Google รายงานในเว็บไซต์ Android Developers ในรอบล่าสุดประจำเดือนกุมภาพันธ์ว่า ตอนนี้ Android Nougat ได้ขึ้นเป็น Android เวอร์ชันที่มีคนใช้มากที่สุดแล้วเมื่อนับรวมเวอร์ชัน 7.0 และ 7.1 แซง Marshmallow ที่ครองแชมป์มาปีกว่าได้สำเร็จ

สำหรับ Android Nougat นั้น เมื่อคิดรวมทั้งเวอร์ชัน 7.0 และ 7.1 แล้วมีจำนวนผู้ใช้อยู่ที่ 28.5% ของผู้ใช้ Android ทั้งหมด ตามมาติด ๆ ด้วย Android 6.0 Marshmallow ที่ 28.1%, Android Lollipop (รวม 5.0 และ 5.1) อยู่ที่ 24.6%, Android 4.4 KitKat อยู่ที่ 12.0%, Android Jelly Bean (คิดรวม 4.1 ถึง 4.3) 5% ส่วน Android Oreo ที่เปิดตัวล่าสุด (รวม 8.0 และ 8.1) นั้นคิดเป็นเพียง 1.1% ของผู้ใช้ Android ทั้งหมด

พบกันเป็นประจำทุกเดือนครับ รอบนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ก.พ. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ก.พ. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ก.พ. มาด้วย)

สำหรับแพตช์ 1 ก.พ. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 7 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 1 จุด ซึ่งเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า ส่วนแพตช์ 5 ก.พ. แก้เพิ่มอีก 19 จุด ส่วนมากแก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง Qualcomm, HTC, NVIDIA โดยมีระดับร้ายแรง 2 จุด

Google เริ่มอัพเดตฟีเจอร์ Wi-Fi Speed Labels ให้ผู้ใช้ Pixel และ Nexus ที่รันด้วยแอนดรอยด์ 8.1 แล้ว โดยฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์ที่ Google ระบุเอาไว้ตอนประกาศปล่อยแอนดรอยด์ 8.1 ตัวจริง ทว่าเมื่อปล่อยออกมากลับไม่มีฟีเจอร์นี้ ก่อนที่วันนี้แอคเคาท์ทวิตเตอร์แอนดรอยด์ จะเพิ่งทวีตถึงฟีเจอร์นี้

เดิมสัญลักษณ์ใบพัดในหน้า Wi-Fi จะเป็นตัวบอกความแรงของสัญญาณอยู่แล้ว ขณะที่ Speed Labels จะช่วยบอกเรื่องความเร็วของ Wi-Fi (เฉพาะ Wi-Fi สาธารณะ) และจะแสดงกับโดยมีทั้งหมด 4 ระดับได้แก่

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Xiaomi ได้ประกาศหยุดปล่อยอัพเดต Android 8.0 Oreo ให้ Mi A1 เนื่องจากผู้ใช้หลายรายแจ้งว่าพบปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพ โดย Xiaomi แจ้งว่าจะกลับมาให้อัพเดตอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม การหยุดอัพเดตชั่วคราวนี้กินเวลาน้อยกว่าที่ประกาศไว้ เพราะวันนี้ Xiaomi ได้กลับมาปล่อยอัพเดตดังกล่าวอีกครั้งแล้ว พร้อมระบุว่าแก้ปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็ว, เครื่องรีบูตแบบสุ่ม และปัญหาอื่นๆ แล้ว รวมถึงการรูดนิ้วลงผ่านเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ใช้ได้แล้วเช่นกัน อีกทั้งยังรวมแพตช์ความปลอดภัยของเดือนมกราคมเข้ามาด้วยเลย

หลังปล่อยอัพเดต Android 8.0 Oreo ให้ Xiaomi Mi A1 มาเกือบครึ่งเดือน มีผู้ใช้หลายรายระบุว่าพบปัญหาด้านประสิทธิภาพเช่นแอพกล้อง, แอพโทรศัพท์ และหน้า Recent Apps ไม่ตอบสนอง รวมถึงมีปัญหาเกี่ยวกับเซ็นเซอร์วัดแสงสำหรับปรับแสงหน้าจออีกด้วย

ในขณะที่ผู้ใช้อีกส่วนหนึ่งก็รายงานว่าใช้นิ้วรูดบริเวณเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อดึงการแจ้งเตือนลงมาไม่ได้ และแบตเตอรี่หมดเร็วมากเมื่อเปิดบลูทูธค้างไว้

จากปัญหาดังกล่าว ทำให้ Xiaomi ตัดสินใจหยุดการปล่อยอัพเดต Oreo นี้ชั่วคราว และจะกลับมาให้อัพเดตกันอีกครั้งภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงไม่พบปัญหาข้างต้นระหว่างการทดสอบเวอร์ชันเบต้าในวงจำกัด

ที่มา - GSMArena

สวัสดีปีใหม่ครับ พบกันเป็นประจำทุกเดือนครับ รอบนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนมกราคม 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ม.ค. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ม.ค. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ม.ค. มาด้วย)

สำหรับแพตช์ 1 ม.ค. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 20 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) ถึง 4 จุด ซึ่ง 3 จุดเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า ส่วนแพตช์ 5 ม.ค. แก้เพิ่มอีก 18 จุด ส่วนมากแก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง Qualcomm, NVIDIA, MediaTek, LG, HTC โดยมีระดับร้ายแรง 1 จุด

โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Pixel/Nexus ที่จะได้รับแพตช์รอบนี้มีดังนี้ครับ (ทั้งหมดเป็น Oreo 8.1)

เรียกว่ามากันนาทีสุดท้ายก่อนสิ้นปีเลย สำหรับอัพเดต Android 8.0 Oreo ของ Xiaomi Mi A1 สมาร์ทโฟนในโครงการ Android One ตัวแรกจาก Xiaomi โดยบัญชีทวิตเตอร์ @xiaomi ได้ประกาศเริ่มปล่อยอัพเดตดังกล่าวแล้ว

หากเช็คอัพเดตแล้วยังไม่มาก็ไม่ต้องตกใจ เพราะ Xiaomi ระบุว่าทยอยปล่อยเป็นชุดๆ และผู้ที่จะอัพเดตได้ต้องอัพแพตช์ล่าสุดของเดือนธันวาคมที่ปล่อยออกมาช่วงต้นเดือนกันก่อนด้วย

ที่มา - Android Police

จุดด้อยอย่างหนึ่งของ Xiaomi Mi A1 สมาร์ทโฟนในโครงการ Android One ตัวแรกของ Xiaomi คือมันไม่มีฟีเจอร์การชาร์จเร็ว โดยก่อนหน้านี้ Xiaomi ได้เปิดรับสมัครผู้ร่วมทดสอบรอม Android 8.0 Oreo Beta สำหรับ Mi A1 และมีผู้พบว่ามีฟีเจอร์ Fast Charge เข้ามาแล้ว

เว็บไซต์ Telecomtalk จากอินเดียรายงานว่าในอัพเดตล่าสุด Mi A1 ได้รับฟีเจอร์ชาร์จเร็วเพิ่มเข้ามา โดยทดสอบชาร์จด้วยอะแดปเตอร์ OnePlus Dash Charger พบว่าชาร์จเต็มภายในเวลา 92 นาที จากที่ก่อนหน้านี้ใช้เวลาชาร์จถึง 2 ชั่วโมง

Huawei Mate 10 และ Mate 10 Pro เป็นอุปกรณ์ Android รุ่นแรกๆ ที่มาพร้อมกับ Android 8.0 Oreo ตั้งแต่แรก และแน่นอนว่ามันได้ประโยชน์จากฟีเจอร์ Project Treble ที่ช่วยให้การอัพเดตระบบปฏิบัติการง่ายขึ้นมาก

ผลคือชุมชน xda ซึ่งเป็นกลุ่มนักสร้างรอมอิสระรายใหญ่ของโลก เริ่มประสบความสำเร็จในการนำโค้ดของ Android 8.0 จากต้นน้ำ (AOSP) ที่เคยใช้ได้กับ Mate 9 หรือ Essential Phone มาบูตขึ้นบน Mate 10 ได้โดยไม่ต้องแก้ไขใดๆ (เพราะส่วนที่ติดต่อกับฮาร์ดแวร์หรือ vendor interface ใช้ของเก่าที่มา Treble ได้เลย) ถึงการใช้งานจริงยังมีบั๊กเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าลดภาระงานลงไปมากเมื่อเทียบกับในอดีต

กูเกิลเผยรายชื่อของอุปกรณ์ Android Wear ที่จะได้อัพเกรดเป็น Android 8.0 Oreo ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์สายแฟชั่น โดยนาฬิกา Android Wear รุ่นแรกๆ อย่าง LG Watch R หรือ Moto 360 ต่างก็ไม่ได้ไปต่อ

อุปกรณ์กลุ่มแรกที่อัพเดตพร้อมแล้ว ได้แก่

• Fossil Q Venture
• LG Watch Sport
• Louis Vuitton Tambour
• Michael Kors Sofie
• Montblanc Summit

หลัง HMD Global ปล่อย Android Oreo มาให้ Nokia 8 หนึ่งคำถามสำคัญที่ยังคงค้างคาแฟนๆ คือ Project Treble มาพร้อม Oreo ด้วยหรือไม่ ล่าสุด Juho Sarvikas ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ HMD Global ยืนยันแล้วว่า Nokia 8 ไม่ได้ Project Treble

Sarvikas ให้เหตุผลว่าด้วยความที่ Project Treble จำเป็นต้องแยกพาร์ทิชัน Vendor Interface ออกจากเฟรมเวอร์ของระบบปฏิบัติการ ขณะที่ทาง HMD ไม่สามารถแยกพาร์ทิชันในการอัพเดตผ่าน OTA ได้ โดย Sarvikas ยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้

พร้อมกับแพตช์ความปลอดภัยของเดือนธันวาคม กูเกิลก็ได้ฤกษ์ปล่อย Android 8.1 ตัวจริงแล้วเช่นกัน แน่นอนว่าอุปกรณ์กลุ่มแรกที่ได้รับอัพเดตนี้คือ Pixel 2, Pixel, Pixel C, Nexus 6P และ Nexus 5X

ของใหม่ในอัพเดตนี้คือการเปิดใช้งาน Pixel Visual Core ชิปประมวลผล Machine Learning ใน Pixel 2 รวมถึงเปิด API ใหม่คือ Neural Networks API สำหรับสมาร์ทโฟนที่มีฮาร์ดแวร์แยกเฉพาะสำหรับ machine learning

พบกันเป็นประจำทุกเดือนครับ รอบนี้กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนธันวาคม 2017 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ธ.ค. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ธ.ค. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ธ.ค. มาด้วย)

สำหรับแพตช์ 1 ธ.ค. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 19 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) ถึง 6 จุด ซึ่ง 5 จุดเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า ส่วนแพตช์ 5 ธ.ค. แก้เพิ่มอีก 28 จุด ส่วนมากแก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง NVIDIA และ Qualcomm โดยมีระดับร้ายแรง 4 จุด

ใครที่ใช้ Nokia 3 มือถือรุ่นเกือบล่างสุดของโนเกียคงจะดีใจกับข่าวนี้แน่ๆ หลังจากต้องลุ้นกันอยู่นานว่า Nokia 3 จะได้ไปต่อหรือไม่ เนื่องจากเป็นมือถือจากโนเกียเพียงรุ่นเดียวที่ยังไม่ได้รับอัพเดตเป็น Android 7.1.2 เหมือนรุ่นอื่นเสียที เพราะล่าสุด Juho Sarvikas ซึ่งเป็น CPO ของ HMD ยืนยันผ่านทวิตเตอร์ว่า Nokia 3 จะได้รับ Android 8.0 Oreo โดยข้ามอัพเดต Android 7.1.2 ไปเลย

ก่อนหน้านี้ HMD แจ้งว่าที่อัพเดต Android 7.1.2 ให้ Nokia 3 ล่าช้าก็เพราะต้องรออัพเดตไดรเวอร์ของชิป MediaTek และต้องใช้เวลาในการทดสอบนาน ต่อมา MediaTek เผยว่าได้เข้าร่วมโครงการ GMS Express ของกูเกิล ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการรับรองความเข้ากันได้ของไดรเวอร์ฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ ส่งผลให้สามารถปล่อยอัพเดตได้เร็วขึ้น นั่นหมายถึง Nokia 3 ที่ใช้ชิป MediaTek น่าจะได้อัพเดตเร็วขึ้นนั่นเอง

ที่มา: @sarvikas ผ่าน NPU

เมื่อวานนี้กูเกิลได้ออก Android 8.1 Oreo Developer Preview 2 ซึ่ง Emojipedia พบว่าในอัพเดตนี้กูเกิลยังแก้ไขปัญหาอีโมจิเบอร์เกอร์ ที่เป็นประเด็นไปทั่วเนื่องจากตำแหน่งชีสวางไม่ถูกต้อง (แม้กูเกิลจะทดลองทำให้ดูแล้วว่าก็ใช้งานได้)

โดยในอีโมจิเบอร์เกอร์แบบใหม่นั้น ชีสถูกวางไว้ใต้มะเขือเทศและอยู่เหนือชิ้นเนื้อ ซึ่งเหมือนกับอีโมจิของค่ายอื่นแล้ว

ก่อนหน้านี้ OnePlus ได้ส่งอัปเดต Oxygen Beta 25 และ Beta 16 ให้กับฝาแฝดพี่น้อง OnePlus 3 และ 3T ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาก็มีอัปเดตตัว Beta อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งวันที่ 24 พฤศจิกายน 60 ที่ผ่านมาทาง OnePlus ก็ได้ปล่อยรอม Android 8.0 Oreo ตัวแรกที่เป็นรุ่นเสถียร บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

กูเกิลออก Android 8.1 Oreo Developer Preview 2 และจะเป็นพรีวิวตัวสุดท้ายก่อนออกรุ่นจริงในเดือนธันวาคม

ของใหม่ใน Android 8.1 เคยประกาศไปแล้ว จุดสำคัญที่เปลี่ยนจากพรีวิวตัวแรก คือ เปิดให้ใช้หน่วยประมวลผล Pixel Visual Core ของ Pixel 2 ตามที่สัญญาไว้ แอพภายนอกจึงสามารถใช้ API กล้องตัวเดียวกับแอพกล้องของ Pixel ได้

อุปกรณ์ของกูเกิลที่รองรับ Android 8.1 ได้แก่ Pixel 2, Pixel 2 XL, Pixel, Pixel XL, Pixel C, Nexus 5X, Nexus 6P

หลังจาก Sony ได้ปล่อยอัพเดต Android Oreo ให้ Xperia XZ Premium ไปก่อนหน้านี้ Sony ได้ปล่อยอัพเดต ให้กับรุ่น Xperia XZ และ Xperia XZs เช่นกัน

ฟังก์ชั่นที่ถูกเพิ่มเข้ามา เช่น Oreo's App Shortcuts, Notification Dots, Smart Text Selection, The Autofill API, Picture-In-Picture ที่เป็นมาตราฐานของ Android Oreo แล้ว Sony ยังเพิ่มโปรแกรม Xperia Actions and Reminders มาให้อีกด้วย

สามารถอัพเดตได้แล้ววันนี้จากหน้า Software Update

ถือเป็นสัญญาณอันน่ายินดี เมื่อมีผู้ใช้ Galaxy S6 มือถือเก่าอายุเกือบสามปีรายหนึ่ง สอบถามไปยังพนักงานซัพพอร์ตของซัมซุงหลายคน และได้รับคำตอบว่า Galaxy S6 จะได้อัพเดตเป็น Android 8.0 Oreo ด้วย

ข้อมูลนี้ยังไม่ใช่แถลงข่าวอย่างเป็นทางการจากซัมซุง และอาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ที่ผ่านมาซัมซุงไม่เคยการันตีการอัพเกรดระบบปฏิบัติการว่าจะได้กี่รุ่น (เฉลี่ยแล้วเรือธงในแต่ละปี จะได้อัพเดต 2 รุ่น โดย Galaxy S6 ได้อัพเดตล่าสุดเป็น Nougat) แต่ถ้าข่าวนี้เป็นจริง แปลว่ามือถือของซัมซุงน่าจะได้อัพเดตถึง 3 รุ่นหรือมีระยะซัพพอร์ตยาวนานถึง 3 ปี

ที่มา - Reddit, GSMArena

เว็บไซต์ XDA ซึ่งถือเป็นชุมชนนัก mod รอมมือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีบทความถึง Project Treble ของ Android Oreo ว่าจะเปลี่ยนแปลงวงการนักทำรอมไปอย่างสิ้นเชิง เพราะงานจะง่ายขึ้นมาก และการพอร์ตรอม AOSP ไปยังอุปกรณ์ต่างๆ จะใช้เวลาเหลือเพียงไม่กี่วันเท่านั้น

เหตุผลก็เป็นไปตามที่กูเกิลออกแบบไว้ ว่าโค้ดส่วนที่สื่อสารกับฮาร์ดแวร์โดยตรง สามารถใช้งานข้ามรุ่นของ Android ได้โดยไม่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมอีก จากการทดสอบของนักพัฒนารายหนึ่งของ XDA พบว่าสามารถสร้างอิมเมจที่รันได้บนอุปกรณ์หลากหลาย และใช้ฮาร์ดแวร์ SoC คนละรุ่นกัน ในเวลาเพียงแค่ 20 ชั่วโมง (รวมเวลาค้นคว้าข้อมูลแล้ว)

จากที่เคยสัญญาเอาไว้ วันนี้ HMD Global เริ่มปล่อยอัพเดต Android 8.0 Oreo ให้กับมือถือเรือธง Nokia 8 แล้ว

Juho Sarvikas ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ HMD Global ยังบอกว่าลำดับถัดไปจะเป็นคิวของ Nokia 5 และ Nokia 6 ที่จะออกรอมรุ่นทดสอบตามมาในเร็วๆ นี้ และก่อนหน้านี้ HMD เคยประกาศว่ามือถือทุกรุ่นจะได้อัพเดตไปจนถึง Android P

HMD Global ยังเคยให้ข่าวว่า รอม Oreo ตัวสมบูรณ์จะรองรับ Project Treble ด้วย แต่ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่ามีจริงหรือไม่ในตอนนี้

ผู้ใช้งาน OnePlus เรือธงสองซีรีส์ล่าสุดอย่าง OnePlus 3, OnePlus 3T, OnePlus 5 และ OnePlus 5T อาจได้แอนดรอยด์ 8.0 Oreo แบบไม่ครบเครื่องนัก เมื่อทาง OnePlus ยืนยันแล้วว่าแอนดรอยด์ 8.0 ที่อัพเดตบนทั้ง 4 รุ่นจะไม่มาพร้อมฟีเจอร์ Project Treble

Project Treble เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยแยกขั้นระบบปฏิบัติการออกจากฮาร์ดแวร์ ช่วยให้ผู้ผลิต OEM สามารถอัพเดตระบบปฏิบัติการได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตามทาง OnePlus ไม่ได้ให้รายละเอียดถึงเหตุผลดังกล่าว แต่ก็ยังพอมีข่าวดีว่า OnePlus ทั้ง 4 รุ่นยังจะได้รับอัพเดตเป็นแอนดรอยด์ 8.1 ครับ

ที่มา - XDA Developer

HTC เคยระบุว่าจะอัพเดตแอนดรอยด์ Oreo ให้กับเรือธง U11, U Ultra และ HTC 10 ภายในสิ้นปี ซึ่งล่าสุดก็มีผู้ใช้ U11 ในไต้หวันเริ่มได้รับอัพเดตแล้ว ขนาดราว 1.33GB

แอนดรอยด์ Oreo มาพร้อมกับ Sense UI เวอร์ชันล่าสุด ทำให้ U11 ได้ฟีเจอร์ Side Frame ใน U11+ ด้วย ส่วนแพทช์ความปลอดภัยเป็นเดือนพฤศจิกายนล่าสุด ซึ่งก็คาดว่าภูมิภาคอื่นๆ น่าจะทยอยได้รับอัพเดตตามมาเร็วๆ นี้

ที่มา - Android Police, Android Central

หลังจากที่ Google เริ่มปล่อย Android 8.1 Developer Preview 1 ออกมา มีคนไปพบว่า Google แอบเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาในหน้าแบตเตอรี่ ซึ่งจะบอกว่าแอปไหนใช้แบตเตอรี่เยอะเป็นพิเศษ

เมื่อเปิดเข้าหน้าแบตเตอรี่ จะมีแถบแจ้งเตือนสีแดงด้านบนบอกว่าแอปที่กำลังดูดแบตเตอรี่และฟีเจอร์ที่ใช้งาน อาทิ บอกว่า Google Maps ดูดแบตจากการขอตำแหน่งที่ตั้ง (request location) อย่างต่อเนื่องซึ่งสามารถกดปิด location ได้ตรงหน้านี้โดยตรง ซึ่งเมื่อกดเข้าไปในหน้าแจ้งเตือน จะมีการแจกแจงว่าแอปแต่ละตัวใช้แบตเตอรี่ไปมากน้อยแค่ไหนด้วย

หลังทดสอบเวอร์ชันเบต้ามาเกือบๆ 2 เดือน ล่าสุด Juho Sarvikas ผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ HMD Global ได้ทวีตว่าการทดสอบผ่านไปได้ด้วยดี ได้รับฟีดแบ็คมามากมายและบริษัทก็ปรับปรุงมาตลอด และบริษัทก็พร้อมแล้วที่จะปล่อยอัพเดตแอนดรอยด์ 8.0 Oreo ให้ Nokia 8 เร็วๆ นี้

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ Sarvikas โพสต์ภาพการอัพเดตเวอร์ชันเบต้า ซึ่งไฟล์มีขนาดอยู่ที่ราว 1.3GB

ที่มา - @sarvikas