBook Pro รุ่นปี 2016 เพื่อช่วยให้การทำงานกับ Photoshop ง่ายขึ้น โดยมีกลุ่มฟังก์ชัน 3 แบบบน Touch Bar ดังนี้

• Layer Properties สามารถเข้าถึงเครื่องมือประเภทจัดการเลเยอร์หรือเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง
• Brush สามารถเข้าถึงเครื่องมือประเภท brush, paint
• Favourite โหมดที่ผู้ใช้ปรับแต่งได้เอง สามารถเลือกนำเครื่องมือที่ต้องการมาใส่ได้

รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งาน Touch Bar ของ Photoshop สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก Adobe Support

Adobe ได้ออกอัพเดตใหญ่ Lightroom บนทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ Lightroom Mobile, Lightroom CC, Lightroom บนเว็บ รวมถึง Adobe Camera Raw ด้วย

สำหรับแอพ Lightroom บน iPhone อัพเดตเป็นเวอร์ชัน 2.6 มีฟีเจอร์ดังนี้

• ส่วนแก้ไขรูปที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อให้ค้นหาเครื่องมือได้ง่ายขึ้น และปรับแต่งรูปภาพได้สะดวกขึ้นบนมือถือ โดยปรับปรุงให้เหมาะกับการใช้งานกับมือเดียวมากขึ้น
• ส่วนข้อมูลรูปภาพใหม่ สามารถปรับแต่งข้อมูลของรูปภาพได้ละเอียดกว่าเดิม
• หน้าจอถ่ายภาพใหม่ พร้อมโหมด professional เพื่อให้สามารถควบคุมกล้องได้ละเอียดกว่าเดิม

เมื่อยุคสมัยของการสร้างเว็บไซต์เปลี่ยนไปเป็นการเขียนโค้ดเสียส่วนใหญ่ ความจำเป็นในการใช้โปรแกรมที่มีความสามารถสูงอย่าง Adobe Dreamweaver ก็เริ่มเสื่อมถอยลง (อ่านข่าว "หมดสมัยของ Dreamweaver?" ประกอบ) Adobe ที่เห็นว่าแนวทาง WYSIWYG เริ่มใช้ไม่ได้แล้ว จึงมีการปรับตัวครั้งใหญ่ในงาน Adobe MAX 2016 ที่ผ่านมา

การปรับตัวที่ว่าคือการออก Dreamweaver CC 2017 ที่ปรับแนวทางจากเดิมที่ใช้ WYSIWYG มาเป็นการเขียน "โค้ด" เต็มตัว ลดเครื่องมือที่ไม่จำเป็นออกไปเป็นจำนวนมาก เหลือไว้เฉพาะเครื่องมือที่จำเป็นจริงๆ พร้อมกับหน้าตาของโปรแกรมที่เหมือน Text Editor โดยทั่วไป

Adobe ประกาศจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (GST - Goods and Service Tax) จากค่าสมาชิก Creative Cloud ในออสเตรเลียตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป

รัฐบาลออสเตรเลียพยายามจะเก็บภาษีจากการซื้อสินค้าดิจิทัลที่ชาวออสเตรเลียซื้อ (ไม่ว่าจะซื้อที่ไหน) มาซักพักแล้ว แต่ทว่าบริษัทเทคโนโลยีพยายามแย้งว่า การซื้อขายไม่ได้เกิดขึ้นในออสเตรเลีย เพียงเกิดการใช้งานผลิตภัณฑ์เพียงแค่เกิดขึ้นบนแผ่นดินออสเตรเลียเท่านั้น ซึ่งรัฐบาลมองว่าฟังไม่ขึ้น ก่อนจะยกเลิกการละเว้นภาษีดังกล่าว

ที่มา - The Register

Adobe ได้นำแอพ Photoshop Fix ซึ่งเป็นแอพปรับแต่งภาพในตระกูล Photoshop ลง Android เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่แอพนี้ลงบน iOS ไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

Photoshop Fix บน Android นี้ก็มีเครื่องมือที่เหมาะกับการปรับแต่งภาพแบบทั่วไป ตั้งแต่การโฟกัส, สี, แสง ฯลฯ และถ้าผู้ใช้ได้สมัคร Creative Cloud ก็จะสามารถซิงค์ไฟล์เป็น PSD เพื่อไปทำงานต่อบนอุปกรณ์อื่นได้ทันที

แอพ Photoshop Fix สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทาง Google Play

ที่มา - Engadget

ความน่าสนใจจากงาน Max Conference โดย Adobe ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ในงานนี้ Adobe ยังเปิดตัวเครื่องมือทำงานด้านไฟล์เสียงใหม่ ซึ่งก็คือ Project VoCo ให้ผู้ใช้แก้ไขไฟล์เสียงง่ายเหมือแก้ไขข้อความ และยังสร้างไฟล์เสียงขึ้นมาใหม่ได้โดยใช้อัลกอริทึม

Project VoCo สามารถวิเคราะห์และแปลงไฟล์เสียงออกมาเป็น phoneme หรือหน่วยพื้นฐานของเสียง หลังจากวิเคราะห์แล้วจะสามารถสร้างโมเดลเสียงขึ้นมาใหม่ได้ นอกจากนี้ยังแก้ไขเสียงได้ด้วยการพิมพ์คำที่ต้องการแก้ลงในโปรแกรม คำพูดต่างๆ จะถูกถอดเป็นข้อความโดยโปรแกรมอยู่แล้ว

แม้จะใช้งานง่าย และมีฟีเจอร์สร้างเสียง แต่ตัวโปรแกรมอาจถูกตั้งคำถามว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการสร้างเสียงปลอมของบุคคล ซึ่งอาจส่งผลกระทบในเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือไม่

สำหรับงานด้านแอนิเมชั่น และภาพยนตร์ Adobe ก็อัพเดตโปรแกรม Adobe Premiere Pro CC ให้มีฟีเจอร์รับรู้งาน VR อัตโนมัติ หรือ auto-aware virtual reality ให้โปรแกรมรับรู้ได้เองว่า ควรตั้งค่าแบบไหนให้เหมาะกับงานด้านสามมิติ การอัพเดตนี้ยังรองรับการทำงานเป็นทีม หรือ Team Projects ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ทำขึ้นมาเพื่อลูกค้าองค์กร

นอกจากรับรู้งาน VR แล้ว ยังใช้เอนจิ้นเรนเดอร์ภาพสามมิติที่ทำได้เร็วขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มพาเนลโซเชียลเข้ามา สามารถแชร์งานลงโซเชียลต่างๆ ได้

Adobe ประกาศเปิดตัว Typekit Marketplace บริการเช่า (ผ่าน Creative Cloud Subscription) หรือซื้อฟอนท์โดยตรงจากผู้ผลิตฟอนท์กว่า 20 เจ้าที่ Adobe เป็นพาร์ทเนอร์

ฟอนท์ทั้งหมดบน TypeKit สามารถใช้งานได้ทั้งบนหน้าเว็บผ่าน JavaScript หรือซิงก์เข้ากับแอคเคาท์ Creative Cloud เพื่อนำไปใช้งานบนแอพอื่นๆ ของ Adobe พร้อมทั้งติดตั้งลงเครื่อง ทำให้สามารถทำไปใช้งานกับโปรแกรมหรือแอพอื่นนอกเหนือจาก Adobe ได้ด้วยเช่น MS Office

Adobe เปิดตัวฟีเจอร์ Team Projects เวอร์ชันเบต้า ซึ่งเป็นบริการบน Creative Cloud ที่รองรับการแก้ไขไฟล์บน Premiere Pro, After Effects และ Prelude ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน โดยเปิดให้ทดลองใช้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Team Projects ถูกออกแบบมาโดยป้องกันการทำงานทับซ้อนกัน ด้วยการโคลนไฟล์หรือโปรเจ็คขึ้นมาให้ผู้ใช้คนหนึ่งๆ แก้ไขบนเครื่องของตัวเอง (แบบ sandbox) ก่อนจะตรวจหาว่างานที่แก้แล้วนั้นไม่มีการทับซ้อนหรือ conflict กับคนอื่นที่กำลังแก้ไขงานเดียวกัน และอัพโหลดไฟล์หรือโปรเจ็คที่ถูกแก้ไข ให้เป็นไฟล์เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะถูกบันทึกไว้เป็น history และสามารถย้อนกลับไปดูการแก้ไขได้ด้วย ขณะที่ source ของไฟล์ต่างๆ ที่ถูกใช้บน Team Projects ก็สามารถแชร์ให้กับคนในทีมได้

เมื่อคืนภายในงาน Adobe MAX 2016 ที่ผ่านมา Adobe ได้เผยโฉม Project Felix เครื่องมือออกแบบและแต่งโมเดลแบบสามมิติความละเอียดสูง พร้อมรองรับการเรนเดอร์ไฟล์โมเดลให้เข้ากับแสงพื้นหลังแบบ 2 มิติ

องค์ประกอบ (asset) สำคัญในการทำงานบน Felix มีอยู่ 3 อย่างคือโมเดล 3 มิติ ซึ่ง Adobe มีให้ด้วยบน Adobe Stock, เครื่องมือแต่งแสงและวัสดุ (Material) สำหรับโมเดล พร้อมด้วยเครื่องมืออื่นๆ อาทิ Auto-Light, Magic Wand และ Auto-Align to Image Horizon ที่อำนวยความสะดวกในการสร้างโมเดล

ในงาน Max Conference จัดโดย Adobe นอกจากเปิดตัว Sensei เฟรมเวิร์ค แล้ว ยังเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Project Nimbus ที่ว่ากันว่าจะเป็นแพลตฟอร์มการแก้ไขรูปภาพในยุคใหม่เลยก็ว่าได้

Project Nimbus คือแพลตฟอร์มแก้ไขรูปภาพบนคลาวด์ที่ทำงานร่วมกันได้ระหว่างสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ มีเครื่องมือแก้ไขรูปภาพที่ใช้งานง่ายกว่า Lightroom เดิม นอกจากนี้ยังใช้ AI ทำงานเบื้องหลัง เช่น ใช้ภาษาค้นหากลางหรือ neural language ในการค้นหารูปภาพบันทึกรูปภาพบนแพลตฟอร์มคลาวด์ และเพิ่มประสิทธิภาพฟังก์ชั่นเครื่องมือแก้ไขรูปภาพ

Adobe ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ใน Adobe Cloud Platform ในชื่อว่า Adobe Sensei โดยจะใช้ machine learning เข้ามาช่วยในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของ Adobe โดยจะนำความสามารถสองอย่าง รวมเข้ากับเทคโนโลยีล่าสุดใน AI ได้แก่

• ข้อมูลและคอนเทนต์จำนวนมาก: ใช้ข้อมูลแบบไม่ระบุตัวตนป้อนให้ AI เรียนรู้
• เข้าใจการทำงานมากขึ้น: ใช้ AI ในการเรียนรู้ลักษณะงานของผู้ใช้ เช่น เข้าใจรูปภาพและจัดหมวดหมู่ได้, ระบุฟอนต์ได้ ฯลฯ

สำหรับแพลตฟอร์มคลาวด์ต่าง ๆ ของ Adobe นั้นได้ใช้ Sensei เข้ามาช่วยในการจัดการในฟีเจอร์หลายอย่าง ตั้งแต่คอนเทนต์ไปจนถึงข้อมูล โดยใช้ความฉลาดของ AI ในการช่วยจัดการ เช่น

Creative Cloud

Adobe ออกแพตช์ให้กับ Flash สำหรับวินโดวส์, แมค, และลินุกซ์ แก้ช่องโหว่ CVE-2016-7855 เป็นช่องโหว่ระดับวิกฤติ แฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมเครื่องของเหยื่อได้

แม้ว่าช่องโหว่นี้จะกระทบแพลตทุกฟอร์ม แต่รายงานการโจมตีตอนนี้จำกัดอยู่ที่ Windows 7, 8.1, และ 10 โดยเป็นการโจมตีอย่างเจาะจง

ตอนนี้อัพเดตของแพลตฟอร์มต่างๆ ก็เปิดให้อัพเดตแล้ว ผมได้รับอัพเดต Chrome OS แล้ว ส่วนฝั่งไมโครซอฟท์ก็น่าจะได้รับ Windows Update กันแล้วเช่นกัน

ที่มา - Adobe

Adobe ปล่อยอัพเดตให้ Flash เวอร์ชัน 23.0.0.185 เพื่ออุดช่องโหว่ร้ายแรง ที่เปิดทางให้คนร้ายสามารถเข้ายึดเครื่องได้ ซึ่งส่งผลทั้งแมค, วินโดวส์, ลินุกซ์และ Chrome OS สามารถดาวน์โหลดได้เลยที่นี่

สำหรับใครที่ยังคงเจอเว็บที่ยังต้องใช้ Flash อยู่สามารถดูวิธีการปิดปลั๊กอินบนเบราว์เซอร์ต่างๆ เพื่อเปิดใช้งานเป็นครั้งคราวได้ที่นี่

ที่มา - 9to5Google

Adobe ออกแพตช์ความปลอดภัยชุดใหญ่ให้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ทั้ง Adobe Acrobat, Adobe Reader และ Flash

• Acrobat/Reader (ทั้งเวอร์ชัน XI และ DC) รอบนี้ได้แพตช์ชุดใหญ่ อุดรูรั่วถึง 71 จุด หลังอัพเดตแล้วจะได้ Acrobat/Reader DC เวอร์ชัน 15.006.30243 และ Acrobat/Reader XI เวอร์ชัน 11.0.18 - Adobe
• Flash Player ได้แพตช์อุดรูรั่ว 12 จุด หลังอัพเดตแล้วจะได้เวอร์ชันเป็น 23.0.0.185 บนวินโดวส์, แมค, Chrome, Edge, IE และเวอร์ชัน 11.2.202.637 สำหรับลินุกซ์ - Adobe

การอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยครั้งนี้ เป็นไปตามรอบปกติ และยังไม่มีรายงานว่าช่องโหว่เหล่านี้ถูกใช้โจมตีจริง

ที่มา - Threatpost

หลังจากที่ออก Adobe XD รุ่นทดสอบไปมน macOS ตั้งแต่ช่วงต้นปี และประกาศเตรียมลง Windows 10 ภายในปีนี้ ล่าสุดทาง Adobe ได้ออกมาอัพเดตความคืบหน้าต่างๆ ดังนี้

Microsoft และ Adobe ได้ประกาศขยายความร่วมมือกัน โดย Adobe จะเริ่มย้ายแพลตฟอร์มบนคลาวด์หลายอย่างมาไว้บน Microsoft Azure ได้แก่ Adobe Marketing Cloud, Creative Cloud และ Document Cloud ซึ่ง Adobe จะใช้บริการทั้ง SQL Server และ machine learning ของ Azure ใน Microsoft Cortana Intelligence Suite

ส่วนฝั่ง Microsoft นั้นก็จะใช้งาน Adobe Marketing Cloud เป็นบริการสำหรับการตลาดใน Dynamics Enterprise 365 และบริษัททั้งสองก็จะมีการร่วมมือในด้านการรวมข้อมูลเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้ทำงานข้ามบริการของสองบริษัทได้ง่ายขึ้น

ที่มา - TechCrunch

Adobe รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2016 (มิถุนายน-สิงหาคม) มีรายได้รวมทำสถิติใหม่อีกครั้งที่ 1,464 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 270.8 ล้านดอลลาร์

Creative Cloud ยังเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นรายได้หลักของ Adobe ไตรมาสที่ผ่านมามียอดขายส่วนนี้ถึง 803 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39%

Shantanu Narayan ซีอีโอ Adobe กล่าวว่าผลการดำเนินงานที่ออกมานั้น แสดงความแข็งแกร่งทั้งรายได้และกำไรของ Adobe ซึ่งช่วยให้บริษัทไปได้ไกลมากกว่าคู่แข่งขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งคาดว่าไตรมาสถัดไปผลการดำเนินงานก็จะยอดเยี่ยมกว่านี้อีก

ที่มา: Adobe และ Tech Trader Daily

Adobe ได้ออกอัพเดตแอพ Lightroom Mobile เวอร์ชัน 2.5 สำหรับ iPhone และ iPad โดยเพิ่มฟีเจอร์สำหรับการถ่ายและแก้ไขภาพไฟล์ RAW โดยใช้ไฟล์แบบ DNG โดยผู้ใช้อุปกรณ์ iOS สามารถถ่ายภาพไฟล์ RAW จากกล้องของตัวเครื่อง จากนั้นก็แก้ไขไฟล์ผ่านตัวโปรแกรมได้ทันที

การใช้งานนี้ จำกัดเฉพาะผู้ใช้ iOS 10 และต้องใช้อุปกรณ์ iOS ที่มีกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่านั้น ได้แก่ iPhone 6s, iPhone 6s Plus, iPhone SE, iPad Pro 9.7 รวมถึง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ด้วย

Adobe ได้ออกอัพเดต Lightroom for Mobile สำหรับทั้ง iOS และ Android ในรอบเดือนกรกฎาคม โดยบน iOS จะเป็นเวอร์ชัน 2.4 และบน Android จะเป็นเวอร์ชัน 2.1 ซึ่งในการอัพเดตครั้งนี้ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญเพิ่มเข้ามาหลายอย่าง ได้แก่

Adobe ออกแพตช์ความปลอดภัยให้ Flash ครั้งใหญ่ รอบนี้อุดช่องโหว่ถึง 52 จุด ถือว่าเป็นแพตช์ที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ช่องโหว่รอบนี้ยังไม่มีรายงานว่าถูกใช้งานจริงแต่อย่างใด

เลขเวอร์ชันของ Flash ตอนนี้ขยับขึ้นมาเป็น 22.0.0.209 แล้ว (ของเดิม 22.0.0.192) คนที่ใช้ Chrome, IE, Edge สามารถอัพเดตจากตัวเบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการได้โดยตรง ส่วนเบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ ก็รีบดาวน์โหลดอัพเดตแยกกันนะครับ

ในโอกาสเดียวกัน Adobe ยังออก Acrobat Reader เวอร์ชันใหม่ที่อุดช่องโหว่อีก 30 จุดเช่นกัน เลขเวอร์ชันขยับเป็น 15.017.20050 (DC) และ 11.0.17 (XI) แนะนำให้รีบอัพเดตามครับ

Adobe ออกอัพเดต Flash Player รอบใหม่ (นับเวอร์ชันเป็น 22 แล้ว เลขเวอร์ชันสูงสุดคือ 22.0.0.192) อุดช่องโหว่ทั้งหมด 36 จุด ในจำนวนนี้มีช่องโหว่ระดับ critical 3 จุด และมีช่องโหว่หนึ่งจุด (CVE-2016-4171) ที่พบว่าถูกใช้โจมตีจริงๆ

Flash Player เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบคือทุกเวอร์ชันก่อนหน้านี้ (21.0.0.242 หรือเก่ากว่า) ดังนั้นผู้ใช้ Flash ทุกแพลตฟอร์มรีบอัพเดตกันด่วน สำหรับผู้ใช้ Chrome สั่งอัพเดตจากเบราว์เซอร์โดยตรง, ผู้ใช้ IE/Edge อัพเดตผ่าน Windows Update ของไมโครซอฟท์, เบราว์เซอร์อื่นๆ ต้องดาวน์โหลดไฟล์อัพเดตจาก Adobe กันเองครับ

หลังจาก Adobe ปล่อยอัพเดตแรกให้ Adobe XD ไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน ทีมงานยังคงเดินหน้าอัพเดตฟีเจอร์ตามเสียงเรียกร้องของผู้ใช้กันต่อเนื่อง ล่าสุดคืออัพเดตประจำเดือนพฤษภาคมในเวอร์ชัน Public Preview 3 มีอัพเดตฟีเจอร์ดังต่อไปนี้

Adobe Experience Design (หรือ Adobe XD) เครื่องมือสำหรับการออกแบบ UX ที่จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Prototype ของแอพได้อย่างรวดเร็ว กำลังจะออกเวอร์ชัน Windows 10 ภายในปี 2016 หลังจากที่ได้เปิดให้ทดลองใช้เวอร์ชันพรีวิวบน Mac OSX มาซักพักแล้ว

ข่าวนี้ได้รับการเปิดเผยโดยทวีตของ Andrew Shorten ผู้อำนวยการด้านผลิตภัณฑ์ของ Adobe ซึ่งได้ตอบคำถามเป็นการยืนยันว่า Adobe XD จะถูกพัฒนาเป็นแอพแบบ UWP นั่นหมายความว่า Adobe XD จะต้องติดตั้งผ่าน Windows Store และในอนาคตตัวแอพอาจรองรับ Windows 10 Mobile (ผ่าน docking และ Continuum) ก็เป็นได้

นี่คงจะถึงเวลาที่นักพัฒนาต้องตัดสินใจอัพเกรด Windows 10 กันอย่างจริงจังๆ แล้วล่ะครับ